เกาหลี 5 วัน 4 คืน ช่วงวาเลนไทน์ เข้าห้องเย็น ตม.เกาหลี หิมะตก และตามรอยของกิน ครับ

มาบอกเล่าประสบการณ์การท่องเที่ยวเกาหลี 12 - 16 กุมภาพันธ์ 2559 ที่ผ่านมาครับ

ออกตัวก่อนว่าอาจเล่าไม่เก่งมาก แต่อยากเล่าประสบการณ์เข้า ตม. เกาหลี เผื่อใครๆ เจอลักษณะแบบนี้จะได้ไม่มีปัญหาครับ
(แฟนผมก็เป็นผู้ชายนะครับ ลืมบอก )

ผมกับแฟนคบกันมาจะครบปีเลยตัดสินใจไปเที่ยวเกาหลี ถือเป็นรางวัลที่เค้าจะเรียนจบ ฉลองวาเลนไทน์ ฉลองครบรอบคบกัน 1 ปี ล่วงหน้าเลยตัดสินใจไปเกาหลีครับ โดยผมก็จัดการทุกอย่างเตรียมจองตั๋วราคาประหยัด และได้ช่วงวาเลนไทน์ สุดท้ายมาลงล็อคที่ Airsaia ไปกลับคนละ 7,446 บาท รวมโหลดขาไป 20 กิโลกรัม ขากลับ 40 กิโลกรัม ส่วนอาหารทานให้อิ่มก่อนขึ้นเครื่อง ประหยัดไปนิดนึง ครับ

โดยสรุปทริปมีดังนี้ครับ (แก้ไขจากแผนเดิมเอาหน้างานตามสภาพอากาศ ^^")
12 ก.พ. 59
- ออกเดินทางจากไทย 08.05 น. ถึงเกาหลี 15.20 น.
- เข้าพักฮงแด
- ทานหมูย่างเกาหลี (ถนนหมูย่าง ย่านฮงแด)
13 ก.พ. 59
- พระราชวังเคียงบกกุง
- เมียงดงและเมียงดงอันเดอร์กราวน์
- ทานทักคาวบี้ที่เมียงดง
- Lotte outlet และ Lotte mart ที่ Seoul Station
- อาหารเย็นจาก GS25 และ CU (ร้านสะดวกซื้อเกาหลี)
14 ก.พ. 59
- เกาะนามิ
- หมูย่างที่เกาะนามิ
- เดินเล่นย่านฮงแด สินค้าวัยรุ่นราคาประทับใจ
- หมึกผัดซอสเผ็ด (เผ็ดมากและมีข้าวผัดตอนจบให้ด้วย)
15 ก.พ. 59
- K-Star Gallery (ถ่ายรูปกับนักร้องเกาหลี)
- กังนัม และกังนัมอันเดอร์กราวน์
- ไก่วุ้นเส้นของ Seven ย่านกังนัม
- นัมแดมุน ตลาดขายส่ง
- เมียงดง แวะทาน Street Food
- Lotte outlet Seoul Station เก็บตกอีกครั้ง
- เก็บตกย่านฮงแด
16 ก.พ. 59
- Lotte outlet & Lotte mart Seoul Station ซื้อในสิ่งที่คิดว่าขาด (ขนมเป็นส่วนใหญ่!!!)
- เดินทางกลับไทย

*********************************************************************

**ยกที่ 1 การผ่าน ตม. เกาหลี**

ไปถึงเกาหลีบ่ายสองกว่าๆ คนเยอะมากครับ ต่อคิวยาวน่าจะเกือบหนึ่งชั่วโมงกว่าจะได้เข้าไปตามช่อง ตม. ก็เตรียมเอกสารไปสองคนกับแฟนดังนี้ครับ
1. Passport
2. เอกสารที่พัก
3. เอกสารตั๋วขาเข้าขาออก
4. รายการท่องเที่ยว
5. เงินเกาหลี
6. สำเนาหน้าพาสปอร์ตผมและแฟน

ผมถือรายการที่ 1-5 ครบหมด ของแฟนถือรายการที่ 1-3 (ผมพลาดเองแหละไม่ได้สำเนาให้ ส่วนเงินไปแลกมาเลยเก็บไว้ลืมแบ่ง)

ผมกับแฟนก็โดนแยกเข้าคนละช่องครับ ของผมเนื่องจากไปมาหลายที่แล้ว (น่าจะ) ประวัติดีในฐานะนักท่องเที่ยว (น่าจะ) ก็เดินผ่านฉลุยออกไปได้เลย ส่วนแฟนก็รอต่อแถวอีกแถวซึ่งคนด้านหน้ามีปัญหาพอดี เลยช้ากว่าอีกหน่อย ผมก็รอสักพักก็ไปยืนดูที่ช่องที่แฟนอยู่เพราะไม่ออกมาสักที

ปรากฎว่าแฟนได้เข้ามายืนรับหน้า ตม. พอดี ก็คุยกับ ตม. (แฟนพูดอังกฤษได้บ้างไม่เก่งเท่าไรแต่เอาตัวรอดพอไหว) พอยืนแปบๆ เริ่มยื่นเอกสารโน่นนี่ เริ่มชักจะยังไงๆ สรุปมีคนมารับไปห้องเย็น!!!

ผมเริ่มร้อนใจแล้ว แฟนยังเด็ก (อายุ 21 ผม 35) กำลังจะเรียนจบเดือนหน้า ไม่เคยมีประวัติเที่ยวต่างประเทศ อะไรที่เคยอ่านๆ มาในพันทิพย์ ก็เด้งขึ้นมาหมด คิดในใจยังไงเนี่ยจะโดนอะไรไหม คิดไปเรื่อยๆ ผ่านไป 10 นาที เจ้าหน้าที่ห้องเย็นก็เดินออกมาโดยถือพาสปอร์ตแฟนผมออกมาด้วย แล้วเดินเปิดให้คนที่รอข้างนอกดูว่ารู้จักไหม

ผมรีบไปแสดงตัวว่ารู้จัก เค้าก็เลยเริ่มสัมภาษณ์ผม โดยขอดูพาสปอร์ตก่อน
ตม.: คุณมาจากไหน?
ผม: ประเทศไทยครับ
ตม.: มาทำอะไร
ผม: มาท่องเที่ยวครับ
ตม.: มากับคนชื่อ........ ใช่ไหม
ผม: ครับ
ตม.: เป็นอะไรกัน เกี่ยวพันกันยังไง
......... คั่นตรงนี้นิดนึง เนื่องจากขี้เกียจต้องอธิบายว่าเป็นแฟนกัน ชายกับชายเป็นแฟนกันได้เหรอโน่นนี่ เลยคุยกับว่าให้บอกว่าเป็นพี่ชาย .........
ผม: น้องชายครับ
ตม.: นามสกุลไม่ตรงกัน
ผม: น้องชายหมายถึงเป็นเพื่อนที่อายุน้อยกว่าครับ
ตม.: ไม่เข้าใจ งง
ผม: ผมเลยตัดสินใจเล่าให้ฟังหมดเลยว่าเป็นแฟนกัน แต่ที่ไม่บอกเพราะอธิบายยาก
ตม.: งงไปแปบนึงแล้วเริ่มถามต่อ ... คุณอยู่จังหวัดไหน
ผม: กรุงเทพ ครับ
ตม.: แล้ว ........ อยู่จังหวัด ......... คบกันได้ยังไง ไม่เชื่อหรอก (ขอเซ็นเซอร์ชื่อและข้อมูลบางอย่างนะครับ)
ผม: แฟนเป็นคนรู้จักของเพื่อนครับ ไปเจอกันที่จังหวัด....... ตอนไปเที่ยว ก็คบกันมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ ....... บลาๆๆ คบกันมา 1 ปีแล้ว
ตม.: แต่แฟนคุณบอกว่าคบกับคุณมา 3-4 ปีแล้ว
ผม: ตกใจนิดหน่อย บอกเค้าไปว่าน่าจะเพราะเค้าไม่อยากพูดว่าเป็นแฟน พอเป็นพี่ชายเลยบอกว่า 3-4 ปี แต่ยังไงก็ยืนยันว่าเป็นแฟน ถ้าอยากได้หลักฐานยืนยันจะหาให้

********* ตม. ยื่นมือมาบอกว่า ไม่จำเป็น แล้วให้เรารอตรงนี้ *********** ผ่านไป 20 นาที ตม. ก็ออกมาคุยต่อ ********

ตม.: ไปถามแล้วเค้ายืนยันว่าคุณเป็นพี่ชาย คบมา 3-4 ปี
ผม: เค้ากลัว เพราะยังเด็กและเรื่องแบบนี้เค้าก็ไม่ได้ต้องไปเล่าให้ใครฟังว่ามีแฟนเป็นผู้ชาย ถ้าจะรบกวนจริงๆ บอกเค้าไปเลยว่าผมบอก ตม. ไปแล้วว่าเป็นแฟนกัน ให้เค้าเล่าทุกอย่าง แน่นอนว่าจะต้องตรงกัน
ตม.: เค้าอาจโดนส่งกลับ คุณจะทำยังไง
ผม: ถ้าแฟนโดนส่งกลับจะกลับด้วย ไม่มีเหตุผลที่จะฉลองวาเลนไทน์ที่เกาหลีคนเดียว แต่ยังไงได้โปรดเชื่อและถ้าต้องการหลักฐานอะไรก็บอกได้ เราจะพยายามหาให้เต็มที่
ตม.: โอเค รอที่เดิมนะ

*********** ผ่านไป 15 นาที นั่งสวดมนต์ไปด้วย ไม่รู้จะทำยังไง ******** ตม. คนเดิมเดินออกมาคุยด้วยอีกรอบ *********

ตม.: ขอถามยืนยันอีกครั้ง ตกลงคุณเป็นอะไรกัน แล้วมาทำอะไรที่เกาหลี
ผม: ผมเป็นแฟนกันครับ มาเที่ยว ฉลองครบรอบคบกัน วันเกิดแฟน ฉลองเรียนจบ ฉลองวาเลนไทน์แรก และยืนยันว่าเราเป็นนักท่องเที่ยว อาจผิดพลาดที่ไม่กล้าแสดงตัวว่าเป็นแฟนแต่แรก ต้องขอโทษด้วย แต่ยืนยันว่าที่พูดเป็นความจริง และถ้าจะตัดสินยังไง เราพร้อมยอมรับทุกอย่าง เพราะเรามาท่องเที่ยวอย่างบริสุทธ์ใจ เพราะเกาหลีเป็นอีกที่ที่เราไม่เคยมา และเราอยากมาเกาหลีมากๆ จริงๆ
ตม.: โอเค ถ้าอย่างนั้น ผมจะบอกว่าถ้าแฟนคุณไม่กลับออกจากเกาหลีในวันที่ 16 กพ. นี้ ทางเราจะต้องห้ามคุณเข้าเกาหลีอีกเลยตลอดชีวิต คุณยอมไหม
ผม: ตกลงครับ ผมยืนยัน เพราะถ้าไมไ่ด้ไปด้วยกันผมก็ไม่ต้องการอยู่ต่อ
ตม.: โอเค งั้นขอพาสปอร์ต

*********** ผ่านไป 15 นาที แฟนเดินออกมากับ ตม. ********

ตม.: เรียบร้อยครับ อย่าลืมที่ตกลงกันไว้นะครับ
ผม: แน่นอนครับ และขอบคุณมากๆ ที่เข้าใจ
ตม.: งั้นเชิญได้เลยครับ ขอให้ท่องเที่ยวเกาหลีให้สนุก
ผม: ขอบคุณมากๆ ครับ

********** ขอเล่าบรรยากาศ ในห้องเย็นของแฟนละกันครับ ***********

แฟนเล่าว่าเค้าก็ถามว่าเป็นอะไรกัน เลยตอบว่าเป็นพี่ชาย เค้าก็ถามโน่นนี่ สุดท้ายติดตรงไม่มีเงินติดตัว (อยู่ที่ผม) เอกสารท่องเที่ยว (อยู่ที่ผมแฟนจำไม่ได้ว่าจะไปไหนบ้าง) และไม่เชื่อเพราะยังไมไ่ด้ทำงานแน่นอน พึ่งเรียนจบ รวมทั้งติดเรื่องความสัมพันธ์ที่ตอบไม่ตรงกันและระยะเวลาที่คบกัน

แฟนบอกว่าย้ายไปหลายโต๊ะมาก ถามเดิมๆ ไม่ยอมให้เปิดมือถือให้ดู ไม่ยอมให้โทรหาใคร ไม่ยอมให้ใช้เน็ต (ตอนแรกกะว่าจะเปิด facebook ให้ดูรูปตั้งแต่เริ่มคบกันเลยเพราะมีเวลากำกับไว้)

จุด Peak คือ คนก่อนหน้าที่เข้าห้องเป็นผู้ชาย ยังไม่ได้ผ่านออกมาเช่นกัน (แฟนเข้าไปก็เจอเค้าแล้ว) และ Peak สุดคือ คู่สามีภรรยา ก่อนหน้านั้นโดนส่งกลับทั้งคู่ แฟนบอกว่าหน้าเสียเลยทั้งคู่นั้นและตัวแฟนเอง

ก็ตอบคำถามเดิมๆ ไปมา เปลี่ยนคนมาคุยด้วยเรื่อยๆ สลับกับส่ง ตม. คนเดิมออกมาคุยกับผม สุดท้ายตอนเอาพาสปอร์ตผมไป ชี้ให้แฟนดูเลยแล้วถามว่า ตกลงเป็นพี่ชายหรือแฟน แฟนตอบไปเลยว่า "แฟนครับ" แล้วก็เหมือนกับผม ก็บอกว่าถ้าแฟนไม่กลับนะผมจะโดนลงโทษยังไง บลาๆๆ แล้วก็พาออกมา

**************** ได้เข้าเกาหลีในที่สุด *****************

สรุปจุดผิดที่เกือบไม่ได้เข้าเกาหลีนะครับ
1. เอกสารเตรียมไปไม่พร้อม มีเท่าไรขนไปเลย ถ่ายไปให้ทุกคนในทริป ไม่ใช้เด๋วออกจาก ตม. ค่อยทิ้ง
2. บัตรต่างๆ (เค้าถามหาบัตรพนักงาน ผมไม่ได้เอาไป ก็ไม่ได้คิดว่าไปเที่ยวจะเอาไป T_T)
3. ข้อมูลเกี่ยวกับตัวเราและเพื่อนร่วมทริป บอกความจริงไปเลย เค้าเข้าใจง่ายนะ แม้หน้าตาจะดูเหมือนไม่ยอมเข้าใจอะไรเลย
4. ตอบให้ตรงกัน ถ้าตรงกันหมดก็ไม่มีอะไรสงสัยเท่าไร

พอเข้าเกาหลีมาได้เจ้าของเกสเฮ้าส์บอกว่า คนไทยโดนเยอะเพราะช่วงหลัง หนีมาทำงานกัน มาตั้งรกรากที่นี่ตั้งเป็นหมู่บ้านคนไทยไปเลย นักท่องเที่ยวจริงๆ เลยลำบากไปด้วย

ปล. ตม. เกาหลี หน้านิ่งมาก เสียงดัง แต่ถ้าพูดดีๆ กับเค้าเหมือนจะเสียงเบาลง พอสุดท้ายตอนให้เข้าเกาหลีแล้วมียิ้มให้ด้วยนะ ... ก่อนหน้านี้คืออะไร คิดว่าจะฆ่ากันซะละ

********* ไว้มาเล่าเรื่องการเที่ยวเพิ่มเติมนะครับ พักแปบ ***********

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่