นี่แหละอีกความความเข้าใจผิดของคนไทย เวลาพูดถึงออกกำลังเอาสุขภาพหรือลดพุง วิ่ง (หรือคาร์ดิโออื่นๆ) อย่างเดียวก็พอ ไม่ต้องมีกล้าม ไม่ต้องเล่นกล้ามก็ได้

อธิบายให้คนที่เข้ามาอ่านต่อทราบด้วยนะครับ ว่าร่างกายคนเรานั้นประกอบไปด้วย มวลกระดูก มวลกล้ามเนื้อ ระบบหายใจ ระบบโลหิต คือปอดและหัวใจ

วิ่งอย่างเดียว คือบริหารปอดและหัวใจแข็งแรง มีความฟิต แข็งแรง สุขภาพดีกว่าคนที่ไม่ได้ออกกำลังเลยอันนี้แน่นอน แต่การวิ่งถึงแม้จะใช้กล้ามเนื้อแต่ก็ใช้น้อย พวกระบบข้อต่อ กระดูกก็ใช้น้อยเช่นกัน นักกีฬาวิ่งแบบพวกโปรเค้าก็ต้องมีโปรแกรมเวทควบคู่ด้วยให้เหมาะสมตามประเภทการวิ่งของเค้า

เล่นกล้าม ขอใช้คำว่าเล่นเวทหรือ weight training ละกัน เล่นกล้ามอาจจะฟังดูน่ากลัวไปสำหรับบางคน คือการออกกำลังแบบใช้แรงต้าน พวก body weight ซิทอัพ วิทพื้นก็เป็นการเล่นเวทประเภทนึง เล่นเวทไม่ได้หมายความว่าจะต้องมีกล้ามขนาดนายแบบนักเพาะกายแบบที่คนทั่วไปคิด เรากำลังพูดถึงมวลกล้ามเนื้อที่มีประโยชน์ในการสร้างความแข็งแรง ความเฟิร์มกระชับก็คือกล้ามเนื้อเหมือนกัน

นอกจากนี้การเล่นเวทยังช่วยเรื่องมวลกระดูก ระบบข้อต่อ เช่น เวลาก้มๆ เงยๆ ยกของหนักนิดหน่อยไม่ปวดหลัง หลังยอก กระดูกเคล็ดเอาง่ายๆ อายุมากไปไม่เป็นโรคกระดูกพรุนได้ง่าย พอแก่เป็นผู้ใหญ่หกล้มแล้วไม่กระดูกหักง่าย พูดง่ายๆ ก็ช่วยเรื่องสุขภาพ ความแข็งแรงด้านร่างกาย ไม่ใช่ฟิตอย่างเดียว

บางคนคิดว่าคนเล่นเวทอย่างเดียวแข็งสุขภาพดีสู้คนวิ่งไม่ได้ นั่นก็จริง แต่ก็เป็นบางคนที่เล่นเวทแต่ไม่คาร์ดิโอเลย ซึ่งไม่ถูกต้องเช่นกัน นั่นทำให้ระบบปอดและหัวใจไม่แข็งแรง แต่คนเล่นเวทที่ถูกต้องส่วนมากก็ต้องคาร์ดิโอควบคู่ไปด้วยอยู่แล้ว ทำให้แข็งแรงทุกระบบของร่างกาย แต่ไม่ใช่ไปขนาดวิ่งแข่งชนะได้

ส่วนเรื่องจะลดพุงอย่างเดียว ไม่ต้องเล่นกล้ามก็ได้ ก็เป็นความคิดที่ผิดอีก มวลกล้ามเนื้อจะช่วยในเรื่องของการเผาผลาญไขมัน ซึ่งบางคนออกผิดวิธี เช่น วิ่งอย่างเดียว อดอาหาร น้ำหนักลดจริง แต่ทำไมยังมีพุง แขนขาย้วย นั่นก็เพราะคุณไม่เล่นเวทไงครับ มวลกล้ามเนื้อในที่นี้ไม่ได้หมายถึงใหญ่แบบนักกีฬานายแบบนักเพาะกาย แค่ความฟิตเฟิร์มกระชับ ก็ช่วยได้เช่นกัน

สรุปก็คือต้องออกทั้ง 2 แบบควบคู่กัน ถ้าจะเอาด้านสุขภาพ ส่วนเรื่องจะเอารูปร่างยังไงก็เป็นอีกขั้นตอนนึง ที่จะต้องมีเรื่องโภชนาการเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย