ประสบการณ์ไส้ติ่งอักเสบ

กระทู้คำถาม
สวัสดีค่าวันนี้เราจะมาเล่าเรื่องประสบการณ์ไส้ติ่งอักเสบค่า อาจใช้คำพูดหรืออะไรไม่ถูกต้องก็ขออภัยค่ะ ปลนี่เป็นกระทู้แรกค่าา
คือว่ามันเกิดขึ้นเมื่อ 2ปีที่แล้วค่ะ เรายังอยู่มต้นอยู่เลยค่ะวันนั้นเป็นคืนวันพฤหัสค่ะเลิกเรียนเปุ๊บเราก็กลับบ้านมากินข้าวเย็น จำได้แม่นเลยวากินกระเพาะปลาพอกินเสร็จก็ทำการบ้านแล้วอาบน้ำเข้านอน แล้วนอนไปนอนมาก็ปวดท้องมากๆเลยแบบเหงื่อยแตกนอนจิกหมอนหนักมาก ตอนแรกก็กะจะบอกพ่อแม่เลยแต่มันตี1กว่าเราเกรงใจเราก็พยายามข่มตานอนต่อแต่ปรากฏว่ามันไม่หาย เลยลงไปหาแม่ชั้นล่าง(แม่นั่งจัดของอยู่พอดี) พอไปเจอแม่แม่ก็บอกว่า แป๊บนะลูกอีกแป๊บ คุณยายก็เลยลุกมาดูอาการ เราก็ปวกมากทนไม่ไหวแม่มไม่มาสักที่ร้องไห้โอดครวญทนไม่ไหวเลยกรี้ดเลยค่ะ แม่เราตกใจเลยรีบพาเราขึ้นห้อง พ่อเราขึ้นห้องไปได้สักพักเราก็อาเจียนแบบกระเพาะปลาที่กินออกมาหมดแม่เลยไปปลุกพ่อมาดูอาการ พ่อไม่ใช่หมอก็ไม่รู้เปนอะไรพ่อเลยเอายาหม่องมาทาแล้วบอกให้ทนถึงเช้า คิดว่าเป็นแค่โรคกระเพาะเราก็ทนไปเรื่อยๆ ตื่นมา9โมงวันศุกร์เราก็ลงมากินข้าว (เจ็บจนชินหรือทนได้แล้วอ่ะค่ะ555) แม่ก็บอกกินข้าวก่อนพ่อเขาให้แม่พาไปหาหมอ8โมง(นี่9โมงแล้วนิ- -''พอดีแม่เราเปนคนไม่ตรงเวลา) พอเรากินข้าวเสร็จเราก็ไปนอนเล่นโทรศัพท์รอไปๆมาๆเลยเป็นเที่ยงเราก็เดินไปบอกแม่ว่าเลยเวลามานานแล้วนะแม่หนูปวดท้อง (มันปวดมาก มากจนชิน แบบว่าเดินหายใจหรืกินก็ปวดค่ะ55)แล้วด้วยความที่เราเป็นเด็กสมบูรณ์ตุ้ยนุ้ยแม่เราเลยชวนเราไปห้างไกล้ๆรรไปกินไอติมอร่อยๆแล้วเข้ารรเลยเพราะแม่เราขี้เกียจพาไปโรงพยาบาล แต่เราไม่ยอมกลัวเป็นโรค+ขี้เกียจไปเรียนค่ะ55สุดท้ายก็ไปถึงโรงพยาบาลเวลาประมาณบ่ายครึ่ง ตอนเที่ยงเราก็ไม่ได้กินข้าวเที่ยงเพราะเบื่ออาหารแม่เราเลยชวนกินแมคก่อนไปตรวจเราก็กินแฮมเบอเก้อแต่กินแค่เนื้อของมันเสร็จแล้วก็ไปรอตรวจ รอชัวโมงกว่า เข้าไปถึงห้องก็ขึ้นนอนบนเตียง พยาบาลก็นำผ้าห่มมาห่มให้แล้วเปิดท้อง หลังจากนั้น5นาทีคุณหมอก็เข้ามาเราก็เล่าอาการ หมอจับท้องเรากดลงไปสามวิแล้วป่อยเร็วๆ2-3ครั้งเลยประเมินว่าไส้ติ่งอักเสบเลยส่งเราไปตรวจอัลตร้าซาวด์ พอไปถึงเหมือนเป็นคนท้องเลยค่ะ หมอเฉพาะทางก็เอาเจลมาทาท้องแล้วเอาเครื่องมากดๆๆลงที่ท้องแล้วหมอก็บอก เปลี่ยนหัวดีกว่ามองไม่เห็นไขมันเยอะไปตึ่งๆโป๊ะอายสิรอไรแงๆๆ สุดท้ายผลที่ออกคือเราเป็นไส้ติ่งอักเสบผ่าตัดคืนนั้นเลยค่ะ (ที่ต้องผ่าตัดตอนกลสงคืนเป็นเพราะว่าเขาห้ามทานหรือดื่มก่อนผ่าตัด8ชั่วโมงค่ะ พึ่งกินแมคมาสดๆร้อนๆ) หมอที่ตรวจเราก็เลยส่งเราไปหาหมอที่ผ่าตัดด้านนี้เฉพาะทาง เขาก็คุยกับแม่ว่าจะผ่าตัดแบบไหนแบบแรกคือแบบปกติจะมีแผลเป็นประมาณ5นิ้ว อีกแบบแพงกว่าเท่าตัวจะมีแผลเล็กๆเปนวงกลมสามรูหรือเสียบเข้าทางสะดือเราไม่แน่ใจค่ะผ่านมานานแล้วเพราะมีอย่างนึงที่เพื่อนเราบอก แม่เราก็เลยให้คุยกะพ่อ ด้วยความที่พ่อเคยเป็นตอนหนุ่มๆเลยบอกว่าผ่านไปสิบปีแผลก็หายแล้วเราเสียดายเงินเราก็เลือกแบบปกติ หลังจากนั้นก็รอห้องแอดมิต พอได้ห้องเขาก็ส่งไปแผนกเด็กเพราะเราังไม่15(ตอนนั้นเราไปหาหมอคนที่พ่อเราไปหาบ่อยๆ) ไปหาหมอเด็กเขาก็ตรวจๆว่าแพ้ยาอะไรรึเปล่าพอหาเสร็จก็ไปเจาะสายห้อยน้ำเกลือกับพยาบาลตอนแรกเราเลือกมือซ้ายเพราะช่วงนั้นไกล้สอบปลายภาคเราต้องเอารายงานมาทำตอนผ่าตัดเสร็จเผื่ออยู๋นานเดี๋ยวไม่ถนัดถ้ามือขวาปรากฎว่านางพยาบาลเจาเส้นเลือดแตกหรืออะไรสักอย่างเลยต้องเจาะมือขวาเสร็จแล้วเราก็เข้าห้องตอนแรกก็อยากจะอาบน้ำแต่แม่บอกอย่าเลยเดี๋ยวเปนหวัดเราก็เลยนอนรอ ถึงตอนนั้นเราหิวมากคือพึ่งหกโมงแล้วผ่าสามทุ่ม (ตอนนั้นยังไใ่ห้อยสายน้ำเกลือเราเจาะไว้ก่อน) เรามีความเชื่อผิดๆคิดว่าถ้าใส่น้ำเกลือคงหายหิวเราเลยของให้นางพยาบาลใส่น้ำเกลือเลย แล้วถามหลังใส่เสร็จว่าความเชื่อเราถูกไหมนางพยาบาลบอกเลยไม่เกี่ยวมันไม่ช่วยให้อิ่มหรืออะไรขึ้นเลย หลังจากนั้นพ่อเราก็มาถึงพร้อมพวกคอมกับหนังสือ ตอนนั้นประมาณ2 ทุ่มนางพยาบาลก็เข้ามาพร้อมเตียวงหามเราไปห้องผ่าตัดไปเตรียมตัวก่อนแม่เราก็นั่งอยู่ที่ห้องให้พ่อเราไปแทน พอไปถึงห้อรอผ่าพยาบาลก็ขอเบอร์ต่างๆเพื่อรายงานว่าผ่าเสร็จรึยัง แล้วหมอดมยาก็เข้ามาบอกว่าทำอะไรยังไงบ้างในการดมยาเราก็จำได้รางๆอะน่ะ แบบตื่นมาจะเจบคอพอใส่เตรื่องช่วยหายใจที่ปาก (ตื่นมาเจ็บหนักมากพูดไม่ได้)ละก็ถามถึงว่าแพ้ยารึเปล่า หลังจากนั้นพ่อเราก็กลับก่อนเพราะเสียเวลา555 อีกสักพักเราก็จะผ่าแล้วนางพยาบาลจึงแนะนำให้ปัสสาวะก่อนผ่าตัดเราก็จัดการทำธุระเสร็จแล้วก็ขึ้นเตียงเขาก็ลากเราเข้าห้องผ่า เราค่อนข้างตื่นเต้น แต่มองไปเจอหมอคนที่จะผ่าเรา นั่งเล่นโทรศัพท์=="หายตื่นเต้นเลย นางพยาบาลบอกให้เราขึ้นเตียง(เตียงเล็กมากพอขึ้นกลัวตกเตียงตอนผ่า55พอดีเราเปนคนอ้วน) พ่อขึ้นเตียงปุ๊ปเขาการติดเครื่องวัดความดันแล้วเตรียมตัวถอดชุดส่วนที่ผ่า(ลืมเล่าค่ะว่าชุดที่ใส่เป็นกระโปรงแล้วมีเชือกมัดเรื่อยๆสองข้างทางลำตัว) เสร็จตรงนี้พีคมากค่ะเหมือนอยู่ในหนัง พยาบาลเอาเหมือนตัวดูดสองอันแกะจากพลาสติกมาแปะแถวๆหน้าอก เราก็ลืมแล้วแหละว่าตรงไหน แต่มันไม่มีสายชอบมากค่ะอยากเอามาเล่น คงไว้วัดชีพจร แล้วหมอดมยาก็มาแล้วบอกว่าฉีดยาสลบเข้าสายน้ำเกลือแล้วนะอีกสักพักจะหลับ เราก็ซ๋าคิดว่าแบบไม่เห็นง่วงเลยว้าย~ปรากฏว่าเราค่อยๆกระพริบตาแล้วเหมือนกระพริบรอบสุดท้ายแล้วลืมตาขึ้นมา เสร็จแล้วจ้า เราก็แบบไม่ปวดเล้ยไหนบอกกันว่าปวดนักหนาเราก้พยายามดันตัวขึ้น อุปส์ แม่เจ้าโว้ยเจบมากค่ะ แล้วเหมือนเราก็อยู่ในไอซียูเพราะรอฟื้นไรงี้พยาบาลก้วุ่นๆจึงไม่ทันได้สังเกตเราเราก็เหมือนพยายามยกมือให้เขาเหนก็เลยมีพยาบาลมาคนหนึ่งเราก้บอกเขาว่าเจบมากขอยาแก้ปวดค่ะเขาก้กลับมาหลักจากนั้นพักใหญ่ๆแล้วส่น้ำเกลือหลังจากนั้นเขาก้พาเราเข็นออกมาจากไอซียูพาขึ้นลิฟกลับเข้าห้อง ตอนนั้นประมาณตี1เราก็เพลียมาก พอถึงห้องบุรุษพยาบาลก็เอาไม้ยาวๆมาเสียบใตตัวเราแล้วพยายามให้เราอยู่บนแผ่นไม้แล้วแบบไม้ขึ้นแล้วแกว่งไปมาเอาเราขึ้นเตียง เราหลับเลยเพราะเหนื่อยและเจบมาก พยาบาก้ต้องเข้ามาวัดความดันทุกๆสามหรือสี่ชั่วโมงอันนี้เราจำไม่ได้แล้วแหะ หลังจากนั้นเราตื่นมาตีสี่จำได้เลยค่ะ อย่างที่บอกไปว่าเราเจ็บคอมากพูดไม่ได้แม่เราก็หลับอยู่บนโซฟาข้างๆ เราก้ไม่รู้จะทำไงหิวน้ำเลยตบมือแทนค่ะอิอิ แม่เราก้ตื่นแล้วก้พยายามพยุงให้เราลุก แล้วก้ดื่มน้ำไปสองแก้ว พยาบาลก้เข้ามาพอดี ด้วยความที่ท้องว่าง เราก็ปวดปัสสวะ แต่เดินครั้งแรกเจบแน่พยาบาลจึงน้ำกระโถนเหล็กมายัดให้ ตอนนั้นประมาณตีห้า เราก้นั่งรอเปนชาติเปิดเพลงน้ำไหลก้ไม่ออกไปจนถึงหกโมงกว่าๆ ทรมานมาก แล้วพยาบาลก็กลับมาพอดีเราทนไม่ไหวเลยบอกไปว่าจะลุกเดินไปห้องน้ำเลย แหม่เปนช่วงเวลาที่แย่มากค่ะเราค่อยๆก้าวทีละก้าว ก้าวไปน้ำตาไหลย้อยเลยค่ะ มีพยาบาลพยุง2ข้ากับคุณแม่ค่ะ พ่อทำะุระเสร็จนางพยาบาลมากันสามคนจับเช็ดตั้งแต่หัวจรดเท้า เวลานั้นความอายไม่เหลือค่ะเพราะมันเจ็บมากๆๆๆๆ และแล้วเราก็กลับขึ้นเตียงกินข้าวเช้าพอกินเส็ดพ่อก็มาเยี่ยม[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ พ่อเราก้บอกว่าจะพายายกับพี่ชายมาเยี่ยมเย็นๆแล้วก้บอกให้เราเดินเยอะๆพยายามเพราะยิ่งเดินมันก้จะดีขึ้นแบบคุ้นชินอะไรอย่างงี้ค่ะ ส่วนเรื่องทีว่าถ้าผ่าเสดไม่เดินรอปนานๆคงหายเจบแผลเปนไปไม่ได้ค่ะจะเริ่มเดินช้าไปหนึ่งอาทิตย์ก็ไม่ค่อยต่างจากเริ่มเลยเราก้เดินๆพอพ่อกลับแม่เราก้ไปซื้อหนมเค้กให้กินตอนกินๆอยู่หมอเข้ามาเราก้อายแบบอ้วนแล้วกินงิ555หมอก้ถามอาการว่าเปนไงบอกๆไปหมอก็บอกว่าเดินได้นั่งได้กินได้ดื่มได้ปัสสาะได้ดอเคกลับได้ แม่เลยโทรบอกพ่อพ่อก้เลยจะมารับตอนเยนๆค่ะ เหนแม่บอกว่าเปปนเพราะช่วงนั้นเราออกกำลังกายบ่อยสุขภาพแขงแรงจึงออกเร็วด้วยมั้งค่ะ55 ส่วนแผลก็ใหญ่อยู่แต่ก็ไม่เปนไรค่ะหลังจากออกจากโรงพยาบาลวันเดียวมั้งค่ะเพราะผ่าเสรจวันเสาร์พักวันอาทิตย์วันจันเราก้เข้ารรเพราะกลัวตามงานไม่ทัน ถึงรรเพื่อนต้อนรับดีมากแกล้งให้เราหวเราะ เจ็บแผลเลยค่ะ ผ่านไปอาทิตย์นึงก็ดีขึ้นค่ะ แต่ยังทำกิจกรรมไม่ค่อยได้ต้องรอไปสามเดือนค่ะ ส่วนสิ่งที่ทำให้ไส้ติ่งอักเสบคือเราอุจจระยากมากค่ะบางทีสองวันหนไรงี้หมอเลยเตือนว่าต้องอุจจาระให้เยอะๆไม่งั้นเสี่ยงต่อการเปนมะเร็งได้ ถ้าอยากรู้ว่าไส้ติ่งอักเสบรึเปล่าให้ใครก็ได้มาลองจับที่ท้องตรงสะดือเลื่นไปด้านขวาเ็กน้อยแล้วกดลงไปแล้วปล่อยแบบไม่ให้เขารู้ตัวถ้าเจ็บน่าจะใช่แหละค่ะ55ส่วนอาการก็หลังจากเริ่มปวดไป48ชั่วโมงจะแตก และถ้ายิ่งไกล้แตกจะมีไข้ค่ะ หวังว่ากระทู้นี้จะมีประโยชน์ต่อทุกคนนะค่ะหากข้อมูผิดพลาดขออภัยค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่