เอาภาพนี้มาแปะแทนเพราะไม่อยากเอาภาพสปอยล์ขึ้นภาพแรก
- เปิดตอนมาต่อจากตอนที่แล้วที่คนพี่ร้องไห้คิดถึงพระเอกบนดาดฟ้าโรงเรียน
- ตัดฉากมาที่ห้องพักครู พวกครูๆ ในโรงเรียนนัดกันไปขับรถเที่ยวรอบเกาะในช่วงปิดเทอมหน้าร้อน โดยชวนคนพี่ไปด้วย คนพี่ก็ตอบตกลงไปตามมารยาท
- ฉากตัดกลับมาที่โตเกียว พระเอกได้ลงเรื่องสั้นเปิดตัวในฐานะนักเขียนอาชีพเป็นครั้งแรก
- เห็นงานตัวเองได้ลงหนังสือแบบนั้น พระเอกก็ออกอาการตื่นเต้นดีใจจนคุมสีหน้าไว้ไม่อยู่ บ.ก.เห็นท่าทางพระเอกแบบนั้นก็ยิ้มขำแล้วให้กำลังใจพระเอกว่าให้พยายามเขียนงานต่อไปโดยไม่ลืมความรู้สึกในวันนี้ พระเอกก็รับคำอย่างหนักแน่นว่าจะทำตามนั้น
- วันต่อมา พระเอกก็เอานิตยสารที่ลงเรื่องสั้นของตัวเองไปให้เพื่อนๆ ในชมรมวรรณศิลป์ดู ทุกคนท่าทางตื่นเต้นกันมาก ยกเว้นไอ้แว่นหัวดำที่ยังเก๊กท่าซึนใส่เหมือนไม่ยอมรับอยู่
- เห็นไอ้แว่นทำท่าแบบนั้น พระเอกก็บอกไอ้แว่นว่าตัวเองเอานิยายที่เขียนประชันกันครั้งก่อนไปให้บ.ก.ตัวเองอ่าน แล้วบ.ก.ชอบมากจนเอาไปให้คนในกองบ.ก.คนอื่นๆ อ่านด้วย ในจำนวนนั้นมีบ.ก.คนหนึ่งแสดงทีท่าว่าอยากเป็นบ.ก.ผู้ดูแลของไอ้แว่นหัวดำ และฝากนามบัตรพระเอกมาให้ไอ้แว่นด้วย
- เจอไม้นี้เข้าไป ไอ้แว่นที่ตีหน้าเก๊กขรึมมาตลอดก็ถึงกับตาค้างด้วยความปลื้มจนระงับอารมณ์ไม่อยู่ จนโดนเพื่อนล้อซะเสียไปเลย
- หลังจากนั้นก็มาคุยเรื่องเข้าค่ายชมรมช่วงปิดเทอมหน้าร้อนกัน โดยปีนี้นั้นไม่ได้ไปแคมป์ที่ภูเขาเหมือนปีที่แล้ว แต่ไปทัศนศึกษากองถ่ายหนังกันแทน เนื่องจากนิยายของอ.คิริยะที่ปรึกษาชมรมจะได้สร้างเป็นหนัง ตัวอาจารย์เลยต้องไปร่วมกองถ่ายด้วยในฐานะเจ้าของนิยาย พวกพระเอกก็ดีใจกันใหญ่ที่จะได้ไปดูการทำงานของกองถ่ายหนังของจริงกัน
- ฉากตัดไปช่วงเย็นวันนั้นที่บ้านพระเอก พระเอกเล่าเรื่องที่ชมรมวรรณศิลป์จะไปทัศนศึกษากองถ่ายกันช่วงปิดเทอมให้คนน้องฟัง (วันนี้คนน้องไม่ได้เข้าชมรม อ.คิริยะเลยฝากพระเอกมาถาม)
- โดยทีแรกคนน้องตั้งใจว่าจะอยู่ทำงานพิเศษที่ร้านพ่อตลอดช่วงปิดเทอม แต่พ่อไม่ยอม ไล่ให้คนน้องไปร่วมกิจกรรมชมรมกับเพื่อนๆ ซะ เพราะอยากให้ลูกได้ร่วมกิจกรรมกับเพื่อนๆ ได้มีความทรงจำดีๆ ในสมัยเรียน ดังนั้นคนน้องจึงเปลี่ยนใจยอมไปทัศนศึกษากองถ่ายกับพระเอก
- ว่าจบ คนน้องก็คุกเข่าลงนั่งบนพื้นข้างๆ โซฟาที่พระเอกกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่ แกล้งเอนตัวเกยบนขาข้างหนึ่งของพระเอกจนพระเอกสะดุ้ง แล้วถามด้วยสายตาคาดหวังว่าดีใจมั้ยที่ชั้นไปด้วย
- พระเอกหน้าแดง ตอบตะกุกตะกักว่าดีใจ คนน้องก็จ้องมองด้วยสายตาราวกับจะมองทะลุ แล้วพยักหน้าเป็นเชิงบอกว่าดีมากที่บอกตรงๆ
- หลังจากนั้นก็คุยโน่นคุยนี่กันไปเรื่อยๆ โดยระหว่างคุย คนน้องก็คอยเบียดกระแซะเข้ามาใกล้พระเอกมากขึ้นเรื่อยๆ (จากเดิมที่เกยแค่ขาก็ขึ้นมาถึงเอว จากเอวก็ยื่นหน้ามาแทบจะชิดกัน) เล่นเอาพระเอกเริ่มออกอาการตะกุกตะกัก
- แล้วในจังหวะที่พระเอกกำลังลนลานไม่ทันระวังตัวนั้นเอง คนน้องก็ฉวยโอกาสขโมยจูบพระเอกไปดื้อๆ เล่นเอาพระเอกลนลานไปไม่เป็นอีกรอบไปเลย
- หลังจากนั้นฉากก็ตัดไปอีก 2 อาทิตย์ให้หลังถึงวันไปทัศนศึกษากองถ่าย โดยสถานที่ที่เป็นที่ตั้งกองถ่ายนั้นคือเกาะอิซึ
- คนน้องได้ยินชื่อเกาะปุ๊บก็หน้าเปลี่ยนสีทันที เพราะรู้ว่าเกาะดังกล่าวคือชื่อเกาะที่คนพี่หนีไปเป็นอาจารย์อยู่
- ความจริงที่ได้รู้กะทันหัน (อ.คิริยะเพิ่งบอกนักเรียนว่าจะไปเกาะไหนก็ตอนมาถึงท่าเรือแล้ว) คนน้องออกอาการลนลานไม่รู้จะบอกพระเอกดีหรือไม่ดี ได้แต่นั่งหน้าเครียดตลอดการเดินทางจนพระเอกเห็นผิดสังเกต แต่ก็ไม่ได้ถามอะไร
- หลังจากขึ้นเกาะแล้วก็มีเวลาพักหนึ่งก่อนถึงเวลาไปกองถ่าย ทั้งกลุ่มเลยแวะเที่ยวดูโน่นดูนี่บนเกาะไปตลอดทางอย่างสนุกสนาน มีแต่คนน้องที่ตีหน้าเครียดตลอดเพราะกลัวว่าพระเอกจะบังเอิญเจอคนพี่เข้า
- ระหว่างนั้นมีจังหวะหนึ่งคนน้องทำท่าจะบอกพระเอกเรื่องคนพี่อยู่ที่เกาะนี้ แต่สุดท้ายก็ระงับใจไว้เพราะคิดว่าควรเงียบไว้จะดีกว่า
- เที่ยวกันจนถึงเวลาก็แวะไปหากองถ่ายตามที่นัดกันไว้ ผู้กำกับกับทีมงานเบื้องหลังก็ต้อนรับพวกพระเอกกันอย่างดี และเชื้อเชิญให้ถ่ายรูปได้ตามสบาย ขอแค่อย่าถ่ายติดนักแสดงก็พอ
- ทุกคนก็หยิบกล้องมาจะถ่ายรูปกัน แต่พระเอกดันลืมกล้องไว้บนแท็กซี่ ก็เลยวิ่งกลับไปเอา โชคดีที่แท็กซี่ยังจอดอยู่ที่เดิมไม่ได้ไปไหน พระเอกเลยวิ่งไปหากล้องจนเจอ และลงจากรถจะวิ่งกลับไปหากลุ่มเพื่อน
- แต่จังหวะที่พระเอกลงจากรถมายืนเช็คกล้องอยู่นั้นเอง ก็มีรถคันหนึ่งวิ่งผ่านรถแท็กซี่พอดี พระเอกได้ยินเสียงรถก็เงยหน้าขึ้นมองตามสัญชาตญาณ
- แล้วก็ต้องตะลึงตาค้าง...เมื่อเห็นว่าคนพี่นั่งอยู่บนรถคันนั้น
แล้วก็ถึงเวลาเจอกันจนได้แฮะ
ถือว่าเร็วเหมือนกันแฮะ ถ้าเทียบว่าคนพี่เพิ่งออกอาการดราม่าคิดถึงพระเอกเมื่อตอนก่อน ถัดมาแค่ตอนเดียวก็จัดให้บังเอิญเจอหน้ากันซะแล้ว
ตานี้ถึงเวลาวัดใจพระเอกแล้วแฮะว่าจะเอายังไงกับชีวิตรักของตัวเองต่อไป จะเลือกเคลียร์กับคนพี่ให้จบแล้วกลับไปคบกับคนน้อง หรือจะเลือกเคลียร์กับคนน้องแล้วกลับไปหาคนพี่
แต่เอาจริงก็ยังบอกอะไรไม่ได้มากแฮะ เพราะยังมองทีท่าของพระเอกในตอนนี้ไม่ออกเลยว่ามันจะทำอะไรต่อไป (คงไม่ห่ามถึงขนาดโดดขึ้นรถบอกลุงแท็กซี่ว่า
"ตามรถคันหน้าไปเลย" นะเฟ้ย
)
รอดูอีกสองอาทิตย์หลังโกลเด้นวีคครับ
[Spoil] Domestic na Kanojo #93 - ดั่งสวรรค์แกล้ง...
- เปิดตอนมาต่อจากตอนที่แล้วที่คนพี่ร้องไห้คิดถึงพระเอกบนดาดฟ้าโรงเรียน
- ตัดฉากมาที่ห้องพักครู พวกครูๆ ในโรงเรียนนัดกันไปขับรถเที่ยวรอบเกาะในช่วงปิดเทอมหน้าร้อน โดยชวนคนพี่ไปด้วย คนพี่ก็ตอบตกลงไปตามมารยาท
- ฉากตัดกลับมาที่โตเกียว พระเอกได้ลงเรื่องสั้นเปิดตัวในฐานะนักเขียนอาชีพเป็นครั้งแรก
- เห็นงานตัวเองได้ลงหนังสือแบบนั้น พระเอกก็ออกอาการตื่นเต้นดีใจจนคุมสีหน้าไว้ไม่อยู่ บ.ก.เห็นท่าทางพระเอกแบบนั้นก็ยิ้มขำแล้วให้กำลังใจพระเอกว่าให้พยายามเขียนงานต่อไปโดยไม่ลืมความรู้สึกในวันนี้ พระเอกก็รับคำอย่างหนักแน่นว่าจะทำตามนั้น
- วันต่อมา พระเอกก็เอานิตยสารที่ลงเรื่องสั้นของตัวเองไปให้เพื่อนๆ ในชมรมวรรณศิลป์ดู ทุกคนท่าทางตื่นเต้นกันมาก ยกเว้นไอ้แว่นหัวดำที่ยังเก๊กท่าซึนใส่เหมือนไม่ยอมรับอยู่
- เห็นไอ้แว่นทำท่าแบบนั้น พระเอกก็บอกไอ้แว่นว่าตัวเองเอานิยายที่เขียนประชันกันครั้งก่อนไปให้บ.ก.ตัวเองอ่าน แล้วบ.ก.ชอบมากจนเอาไปให้คนในกองบ.ก.คนอื่นๆ อ่านด้วย ในจำนวนนั้นมีบ.ก.คนหนึ่งแสดงทีท่าว่าอยากเป็นบ.ก.ผู้ดูแลของไอ้แว่นหัวดำ และฝากนามบัตรพระเอกมาให้ไอ้แว่นด้วย
- เจอไม้นี้เข้าไป ไอ้แว่นที่ตีหน้าเก๊กขรึมมาตลอดก็ถึงกับตาค้างด้วยความปลื้มจนระงับอารมณ์ไม่อยู่ จนโดนเพื่อนล้อซะเสียไปเลย
- หลังจากนั้นก็มาคุยเรื่องเข้าค่ายชมรมช่วงปิดเทอมหน้าร้อนกัน โดยปีนี้นั้นไม่ได้ไปแคมป์ที่ภูเขาเหมือนปีที่แล้ว แต่ไปทัศนศึกษากองถ่ายหนังกันแทน เนื่องจากนิยายของอ.คิริยะที่ปรึกษาชมรมจะได้สร้างเป็นหนัง ตัวอาจารย์เลยต้องไปร่วมกองถ่ายด้วยในฐานะเจ้าของนิยาย พวกพระเอกก็ดีใจกันใหญ่ที่จะได้ไปดูการทำงานของกองถ่ายหนังของจริงกัน
- ฉากตัดไปช่วงเย็นวันนั้นที่บ้านพระเอก พระเอกเล่าเรื่องที่ชมรมวรรณศิลป์จะไปทัศนศึกษากองถ่ายกันช่วงปิดเทอมให้คนน้องฟัง (วันนี้คนน้องไม่ได้เข้าชมรม อ.คิริยะเลยฝากพระเอกมาถาม)
- โดยทีแรกคนน้องตั้งใจว่าจะอยู่ทำงานพิเศษที่ร้านพ่อตลอดช่วงปิดเทอม แต่พ่อไม่ยอม ไล่ให้คนน้องไปร่วมกิจกรรมชมรมกับเพื่อนๆ ซะ เพราะอยากให้ลูกได้ร่วมกิจกรรมกับเพื่อนๆ ได้มีความทรงจำดีๆ ในสมัยเรียน ดังนั้นคนน้องจึงเปลี่ยนใจยอมไปทัศนศึกษากองถ่ายกับพระเอก
- ว่าจบ คนน้องก็คุกเข่าลงนั่งบนพื้นข้างๆ โซฟาที่พระเอกกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่ แกล้งเอนตัวเกยบนขาข้างหนึ่งของพระเอกจนพระเอกสะดุ้ง แล้วถามด้วยสายตาคาดหวังว่าดีใจมั้ยที่ชั้นไปด้วย
- พระเอกหน้าแดง ตอบตะกุกตะกักว่าดีใจ คนน้องก็จ้องมองด้วยสายตาราวกับจะมองทะลุ แล้วพยักหน้าเป็นเชิงบอกว่าดีมากที่บอกตรงๆ
- หลังจากนั้นก็คุยโน่นคุยนี่กันไปเรื่อยๆ โดยระหว่างคุย คนน้องก็คอยเบียดกระแซะเข้ามาใกล้พระเอกมากขึ้นเรื่อยๆ (จากเดิมที่เกยแค่ขาก็ขึ้นมาถึงเอว จากเอวก็ยื่นหน้ามาแทบจะชิดกัน) เล่นเอาพระเอกเริ่มออกอาการตะกุกตะกัก
- แล้วในจังหวะที่พระเอกกำลังลนลานไม่ทันระวังตัวนั้นเอง คนน้องก็ฉวยโอกาสขโมยจูบพระเอกไปดื้อๆ เล่นเอาพระเอกลนลานไปไม่เป็นอีกรอบไปเลย
- หลังจากนั้นฉากก็ตัดไปอีก 2 อาทิตย์ให้หลังถึงวันไปทัศนศึกษากองถ่าย โดยสถานที่ที่เป็นที่ตั้งกองถ่ายนั้นคือเกาะอิซึ
- คนน้องได้ยินชื่อเกาะปุ๊บก็หน้าเปลี่ยนสีทันที เพราะรู้ว่าเกาะดังกล่าวคือชื่อเกาะที่คนพี่หนีไปเป็นอาจารย์อยู่
- ความจริงที่ได้รู้กะทันหัน (อ.คิริยะเพิ่งบอกนักเรียนว่าจะไปเกาะไหนก็ตอนมาถึงท่าเรือแล้ว) คนน้องออกอาการลนลานไม่รู้จะบอกพระเอกดีหรือไม่ดี ได้แต่นั่งหน้าเครียดตลอดการเดินทางจนพระเอกเห็นผิดสังเกต แต่ก็ไม่ได้ถามอะไร
- หลังจากขึ้นเกาะแล้วก็มีเวลาพักหนึ่งก่อนถึงเวลาไปกองถ่าย ทั้งกลุ่มเลยแวะเที่ยวดูโน่นดูนี่บนเกาะไปตลอดทางอย่างสนุกสนาน มีแต่คนน้องที่ตีหน้าเครียดตลอดเพราะกลัวว่าพระเอกจะบังเอิญเจอคนพี่เข้า
- ระหว่างนั้นมีจังหวะหนึ่งคนน้องทำท่าจะบอกพระเอกเรื่องคนพี่อยู่ที่เกาะนี้ แต่สุดท้ายก็ระงับใจไว้เพราะคิดว่าควรเงียบไว้จะดีกว่า
- เที่ยวกันจนถึงเวลาก็แวะไปหากองถ่ายตามที่นัดกันไว้ ผู้กำกับกับทีมงานเบื้องหลังก็ต้อนรับพวกพระเอกกันอย่างดี และเชื้อเชิญให้ถ่ายรูปได้ตามสบาย ขอแค่อย่าถ่ายติดนักแสดงก็พอ
- ทุกคนก็หยิบกล้องมาจะถ่ายรูปกัน แต่พระเอกดันลืมกล้องไว้บนแท็กซี่ ก็เลยวิ่งกลับไปเอา โชคดีที่แท็กซี่ยังจอดอยู่ที่เดิมไม่ได้ไปไหน พระเอกเลยวิ่งไปหากล้องจนเจอ และลงจากรถจะวิ่งกลับไปหากลุ่มเพื่อน
- แต่จังหวะที่พระเอกลงจากรถมายืนเช็คกล้องอยู่นั้นเอง ก็มีรถคันหนึ่งวิ่งผ่านรถแท็กซี่พอดี พระเอกได้ยินเสียงรถก็เงยหน้าขึ้นมองตามสัญชาตญาณ
- แล้วก็ต้องตะลึงตาค้าง...เมื่อเห็นว่าคนพี่นั่งอยู่บนรถคันนั้น
แล้วก็ถึงเวลาเจอกันจนได้แฮะ
ถือว่าเร็วเหมือนกันแฮะ ถ้าเทียบว่าคนพี่เพิ่งออกอาการดราม่าคิดถึงพระเอกเมื่อตอนก่อน ถัดมาแค่ตอนเดียวก็จัดให้บังเอิญเจอหน้ากันซะแล้ว
ตานี้ถึงเวลาวัดใจพระเอกแล้วแฮะว่าจะเอายังไงกับชีวิตรักของตัวเองต่อไป จะเลือกเคลียร์กับคนพี่ให้จบแล้วกลับไปคบกับคนน้อง หรือจะเลือกเคลียร์กับคนน้องแล้วกลับไปหาคนพี่
แต่เอาจริงก็ยังบอกอะไรไม่ได้มากแฮะ เพราะยังมองทีท่าของพระเอกในตอนนี้ไม่ออกเลยว่ามันจะทำอะไรต่อไป (คงไม่ห่ามถึงขนาดโดดขึ้นรถบอกลุงแท็กซี่ว่า "ตามรถคันหน้าไปเลย" นะเฟ้ย )
รอดูอีกสองอาทิตย์หลังโกลเด้นวีคครับ