ประสบการณ์ติด ตม. ที่เกาหลี 310359
สวัสดีค่ะ เรามีเรื่องประสบการณ์ติด ตม. ที่เกาหลีมาเล่าให้ฟังค่ะ เห็นหลายคนกลัวกันว่า ตม. ที่เกาหลีโหดน่ากลัว
อันที่จริงเรื่องนี้หลายคนก็ให้ความสนใจมานานแล้ว และทุกคนที่จะไปเที่าเกาหลีต้องลุ้นตลอดว่าจะผ่านไปได้ไหม
สำหรับเราเคยไปเกาหลีมาแล้วเมื่อ 2 ปีที่แล้ว และครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 31 มีนาที่ผ่านมาค่ะ
เราไปกับเพื่อนสาวอีก 1 คนค่ะ พาสปอร์ตของเพื่อนขาวสะอาดบริสุทธิ์ และนางก็เคยเปลี่ยนชื่อมาด้วยค่ะ
เราเองก็คิดว่ามีโอกาสสูงที่เพื่อนจะติด ตม. แต่ในเมื่อเรามาเที่ยวจริงๆ ก็เตรียมเอกสารต่างๆ รวมทั้งแผนที่ที่เราทำขึ้นมาเอง
เราไม่เคยติด ตม. นะ แต่ก็ไม่อยากมั่นใจว่าจะผ่านก็เตรียมเอกสารทุกอย่างเหมือนกันไว้
และพอถึงตอนต่อแถวปั้มตราประทับ นาทีนี้เราชิวมากกกกก แต่เพื่อนเราก็กังวล คือด้วยลักษณะท่าทางและการแต่งตัวก็คงไม่รอดแน่ๆ 5555
ส่วนเราคิดว่าถ้าไม่ผ่านจริงก็สู้ด้วยเอกสารทั้งหมดที่มี ตายกันไปข้างหนึ่ง
สรุปเราผ่านแต่เพื่อนไม่ผ่าน แง่ว~~~~ ทำไงหละทีนี้
ตอนต่อแถวเข้า ตม. มีเจ้าหน้าที่รอเรียกทุกแถวเลย เขามองเอาไว้เลยว่าคนนี้น่าสงสัย เชิญเข้าห้อง VIP เลยครับ
จากที่เรามองดูแต่ละคนที่มาเที่ยวบินเดียวกันเราเล็งเอาไว้เลยว่าคนนี้โดนแน่ๆ ซึ่งมันก็ใช่ (1ในนั้นคือเพื่อนเรา)
พอเพื่อนเข้าไปในห้องเย็นเราก็รออยู่อีทางเพื่อรอยืนยันว่าเพื่อนมาเที่ยวกับเรา มีหลายคนที่เป็นเหมือนเราต่างก็รอเพื่อนเยอะมาก
เรารอเพื่อเกือบ 2 ชม. ไลน์ไปหาเพื่อที่อยู่ในห้องเย้นก็ไม่ตอบ ไม่รู้เป็นยังไง แต่แล้วนางก็ตอบมาจนได้
เพื่อนเราบอกว่าในห้องนั้นมีมากกว่า 50+ คน คือมันเยอะมากและก็ยังไม่ทำอะไรสักที ส่วนคนที่อยู่ในนั้นก็พูดแบบว่าไม่รอดแน่ๆ ยังไงเขาก็ส่งกลับ
ไอ้เพื่อนเราก็ขวัญเสียสิได้ยินแบบนั้น ยิ่งอยู่ในที่ที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ ใจเสียไปหมดบอกว่าเกลียดเกาหลีจะไม่มีอีกแล้ว
บอกให้เราไปเที่ยวคนได้เลยไม่เป็นไร ไอ้เราก็ได้แต่บอกให้ใจเย็นๆ เดี๋ยวช่วยออกมา (เก่งเหลือเกิน555)
เราไลน์ไปบอกโรงแรมว่าตอนนี้ติด ตม. ไม่รู้จะไปเซ็คอินตอนไหน หรืออาจจะไม่ได้ไป โรงแรมเขาก็พร้อมที่จะช่วยยืนยันให้เรานะ
แต่ขอจัดการด้วยตนเองดูก่อน เราพูดกับเจ้าหน้าที่ที่เดินผ่านประตูนั้นทุกคนว่า ฉันมีเพื่อนที่อยู่ข้างใน และเหมือนเขาก็รับรู้มัน 5555
เขาก็เอาพาสปอร์ตออกมาถามนะว่ารู้จักคนนี้ไหม ทุกคนก็เข้ามามุกดูแต่ไม่มีใครรู้จัก เราก็บอกทุกครั้งว่าเพื่อนเราชื่ออะไรเขาก็พยัก
จนผ่านไป 4 คน ก็เป็นพาสปอร์ตของเพื่อนเรา เราก็บอกว่าใช่คนนี้แหละ เจ้าหน้าที่ก็เอาพาสปอร์ตเราเข้าไปในห้องรอเกือบ 20 นาทีจนกว่าเพื่อนเราจะได้ออกมา
สรุปสาเหตุการติด ตม. และการขอผ่าน ตม. ได้ดังนี้
1. ลักษณะท่าทาง การแต่งตัว หน้าตา อาจมีส่วนเยอะพอสมควร
2. เอกสารหลักฐานสำคัญมาก เราเชื่อว่าถ้าเรามาเที่ยวจริงๆ และเตรียมเอกสารมาพร้อมทุกอย่างก็สามารถผ่านออกไปเที่ยวได้สบายใจ
3. มากับเพื่อน ถ้ามีเพื่อนที่ผ่านแล้ว และสามารถยืนยันความสัมพันธ์กันได้เราว่าโอกาสผ่านสูงเหมือนเรา
4. มาเที่ยวคนเดียว อันนี้อยู่ที่ความสามารถของแต่ละบุคคล มีหลายคนที่ทุกอย่างไม่น่าจะติดแต่พอติด แต่ไม่มีใครสามารถมายืนยันตัวตนว่าเราจะมาเที่ยวจริงๆ ก็ถูกส่งกลับ
5. ดวง (รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง)
ปล. เราอยากเล่ารายอะเอียดที่เพื่อนเจอในห้องนั้นนะ แต่กลัวมันจะยาวเกินไป
ปล. เราไม่สนับสนุนให้คนไทยลักลอบเข้าประเทศอื่น ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม
ถ้าใครมีประสบการณ์ผ่าน หรือไม่ผ่านก็มาเล่าสู่กันฟังได้นะ เผื่อครั้งหน้าอยากไปอีกจะได้เตรียมตัวให้ถูก
ประสบการณ์ติด ตม. ที่เกาหลี 310359
สวัสดีค่ะ เรามีเรื่องประสบการณ์ติด ตม. ที่เกาหลีมาเล่าให้ฟังค่ะ เห็นหลายคนกลัวกันว่า ตม. ที่เกาหลีโหดน่ากลัว
อันที่จริงเรื่องนี้หลายคนก็ให้ความสนใจมานานแล้ว และทุกคนที่จะไปเที่าเกาหลีต้องลุ้นตลอดว่าจะผ่านไปได้ไหม
สำหรับเราเคยไปเกาหลีมาแล้วเมื่อ 2 ปีที่แล้ว และครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 31 มีนาที่ผ่านมาค่ะ
เราไปกับเพื่อนสาวอีก 1 คนค่ะ พาสปอร์ตของเพื่อนขาวสะอาดบริสุทธิ์ และนางก็เคยเปลี่ยนชื่อมาด้วยค่ะ
เราเองก็คิดว่ามีโอกาสสูงที่เพื่อนจะติด ตม. แต่ในเมื่อเรามาเที่ยวจริงๆ ก็เตรียมเอกสารต่างๆ รวมทั้งแผนที่ที่เราทำขึ้นมาเอง
เราไม่เคยติด ตม. นะ แต่ก็ไม่อยากมั่นใจว่าจะผ่านก็เตรียมเอกสารทุกอย่างเหมือนกันไว้
และพอถึงตอนต่อแถวปั้มตราประทับ นาทีนี้เราชิวมากกกกก แต่เพื่อนเราก็กังวล คือด้วยลักษณะท่าทางและการแต่งตัวก็คงไม่รอดแน่ๆ 5555
ส่วนเราคิดว่าถ้าไม่ผ่านจริงก็สู้ด้วยเอกสารทั้งหมดที่มี ตายกันไปข้างหนึ่ง
สรุปเราผ่านแต่เพื่อนไม่ผ่าน แง่ว~~~~ ทำไงหละทีนี้
ตอนต่อแถวเข้า ตม. มีเจ้าหน้าที่รอเรียกทุกแถวเลย เขามองเอาไว้เลยว่าคนนี้น่าสงสัย เชิญเข้าห้อง VIP เลยครับ
จากที่เรามองดูแต่ละคนที่มาเที่ยวบินเดียวกันเราเล็งเอาไว้เลยว่าคนนี้โดนแน่ๆ ซึ่งมันก็ใช่ (1ในนั้นคือเพื่อนเรา)
พอเพื่อนเข้าไปในห้องเย็นเราก็รออยู่อีทางเพื่อรอยืนยันว่าเพื่อนมาเที่ยวกับเรา มีหลายคนที่เป็นเหมือนเราต่างก็รอเพื่อนเยอะมาก
เรารอเพื่อเกือบ 2 ชม. ไลน์ไปหาเพื่อที่อยู่ในห้องเย้นก็ไม่ตอบ ไม่รู้เป็นยังไง แต่แล้วนางก็ตอบมาจนได้
เพื่อนเราบอกว่าในห้องนั้นมีมากกว่า 50+ คน คือมันเยอะมากและก็ยังไม่ทำอะไรสักที ส่วนคนที่อยู่ในนั้นก็พูดแบบว่าไม่รอดแน่ๆ ยังไงเขาก็ส่งกลับ
ไอ้เพื่อนเราก็ขวัญเสียสิได้ยินแบบนั้น ยิ่งอยู่ในที่ที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ ใจเสียไปหมดบอกว่าเกลียดเกาหลีจะไม่มีอีกแล้ว
บอกให้เราไปเที่ยวคนได้เลยไม่เป็นไร ไอ้เราก็ได้แต่บอกให้ใจเย็นๆ เดี๋ยวช่วยออกมา (เก่งเหลือเกิน555)
เราไลน์ไปบอกโรงแรมว่าตอนนี้ติด ตม. ไม่รู้จะไปเซ็คอินตอนไหน หรืออาจจะไม่ได้ไป โรงแรมเขาก็พร้อมที่จะช่วยยืนยันให้เรานะ
แต่ขอจัดการด้วยตนเองดูก่อน เราพูดกับเจ้าหน้าที่ที่เดินผ่านประตูนั้นทุกคนว่า ฉันมีเพื่อนที่อยู่ข้างใน และเหมือนเขาก็รับรู้มัน 5555
เขาก็เอาพาสปอร์ตออกมาถามนะว่ารู้จักคนนี้ไหม ทุกคนก็เข้ามามุกดูแต่ไม่มีใครรู้จัก เราก็บอกทุกครั้งว่าเพื่อนเราชื่ออะไรเขาก็พยัก
จนผ่านไป 4 คน ก็เป็นพาสปอร์ตของเพื่อนเรา เราก็บอกว่าใช่คนนี้แหละ เจ้าหน้าที่ก็เอาพาสปอร์ตเราเข้าไปในห้องรอเกือบ 20 นาทีจนกว่าเพื่อนเราจะได้ออกมา
สรุปสาเหตุการติด ตม. และการขอผ่าน ตม. ได้ดังนี้
1. ลักษณะท่าทาง การแต่งตัว หน้าตา อาจมีส่วนเยอะพอสมควร
2. เอกสารหลักฐานสำคัญมาก เราเชื่อว่าถ้าเรามาเที่ยวจริงๆ และเตรียมเอกสารมาพร้อมทุกอย่างก็สามารถผ่านออกไปเที่ยวได้สบายใจ
3. มากับเพื่อน ถ้ามีเพื่อนที่ผ่านแล้ว และสามารถยืนยันความสัมพันธ์กันได้เราว่าโอกาสผ่านสูงเหมือนเรา
4. มาเที่ยวคนเดียว อันนี้อยู่ที่ความสามารถของแต่ละบุคคล มีหลายคนที่ทุกอย่างไม่น่าจะติดแต่พอติด แต่ไม่มีใครสามารถมายืนยันตัวตนว่าเราจะมาเที่ยวจริงๆ ก็ถูกส่งกลับ
5. ดวง (รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง)
ปล. เราอยากเล่ารายอะเอียดที่เพื่อนเจอในห้องนั้นนะ แต่กลัวมันจะยาวเกินไป
ปล. เราไม่สนับสนุนให้คนไทยลักลอบเข้าประเทศอื่น ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม
ถ้าใครมีประสบการณ์ผ่าน หรือไม่ผ่านก็มาเล่าสู่กันฟังได้นะ เผื่อครั้งหน้าอยากไปอีกจะได้เตรียมตัวให้ถูก