ความสามัคคีกับมุมมองคำสอนศาสนาอิสลาม

กระทู้คำถาม
หากเราติดตามข่าวสารไม่ว่าตามหน้าหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ หรืออินเทอร์เน็ต จะสังเกตเห็นได้ว่าสังคมของเรา ณ วันนี้มีความวุ่นวาย ความไม่เข้าใจกัน ความแตกแยก เกิดขึ้นอันส่งผลทำให้สังคมของเรามีความอ่อนแอลง จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวด ที่พวกเราจะต้องมีความรัก ความสมัครสมาน สามัคคี หากจะแตกต่างกันในด้านความคิดเห็น แต่ก็ต้องไม่นำไปสู่ความแตกแยก ต้องหันหน้าเข้าหากันเพื่อปรับปรุงแก้ไขและหาทางออกที่ดี ทั้งนี้ก็เพราะอิสลามได้ห้ามและไม่อนุญาตให้เกิดความแตกแยก ดังที่อัลลอฮฺได้ตรัสว่า


ความว่า “และพวกเจ้าจงยึดสายเชือกของอัลลอฮฺ(ศาสนาของอัลลอฮฺ)ในทุกๆส่วนทั้งหมด และจงอย่าแตกแยกกัน

และจงรำลึกถึงความเมตตาของอัลลอฮฺที่มีต่อพวกเจ้า ขณะที่พวกเจ้าเป็นศัตรูกัน แล้วพระองค์ได้ทรงทำให้หัวใจของพวกเจ้ามีความสนิทสนมกัน

และพวกเจ้าก็กลายเป็นพี่น้องกันด้วยความเมตตาของพระองค์

และพวกเจ้าเคยอยู่บนปากหลุมของไฟนรก แล้วพระองค์ก็ทรงช่วยพวกเจ้าให้พ้นจากปากหลุมแห่งไฟนรกนั้น

ในทำนองนั้นแหละ อัลลอฮฺจะทรงชี้แจงแก่พวกเจ้าซึ่งโองการต่างๆของพระองค์ เพื่อว่าพวกเจ้าจะได้รับแนวทางอันถูกต้อง" (سورة آل عمران:103




          จากอายะฮฺข้องต้น ท่านอิมามอิบนุ กะษีร(2/85) ได้อธิบายว่าอัลลอฮฺทรงรับสั่งให้มีความสามัคคีในญะมาอะฮฺและทรงห้ามความแตกแยก และอายะฮฺนี้ยังได้กล่าวถึงเผ่าอาวสฺและค็อซร็อจญ์แห่งนครมะดีนะฮฺ ซึ่งเป็นการเตือนสติว่า ในสมัยญาฮีลียะฮฺนั้น ทั้งสองเผ่าเป็นศัตรูกัน มีการรบราฆ่าฟันกันอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งการใช้ชีวิตของพวกเขาก็เป็นการใช้ชีวิตตามความใคร่ ความรู้สึกของตนอย่างไม่มีขอบเขตและยังมีการตั้งภาคีต่ออัลลอฮฺอีกด้วย เสมือนหนึ่งว่าพวกเขากำลังอยู่บนปากเหวแห่งไฟนรกเกือบจะตกลงไปอยู่แล้ว แต่ด้วยความเมตตาของอัลลอฮฺพระองค์ได้ทรงประทานอิสลามและอีมานมายังพวกเขา ทำให้พวกเขารอดพ้นจากการตกลงไปในนรกอีกทั้งพวกเขาก็กลายเป็นพี่น้องกัน มีความรัก ความสามัคคีต่อกัน และให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน


          การสร้างความรัก ความสามัคคีในสังคมนั้น เป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคน เราจะต้องช่วยกันทำให้สังคมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน อัลลอฮฺได้ตรัสว่า

ความว่า “แท้จริงนี่คือประชาชาติของพวกเจ้า เป็นประชาชาติเดียวกัน และข้าคือพระเจ้าของพวกเจ้า ฉะนั้นพวกเจ้าจงยำเกรงต่อข้าเถิด ”  (سورة المؤمنون: 52)


ท่านอะบู มูซา อัล-อัชอะรีย์ได้รายงานว่า ท่านนบีได้กล่าวว่า

“ความสัมพันธ์ระหว่างมุอฺมินนั้น เปรียบเสมือนกับสิ่งก่อสร้างที่ส่วนหนึ่งจะต้องประสานกับอีกส่วนหนึ่ง และท่านนบีก็ได้ประสานนิ้วมือทั้งสองข้าง”

          จากหะดีษบทนี้เราสามารถเข้าใจและเห็นภาพได้เลยว่า ลักษณะของสิ่งก่อสร้างไม่ว่าจะเป็นตึก อาคาร หรือบ้านเรือนนั้น จะต้องยึดเหนี่ยวกันและกันในทุกๆด้าน เพื่อเกิดความแข็งแรง มั่นคงและทนทานของตัวอาคาร เช่นเดียวกัน การใช้ชีวิตในสังคมของบรรดามุอฺมินก็ต้องจับมือประสานกัน ผู้ที่แข็งแรงกว่าก็ช่วยเหลือผู้ที่อ่อนแอกว่า ผู้ที่ร่ำรวยก็ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ยากจน ผู้ที่เป็นผู้ใหญ่ก็ให้ความรักความเมตตาต่อผู้เยาว์ และผู้เยาว์ก็ต้องให้เกียรติและเชื่อฟังผู้ใหญ่ นอกจากนั้นสมาชิกในสังคมก็จะต้องช่วยกันสอดส่องดูแลให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ช่วยกันขจัดภัยอันตรายต่างๆที่จะเล็ดลอดเข้ามาในสังคมของเรา และเมื่อใดก็ตามที่พี่น้องในสังคมของเราได้รับความเดือดร้อน สมาชิกที่เหลือก็ต้องยื่นมือให้ความช่วยเหลือทันที เพราะอิสลามถือว่าความเดือดร้อนของมุอฺมินแต่ละคนเป็นความเดือดร้อนที่มุอฺมินทุกคนต้องมีความรู้สึกร่วมกัน

ดังที่ท่านนบี ได้กล่าวว่า


“บรรดามุอฺมิน ในด้านความรัก ความเอื้ออาทร และปรองดองที่มีให้กันและกันนั้น เปรียบเสมือนกับร่างกายเดียวกัน

เมื่อใดก็ตามที่อวัยวะส่วนหนึ่งได้รับบาดเจ็บแล้ว ก็จะส่งผลต่ออวัยวะส่วนที่เหลือในการอดหลับอดนอนเพราะความเจ็บปวดที่ได้รับด้วยเช่นกัน”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่