ผมเพิ่งเข้าออกจีนทางด่านลาวไก (เวียดนาม)-เหอโขว่(จีน) มาเมื่อไม่กี่วันมานี้ มีเรื่องอยากจะเล่าและเตือนคนที่จะเข้า-ออกด่านนี้
ขาเข้าจีนผมก็เข้าแถวตามปกติ พอถึงคิวผมพอเขาเห็นว่าเป็นพาสปอร์ตไทยยังไม่ได้ถามอะไรเลยก็กวักมือเรียกให้เข้าห้องพิเศษ ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไรมากนึกว่าเป็นบริการพิเศษสำหรับคนไทยเสียอีก (555) แต่พอซักไซ้ไล่เลียงแล้วนี่มันเข้าห้องเย็นนี่หว่า !!!
แต่ขอชมว่า ตม ที่มาซักข้อมูลสุภาพเรียบร้อยมากกก เขาถามเป็นภาษาอังกฤษ บางคำเขาพูดไม่ได้ก็ใช้แอปแปลภาษาช่วย เริ่มต้นคำถามว่า
จะไปทำอะไรที่จีน
ไปกี่วัน ไปเมืองไหนบ้าง
พักแต่ละเมืองกี่วัน มีใบจองโรงแรมไหม (เขาสนใจวันแรกกับวันสุดท้าย)
มีแผนการท่องเที่ยวไหม
ทำงานอะไร (ที่เมืองไทย)
ที่งงคือ นับถือศาสนาอะไร (มันเกี่ยวไหมเนี่ย)
บังเอิญโชคดีที่ผมเป็นคนวางแผนการท่องเที่ยวเองจึงตอบได้หมด (ส่วนพี่สาวเป็นผู้ติดตามอย่างเดียวไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรมากนัก ดีที่เขาไม่ได้ซัก) เขาซักไซร้รายละเอียดจนพอใจแล้วก็ปล่อยเข้าเมือง
มางงอีกรอบตอนขากลับจากจีนเพื่อที่จะไปเที่ยวต่อที่ ซาปา (เวียดนาม) คราวนี้เป็น ตม ผู้หญิงพูดภาษาอังกฤษได้ ยังจะมาซักข้อมูลเพิ่มอีกเพื่อ ... เขาถามผมว่า
คุณไม่มีวีซ่าเข้าเวียดนามเหรอ
ออกจากจีนแล้วคุณจะไปเที่ยวที่ไหนต่อ (จำเป็นต้องถามด้วยเหรอ) ผมเริ่มไม่ค่อยพอใจขึ้นมาแล้วจึงตอบแบบห้วนๆไปว่าคุณไม่รู้เหรอว่าภายในกลุ่มอาเซียนสมาชิกแต่ละชาติจะได้รับยกเว้นวีซ่า !!! ตอบถึงตรงนี้เสร็จ ตม.คนที่พาผมเข้าห้องเย็นขาเข้าจีนก็ปรากฏตัวมายืนยันว่าคนไทยเข้าเวียดนามไม่ต้องใช้วีซ่าจริง เขาเลยปล่อยผมให้ออกจากจีนได้
หลังจากที่ผมผ่านออกจากจีนได้แล้ว พี่สาวผมและน้องคนไทยอีก 2 คนก็ถูกซักไซร้กันพอหอมปากหอมคอ แต่ก็ผ่านไปได้ทุกคน
สรุป
คนไทยถ้าจะเข้า-ออกด่านนี้จะต้องเตรียมข้อมูล หลักฐานทุกอย่างโดยเฉพาะใบจองโรงแรมในคืนวันแรกและสุดท้ายในจีนให้ครบถ้วน หากเขาปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศนี่เรื่องใหญ่เลยแหละ อะไรๆที่จองมาล่วงหน้าก็จะเสียเปล่าเลยนะครับ
เข้าจีนทางด่าน Lao Cai - Hekou
ขาเข้าจีนผมก็เข้าแถวตามปกติ พอถึงคิวผมพอเขาเห็นว่าเป็นพาสปอร์ตไทยยังไม่ได้ถามอะไรเลยก็กวักมือเรียกให้เข้าห้องพิเศษ ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไรมากนึกว่าเป็นบริการพิเศษสำหรับคนไทยเสียอีก (555) แต่พอซักไซ้ไล่เลียงแล้วนี่มันเข้าห้องเย็นนี่หว่า !!!
แต่ขอชมว่า ตม ที่มาซักข้อมูลสุภาพเรียบร้อยมากกก เขาถามเป็นภาษาอังกฤษ บางคำเขาพูดไม่ได้ก็ใช้แอปแปลภาษาช่วย เริ่มต้นคำถามว่า
จะไปทำอะไรที่จีน
ไปกี่วัน ไปเมืองไหนบ้าง
พักแต่ละเมืองกี่วัน มีใบจองโรงแรมไหม (เขาสนใจวันแรกกับวันสุดท้าย)
มีแผนการท่องเที่ยวไหม
ทำงานอะไร (ที่เมืองไทย)
ที่งงคือ นับถือศาสนาอะไร (มันเกี่ยวไหมเนี่ย)
บังเอิญโชคดีที่ผมเป็นคนวางแผนการท่องเที่ยวเองจึงตอบได้หมด (ส่วนพี่สาวเป็นผู้ติดตามอย่างเดียวไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรมากนัก ดีที่เขาไม่ได้ซัก) เขาซักไซร้รายละเอียดจนพอใจแล้วก็ปล่อยเข้าเมือง
มางงอีกรอบตอนขากลับจากจีนเพื่อที่จะไปเที่ยวต่อที่ ซาปา (เวียดนาม) คราวนี้เป็น ตม ผู้หญิงพูดภาษาอังกฤษได้ ยังจะมาซักข้อมูลเพิ่มอีกเพื่อ ... เขาถามผมว่า
คุณไม่มีวีซ่าเข้าเวียดนามเหรอ
ออกจากจีนแล้วคุณจะไปเที่ยวที่ไหนต่อ (จำเป็นต้องถามด้วยเหรอ) ผมเริ่มไม่ค่อยพอใจขึ้นมาแล้วจึงตอบแบบห้วนๆไปว่าคุณไม่รู้เหรอว่าภายในกลุ่มอาเซียนสมาชิกแต่ละชาติจะได้รับยกเว้นวีซ่า !!! ตอบถึงตรงนี้เสร็จ ตม.คนที่พาผมเข้าห้องเย็นขาเข้าจีนก็ปรากฏตัวมายืนยันว่าคนไทยเข้าเวียดนามไม่ต้องใช้วีซ่าจริง เขาเลยปล่อยผมให้ออกจากจีนได้
หลังจากที่ผมผ่านออกจากจีนได้แล้ว พี่สาวผมและน้องคนไทยอีก 2 คนก็ถูกซักไซร้กันพอหอมปากหอมคอ แต่ก็ผ่านไปได้ทุกคน
สรุป
คนไทยถ้าจะเข้า-ออกด่านนี้จะต้องเตรียมข้อมูล หลักฐานทุกอย่างโดยเฉพาะใบจองโรงแรมในคืนวันแรกและสุดท้ายในจีนให้ครบถ้วน หากเขาปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศนี่เรื่องใหญ่เลยแหละ อะไรๆที่จองมาล่วงหน้าก็จะเสียเปล่าเลยนะครับ