[CR] Captain America : Civil War หลักไมล์ใหม่ของหนังฮีโร่ Marvel (spoil เล็กน้อย)

ขอบคุณทีมงาน pantipgift สำหรับบัตรฟรีครั้งนี้นะครับ

ปล.ดูภาคเก่าๆมาก่อนนะครับ ไม่งั้นอาจมีงง ว่าไอ้นี่ใคร ??

ปีนี้ยอมรับเลยว่า หนังฮีโร่ดีๆ มีเยอะจริงๆ ตั้งแต่ต้นปีกับ Deadpool และมาต่อที่ Batman V Superman ที่ผิดหวังนิดหน่อย แต่ตอบโจทย์ได้ดีพอสมควร มาถึงหนังที่กระแสดีมากๆอย่าง Captain America : Civil War ที่คำวิจารณ์สวยหรูเอามากๆ และหลังจากไปรับชมแล้ว ยอมรับเลยว่าหนังดีมากๆจริง และท่ามกลางความดีงามต่างๆ ความสนุกในแบบหนังแอ๊คชั่นบล๊อคบัสเตอร์ยังมีอยู่ครบถ้วนจริงๆ

ที่ผ่านมากับจักรวาลหนังมาร์เวลนั้น ตั้งแต่ Iron Man เป็นต้นมา หนังที่ยกให้ดีที่สุดก็คือตระกูลกัปตันอเมริกาเช่นกัน กับ Captain America : Winter Soldier ชอบในความจริงจังและเกมส์การเมือง รวมไปถึงฉากต่อสู้ที่บู๊สนุกเอามากๆ รองๆลงมาก็ Guardians of Galaxy หรือ Iron Man ภาคแรก ที่ตอบโจทย์ความสนุกได้ดีมาก

จุดอ่อนอันใหญ่หลวงมหาศาลที่ผ่านมาของหนัง Marvel นั้นคือตัวร้าย ที่ค่อนข้างงอกง่อย แลดูโหด แต่พอหนังเข้าฉายนั้นกลับกลายเป็นตัวกระจอก ไม่มีความเก่งกาจ มีแต่อุดมการณ์เบาหวิว ไม่น่าเชื่อถือ ซึ่งที่ผ่านมาเห็นจะมีแค่ Loki ใน Avengers ภาคแรกเท่านั้นที่ดูเด่น ไม่ใช่กระจอกๆ และกลบรัศมีทีม Avengers ได้มิดชิด
แต่ทั้งหมดที่ผ่านมา กำลังจะเปลี่ยนไปแล้ว กับการมาของ Civil War
.......................
หนังเริ่มต้นด้วยภารกิจของทีมกัปตันในประเทศหนึ่ง และเกิดอุบัติเหตุทำให้คนเสียชีวิตมากมาย ก่อเกิดเป็นการร่างกฎหมายเพื่อควบคุมเหล่าฮีโร่ และเหล่าฮีโร่จะต้องปฏิบัติภารกิจตามที่รัฐบาลออกคำสั่งเท่านั้น เมื่อมีทางเลือกและความคิดเห็นไม่ตรงกัน เกิดการจุดชนวนและการไม่เห็นด้วย จนกระทั่งการวางระเบิดของการประชุมสนธิสัญญา และมีตัวละครเสียชีวิต ก่อเกิดให้เป็นการรวมทีมและการแบ่งข้าง และนำไปสู่.........

ดีใจมากๆที่สองพี่น้องผู้กำกับ Anthony และ Joe Russo จาก Winter Soldier ได้มากำกับภาคต่อเรื่องนี้ การได้สองคนนี้มากำกับถือเป็นงานที่น่าไว้ใจได้ระดับที่ดีมาก และคาดหวังไว้ว่าน่าจะทำได้อย่างน้อยตามมาตรฐานก็ถือว่ายอดเยี่ยม หลังจากได้รับชมในภาคก่อน บอกได้เลยว่ามีของแน่นอน กำกับหนังสเกลใหญ่ได้อย่างแน่น และประคับประคองหนังไปยังตอนจบได้ มีจุดพีคและจุดผ่อนคลายอย่างลงตัว

หลายคนอาจกลัวก่อนหนังฉาย ที่ดาราขนกันมาเยอะมาก แล้วตัวของ Steve Rogers หรือ Captain America จะมีบทบาทอยู่หรือไม่ ?? บอกได้เลยว่าหายห่วงแน่นอน ตัวบทบาทของกัปตันยังอยู่ครบถ้วน และไม่หลุดโทนจากคำว่า นี่คือหนังกัปตันภาค 3 เท่าไหร่นัก ตัวนักแสดง Chris Evans เสน่ห์ยังเต็มเปี่ยมเช่นเดิมแต่น่าเสียดายที่ตัวละครกัปตันภาคนี้มีมิติแค่ด้านเดียว ด้านเดียวจริงๆ ไม่มีจุดเปลี่ยนแปลง หรือเปลี่ยนความคิดออกมาให้เห็น บางคนอาจบอกลืมๆไปได้ แต่ด้วยตัวบทนำแล้ว เราอาจต้องการความมีมิติมากกว่านี้ก็เป็นได้ แต่การทะเลาะกันกับโทนี่ถือว่าทำได้น่าเชื่อถือ และรู้สึกได้ถึงชนวนที่จุดแล้ว

Bucky Barnes ตัวร้ายจากภาคเก่า กลับมาอีกครั้งในภาคนี้ และถือเป็นตัวแปรสำคัญในภาคนี้ เมื่อกัปตันไม่ยอมเซ็นสัญญาคุ้มครองเหล่าฮีโร่ เพราะไม่ไว้ใจรัฐบาลและจะทำให้เพื่อนรักต้องถูกจับ โดยในภาคนี้จะแสดงให้เห็นว่าทำไมบัคกี้ถึงจำกัปตันไม่ได้ และการปฏิบัติภารกิจแรก และการพัฒนาตัวละครจากตัวร้าย กลายมาเป็นเพื่อนรักของกัปตัน ถือว่าทำได้น่าเชื่อถือ และไม่มีจุดด้อยให้ติมากนัก นอกจากหน้าโมโหที่ทำตลอดเวลา (ชอบเวลาเข้าฉากกับ Falcon พีคมาก)

Tony Stark มาปรากฎตัวในภาคนี้พร้อมภาพลักษณ์ใหม่ที่ไม่พูดเยอะ หรือพูดมากเหมือนหนังเรื่องเก่าๆ ถือเป็นการเปลี่ยนบุคลิกตัวละครไปอย่างสิ้นเชิง ทั้งชีวิตส่วนตัว หรือจะเป็นความรับผิดชอบที่ต้องเจอกับเหตุการณ์ต่างๆ ทำให้เราเข้าใจกับสิ่งที่ต้องเจอและน่าสงสารในจุดที่พีคที่สุดของหนังได้อย่างไม่ยากเย็น ต้องขอบคุณ Robert Downey Jr. ที่เล่นได้ดีมาก หน้าตาแสดงอารมณ์ต่างๆทำออมาได้ยอดเยี่ยมที่สุด

กษัตริย์ T'Challa ของประเทศวากันดา หลังการสูญเสียคุณพ่อ และหลักฐานทางตำรวจบ่งชี้ว่าคนร้ายคือ Winter Soldier ทำให้กษัตริย์องค์นี้ทำการสวมชุด Black Panther ออกไล่ล่าตัวคนร้ายด้วยตนเอง ถือเป็นการเปิดตัวฮีโร่คนใหม่ได้อย่างยอดเยี่ยม และที่สำคัญเท่ทุกองศา ทั้งฉากบู๊ในชุดเสือดำ หรือฉากอารมณ์ในร่างคน ทั้งหมดถือว่าเป็นหนึ่งในจุดเด่นของหนัง และทำให้น่าสนใจว่าหนังเดี่ยวของตนเองนั้นจะน่าสนใจขนาดไหนในอนาคต
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ตัวละครที่ทุกคนรอคอยอย่าง Spider-Man ที่รับบทโดย Tom Holland ไม่ได้มาเล่นๆกับหนังเรื่องนี้ ไม่ต้องกลัวว่าจะโผล่มาแว๊บๆแวมๆเลย บทเยอะมากและพูดเยอะมากๆ เผลอๆพูดมากด้วยซ้ำ (ฮาาาาาา) ฉากบู๊ทำออกมาได้ดีพอสมควรและสนุก ผสมกวนๆเข้ากับสไตล์ของ Spidey ฉบับวัยทีนเอามากๆเลยทีเดียว

แต่ที่น่าเสียดาย และเป็นจุดบอดอย่างใหญ่หลวงก็คือ การมาร่วมทีมของทั้ง 2 ทีม โดยจะขอพูดถึง Team Captain ก่อน ตัวละครที่มีเหตุและผลในการเข้าทีมกัปตันมากสุดคือ Sam Wilson หรือ Falcon กระสอบทรายและ Scott Lang หรือ Ant-Man ที่ดูมีเหตุผลในการช่วยเหลือกัปตัน ดูไม่ยัดเยียดมากนัก กลับกันการมาของ Hawkeye และ ScarletWitch นั่นดูยัดเยียดและเหมือนมีไว้แค่มาเติมทีมใหกัปตันเท่านั้นเอง บทจะมาก็มาไปก็ไป ไม่ค่อยน่าเชื่อถือนัก (แนะนำทุกฉากที่ Bucky อยู่คู่กับ Sam ความฮาจะบังเกิด)

Team IronMan นั้นที่น่าเชือถือมีแค่ 2 คนเช่นกันคือ Black Panther และ Rhodey หรือ War Machine ที่ดูไม่ขัดเขินและดูน่าเชื่อถือในการเข้าร่วมกับทีม Iron Man ที่สุดแล้ว ขณะที่ Spider-Man นั้นไม่ต้องนับเพราะมาเป็นตัวแถมและเป็นขายการตลาดอยู่แล้ว ตัวละคร Visions นั้นเหมือนกับเอาไว้มาเรียกเสียงฮาเฉยๆ ที่น่าเสียดายมากคือ Scarlett Johansson หรือ Black Widow ที่ดูลังเล ไม่แน่ใจ ไม่เหมาะกับคาแร็คเตอร์ของเธอที่ตัดสินใจเด็ดขาดมาตลอด (สวยก็ต้องเลือกหน่อยสินะ ฮ่าาาๆ)

ขอชื่นชมฉากแอ๊คชั่นแบบยกนิ้วให้นิ้วโป้ง 2 นิ้วให้กับการต่อสู้ของทุกๆฉากในเรื่องนี้ไม่ว่าจะเป็นฉากเปิดตัวทีมกัปตัน ฉากไคลแมกซ์ที่เขื่อน แต่ที่เด็ดสุดก็คือฉากที่สนามบิน ที่เป็นการดวลกันแบบ full team ขนานแท้ ดึงเอกลักษณ์และความสามารถของแต่ละคนมาใช้ได้อย่างเต็มศักยภาพ และมีซีนร้องว้าวอยู่ตลอด (แนะนำ Ant-Man เด็ดมากๆ)

ประเด็นที่หนังสื่อจริงๆแล้วมันก็คือการควบคุมมาตรการกับสิ่งไม่สามารถควบคุมได้ การออกกฎหมายควบคุมเหล่าฮีโร่ เปรียบได้เสมือนกับที่เหล่าพลเมืองหวาดกลัวในอิทธิพลของเหล่า Avengers ที่มากเกินขอบเขต แม้จะทำได้ไม่ค่อยน่าเชื่อนัก แต่ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าการควบคุมสิ่งใดเพราะความกลัว สุดท้ายแล้วสิ่งที่เราต้องการควบคุมมักจะถูกคุมได้ไม่นาน และสุดท้ายแล้วตัวเราเองเมื่อไม่อาจควบคุมสิ่งต่างๆได้แล้ว จะผลักดันให้คนเราเดินหน้ามากขึ้น เพื่อทำสิ่งต่างๆได้ไม่ว่าจะดีหรือร้าย เพียงเพราะเราหวาดกลัวในสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ (อ้างอิงจากคำพูดของ Harvey Dent ที่ไต่ถามพลเมืองเรื่องการควบคุมตัว Batman) ยังไม่รวมถึงกัปตันที่ไม่เห็นด้วยกับกฎหมายและไอร้อนแมนที่เห็นด้วยกับกฎหมาย เมื่อรับชมแล้วจะเห็นว่าไม่มีฝ่ายไหนที่เป็นฝ่ายผิด กลับกันเราจะรู้สึกเห็นใจทั้งสองฝ่ายที่ไม่มีทางเลือกมากนัก และต้องตัดสินใจทำเรื่องต่างๆไปเพื่อความต้องการของนักการเมืองเท่านั้น

อีกเรื่องก็คือ การถูกความเคียดแค้นครอบงำ ตัวละครที่ชัดสุดคือ Black Panther ที่ท้ายสุดแล้วเจ้าตัวเองก็สามารถปล่อยวางได้ และรับรู้ถึงการแก้แค้นไม่ได้ทำให้สิ่งใดดีขึ้น ไม่เหมือนกับ ผู้พัน Zemo ที่เคียดแค้น Avengers ขนาดหนักและต้องการให้ทีมแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ยังไม่รวมอีก 1 ตัวละครที่ถูกความแค้นครอบงำในตอนท้าย กลายเป็นหนังมาร์เวลที่ประเด็กถกเถียงจริงจังมากที่สุด และพูดคำหยาบมากสุดด้วย ปิดประตูเรื่องหนังมาร์เวลโลกสวยได้เลย

สรุปโดยรวมแล้ว นี่คือหนังที่สามารถตีมาตรฐานของหนังมาร์เวลขึ้นมาใหม่ได้หลายๆอย่าง ทั้งการบู๊สดๆบวกกับซีจีแบบเนียนๆ ประเด็นเรื่องการเมืองที่เล่ามาต่อเนื่องจากภาค 2 และการสอดแทรกประเด็นข้อคิดได้อย่างน่าสนใจ และที่ชอบที่สุดคือในที่สุดมาร์เวลก็มีตัวร้ายแบบสมกับมาต่อกรกับเหล่าพระเอกเสียที อยากแนะนำให้ไปดูกันเถอะ รับรองคุณจะได้ทั้งความสนุกและประเด็นแอบแฝงที่น่าสนใจมากมายอย่างแน่นอน


ปล.ป้าเมย์ของสไปดี้สวยมาก


ref : http://moviereviewnonranger.blogspot.com/2016/04/captain-america-civil-war-marvel-spoil.html
ชื่อสินค้า:   Captain America : Civil War
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่