เครดิตแหล่งข่าว/เจ้าของบทความโดย
https://www.dailynews.co.th/news/4129731/
"เนื้อสันคอ-ไส้-หาง-ปอด" แม้ว่าหมูทั้ง 4 ส่วนนี้จะอร่อย แต่ก็ไม่ควรกินมากเกินไป เพราะอาจเกิดโทษต่อร่างกายได้
1. เนื้อสันคอหมู
เพราะอาจมีต่อมน้ำเหลืองของหมูอยู่ เป็นส่วนสำคัญของระบบภูมิคุ้มกันของสัตว์ และเนื้อเยื่อรอบ ๆ อาจมีแบคทีเรีย และไวรัสที่ทำให้เกิดโรคมากมาย และยากต่อการกำจัดออกอย่างสมบูรณ์ เมื่อสะสมในร่างกายปริมาณมาก อาจมีผลเสียต่อสุขภาพได้ และยังมีไขมันมาก อาจทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้ง่าย ทำให้อ้วน และเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจ เนื่องจากหลอดเลือดแข็งตัว
2. ไส้หมู
ไส้หมูประกอบด้วยโปรตีน ไขมัน แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก วิตามินบี 1 วิตามินบี 12 กรดนิโคตินิก ตลอดจนวิตามินและแร่ธาตุอื่นๆ อีกมากมาย คุณค่าทางโภชนาการของลำไส้หมูนั้น เกินกว่าอวัยวะภายในหลายๆ ส่วนมาก แพทย์แผนจีนระบุว่า ลำไส้หมูมีรสหวาน มีคุณสมบัติเป็นกลาง และแทรกซึมเข้าไปในม้าม กระเพาะอาหาร และไต จึงมีผลทำให้ม้ามอุ่นขึ้น และช่วยให้ไตแข็งแรงขึ้น
แต่การกินไส้หมูมากเกินไป ไม่ดีต่อสุขภาพ เนื่องจากปริมาณโปรตีนที่สูง ไขมันสัตว์จำนวนมาก และคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี จะทำให้ไขมันในเลือดเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดได้ง่าย โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ เบาหวาน โรคไขมันพอกตับ ตับอ่อนอักเสบ โรคเกาต์ และโรคไต จำเป็นต้องระมัดระวัง นอกจากนี้ ลำไส้หมูยังเป็นที่อยู่ของแบคทีเรียและปรสิตจำนวนมาก เช่น หนอนพยาธิ อีโคไล และสเตรปโตคอคคัส ไส้หมูที่ไม่ได้เตรียมและปรุงอย่างเหมาะสม จะเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคทางเดินอาหาร เช่น โรคกระเพาะ ลำไส้อักเสบ ถุงน้ำดีอักเสบ ติดเชื้อปรสิต หรือเยื่อหุ้มสมองอักเสบที่เกิดจากเชื้อสเตรปโตคอคคัส ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด ท้องเสีย อหิวาตกโรค โรคบิด ไทฟอยด์
3. หางหมู
มักใช้ทำซุปหรือสตู เนื่องจากอุดมไปด้วยโปรตีน แคลเซียม ธาตุเหล็ก และคอลลาเจน การกินหางหมูช่วยเติมเลือด เสริมสร้างกล้ามเนื้อและข้อต่อ
แต่ถ้ากินมากเกินไป ไม่ดีกับผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคอ้วน หรือโรคเกาต์ เนื่องจากชั้นไขมันในหางหมูเป็นไขมันอิ่มตัว
หลายๆ คนมองว่าหางหมูเป็น “ยาบำรุงไต” เนื่องจากอุดมไปด้วยสังกะสี ช่วยรักษาไตวาย ทำให้ร่างกายแข็งแรง แก้การหลั่งเร็ว ทำให้อึดขึ้น แต่ไม่ควรกินเกินสัปดาห์ละ 2 ครั้ง
4. ปอดหมู
ปอดหมูเป็นแหล่งของก๊าซไอเสียและสารคัดหลั่ง ดังนั้นปอดของสุกรอาจมีเมือก แบคทีเรีย และปรสิตจำนวนมาก หากสภาพการเลี้ยงสุกรไม่ถูกสุขลักษณะและสกปรก นอกจากนี้ปอดหมูยังมีถุงลมจำนวนมากเพื่อให้อากาศไหลเวียน จึงทำความสะอาดได้ยากมาก ปอดหมูยังมีคอเลสเตอรอลในระดับสูง ทำให้เพิ่มคอเลสเตอรอลได้ง่าย หากกินมากและเป็นเวลานาน อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ โดยเฉพาะคนที่คอเลสเตอรอลสูง ผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดีสามารถกินปอดหมูได้สัปดาห์ละครั้ง แต่ต้องทำความสะอาดปอดหมูให้สะอาด ในการเลือกซื้อปอดหมู ควรเลือกซื้อปอดหมูที่สด สะอาด ปอดสีชมพู อย่าซื้อปอดที่มีสีเข้ม และมีกลิ่นคาวเหม็น
อ่านรายละเอียดฉบับเต็มได้ที่ลิ้งค์ข้างต้น
หมู 4 ส่วนนี้แม้อร่อย แต่อย่ากินบ่อยจะดีกว่า
https://www.dailynews.co.th/news/4129731/
"เนื้อสันคอ-ไส้-หาง-ปอด" แม้ว่าหมูทั้ง 4 ส่วนนี้จะอร่อย แต่ก็ไม่ควรกินมากเกินไป เพราะอาจเกิดโทษต่อร่างกายได้
1. เนื้อสันคอหมู
เพราะอาจมีต่อมน้ำเหลืองของหมูอยู่ เป็นส่วนสำคัญของระบบภูมิคุ้มกันของสัตว์ และเนื้อเยื่อรอบ ๆ อาจมีแบคทีเรีย และไวรัสที่ทำให้เกิดโรคมากมาย และยากต่อการกำจัดออกอย่างสมบูรณ์ เมื่อสะสมในร่างกายปริมาณมาก อาจมีผลเสียต่อสุขภาพได้ และยังมีไขมันมาก อาจทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้ง่าย ทำให้อ้วน และเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจ เนื่องจากหลอดเลือดแข็งตัว
2. ไส้หมู
ไส้หมูประกอบด้วยโปรตีน ไขมัน แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก วิตามินบี 1 วิตามินบี 12 กรดนิโคตินิก ตลอดจนวิตามินและแร่ธาตุอื่นๆ อีกมากมาย คุณค่าทางโภชนาการของลำไส้หมูนั้น เกินกว่าอวัยวะภายในหลายๆ ส่วนมาก แพทย์แผนจีนระบุว่า ลำไส้หมูมีรสหวาน มีคุณสมบัติเป็นกลาง และแทรกซึมเข้าไปในม้าม กระเพาะอาหาร และไต จึงมีผลทำให้ม้ามอุ่นขึ้น และช่วยให้ไตแข็งแรงขึ้น
แต่การกินไส้หมูมากเกินไป ไม่ดีต่อสุขภาพ เนื่องจากปริมาณโปรตีนที่สูง ไขมันสัตว์จำนวนมาก และคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี จะทำให้ไขมันในเลือดเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดได้ง่าย โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ เบาหวาน โรคไขมันพอกตับ ตับอ่อนอักเสบ โรคเกาต์ และโรคไต จำเป็นต้องระมัดระวัง นอกจากนี้ ลำไส้หมูยังเป็นที่อยู่ของแบคทีเรียและปรสิตจำนวนมาก เช่น หนอนพยาธิ อีโคไล และสเตรปโตคอคคัส ไส้หมูที่ไม่ได้เตรียมและปรุงอย่างเหมาะสม จะเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคทางเดินอาหาร เช่น โรคกระเพาะ ลำไส้อักเสบ ถุงน้ำดีอักเสบ ติดเชื้อปรสิต หรือเยื่อหุ้มสมองอักเสบที่เกิดจากเชื้อสเตรปโตคอคคัส ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด ท้องเสีย อหิวาตกโรค โรคบิด ไทฟอยด์
3. หางหมู
มักใช้ทำซุปหรือสตู เนื่องจากอุดมไปด้วยโปรตีน แคลเซียม ธาตุเหล็ก และคอลลาเจน การกินหางหมูช่วยเติมเลือด เสริมสร้างกล้ามเนื้อและข้อต่อ
แต่ถ้ากินมากเกินไป ไม่ดีกับผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคอ้วน หรือโรคเกาต์ เนื่องจากชั้นไขมันในหางหมูเป็นไขมันอิ่มตัว
หลายๆ คนมองว่าหางหมูเป็น “ยาบำรุงไต” เนื่องจากอุดมไปด้วยสังกะสี ช่วยรักษาไตวาย ทำให้ร่างกายแข็งแรง แก้การหลั่งเร็ว ทำให้อึดขึ้น แต่ไม่ควรกินเกินสัปดาห์ละ 2 ครั้ง
4. ปอดหมู
ปอดหมูเป็นแหล่งของก๊าซไอเสียและสารคัดหลั่ง ดังนั้นปอดของสุกรอาจมีเมือก แบคทีเรีย และปรสิตจำนวนมาก หากสภาพการเลี้ยงสุกรไม่ถูกสุขลักษณะและสกปรก นอกจากนี้ปอดหมูยังมีถุงลมจำนวนมากเพื่อให้อากาศไหลเวียน จึงทำความสะอาดได้ยากมาก ปอดหมูยังมีคอเลสเตอรอลในระดับสูง ทำให้เพิ่มคอเลสเตอรอลได้ง่าย หากกินมากและเป็นเวลานาน อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ โดยเฉพาะคนที่คอเลสเตอรอลสูง ผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดีสามารถกินปอดหมูได้สัปดาห์ละครั้ง แต่ต้องทำความสะอาดปอดหมูให้สะอาด ในการเลือกซื้อปอดหมู ควรเลือกซื้อปอดหมูที่สด สะอาด ปอดสีชมพู อย่าซื้อปอดที่มีสีเข้ม และมีกลิ่นคาวเหม็น
อ่านรายละเอียดฉบับเต็มได้ที่ลิ้งค์ข้างต้น