เกริ่นก่อนนะครับ ผมเป็นคนที่ชอบออกกำลังกายมาก ก่อนผ่าตัดไส้ติ่งก็ออกกำลังกาย เล่นเวทมา รักสุขภาพว่างั้น ฮาาาาาา
เริ่มต้นวันที่ปวดท้องคือวันเสาร์วันที่ใครหลายคนพักผ่อนจากการทำงานกัน แต่ผมก็ต้องไปทำงาน พอดีเป็นวันงานขายทรัพย์ NPA ของธนาคาร
ตอนแรกที่ปวดนั้นก็คิดว่าปวดท้องปกติไม่ได้คิดไรมาก เพราะเมื่อวานไปกินชาบูมา ตอนเช้าท้องอาจจะอืดๆ ไปถึงที่ทำงาน รุ่นพี่ที่ทำงานก็เตรียมข้าวเช้ามากินกัน ผมก็ได้ลงมือกินข้าวเหนียวกับไก่ทอดและน้ำพริกหนุ่มจนอิ่ม (บอกทำไม 555)
หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จก็ทำตามปกติของตัวเองคือชงกาแฟกินในตอนเช้า กินไปได้นิดหน่อยอาการปวดท้องยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นอาการเหมือนปวดบิดแต่ก็ไม่ใช่ จึงไปเข้าห้องน้ำก็ถ่ายไม่ออก หลังจากนั้นเหงื่อก็ออกมาแบบแปลกๆเหมือนเหงื่อแตก คลื่นไส้อาเจียนออกมาข้าวเช้าที่กินหายหมด แอบเสียดายเล็กๆ ฮาาาาา อ๊วกเสร็จอาการวิงเวียนก็ยังไม่หาย จึงขออนุญาติหัวหน้างานไปนอนพัก นอนๆอยู่ก็ไม่หายยิ่งปวดเพิ่มมากขึ้นอีก จึงทนไม่ไหว ให้เพื่อนร่วมงานพาไปโรงพยาบาล จะได้รู้ไปเลยว่าเราเป็นอะไร พอไปถึง หมอก็สอบถามอาการตามปกติ แล้วก็เอามือมากดๆจับๆตรงช่วงท้องมันก็ปวดบ้างเป็นบางที่ หมอก็เลยเจาะเลือดไปตรวจ ตอนนั้นก็โทรไปบอกแฟนว่ามาหาหน่อย แอบอ้อน 5555
พอหมอมาก็บอกว่าผลเลือดเราออกมาแล้วนะ อาจจะเป็นลำไส้อักเสบหรือไส้ติ่งอักเสบ เราก็ หือออออ หมอก็พูดต่อว่า ถ้าเป็นลำไส้อักเสบก็ให้ยาแล้วกลับบ้านได้ แต่ถ้าเป็นไส้ติ่งอักเสบก็คงผ่า หมอก็วนกันมากดท้องอีกครั้งว่าเจ็บตรงไหน ซึ่งเราผนังกระเพาะหนา เลยกดตรงไหนก็ไม่ค่อยเจ็บมาก หมอจึงให้ราเข้าห้องเอ๊กเรย์ตรวจช่องท้องดู การเอ๊กเรย์ครั้งนี้เป็นการเอ๊กเรย์สี ฉีดสีเข้าไปหมอก็จะบอกว่าร้อนคอหน่อยนะให้อ้าปากหายใจ ซึ่งก็ร้อนจริงๆ
ผลเอ๊กเรย์ออกมา หมอแจ้งว่าน้องเป็นไส้ติ่งอักเสบนะต้องผ่า และต้องผ่าวันนี้น่าจะเย็นๆ เราก็คิดในใจ หาาาา ผ่าเลยหรอวะ!! เราก็ไม่เคยตกอยู่ในสถานะการณ์อะไรแบบนี้ คิดอะไรไม่ถูกก็เลยโทรหาแฟนหาแม่ให้มาหา ซึ่งหมอก็ถามว่ามีญาติมามั้ย เราก็บอกเดี๋ยวตามมา ผ่านไปไม่นาน ประมาณบ่ายสาม ในใจก็คิดไหนบอกว่าเย็นๆอะหมอออออ ตั้งตัวไม่ทันรู้ตัวอีกทีก็อยูในห้องผ่าตัดแล้ว หมอก็เอานั่นนี่มาติด และบอกว่าเดี๋ยวจะให้ดมยาสลบ ภายในห้องผ่าตัดนี่เหมือนในละครจริงๆ
พอดมยาเสร็จฟื้นมาอีกทีหมอก็เรียกแล้วบอกว่าผ่าตัดเสร็จแล้วนะ เราก็หะอะไรจะไวปานนั้น แต่เรื่องจริงคือผ่านมาประมาณ 1 ชั่วโมงและ หลังจากนั้นก็เข็นเรามาที่ห้อง Vip ซึ่งจองไว้ก่อนผ่าแล้ว หมอก็ถามว่าขยับตัวไปอีกเตียงได้ไหม เราก็คิดในใจหมออออออ กูเพิ่งผ่าตัดมานะ จะให้เคลื่อนตัวละหรอ ใจร้ายยยย จากนั้นหมอก็ใช้แผ่นสไลด์เอาเรามาไว้อีกเตียง แอบยิ้มในใจ 5555 หลังจากผ่าตัดตอนหกโมงเช้าพยาบาลก็ถามได้ลุกมาเดินหรือยัง ต้องลุกมาเดินบ้างนะ เดี๋ยวแผลจะเป็นพังพืด หลังจากพยาบาลก็ไปก็เราเรียบลุกทันที ครั้งแรกจะฝืนๆหน่อย เพราะยังปวดๆที่ผ่าตัด หลังจากนั้นก็เดินไปปกติ
หมอก็เข้ามาดูอาการอีกครั้งก็แจ้งว่าอีกวันถ้าไม่มีไข้ก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้วนะ ^^ สรุปเราผ่าตัดไส้ติ่งครั้งนี้เป็นประสบการณ์ที่ลืมไม่ลง และใช้เวลาอยู่โรงพยาบาล 2 วัน ที่เหลือหมอก็ให้ใบรับรองแพทย์ไว้ 1 อาทิตย์ เพื่อลางาน หวังว่าประสบการณ์ครั้งนี้จะเป็นประโยชน์กับใครๆหลายๆคนนะครับ และจะบอกว่าเมื่อเราปวดท้องอย่าทนปวด ให้รีบไปหาหมอโดยทันที เพราะชีวิตเรานั้นมันเปราะบางนัก
แบ่งปันประสบการณ์ผ่าตัดไส้ติ่ง
เริ่มต้นวันที่ปวดท้องคือวันเสาร์วันที่ใครหลายคนพักผ่อนจากการทำงานกัน แต่ผมก็ต้องไปทำงาน พอดีเป็นวันงานขายทรัพย์ NPA ของธนาคาร
ตอนแรกที่ปวดนั้นก็คิดว่าปวดท้องปกติไม่ได้คิดไรมาก เพราะเมื่อวานไปกินชาบูมา ตอนเช้าท้องอาจจะอืดๆ ไปถึงที่ทำงาน รุ่นพี่ที่ทำงานก็เตรียมข้าวเช้ามากินกัน ผมก็ได้ลงมือกินข้าวเหนียวกับไก่ทอดและน้ำพริกหนุ่มจนอิ่ม (บอกทำไม 555)
หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จก็ทำตามปกติของตัวเองคือชงกาแฟกินในตอนเช้า กินไปได้นิดหน่อยอาการปวดท้องยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นอาการเหมือนปวดบิดแต่ก็ไม่ใช่ จึงไปเข้าห้องน้ำก็ถ่ายไม่ออก หลังจากนั้นเหงื่อก็ออกมาแบบแปลกๆเหมือนเหงื่อแตก คลื่นไส้อาเจียนออกมาข้าวเช้าที่กินหายหมด แอบเสียดายเล็กๆ ฮาาาาา อ๊วกเสร็จอาการวิงเวียนก็ยังไม่หาย จึงขออนุญาติหัวหน้างานไปนอนพัก นอนๆอยู่ก็ไม่หายยิ่งปวดเพิ่มมากขึ้นอีก จึงทนไม่ไหว ให้เพื่อนร่วมงานพาไปโรงพยาบาล จะได้รู้ไปเลยว่าเราเป็นอะไร พอไปถึง หมอก็สอบถามอาการตามปกติ แล้วก็เอามือมากดๆจับๆตรงช่วงท้องมันก็ปวดบ้างเป็นบางที่ หมอก็เลยเจาะเลือดไปตรวจ ตอนนั้นก็โทรไปบอกแฟนว่ามาหาหน่อย แอบอ้อน 5555
พอหมอมาก็บอกว่าผลเลือดเราออกมาแล้วนะ อาจจะเป็นลำไส้อักเสบหรือไส้ติ่งอักเสบ เราก็ หือออออ หมอก็พูดต่อว่า ถ้าเป็นลำไส้อักเสบก็ให้ยาแล้วกลับบ้านได้ แต่ถ้าเป็นไส้ติ่งอักเสบก็คงผ่า หมอก็วนกันมากดท้องอีกครั้งว่าเจ็บตรงไหน ซึ่งเราผนังกระเพาะหนา เลยกดตรงไหนก็ไม่ค่อยเจ็บมาก หมอจึงให้ราเข้าห้องเอ๊กเรย์ตรวจช่องท้องดู การเอ๊กเรย์ครั้งนี้เป็นการเอ๊กเรย์สี ฉีดสีเข้าไปหมอก็จะบอกว่าร้อนคอหน่อยนะให้อ้าปากหายใจ ซึ่งก็ร้อนจริงๆ
ผลเอ๊กเรย์ออกมา หมอแจ้งว่าน้องเป็นไส้ติ่งอักเสบนะต้องผ่า และต้องผ่าวันนี้น่าจะเย็นๆ เราก็คิดในใจ หาาาา ผ่าเลยหรอวะ!! เราก็ไม่เคยตกอยู่ในสถานะการณ์อะไรแบบนี้ คิดอะไรไม่ถูกก็เลยโทรหาแฟนหาแม่ให้มาหา ซึ่งหมอก็ถามว่ามีญาติมามั้ย เราก็บอกเดี๋ยวตามมา ผ่านไปไม่นาน ประมาณบ่ายสาม ในใจก็คิดไหนบอกว่าเย็นๆอะหมอออออ ตั้งตัวไม่ทันรู้ตัวอีกทีก็อยูในห้องผ่าตัดแล้ว หมอก็เอานั่นนี่มาติด และบอกว่าเดี๋ยวจะให้ดมยาสลบ ภายในห้องผ่าตัดนี่เหมือนในละครจริงๆ
พอดมยาเสร็จฟื้นมาอีกทีหมอก็เรียกแล้วบอกว่าผ่าตัดเสร็จแล้วนะ เราก็หะอะไรจะไวปานนั้น แต่เรื่องจริงคือผ่านมาประมาณ 1 ชั่วโมงและ หลังจากนั้นก็เข็นเรามาที่ห้อง Vip ซึ่งจองไว้ก่อนผ่าแล้ว หมอก็ถามว่าขยับตัวไปอีกเตียงได้ไหม เราก็คิดในใจหมออออออ กูเพิ่งผ่าตัดมานะ จะให้เคลื่อนตัวละหรอ ใจร้ายยยย จากนั้นหมอก็ใช้แผ่นสไลด์เอาเรามาไว้อีกเตียง แอบยิ้มในใจ 5555 หลังจากผ่าตัดตอนหกโมงเช้าพยาบาลก็ถามได้ลุกมาเดินหรือยัง ต้องลุกมาเดินบ้างนะ เดี๋ยวแผลจะเป็นพังพืด หลังจากพยาบาลก็ไปก็เราเรียบลุกทันที ครั้งแรกจะฝืนๆหน่อย เพราะยังปวดๆที่ผ่าตัด หลังจากนั้นก็เดินไปปกติ
หมอก็เข้ามาดูอาการอีกครั้งก็แจ้งว่าอีกวันถ้าไม่มีไข้ก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้วนะ ^^ สรุปเราผ่าตัดไส้ติ่งครั้งนี้เป็นประสบการณ์ที่ลืมไม่ลง และใช้เวลาอยู่โรงพยาบาล 2 วัน ที่เหลือหมอก็ให้ใบรับรองแพทย์ไว้ 1 อาทิตย์ เพื่อลางาน หวังว่าประสบการณ์ครั้งนี้จะเป็นประโยชน์กับใครๆหลายๆคนนะครับ และจะบอกว่าเมื่อเราปวดท้องอย่าทนปวด ให้รีบไปหาหมอโดยทันที เพราะชีวิตเรานั้นมันเปราะบางนัก