สวัสดีค่ะ วันนี้จะขอมาแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวที่อยู่ๆ วันนึงได้เผชิญกับโรคสะเก็ดเงินเอง ซึ่งบอกตามตรงเลยว่าไม่เคยรู้จักโรคนี้มาก่อนเลยและไม่เคยคิดว่าตัวเองจะต้องมาเป็นโรคอะไรแบบนี้
เดือนกันยายนปี 2558 ที่ผ่านมาก็เริ่มเป็นจนถึงปัจจุบันดีขึ้นมากๆ จนเกือบหายหมดแล้ว เหลือแต่รอยโรคด่างๆ ขาวๆ
เลยอยากจะมาแชร์วิธีรักษาให้กับผู้ที่เป็นโรคสะเก็ดเงิน ทราบและลองนำไปปฏิบัติกันดูค่ะ เราไม่แน่ใจนะว่าจะใช้ได้ผลกับทุกคนหรือไม่ แต่อยากให้ลองดูจริงๆค่ะ
1.อาบน้ำเกลือ ทุกวัน วันละ 1 ครั้ง หลังอาบล้างตัวด้วยน้ำจืด (ใช้เกลือธรรมชาติไม่ผ่านการฟอกขาวหรือสารเคมีใดๆทั้งสิ้น) อัตราการใช้ ตักเกลือ 1 ชามกินข้าว ผสมกับน้ำเปล่าครึ่งกะละมัง คนให้ละลายให้หมดหรือปล่อยให้ละลายเองก็ได้ ถ้าเป็นเกลือธรรมชาติจะมีผงดินนอนก้นกะละมังบ้างเล็กน้อยหลังจากละลายหมด เพราะไม่ได้ผ่านการฟอกขาว เมื่อเกลือละลายจนหมดแล้ว ให้เทน้ำส่วนบนใส่อีกกะละมังหนึ่ง เหลือแต่ดินที่ก้นให้เททิ้งไป จะเหลือแต่น้ำใสๆ เค็มๆ คล้ายน้ำทะเล
วิธีนี้เป็นวิธีที่เราทำ แต่สามารถเพิ่มลดอัตราเกลือหรือน้ำได้ตามความต้องการ เรียกง่ายๆว่า ทำยังไงก็ได้ให้คล้ายน้ำทะเลมากที่สุด ถ้าเข้มข้นมากก็จะแสบๆ ผิวหน่อย แต่จะหายเองได้หลังจากอาบไปสักพัก
คือตอนแรกเราคิดแค่จะลองไปแช่น้ำทะเล เผื่อจะหายเลยไปแช่อยู่ครั้งหนึ่ง พอกลับมาบ้านผ่านไป 2-3 วัน คนที่บ้านบอกว่าดีขึ้นจริงๆ ดีกว่าก่อนไปทะเลอีก เขาเลยบอกให้เราไปแช่น้ำทะเลสักเดือนละครั้ง ถ้ามีโอกาส พอคุยกันไปคุยกันมาคงจะยากมากให้ขับรถไปทะเลบ่อยๆ เลยนึกถึงเกลือเม็ดก็ทำมาจากน้ำทะเลเหมือนกัน และแถวบ้านก็หาซื้อง่ายด้วย 1 กระสอบ 100-120 บาท ใช้ได้เป็นเดือน สรุปนำมาผสมน้ำอาบทุกวันทดลองดู 1 เดือนก่อน ปรากฏว่าได้ผล ถ้าเป็นไปได้ให้แช่สักวันละครึ่งชั่วโมง กะละมังอาจจะเล็ก ลงไปแช่ก็ไม่ทั่วตัว กรณีเป็นทั้งตัว เราจึงใช้กะละมัง 2 ใบ ใบที่ 1 ใส่น้ำเกลือที่ผสมแล้ว แล้วยืนบนใบที่ 2 ใช้ขันตักน้ำใบที่ 1 ราดตัว ถ้าเป็นที่หัว ที่หน้า ก็ราดได้หมดตั้งแต่หัวจรดเท้า แต่ให้น้ำไหลลงกะละมังใบที่ 2 ตักอาบจนหมดกะละมังใบที่ 1 แล้วเปลี่ยนไปยืนในกะละมังใบที่ 1แทน ตักน้ำกะละมังที่ 2 ราดตั้งแต่หัวไหล่ลงไปจนหมด ครั้งนี้ไม่ต้องราดหัวและหน้าแล้วเพราะน้ำค่อนข้างขุ่นทำแบบนี้สลับไปมา ระหว่างกะละมังที่ 1 และ 2 สัก 5-6 รอบ หรือจับเวลาให้ได้ 10-15 นาที ยิ่งนานยิ่งดี ครึ่งชั่วโมงได้ยิ่งดี เพราะเวลาที่เราไปเล่นน้ำทะเล เราเล่นเป็นชั่วโมงเลย ดังนั้น ถ้าเราไม่ได้ไปทะเล เราจึงต้องทำน้ำเกลือนี้ให้เสมือนกับน้ำทะเล หรือใช้วิธีอาบน้ำเกลือให้ทั่วตัวแล้วทิ้งไว้ก่อน ไปแปรงฟัน สระผม ให้เสร็จแล้วกลับมาราดน้ำเกลืออีก 1-2 รอบแล้วอาบน้ำจืดล้างตัวเป็นลำดับสุดท้าย เสร็จ...
2. หลังอาบน้ำเกลือและล้างน้ำจืดเสร็จ แนะนำให้ใช้น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ 100% ทาผิวขณะตัวเปียกหมาดๆ ทาให้เบามือ อย่ารุนแรงกับผิวนะคะเดี๋ยวจะแย่กว่าเดิม
หรืออาจจะใช้เบบี้ออยก็ได้ค่ะ ทำให้ผิวชุ่มชื้นขึ้นค่ะ
**ส่วนตัวคิดว่าใช้ 2 วิธีนี้แล้วได้ผลค่ะ อยากให้ลองทำตามดูจริงๆค่ะ
ต่อไปเป็นข้อห้ามระหว่างการรักษาค่ะ
1.งดการใช้สบู่ ครีมอาบน้ำ ต่างๆ อาบแต่น้ำเกลือและน้ำจืดเท่านั้น จะทำให้ระคายเคืองผิว
2.ห้ามนอนดึก เป็นไปได้พยายามเข้านอน 4 ทุ่ม (เป็นไปได้เตรียมตัวนอนตั้งแต่ 21.30 น.แล้วหลับ 22.00 น.จะดีมาก) การพักผ่อนที่เพียงพอมีผลต่อการหายจากโรค เวลาพักผ่อนที่ดีที่สุดคือ 22.00-02.00 น.
3.งดอาหารทะเลเพื่อไม่ให้โรคเห่อ และเป็นเพิ่มขึ้น รวมถึงไม่ให้คันด้วยค่ะ
4.พยายามอย่าเครียด อย่ากังวล ทำใจให้สบายๆ ยอมรับค่ะว่าข้อนี้ทำยากสุด แต่ต้องพยายามกำจัดความเครียดความกังวลให้หมดไปให้ได้ค่ะ จะอ่านหนังสือ ดูหนัง ซีรี่ย์เกาหลี ฟังเพลง ช๊อบปิ้ง หรืออะไรก็ได้ที่มีความสุขค่ะ
5.ไม่แกะ ไม่เกา ทำเพลินๆ ลืมๆไปค่ะ อย่าไปก้ม มองมากจะทำให้กังวลค่ะ
6.ใส่เสื้อผ้าสบายๆ ไม่รัดรูป ทำให้เกิดการเสียดสี จะไม่หายหรือหายช้า และเหงื่อออกทำให้รู้สึกคัน เมื่อคันเราก็จะเกาๆๆๆ ผลคือจะยิ่งลามค่ะ
วิธีการรักษาของเราก็มีประมาณนี้นะคะ เราอาบน้ำเกลือมาแล้ว 2 เดือน เรียกว่าที่เคยเป็นแผลแย่ๆ หายจนเรียบเกือบหมดแล้วค่ะ เหลือแต่รอยโรคขาวๆ แต่จะหายไปเองจนกลับมาเป็นสีผิวเราปกติ แต่ต้องใช้เวลาค่ะ วิธีนี้อาจจะช่วยได้ไม่มากก็น้อยนะคะ แต่สำหรับผู้ที่แพ้น้ำทะเลอาจจะใช้วิธีนี้ไม่ได้แต่อยากให้ใช้น้ำมะพร้าวทาผิวแทนค่ะ
ขอให้ทุกท่านที่เป็นโรคนี้ อดทนนะคะ สู้ๆค่ะ ใครไม่เป็นเองไม่รู้จริงๆ ว่ารู้สึกอย่างไร ขอให้โชคดีทุกท่านค่ะ
แชร์วิธีรักษาโรคสะเก็ดเงินแบบธรรมชาติ
เดือนกันยายนปี 2558 ที่ผ่านมาก็เริ่มเป็นจนถึงปัจจุบันดีขึ้นมากๆ จนเกือบหายหมดแล้ว เหลือแต่รอยโรคด่างๆ ขาวๆ
เลยอยากจะมาแชร์วิธีรักษาให้กับผู้ที่เป็นโรคสะเก็ดเงิน ทราบและลองนำไปปฏิบัติกันดูค่ะ เราไม่แน่ใจนะว่าจะใช้ได้ผลกับทุกคนหรือไม่ แต่อยากให้ลองดูจริงๆค่ะ
1.อาบน้ำเกลือ ทุกวัน วันละ 1 ครั้ง หลังอาบล้างตัวด้วยน้ำจืด (ใช้เกลือธรรมชาติไม่ผ่านการฟอกขาวหรือสารเคมีใดๆทั้งสิ้น) อัตราการใช้ ตักเกลือ 1 ชามกินข้าว ผสมกับน้ำเปล่าครึ่งกะละมัง คนให้ละลายให้หมดหรือปล่อยให้ละลายเองก็ได้ ถ้าเป็นเกลือธรรมชาติจะมีผงดินนอนก้นกะละมังบ้างเล็กน้อยหลังจากละลายหมด เพราะไม่ได้ผ่านการฟอกขาว เมื่อเกลือละลายจนหมดแล้ว ให้เทน้ำส่วนบนใส่อีกกะละมังหนึ่ง เหลือแต่ดินที่ก้นให้เททิ้งไป จะเหลือแต่น้ำใสๆ เค็มๆ คล้ายน้ำทะเล
วิธีนี้เป็นวิธีที่เราทำ แต่สามารถเพิ่มลดอัตราเกลือหรือน้ำได้ตามความต้องการ เรียกง่ายๆว่า ทำยังไงก็ได้ให้คล้ายน้ำทะเลมากที่สุด ถ้าเข้มข้นมากก็จะแสบๆ ผิวหน่อย แต่จะหายเองได้หลังจากอาบไปสักพัก
คือตอนแรกเราคิดแค่จะลองไปแช่น้ำทะเล เผื่อจะหายเลยไปแช่อยู่ครั้งหนึ่ง พอกลับมาบ้านผ่านไป 2-3 วัน คนที่บ้านบอกว่าดีขึ้นจริงๆ ดีกว่าก่อนไปทะเลอีก เขาเลยบอกให้เราไปแช่น้ำทะเลสักเดือนละครั้ง ถ้ามีโอกาส พอคุยกันไปคุยกันมาคงจะยากมากให้ขับรถไปทะเลบ่อยๆ เลยนึกถึงเกลือเม็ดก็ทำมาจากน้ำทะเลเหมือนกัน และแถวบ้านก็หาซื้อง่ายด้วย 1 กระสอบ 100-120 บาท ใช้ได้เป็นเดือน สรุปนำมาผสมน้ำอาบทุกวันทดลองดู 1 เดือนก่อน ปรากฏว่าได้ผล ถ้าเป็นไปได้ให้แช่สักวันละครึ่งชั่วโมง กะละมังอาจจะเล็ก ลงไปแช่ก็ไม่ทั่วตัว กรณีเป็นทั้งตัว เราจึงใช้กะละมัง 2 ใบ ใบที่ 1 ใส่น้ำเกลือที่ผสมแล้ว แล้วยืนบนใบที่ 2 ใช้ขันตักน้ำใบที่ 1 ราดตัว ถ้าเป็นที่หัว ที่หน้า ก็ราดได้หมดตั้งแต่หัวจรดเท้า แต่ให้น้ำไหลลงกะละมังใบที่ 2 ตักอาบจนหมดกะละมังใบที่ 1 แล้วเปลี่ยนไปยืนในกะละมังใบที่ 1แทน ตักน้ำกะละมังที่ 2 ราดตั้งแต่หัวไหล่ลงไปจนหมด ครั้งนี้ไม่ต้องราดหัวและหน้าแล้วเพราะน้ำค่อนข้างขุ่นทำแบบนี้สลับไปมา ระหว่างกะละมังที่ 1 และ 2 สัก 5-6 รอบ หรือจับเวลาให้ได้ 10-15 นาที ยิ่งนานยิ่งดี ครึ่งชั่วโมงได้ยิ่งดี เพราะเวลาที่เราไปเล่นน้ำทะเล เราเล่นเป็นชั่วโมงเลย ดังนั้น ถ้าเราไม่ได้ไปทะเล เราจึงต้องทำน้ำเกลือนี้ให้เสมือนกับน้ำทะเล หรือใช้วิธีอาบน้ำเกลือให้ทั่วตัวแล้วทิ้งไว้ก่อน ไปแปรงฟัน สระผม ให้เสร็จแล้วกลับมาราดน้ำเกลืออีก 1-2 รอบแล้วอาบน้ำจืดล้างตัวเป็นลำดับสุดท้าย เสร็จ...
2. หลังอาบน้ำเกลือและล้างน้ำจืดเสร็จ แนะนำให้ใช้น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ 100% ทาผิวขณะตัวเปียกหมาดๆ ทาให้เบามือ อย่ารุนแรงกับผิวนะคะเดี๋ยวจะแย่กว่าเดิม
หรืออาจจะใช้เบบี้ออยก็ได้ค่ะ ทำให้ผิวชุ่มชื้นขึ้นค่ะ
**ส่วนตัวคิดว่าใช้ 2 วิธีนี้แล้วได้ผลค่ะ อยากให้ลองทำตามดูจริงๆค่ะ
ต่อไปเป็นข้อห้ามระหว่างการรักษาค่ะ
1.งดการใช้สบู่ ครีมอาบน้ำ ต่างๆ อาบแต่น้ำเกลือและน้ำจืดเท่านั้น จะทำให้ระคายเคืองผิว
2.ห้ามนอนดึก เป็นไปได้พยายามเข้านอน 4 ทุ่ม (เป็นไปได้เตรียมตัวนอนตั้งแต่ 21.30 น.แล้วหลับ 22.00 น.จะดีมาก) การพักผ่อนที่เพียงพอมีผลต่อการหายจากโรค เวลาพักผ่อนที่ดีที่สุดคือ 22.00-02.00 น.
3.งดอาหารทะเลเพื่อไม่ให้โรคเห่อ และเป็นเพิ่มขึ้น รวมถึงไม่ให้คันด้วยค่ะ
4.พยายามอย่าเครียด อย่ากังวล ทำใจให้สบายๆ ยอมรับค่ะว่าข้อนี้ทำยากสุด แต่ต้องพยายามกำจัดความเครียดความกังวลให้หมดไปให้ได้ค่ะ จะอ่านหนังสือ ดูหนัง ซีรี่ย์เกาหลี ฟังเพลง ช๊อบปิ้ง หรืออะไรก็ได้ที่มีความสุขค่ะ
5.ไม่แกะ ไม่เกา ทำเพลินๆ ลืมๆไปค่ะ อย่าไปก้ม มองมากจะทำให้กังวลค่ะ
6.ใส่เสื้อผ้าสบายๆ ไม่รัดรูป ทำให้เกิดการเสียดสี จะไม่หายหรือหายช้า และเหงื่อออกทำให้รู้สึกคัน เมื่อคันเราก็จะเกาๆๆๆ ผลคือจะยิ่งลามค่ะ
วิธีการรักษาของเราก็มีประมาณนี้นะคะ เราอาบน้ำเกลือมาแล้ว 2 เดือน เรียกว่าที่เคยเป็นแผลแย่ๆ หายจนเรียบเกือบหมดแล้วค่ะ เหลือแต่รอยโรคขาวๆ แต่จะหายไปเองจนกลับมาเป็นสีผิวเราปกติ แต่ต้องใช้เวลาค่ะ วิธีนี้อาจจะช่วยได้ไม่มากก็น้อยนะคะ แต่สำหรับผู้ที่แพ้น้ำทะเลอาจจะใช้วิธีนี้ไม่ได้แต่อยากให้ใช้น้ำมะพร้าวทาผิวแทนค่ะ
ขอให้ทุกท่านที่เป็นโรคนี้ อดทนนะคะ สู้ๆค่ะ ใครไม่เป็นเองไม่รู้จริงๆ ว่ารู้สึกอย่างไร ขอให้โชคดีทุกท่านค่ะ