Captain America : Civil War เป็นหนัง Marvel ที่ให้อารมณ์แตกต่างจากหนัง Marvel ก่อนหน้าทั้งหมด อย่างสิ้นเชิง
โดยฝีมือกำกับของ สองพี่น้องรุซโซ่ ที่เคยสร้างชื่อกับ Captain America : Winter Soldier จากการฉีกแนวหนัง Marvel
สร้าง Captain America : Winter Soldier ออกมาเป็นหนังที่ผสมผสานระหว่างหนัง ฮีโร่ การเมือง สายลับ ได้อย่างลงตัวโคตรๆ
ส่งผลให้ Cap2 กลายเป็นหนังที่ได้รับเสียงวิจารณ์ดีที่สุดเรื่องหนึ่งของ Marvel
โดยการกลับมาครั้งนี้ พิสูจน์ให้เห็นกันชัดไปเลยว่า พี่น้องรุซโซ่คือของจริง Civil War มีฮีโร่มาเข้าร่วมในเรื่องมากมาย จนหลายคนบอกว่านี่มัน Avengers 2.5 ชัดๆ แม้จะมีตัวละครมาเยอะมาก แต่การเฉลี่ยบทให้ตัวละครแต่ล่ะตัวนั้นทำได้ดีมาก และแม้จะมีตัวละครมากมายแบบนี้แต่มันก็คือหนังของ กัปตันอเมริกาอย่างแน่นอน
หนังพูดถึงผลกระทบจากเหตุการณ์ต่างๆใน MCU จนต้องมีการใช้สนธิสัญญาบางอย่างในการควบคุมเหล่าฮีโร่ สนธิสัญญาที่ว่าก็คือ "สนธิสัญญาโซโคเวีย"และสนธิสัญญานี้เอง คือสิ่งที่ทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้นในกลุ่ม Avengers โดยฝ่ายที่เห็นด้วยกับ รัฐ คือฝ่าย ไอรอนแมน และฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยคือกัปตันอเมริกา โทนี่ สตาร์คที่รู้สึกผิดต่อเหตุการณ์ที่ โซโคเวีย จึงต้องการให้ Avenger ถูกจัดระเบียบใหม่ ไม่อยากให้ตนและพรรคพวกถูกมองเป็นผู้ร้าย หรือ ศาลเตี้ยอีกแล้ว ไม่อยากให้คนบริสุทธิ์ต้องโดนลูกหลงอีก ส่วนทางฝั่งสตีฟซึ่งมีความเห็นว่า Avengers ควรเป็นองค์กรอิสระ เพราะเค้าก็เคยเจอการแทรกแซงภายในองค์กรมาจังๆ และไม่เชื่อใจว่าพลังของทีม Avengers จะถูกนำไปใช้ในทางที่ถูกต้อง หากพลังของพวกเขาตกไปอยู่ในมือของผู้บ้าอำนาจ ภารกิจที่พวกเขาถูกส่งตัวไปทำจะเป็นสิ่งที่ถูกต้องแน่หรือ ด้วยความขัดแย้งนี้ ทำให้เกิดความบาดหมาง และแบ่งทีม Avenger ออกเป็น 2 ฝั่ง
ตัวแปรสำคัญที่มาทำให้ ความบาดหมางครั้งนี้ มันยิ่งบานปลายเข้าไปกันใหญ่ก็คือ บัคกี้ หรือ Winter Soldier เพื่อนรักของกัปตันที่เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก และเป็นคนรู้จักในยุคของสตีฟคนสุดท้ายที่หลงเหลืออยู่ บัคกี้ถูกไฮดร้าจับไปล้างสมองและใช้สารเซรุ่ม ให้เค้ากลายเป็น Winter Soldierและถูกไฮดร้า ใช้งานเป็นทาสรับใช้ ส่วนตัวหลังดูจบเค้าเป็นหนึ่งในตัวละครที่ น่าสงสารที่สุดในเรื่อง รวมไปถึง สตีฟและโทนี่
ตัวละครใหม่ทุกตัวในเรื่อง ดีงามมาก ทั้ง แบล็คแพนเทอร์ และ สไปเดอร์แมน หลังจากจบ Civil War ทุกคนจะต้องอยากดูหนังเดี่ยวของพวกเค้าทั้งคู่อย่างแน่นอน นี่เป็นสไปเดอร์แมนอย่างที่สมควรจะเป็นที่สุด ส่วน แบล็คแพนเทอร์ เป็นตัวละครที่โคตรเท่ ชนิดที่ว่าแค่พี่แกมายืนเฉยๆก็เท่โคตรๆแล้ว
ตัวร้ายที่เป็นจุดอ่อนของ Marvel หลายเรื่องๆ ไม่มีให้พบเห็นกับเรื่องนี้ และเป็นวายร้ายประเภทที่ไม่มีในหนัง Marvel เรื่องไหนมาก่อน แม้กระทั่งตัวร้ายของเรื่องเองยังมีเหตุจูงใจ และเหตุผลของตัวเองเช่นกัน
ทั้งสตีฟ และโทนี่ ต่างมีจุดยืนของตัวเอง เหตุผลของทั้งสองฝ่ายมีน้ำหนักมากพอที่จะทำให้ไม่สามารถพูดได้เต็มปากเลยว่า ฝ่ายใดผิด ฝ่ายใดถูก ต่างฝ่ายต่างทำในสิ่งที่ถูกต้องจากประสบการณ์ที่ทั้งคู่เคยเจอมาทั้งสิ้น เนื้อเรื่องจะค่อยไต่ระดับความพีคขึ้นเรื่อยๆ ไปจนถึงฉากจบองค์ที่สองซึ่งก็คือ ฉากสนามบิน ซึ่งเป็นหนึ่งในฉากที่น่าจดจำ และได้รับการกล่าวขานไปอีกนานแน่นอน การดำเนินเรื่องของหนังเรื่องนี้จะทำให้คุณเป็น ไบโพล่า ระหว่างดู เนื่องจาก มันมีทั้งเครียด จริงจัง และไม่ทิ้งมุขตลกซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ Marvel (ดูจบหลายคนต้องชอบคู่ แซมบัค แน่นอน) ตัดกับบรรยากาศตึงเครียดในเรื่อง แต่ไม่รู้สึกโดด แต่อย่างใด เนื้อเรื่องถูกเล่าออกมาได้อย่าง กลมกล่อมและลงตัว
จนถึง องค์สุดท้ายของเรื่องที่ถูกบิ๊วมาจนเรียกได้ว่า เป็นฉากที่สะเทือนใจที่สุดในจักรวาล MCU อย่างแน่นอน จนแฟน Marvel บางส่วนอาจน้ำตาไหลกันได้ง่ายๆ และนี่อาจจะเป็นหนัง Marvel เรื่องแรกที่ทำให้คุณรู้สึก "หน่วง" หลังดูจบได้มากขนาดนี้ หนังเล่นกับปมในจิตใจของเหล่าซุปเปอร์ฮีโร่ ไม่เคยมีบทหนังเรื่องไหนใน Marvel ที่ดึงฮีโร่ลงมาเป็นมนุษย์ธรรมดา และมีมิติได้ขนาดนี้ และแน่นอนว่าหลังจบเหตุการณ์ครั้งนี้ จักรวาล Marvel และ Team Avengers จะไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว
สรุปว่า Captain America : Civil War เป็นการปิดไตรภาคกัปตัน และเปิดเฟส 3 ได้ยอดเยี่ยมที่สุด น่าเสียดายว่าถ้าหาก สองพี่น้องรุซโซ่เข้ามากำกับ ตั้งแต่ภาคแรก ไตรภาคของกัปตันอาจจะเป็น หนังไตรภาคที่สมบูรณ์แบบ ชุดแรกของ Marvel ไปแล้ว หนังมีครบทุกรสชาติ คุ้มค่าตั๋วอย่างแน่นอน
ส่วนตัวผมให้ 9.5 /10 หักเรื่อง CG กับ Soundtrack ในเรื่องไม่ค่อยโดน และอีกอย่างคือจะดูเรื่องนี้ได้อย่างเต็มอรรถรสที่หนังต้องการจะสื่อ ต้องผ่านการดูหนัง MCU หรือรู้เรื่องราวของ MCU มาก่อนพอสมควร นอกนั้นไม่มีไรจะติครับ เพราะประทับใจมากๆ และจะไปดูรอบสองอย่างแน่นอน บางคนอาจจะคิดว่าอวยเกินรึเปล่า แต่บอกก่อน ว่าเป็นความรู้สึกจริงๆครับ ซึ่งแต่ล่ะคนรสนิยมไม่เหมือนกันอยู่แล้ว ซึ่งในส่วนของผม ผมชอบมากๆ
[Civil War] หนังที่ดีที่สุดของ MCU ในความเห็นข้าพเจ้า
โดยฝีมือกำกับของ สองพี่น้องรุซโซ่ ที่เคยสร้างชื่อกับ Captain America : Winter Soldier จากการฉีกแนวหนัง Marvel
สร้าง Captain America : Winter Soldier ออกมาเป็นหนังที่ผสมผสานระหว่างหนัง ฮีโร่ การเมือง สายลับ ได้อย่างลงตัวโคตรๆ
ส่งผลให้ Cap2 กลายเป็นหนังที่ได้รับเสียงวิจารณ์ดีที่สุดเรื่องหนึ่งของ Marvel
โดยการกลับมาครั้งนี้ พิสูจน์ให้เห็นกันชัดไปเลยว่า พี่น้องรุซโซ่คือของจริง Civil War มีฮีโร่มาเข้าร่วมในเรื่องมากมาย จนหลายคนบอกว่านี่มัน Avengers 2.5 ชัดๆ แม้จะมีตัวละครมาเยอะมาก แต่การเฉลี่ยบทให้ตัวละครแต่ล่ะตัวนั้นทำได้ดีมาก และแม้จะมีตัวละครมากมายแบบนี้แต่มันก็คือหนังของ กัปตันอเมริกาอย่างแน่นอน
หนังพูดถึงผลกระทบจากเหตุการณ์ต่างๆใน MCU จนต้องมีการใช้สนธิสัญญาบางอย่างในการควบคุมเหล่าฮีโร่ สนธิสัญญาที่ว่าก็คือ "สนธิสัญญาโซโคเวีย"และสนธิสัญญานี้เอง คือสิ่งที่ทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้นในกลุ่ม Avengers โดยฝ่ายที่เห็นด้วยกับ รัฐ คือฝ่าย ไอรอนแมน และฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยคือกัปตันอเมริกา โทนี่ สตาร์คที่รู้สึกผิดต่อเหตุการณ์ที่ โซโคเวีย จึงต้องการให้ Avenger ถูกจัดระเบียบใหม่ ไม่อยากให้ตนและพรรคพวกถูกมองเป็นผู้ร้าย หรือ ศาลเตี้ยอีกแล้ว ไม่อยากให้คนบริสุทธิ์ต้องโดนลูกหลงอีก ส่วนทางฝั่งสตีฟซึ่งมีความเห็นว่า Avengers ควรเป็นองค์กรอิสระ เพราะเค้าก็เคยเจอการแทรกแซงภายในองค์กรมาจังๆ และไม่เชื่อใจว่าพลังของทีม Avengers จะถูกนำไปใช้ในทางที่ถูกต้อง หากพลังของพวกเขาตกไปอยู่ในมือของผู้บ้าอำนาจ ภารกิจที่พวกเขาถูกส่งตัวไปทำจะเป็นสิ่งที่ถูกต้องแน่หรือ ด้วยความขัดแย้งนี้ ทำให้เกิดความบาดหมาง และแบ่งทีม Avenger ออกเป็น 2 ฝั่ง
ตัวแปรสำคัญที่มาทำให้ ความบาดหมางครั้งนี้ มันยิ่งบานปลายเข้าไปกันใหญ่ก็คือ บัคกี้ หรือ Winter Soldier เพื่อนรักของกัปตันที่เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก และเป็นคนรู้จักในยุคของสตีฟคนสุดท้ายที่หลงเหลืออยู่ บัคกี้ถูกไฮดร้าจับไปล้างสมองและใช้สารเซรุ่ม ให้เค้ากลายเป็น Winter Soldierและถูกไฮดร้า ใช้งานเป็นทาสรับใช้ ส่วนตัวหลังดูจบเค้าเป็นหนึ่งในตัวละครที่ น่าสงสารที่สุดในเรื่อง รวมไปถึง สตีฟและโทนี่
ตัวละครใหม่ทุกตัวในเรื่อง ดีงามมาก ทั้ง แบล็คแพนเทอร์ และ สไปเดอร์แมน หลังจากจบ Civil War ทุกคนจะต้องอยากดูหนังเดี่ยวของพวกเค้าทั้งคู่อย่างแน่นอน นี่เป็นสไปเดอร์แมนอย่างที่สมควรจะเป็นที่สุด ส่วน แบล็คแพนเทอร์ เป็นตัวละครที่โคตรเท่ ชนิดที่ว่าแค่พี่แกมายืนเฉยๆก็เท่โคตรๆแล้ว
ตัวร้ายที่เป็นจุดอ่อนของ Marvel หลายเรื่องๆ ไม่มีให้พบเห็นกับเรื่องนี้ และเป็นวายร้ายประเภทที่ไม่มีในหนัง Marvel เรื่องไหนมาก่อน แม้กระทั่งตัวร้ายของเรื่องเองยังมีเหตุจูงใจ และเหตุผลของตัวเองเช่นกัน
ทั้งสตีฟ และโทนี่ ต่างมีจุดยืนของตัวเอง เหตุผลของทั้งสองฝ่ายมีน้ำหนักมากพอที่จะทำให้ไม่สามารถพูดได้เต็มปากเลยว่า ฝ่ายใดผิด ฝ่ายใดถูก ต่างฝ่ายต่างทำในสิ่งที่ถูกต้องจากประสบการณ์ที่ทั้งคู่เคยเจอมาทั้งสิ้น เนื้อเรื่องจะค่อยไต่ระดับความพีคขึ้นเรื่อยๆ ไปจนถึงฉากจบองค์ที่สองซึ่งก็คือ ฉากสนามบิน ซึ่งเป็นหนึ่งในฉากที่น่าจดจำ และได้รับการกล่าวขานไปอีกนานแน่นอน การดำเนินเรื่องของหนังเรื่องนี้จะทำให้คุณเป็น ไบโพล่า ระหว่างดู เนื่องจาก มันมีทั้งเครียด จริงจัง และไม่ทิ้งมุขตลกซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ Marvel (ดูจบหลายคนต้องชอบคู่ แซมบัค แน่นอน) ตัดกับบรรยากาศตึงเครียดในเรื่อง แต่ไม่รู้สึกโดด แต่อย่างใด เนื้อเรื่องถูกเล่าออกมาได้อย่าง กลมกล่อมและลงตัว
จนถึง องค์สุดท้ายของเรื่องที่ถูกบิ๊วมาจนเรียกได้ว่า เป็นฉากที่สะเทือนใจที่สุดในจักรวาล MCU อย่างแน่นอน จนแฟน Marvel บางส่วนอาจน้ำตาไหลกันได้ง่ายๆ และนี่อาจจะเป็นหนัง Marvel เรื่องแรกที่ทำให้คุณรู้สึก "หน่วง" หลังดูจบได้มากขนาดนี้ หนังเล่นกับปมในจิตใจของเหล่าซุปเปอร์ฮีโร่ ไม่เคยมีบทหนังเรื่องไหนใน Marvel ที่ดึงฮีโร่ลงมาเป็นมนุษย์ธรรมดา และมีมิติได้ขนาดนี้ และแน่นอนว่าหลังจบเหตุการณ์ครั้งนี้ จักรวาล Marvel และ Team Avengers จะไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว
สรุปว่า Captain America : Civil War เป็นการปิดไตรภาคกัปตัน และเปิดเฟส 3 ได้ยอดเยี่ยมที่สุด น่าเสียดายว่าถ้าหาก สองพี่น้องรุซโซ่เข้ามากำกับ ตั้งแต่ภาคแรก ไตรภาคของกัปตันอาจจะเป็น หนังไตรภาคที่สมบูรณ์แบบ ชุดแรกของ Marvel ไปแล้ว หนังมีครบทุกรสชาติ คุ้มค่าตั๋วอย่างแน่นอน
ส่วนตัวผมให้ 9.5 /10 หักเรื่อง CG กับ Soundtrack ในเรื่องไม่ค่อยโดน และอีกอย่างคือจะดูเรื่องนี้ได้อย่างเต็มอรรถรสที่หนังต้องการจะสื่อ ต้องผ่านการดูหนัง MCU หรือรู้เรื่องราวของ MCU มาก่อนพอสมควร นอกนั้นไม่มีไรจะติครับ เพราะประทับใจมากๆ และจะไปดูรอบสองอย่างแน่นอน บางคนอาจจะคิดว่าอวยเกินรึเปล่า แต่บอกก่อน ว่าเป็นความรู้สึกจริงๆครับ ซึ่งแต่ล่ะคนรสนิยมไม่เหมือนกันอยู่แล้ว ซึ่งในส่วนของผม ผมชอบมากๆ