***Spoil เบาๆ เฉพาะเนื้อหาส่วนที่อยู่ใน Trailer และเนื้อหาในภาคก่อนๆ***
ธีมของ Captain America: Civil war ภาคนี้ ไม่ได้ขาวใส ชิวๆ เหมือนอย่าง The Avenger ทั้ง 2 ภาค ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้ดำ มืดหม่นเหมือนอย่าง The Dark Knight แต่เป็นหนังฮีโร่สีเทาๆ ที่ผสมผสานทั้ง 2 เฉดสีได้อย่างกลมกลืน
และไม่ใช่แค่ธีมของหนังที่เป็นสีเทาๆ แต่ตัวละครหลักทั้งกัปตันและโทนี่ เองต่างก็เป็นฮีโร่ที่มีความเทาๆ นี้อยู่ในตัวด้วยกันทั้งคู่ กัปตันหรือ “แคป” มีแนวคิดของทหารที่ต้องปฏิบัติภารกิจ และพร้อมที่จะเสียสละบางสิ่งบางอย่างเพื่อบรรลุเป้าหมาย ในขณะที่โทนี่ก็ปล่อยให้อารมณ์มีอิทธิพลเหนือเหตุผลในหลายครั้ง รวมไปถึงในฉากตอนท้ายของภาคนี้ (ซึ่งหากได้รับชมก็จะเห็นว่าอารมณ์ของโทนี่ในเรื่องนี้ไม่ได้ไร้สาระอะไรเลย แต่มีเหตุมีผล และมีความเป็นมนุษย์สูงมาก)
ความเสียหายจากการต่อสู้ของฮีโร่ในภาคแรกๆ กลายมาเป็นประเด็นที่สังคมหวาดกลัว ผู้บริสุทธิ์จำนวนมากถูก “ลูกหลง” จากสงความของเหล่าฮีโร่ และเป็นเหตุให้องค์กรกลางของโลกอย่างสหประชาชาติร่างกฎหมาย ”โซโคเวีย”เข้ามาควบคุมการปฏิบัติการของเหล่าฮีโร่
ความคิดเห็นของฮีโร่แตกออกเป็น 2 ทีม คือฝ่ายที่สนับสนุนกับกฎหมาย นำโดยโทนี่ และฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยนำโดยแคป มองเผินๆ แล้วประเด็นของความแตกต่างทางความคิดนี้เป็นเสมือนการสู้กันระหว่างแนวคิดเสรีนิยมประชาธิปไตย และแนวคิดเผด็จการในโลกการเมืองปัจจุบัน โทนี่ซึ่งเป็นตัวแทนของฝ่ายเสรีนิยมมองว่าการตัดสินใจโดยรับฟังเสียงส่วนใหญ่นั้น น่าจะยังประโยชน์ให้แก่สังคมส่วนรวมมากกว่า ในขณะที่แคปมองต่างออกไป
แต่ทำไมจู่ๆ แคปที่เคยต่อต้าน “เผด็จการเบ็ดเสร็จ” แบบ “ไฮดร้า” กลับมาสนับสนุนฝ่ายเผด็จการล่ะ?
แคปมองว่าการตัดสินใจของสังคมโลกนั้นบางครั้ง อาจไม่ใช่แนวคิดที่ถูกต้อง และกระบวนการที่ล่าช้ายังอาจทำให้ปฏิบัติการตอบโต้เหล่าวายร้ายได้ไม่ทันท่วงที ตัวอย่างที่ชัดเจนของประเด็นนี้คือ ความผิดพลาดของรัฐบาลที่ตัดสินใจยิงนิวเคลียร์ใน The Avengers ภาคแรก และการแทรกแซงหน่วยงานชีลด์ของเหล่าไฮดร้าใน Captain America ภาค 2 (The Winter Soldier) ซึ่งทั้ง 2 เหตุการณ์นั้นถ้าเหล่าฮีโร่ปฏิบัติภารกิจช้าลงไปเพียงไม่กี่นาที ผลลัพธ์ของเหตุการณ์คงจะร้ายแรงยิ่งกว่าที่เกิดขึ้นนับร้อยเท่า พันเท่า
อันที่จริงแล้วองค์กรกลางอย่างรัฐบาลนั้นก็เพียงเล่นเกมการเมือง โดยโยนความผิดไปที่เหล่าฮีโร่ โทษความผิดพลาดจากการปฏิบัติการว่าเป็นสาเหตุหลักจากการตายของผู้บริสุทธิ์ ทั้งที่การปฏิบัติงานขององค์กรกลางเองกลับไม่มีประสิทธิภาพพอจะจัดการกับเหล่าร้าย และการตัดสินใจขององค์กรกลางเองก็ยังตั้งใจเลือกสละชีวิตผู้บริสุทธิ์จากเหตุการณ์ยิงนิวเคลียร์ใน The Avengers ภาคแรก แตกต่างจากแนวคิดของเหล่าฮีโร่ที่สามารถรับมือกับเหล่าร้ายได้ดีกว่า ถึงแม้ว่าจะไม่ได้หลีกเลี่ยงความเสียหายได้ทั้งหมด แต่ก็ช่วยเหลือชีวิตของเหล่าผู้บริสุทธิ์ได้มากกว่า
ตัวแคปที่ผ่านเหตุการณ์ทั้ง 2 มา ตกผลึกทางความคิดว่า หน้าที่ของเขาคือการช่วยคนทุกคนให้ได้มากเท่าที่จะทำได้ แต่ไม่ใช่ว่าจะทำได้สำเร็จทุกครั้ง แคปไม่ได้มีความคิดในเชิงเผด็จการสุดโต่งแบบไฮดร้า เพียงแต่เขาไม่ไว้ใจที่จะมอบพลังอำนาจของเหล่าฮีโร่ให้กับองค์กรกลาง ด้วยสาเหตุว่าเขาไม่อาจเชื่อใจองค์กรกลางนั้นได้มากเท่ากับตัวเขาเอง
การกระทำของโทนี่เองในทางกลับกันก็ใช่ว่าจะไร้เหตุผล แม้ว่าเขาจะเป็นฮีโร่ แต่เขาก็กลับตกเป็น “เหยื่อ” ของสงครามฮีโร่เองเช่นกัน โทนี่ไม่สามารถให้อภัยตัวเองได้กับการที่ผู้บริสุทธิ์ต้องมาตายด้วยความผิดพลาดจากการตัดสินใจของตัวเขาเองใน Avengers 2 (Age of Ultron) โทนี่จึงเชื่อว่า การปฏิบัติภารกิจของฮีโร่ควรมาจากองค์กรกลางมากกว่า
เฉกเช่นเดียวกับแนวคิดของแคปที่ไม่ใช่เผด็จการเบ็ดเสร็จ แนวคิดของโทนี่เองก็ไม่ใช่ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบ
กฎหมายโซโคเวียไม่ได้รับฟังเสียงของผู้เห็นต่างซึ่งเป็น “เสียงส่วนน้อย” ของสังคม กลับกันนั้น องค์กรกลางซึ่งเป็นผู้คุมกฎกลับเห็นผู้ต่อต้านเป็นศัตรู และเลือกที่จะใช้ “อำนาจทหาร” เข้าจับกุม
และนั่นเป็นประเด็นที่ กลุ่มของโทนี่ที่อยู่ข้างเดียวกับกฎ ต้องเป็นฝ่ายไล่ล่าทีมของแคปในฐานะของผู้ต่อต้าน
แนวคิดเผด็จการสุดโต่ง เป็นความคิดของเหล่าวายร้ายที่โลกไม่ให้การยอมรับ ในขณะที่แนวคิดประชาธิปไตยสมบูรณ์แบบเองก็ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นได้ง่ายๆ ตราบใดที่เสียงส่วนมากไม่เลือกหาจุดลงตัวที่เสียงส่วนน้อยจะยอมรับได้ อีกทั้งยังมีเหล่าวายร้ายที่จ้องจะหาช่องโหว่เพื่อทำลายความสมบูรณ์แบบนั้นอยู่
ทั้ง 2 ฝ่าย 2 แนวคิดต่างไม่มีผิดถูก ทั้งแคปและโทต่างเป็นฮีโร่สีเทาๆ ที่มีความเป็นมนุษย์อยู่เต็มเปี่ยม ทั้งคู่ถูกหล่อหลอมด้วยประสบการณ์ และค่านิยมเชิงแนวคิดที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้ว ทำให้เพื่อนรักต้องหันหน้าเข้าห่ำหั่นกันในสงครามกลางเมืองครั้งนี้
แล้วคุณล่ะ อยู่ทีมใคร?
Captain America: Civil War >>> ฮี่โร่สีเทาๆ ในวันที่เป็นจำเลยของสังคม (ไม่สปอยเนื้อหาในภาพยนตร์)
ธีมของ Captain America: Civil war ภาคนี้ ไม่ได้ขาวใส ชิวๆ เหมือนอย่าง The Avenger ทั้ง 2 ภาค ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้ดำ มืดหม่นเหมือนอย่าง The Dark Knight แต่เป็นหนังฮีโร่สีเทาๆ ที่ผสมผสานทั้ง 2 เฉดสีได้อย่างกลมกลืน
และไม่ใช่แค่ธีมของหนังที่เป็นสีเทาๆ แต่ตัวละครหลักทั้งกัปตันและโทนี่ เองต่างก็เป็นฮีโร่ที่มีความเทาๆ นี้อยู่ในตัวด้วยกันทั้งคู่ กัปตันหรือ “แคป” มีแนวคิดของทหารที่ต้องปฏิบัติภารกิจ และพร้อมที่จะเสียสละบางสิ่งบางอย่างเพื่อบรรลุเป้าหมาย ในขณะที่โทนี่ก็ปล่อยให้อารมณ์มีอิทธิพลเหนือเหตุผลในหลายครั้ง รวมไปถึงในฉากตอนท้ายของภาคนี้ (ซึ่งหากได้รับชมก็จะเห็นว่าอารมณ์ของโทนี่ในเรื่องนี้ไม่ได้ไร้สาระอะไรเลย แต่มีเหตุมีผล และมีความเป็นมนุษย์สูงมาก)
ความเสียหายจากการต่อสู้ของฮีโร่ในภาคแรกๆ กลายมาเป็นประเด็นที่สังคมหวาดกลัว ผู้บริสุทธิ์จำนวนมากถูก “ลูกหลง” จากสงความของเหล่าฮีโร่ และเป็นเหตุให้องค์กรกลางของโลกอย่างสหประชาชาติร่างกฎหมาย ”โซโคเวีย”เข้ามาควบคุมการปฏิบัติการของเหล่าฮีโร่
ความคิดเห็นของฮีโร่แตกออกเป็น 2 ทีม คือฝ่ายที่สนับสนุนกับกฎหมาย นำโดยโทนี่ และฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยนำโดยแคป มองเผินๆ แล้วประเด็นของความแตกต่างทางความคิดนี้เป็นเสมือนการสู้กันระหว่างแนวคิดเสรีนิยมประชาธิปไตย และแนวคิดเผด็จการในโลกการเมืองปัจจุบัน โทนี่ซึ่งเป็นตัวแทนของฝ่ายเสรีนิยมมองว่าการตัดสินใจโดยรับฟังเสียงส่วนใหญ่นั้น น่าจะยังประโยชน์ให้แก่สังคมส่วนรวมมากกว่า ในขณะที่แคปมองต่างออกไป
แต่ทำไมจู่ๆ แคปที่เคยต่อต้าน “เผด็จการเบ็ดเสร็จ” แบบ “ไฮดร้า” กลับมาสนับสนุนฝ่ายเผด็จการล่ะ?
แคปมองว่าการตัดสินใจของสังคมโลกนั้นบางครั้ง อาจไม่ใช่แนวคิดที่ถูกต้อง และกระบวนการที่ล่าช้ายังอาจทำให้ปฏิบัติการตอบโต้เหล่าวายร้ายได้ไม่ทันท่วงที ตัวอย่างที่ชัดเจนของประเด็นนี้คือ ความผิดพลาดของรัฐบาลที่ตัดสินใจยิงนิวเคลียร์ใน The Avengers ภาคแรก และการแทรกแซงหน่วยงานชีลด์ของเหล่าไฮดร้าใน Captain America ภาค 2 (The Winter Soldier) ซึ่งทั้ง 2 เหตุการณ์นั้นถ้าเหล่าฮีโร่ปฏิบัติภารกิจช้าลงไปเพียงไม่กี่นาที ผลลัพธ์ของเหตุการณ์คงจะร้ายแรงยิ่งกว่าที่เกิดขึ้นนับร้อยเท่า พันเท่า
อันที่จริงแล้วองค์กรกลางอย่างรัฐบาลนั้นก็เพียงเล่นเกมการเมือง โดยโยนความผิดไปที่เหล่าฮีโร่ โทษความผิดพลาดจากการปฏิบัติการว่าเป็นสาเหตุหลักจากการตายของผู้บริสุทธิ์ ทั้งที่การปฏิบัติงานขององค์กรกลางเองกลับไม่มีประสิทธิภาพพอจะจัดการกับเหล่าร้าย และการตัดสินใจขององค์กรกลางเองก็ยังตั้งใจเลือกสละชีวิตผู้บริสุทธิ์จากเหตุการณ์ยิงนิวเคลียร์ใน The Avengers ภาคแรก แตกต่างจากแนวคิดของเหล่าฮีโร่ที่สามารถรับมือกับเหล่าร้ายได้ดีกว่า ถึงแม้ว่าจะไม่ได้หลีกเลี่ยงความเสียหายได้ทั้งหมด แต่ก็ช่วยเหลือชีวิตของเหล่าผู้บริสุทธิ์ได้มากกว่า
ตัวแคปที่ผ่านเหตุการณ์ทั้ง 2 มา ตกผลึกทางความคิดว่า หน้าที่ของเขาคือการช่วยคนทุกคนให้ได้มากเท่าที่จะทำได้ แต่ไม่ใช่ว่าจะทำได้สำเร็จทุกครั้ง แคปไม่ได้มีความคิดในเชิงเผด็จการสุดโต่งแบบไฮดร้า เพียงแต่เขาไม่ไว้ใจที่จะมอบพลังอำนาจของเหล่าฮีโร่ให้กับองค์กรกลาง ด้วยสาเหตุว่าเขาไม่อาจเชื่อใจองค์กรกลางนั้นได้มากเท่ากับตัวเขาเอง
การกระทำของโทนี่เองในทางกลับกันก็ใช่ว่าจะไร้เหตุผล แม้ว่าเขาจะเป็นฮีโร่ แต่เขาก็กลับตกเป็น “เหยื่อ” ของสงครามฮีโร่เองเช่นกัน โทนี่ไม่สามารถให้อภัยตัวเองได้กับการที่ผู้บริสุทธิ์ต้องมาตายด้วยความผิดพลาดจากการตัดสินใจของตัวเขาเองใน Avengers 2 (Age of Ultron) โทนี่จึงเชื่อว่า การปฏิบัติภารกิจของฮีโร่ควรมาจากองค์กรกลางมากกว่า
เฉกเช่นเดียวกับแนวคิดของแคปที่ไม่ใช่เผด็จการเบ็ดเสร็จ แนวคิดของโทนี่เองก็ไม่ใช่ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบ
กฎหมายโซโคเวียไม่ได้รับฟังเสียงของผู้เห็นต่างซึ่งเป็น “เสียงส่วนน้อย” ของสังคม กลับกันนั้น องค์กรกลางซึ่งเป็นผู้คุมกฎกลับเห็นผู้ต่อต้านเป็นศัตรู และเลือกที่จะใช้ “อำนาจทหาร” เข้าจับกุม
และนั่นเป็นประเด็นที่ กลุ่มของโทนี่ที่อยู่ข้างเดียวกับกฎ ต้องเป็นฝ่ายไล่ล่าทีมของแคปในฐานะของผู้ต่อต้าน
แนวคิดเผด็จการสุดโต่ง เป็นความคิดของเหล่าวายร้ายที่โลกไม่ให้การยอมรับ ในขณะที่แนวคิดประชาธิปไตยสมบูรณ์แบบเองก็ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นได้ง่ายๆ ตราบใดที่เสียงส่วนมากไม่เลือกหาจุดลงตัวที่เสียงส่วนน้อยจะยอมรับได้ อีกทั้งยังมีเหล่าวายร้ายที่จ้องจะหาช่องโหว่เพื่อทำลายความสมบูรณ์แบบนั้นอยู่
ทั้ง 2 ฝ่าย 2 แนวคิดต่างไม่มีผิดถูก ทั้งแคปและโทต่างเป็นฮีโร่สีเทาๆ ที่มีความเป็นมนุษย์อยู่เต็มเปี่ยม ทั้งคู่ถูกหล่อหลอมด้วยประสบการณ์ และค่านิยมเชิงแนวคิดที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้ว ทำให้เพื่อนรักต้องหันหน้าเข้าห่ำหั่นกันในสงครามกลางเมืองครั้งนี้
แล้วคุณล่ะ อยู่ทีมใคร?