เห็น กาย โดย ความ เป็น ของ สกปรก ขั้น ที่ สี่ ของ การ ฝึก มี สติ อยู่ กับ กาย มหาสติปัฏฐานสูตร โดย ดังตฤณ ค่ะ

เห็น กาย โดย ความ เป็น ของ สกปรก ขั้น ที่ สี่ ของ การ ฝึก มี สติ อยู่ กับ กาย

มหาสติปัฏฐานสูตร โดย ดังตฤณ  ดอกไม้นานาแต่งตัว

จากหนังสือธรรมะใกล้ตัว ฉบับที่ 28 ค่ะ



           ปกติ กาย จะ เป็น ตัวแทน ของ เรา คือ ถ้า รู้สึก ถึง ความ มี กาย เมื่อ ใด เมื่อนั้น กาย
ก็ จะ เหนี่ยว นำ ให้ มั่นหมาย ว่า นี่แหละ ตัว เรา กระทั่ง กาย ปรากฏ ชัด อย่าง ที่ มัน เป็น
จริงๆ คือ สัก แต่ มี ลม หายใจ เข้า ออก สัก แต่ ปรากฏ ตั้ง เป็น อิริยาบถ หนึ่งๆ สัก แต่ มีค
วาม เคลื่อนไหว หนึ่งๆ เกิด ขึ้น แล้ว แปร ไป เรื่อยๆ ความ มั่นหมาย ว่า กาย เป็น ตัว เรา จึง
ค่อย ลด ระดับ ลง

           นอกจาก นั้น การ ฝึก สติ ยัง บ่ม เพาะ กำลัง ความ สามารถ ที่ จะ รู้ ได้ มาก ขึ้น เรา จะ รู้สึก
ว่า แค่ ระลึก ถึง ความ เคลื่อนไหว ของ กาย นับ เป็น เรื่อง เล็ก ไป เสีย แล้ว ภาวะ ทาง กาย ที่
กำลัง ตั้ง อยู่ เดี๋ยวนี้ ยัง มี ราย ละเอียด น่า เรียน รู้ น่า ติดตาม อีก มาก นั่นเอง เป็น โอกาส
อัน ดี ที่ เรา จะ ค้น ลึก ลง ไป เพราะ ตาม ธรรมชาติ แล้ว ยิ่ง รู้จัก กาย ดี ขึ้น เท่าไร ใจ จะ ยิ่ง
ถอน ออก มา จาก ความ เข้าใจ ผิด ว่า กาย เป็น เรา มาก ขึ้น เท่านั้น


           ความ จริง ใน กาย อัน ใด ที่ ควร รู้ เป็นอัน ดับ แรก? ความ จริง นั้น ได้แก่ ‘กาย นี้ เป็น
ของ สกปรก ’ นั่นเอง เพราะ รู้ กาย โดย ความ เป็น เช่น นั้น แล้ว จิต ตี ตัว ออก ห่าง จาก กาย
ได้ อย่าง รวดเร็ว

           ก็ เมื่อ เป็นความ จริง ที่ กาย นี้ สกปรก แล้ว เหตุ ใด ใจ เรา จึง ถูก ห่อ หุ้ม อยู่ ด้วย ความ หลง
ผิด สำคัญ มั่นหมาย ว่า กาย เป็น ของ สะอาด ของ หอม ของ น่า ใคร่ น่า ชื่นชม อภิรมย์
เล่า? เหตุผล มี อยู่ ๒ ประการ ใหญ่ๆ ได้แก่


๑) ความ ตรึก นึก ทาง กาม

           อารมณ์ เพศ จะ ทำให้ เรา มอง ข้าม ข้อ รังเกียจ เกี่ยว กับ กลิ่น จาก หน่อ เหม็น แนว เหม็น
ต่างๆ กับ ทั้ง อยาก กระโจน เข้าหา ยอม เสีย เงิน เสีย ทอง หรือ กระทั่ง ยอม เหนื่อย ยาก
ลำบาก แทบ ต้อง ทิ้ง ชีวิต เพียง เพื่อให้ ได้ สัมผัส หน่อ เหม็น แนว เหม็น ของ เพศ ตรง ข้าม
นี่ คือ ฤทธิ์ ของ ความ กำหนัด ยินดี

           ความ กำหนัด ยินดี ใคร่ เสพ กาม มี สาเหตุ มา จาก ความ ตรึก นึก เป็น สำคัญ ถ้า เพียง
หมั่น รู้ สติ เฝ้า ตาม ดู กาย ตาม จริง เห็น ความ เสื่อม เห็น ความ สกปรก ใน กาย นี้ ไม่
ปล่อย ให้ ความ ตรึก นึก ทาง กาม กำเริบ ก็ เพียงพอ จะ ทำให้ จิต ใส ใจเบา ไม่ เมา มืด ด้วย
ความ รู้สึก ทาง เพศ ได้ แล้ว


๒) การ ทำความ สะอาด

           ทุก วัน เรา เคย ชิน กับ การ ชำระ ล้าง ร่างกาย ทุก ส่วน กระทั่ง เวลา ส่วน ใหญ่ มี ตัว
แห้ง สบาย ไร้ กลิ่น ชิน เข้า ก็ หลง นึก ทึกทัก ว่า กาย นี้ สะอาด อยู่ เอง ไม่ ใช่ สิ่ง เหม็น เน่า
น่า รังเกียจ แต่ อย่าง ใด

           ช่วง ที่ กาย ถึง เวลา สกปรก ก็ มัก เป็น ช่วง ที่ เรา เลือก อาบ น้ำ สะสาง นั่นเอง ดังนั้น
ขณะ อยู่ ใน ห้องน้ำ จึง ควร พิจารณา ดู ให้ รู้สึก ถึง ความ จริง ไป ด้วย เพื่อ ปลุก สติ ให้ ตื่น
ขึ้น ยอม รับ สภาพ ได้ ถูก ต้อง ตรง จริง เสียที


           ขณะ อาบ น้ำ ให้ ทำความ รู้สึก ตัว เมื่อ มี สติ ทราบ ว่า กำลัง อยู่ ใน อิริยาบถ ใด ท่าทาง
เคลื่อนไหว แบบ ไหน เรา ก็ จะ สามารถ รู้สึก ถึง กาย ส่วน ที่ เกี่ยวข้อง ได้ ขอ ให้ พิจารณา
ดังนี้

           ขณะ สระ ผม เส้น ผม และ หนัง ศีรษะ จะ ปรากฏ ให้ รู้สึก ผ่าน ฝ่า มือ ที่ ขยี้ อยู่ ขณะ ฟอก
สบู่ ผิวหนัง จะ ปรากฏ ให้ รู้สึก ผ่าน มือ ที่ ลูบ ถู เพียง ใส่ใจ พิจารณา ประกอบ เข้าไป ก็ จะ รู้
ว่า เส้น ผม และ ผิวหนัง เป็น สิ่ง สกปรก เพราะ ถ้า ไม่ สกปรก จะ ต้อง ทำความ สะอาด ทำไม
แล้ว ก็ เห็นๆอยู่ ว่า น้ำ ที่ เคย สะอาด กลับกลาย เป็นน้ำ ดำ เมื่อ ถูก ใช้ ล้าง ตัว

           ขณะ แปรง ฟัน ฟัน จะ ปรากฏ ให้ รู้สึก ผ่าน มือ ที่ จับ แปรง ฟัน ทำ หน้าที่ ขบ เคี้ยว ซาก
พืช และ ศพ สัตว์ มา มาก ไม่ มี ทาง ที่ จะ สะอาด อยู่ ได้

           ขณะ ชาย โกน หนวด หรือ หญิง โกน ขน รักแร้ เส้น ขน จะ ปรากฏ ให้ รู้สึก ผ่าน อุปกรณ์
การ โกน ขน เป็น สิ่ง ที่ งอกเงย แทง ทะลุ ผ่าน ผิวหนัง สกปรก ออก มา เรียง กัน เมื่อ โผล่
จาก ผิวหนัง สกปรก เส้น ขน ย่อม มี ส่วน แห่ง ความ สกปรก เป็น เรื่อง รก ที่ รบกวน ให้ เรา
กำจัด ทิ้ง ร่ำไป

           ขณะ ตัด เล็บ เล็บ จะ ปรากฏ ให้ รู้สึก ผ่าน กรรไกร ตัด เล็บ เมื่อ ตัด แล้ว จะ ส่งกลิ่น
อ่อนๆ ฟ้องตัวเอง ว่า มา จาก ความ สกปรก และ ถูก ตัด ทิ้ง ให้ กลาย เป็น ขยะ ของ โลก อีก
กอง หนึ่ง ทั้งที่ เดิม เป็น เสมือน เครื่องประดับ ของ ร่างกาย แท้ๆ

           การ พิจารณา ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง ดัง กล่าว เป็น เพียง ตัว จุด ชนวน ให้ ‘เกิด
ความ รู้สึก ’ ว่า กาย สกปรก เรา ยัง พิจารณา ให้ ลึก เข้าไป ใน กาย ได้ โดย เริ่ม จาก อุจจาระ
ปัสสาวะ ซึ่ง เรา เคย ฝึก ทำความ รู้สึก ตัว ขณะ ขับถ่าย พวก มัน มา แล้ว

           อุจจาระ เป็น สิ่ง ที่ ทุก คน ยอม รับ ว่า น่า รังเกียจ เรา สามารถ เห็น ด้วย ตา ได้ กลิ่น ด้วย
จมูก เมื่อ มัน ถูก ปลดปล่อย ออก มาก อง ข้าง นอก กาย ดังนั้น พอ ทำความ รู้สึก ตัว ขณะ
ขับถ่าย รู้สึก ถึง กาย ใน ท่า นั่ง เรา ก็ อาจ เห็น กาย เหมือน ถุง ใส่ อึ ที่ ต้อง ปล่อย ส่วน เกิน
ให้ เล็ด ไหล ออก มา จาก ทวาร หนัก วัน ละ รอบ เป็น อย่าง น้อย หาก ไม่ มี ส้วม มาร อง รับ
กาย ก็ จะ สำแดง ความ เรี่ยราด เลอะเทอะ ส่งกลิ่น ฟุ้ง กระจาย เป็น แน่


           ความ รู้สึก ตัว ขณะ ขับถ่าย ยัง มี ประโยชน์ ยิ่ง ไป กว่า นั้น เพราะ ขณะ ขับถ่าย อย่าง
รู้สึก ตัว นั่นเอง เรา จะ ค่อยๆ เห็น ความ จริง ลึก ขึ้น เช่น เกิด สติ ทราบ ว่า อุจจาระ เป็น
สิ่ง น่า ขยะแขยง ดังนั้น ภายใน ช่อง ท้อง อันเป็น ที่มา ของ อุจจาระ ก็ คง ไม่ แคล้ว ต้อง
มี ความ โสโครก น่า ขยะแขยง ด้วย เช่น กัน


           กล่าว ได้ ว่า อุจจาระ เป็น ตัว เชื่อม โยง ระหว่าง ภายใน กับ ภายนอก ทำให้ เรา ตระหนัก
ว่า กาย มิได้ สกปรก เพียง ด้วย คราบ เหงื่อ คราบ ไคล ฉาบ ผิว ด้าน นอก แท้จริง ด้าน ใน ยิ่ง
ขนัด แน่น ยัดเยียด ด้วย สิ่ง เน่า เหม็น หนัก กว่า ส้วม ที่ ไม่ ได้ รับ การ ทำความ สะอาด มา
ชั่วนาตาปี แต่ละ วัน เรา แค่ ใช้ สบู่ แชมพู ดับ กลิ่น ที่ เล็ด รอด ออก มา แบบ กลบเกลื่อน เป็น
คราวๆ ไป เท่านั้น โคตร เหง้า ของ ความ สกปรก ไม่ ได้ ถูก ชำระ สะสาง เลย แม้แต่ น้อย
หาก หมกมุ่น ฝังใจ อยู่ กับ ความ สกปรก โดย ขาด สติ ก็ อาจ กลาย เป็นความ ขยะแขยง
ชิงชัง เกิน ทน ตรง นี้ ขอ ให้ เข้าใจ ว่า ถ้า มีค วาม สุข ขั้น พื้นฐาน จาก สติ รู้ ลม หายใจ รู้ อิริยาบถ
ตลอด จน รู้ความ เคลื่อนไหว ต่างๆ เป็น อย่าง ดี ก็ จะ รู้สึก เหมือน มอง ซาก เน่า ออก มา จาก

           ห้อง ที่ สะอาด สว่าง และ สงบ เงียบ ปราศจาก ความ น่า คลื่นเหียน กระวนกระวาย แต่
อย่างไร

           บาง ครั้ง จิต อาจ รู้ ชัด ใน อวัยวะ สกปรก ชิ้น ใด ชิ้น หนึ่ง แล้ว ได้ กลิ่น อวัยวะ นั้นๆ ราวกับ
ยก ขึ้น ดม ก็ ขอ ให้ ทราบ ว่า นั่น เป็นการ ขยาย ขอบเขต ความ สามารถ รับ รู้ ของ จิต ไม่ ใช่
ว่า ประสาท จมูก ผิด ปกติ แต่ อย่าง ใด หาก นัก เจริญ สติ ฝึก ได้ ถึง ระดับ นั้น ก็ มัก มี กำลัง สติ
มาก พอ จะ กำหนด อยู่ แล้ว ว่า จะ เพิกเฉย หรือ จะ กลับ มา จดจ่อ เพื่อ จุด ประสงค์ เช่น
ดับ ราคะ เฉพาะหน้า

           ยิ่ง เมื่อ จิต ตี ตัว ออก ห่าง จาก กาย เห็น กาย เป็น สิ่ง สกปรก ส่วน เกิน มาก ขึ้น เท่าไร จิต
ก็ จะ ยิ่ง สงบ ระงับ กระทั่ง เกิด สติ และ ความ สว่าง อย่าง ใหญ่ รู้สึก ถึง กาย นี้ โดย ไม่ ต้อง พึ่ง
ประสาท หยาบ จิต สามารถ รู้เห็น แหวก เข้าไป ภายใน กาย ทั้ง กาย ปรากฏ ใน ความ รับ
รู้ ราวกับ เป็น ถุง ยาวๆที่ มี ปาก สอง ข้าง ด้าน บน เอา ไว้ ใส่ ของดี ด้าน ล่าง เอา ไว้ ถ่าย ของ
เสีย และ เห็น ใน ถุง นั้น ยัด ทะนาน อยู่ ด้วย เส้น เอ็น โครง กระดูก ไขกระดูก ม้าม หัวใจ
ตับ พังผืด ไต ปอด ลำไส้ ใหญ่ ลำไส้ เล็ก อาหาร ใหม่ อุจจาระ ปัสสาวะ ดี เสลด
หนอง เลือด เหงื่อ มัน ข้น น้ำตา มัน เหลว น้ำลาย น้ำมูก ไขข้อ

           การ รู้เห็น เข้าไป ใน กาย นี้ ขอ ให้ ทราบ ว่า มิ ใช่ จินตนาการ ราง เลือน กับ ทั้ง มิ ใช่ ความ
นึกคิด ถึง อวัยวะ ภายใน แต่ เป็นการ รู้ จาก ฐาน สมาธิ ที่ จิต สว่าง เป็น หนึ่ง เห็น เครื่องใน
ได้ ราวกับ ชำแหละ ออก ดู สดๆ แต่ละ คน เห็น ต่าง กัน ได้ ไม่ จำกัด กับ ทั้ง ไม่ จำเพาะ ว่า
ต้อง เกิด การ เห็น ขณะ อยู่ ใน อิริยาบถ ใด อิริยาบถ หนึ่ง อาจ ขณะ ยืน ลืมตา อาบ น้ำ หรือ
ขณะ นอน หลับตา ก่อน หลับ ก็ได้ ทั้งสิ้น

           เมื่อ ฝึก ก็ อย่า คำนึง ว่า เห็น จริง หรือ เห็น ไม่ จริง สาระ ที่ ต้อง คำนึง คือ เห็น แล้ว สลด
สังเวช ไหม ระงับ ราคะ ได้ เฉียบขาด แค่ ไหน เห็น กาย ผู้ อื่น เป็น ของ สกปรก ได้ เท่า เรา
แบบ ไม่ เลือก หน้า หรือ เปล่า ถ้า ระงับ กิเลส ทาง เพศ ได้ และ มี จิต เป็น อิสระ จาก กาย
เบา สบาย และ ตั้ง มั่น ได้ นาน ขึ้น เรื่อยๆ นั่นแหละ ขอ ให้ ถือว่า ลุ ถึง จุด ประสงค์ ของ การ
ฝึก ขั้น นี้ แล้ว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่