เที่ยวเวียดนามกลางด้วยตัวเองครั้งแรก 6 วัน 4 คืน

สวัสดีครับ วันนี้ก็จะมาแชร์ประสบการณ์เที่ยวเวียดนามกลางด้วยตัวเอง 6 วัน 4 คืนนะครับ เป็นการเขียนกระทู้การท่องเที่ยวครั้งแรกของผมนะครับ
หาดผิดพลาดขออภัยมา ณ ที่นี้นะครับ เรื่องของค่าใช้จ่ายไม่ได้บันทึกไว้ละเอียดนะครับผม แต่ค่าใช้จ่ายสำหรับเดินทางจะแจ้งราคาให้ทราบครับ
การเดินทางจะเป็นการเดินทางด้วยรถบัสในขาไปและขากลับจะกลับด้วยเครื่องบิน
โดยแพลนการเดินทางมีดังนี้ครับ

กรุงเทพ - มุกดาหาร - สะหวันนะเขต - ด่านสะหวัน - เว้ - ดานัง - กรุงเทพ

วันที่ 1 (14/03/2568) กรุงเทพ - มุกดาหาร
การเดินทางเป็นไปตามแพลน (มั้ง)

ผมเริ่มเดินทางจากสถานีเดินรถนครชัยแอร์ที่กรุงเทพไปมุกดาหาร เดินจากออกจากกรุงเทพเวลา 19.41 นาฬิกา และไปถึงบขส มุกดาหาร 05.40 ครับ
ภายในรถนครชัยแอร์ก็ค่อนข้างดี มีอาหารให้ รวมถึงมีแจกขนมและน้ำ



การเดินทางก็ดูจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อยตลอดทาง แต่ทว่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ก็ตามที่เห็นเลยครับ เกิดอุบัติเหตุรถชนบนถนนมิตรภาพ ช่วงบริเวณจังหวัดนครราชสีมา ทำให้การเดินทางของเราล่าช้า จนไม่รู้ว่าจะถึง
ปลายทางที่จังหวัดมุกดาหารเมื่อได้ หวังเพียงว่าจะเดินทางให้ทันที่รถบัสจากสะหวันนะเขตจะไปเว้ เพราะมีเพียงเที่ยวเดียวต่อวัน และเวลาออกก็
แสนจะเช้า ที่ 08.00 นาฬิกา

วันที่ 2 (15/03/2568) มุกดาหาร - สะหวันนะเขต - ด่านสะหวัน - เว้
การเดินทางที่ตามแพลนตลอดไม่มีจริง แต่การด้นสดที่ยั้งยืนยงจะช่วยเราได้
และได้พานพบกับ Signature ของเวียดนามด้วยตัวเอง

เมื่อผมมาถึงที่บขส.มุกดาหาร เวลานั่นก็ล่วงเลยไปที่ 07.00 นาฬิกา ก็รับรู้ได้ในระดับนึงว่า โอกาสที่จะตกรถสะหวันนะเขตไปเว้มีสูงมาก
แต่ไหนๆแล้วยังไม่แปดโมงเช้า ก็ต้องลองซักตั้ง เลยจ้างรถสามล้อไปที่ด่านชายแดนด้วยราคา 200 บาท แต่เมื่อถึงที่ด่านชายแดน
เมื่อเจ้าหน้าที่แจ้งว่า รถจากมุกดาหารจะถึงด่านเพื่อไปสะหวันนะเขตจะมาอีกทีเวลา 08.00 นาฬิกา นั่นแปลว่า

เราตกรถจากสะหวันนะเขตไปเว้แล้วแน่นอน แบบ 100 %

ยังไงก็ตามครับ เรายังคงเดินทางต่อจากด่านชายดานที่มุกดาหารมุ่งสู่เมืองสะหวันนะเขต โดยหวังว่าแผนสำรองที่จะนั่งรถจากสะหวันนะเขตไป
ด่านสะหวัน (ด่านชายแดนลาว - เวียดนาม) จะไม่ล่มเช่นรถจากสะหวันนะเขตไปเว้ที่เราพลาดมา ซึ่งยังดีครับที่รถจากสะหวันนะเขตไปด่านสะหวัน
ยังไม่ออกตอนที่ผมถึงสถานีรถบัสสะหวันนะเขต รถออก 10.00 นาฬิกา ทำให้เราพอมีเวลาให้พอหายใจและซื้อเสบียงตุนไว้สำหรับการเดินทาง
อันแสนยาวนานในวันนี้ ที่ต้องเดินทาง 3 ประเทศในวันเดียว คือ ไทย ลาว เวียดนาม




รูปช่วงที่เดินทางเข้ามาในเขตลาว



รถตู้ในภาพ คือคันที่พาเราไปที่ด่านสะหวัน สนนราคาอยู่ที่ 150000 กีบ หรือ 250 บาท ตามอัตราแลกเปลี่ยนเงินขณะนั้น



รูประหว่างเดินทางจากสะหวันนะเขตไปด่านสะหวัน ผมไม่ได้ถ่ายไว้นะครับ สาเหตุก็มาจาก

หลับตลอดทางครับ

คือมันเหนื่อยสะสมจากการเดินทางตั้งแต่ขา กรุงเทพ - มุกดาหารแล้วแหละครับ ในรถบัสก็หลับๆตื่นๆ เลยไม่ค่อยสดชื่นเท่าไหร่ในวันที่ 2

เอาเป็นว่าขอ fast forward ไปที่ด่านสะหวันครับ

พอถึงด่านสะหวัน เหลือผมกับพี่ผู้โดยสารคนลาวอีก 1 ท่าน ที่จะข้ามชายแดน เราเดินข้ามชายแดนไปด้วยกัน และเมื่อปั้มเอกสารออกจาก
ประเทศลาวและปั้มเอกสารเข้าประเทศเวียดนาม สิ่งที่ต้องทำต่อคือหารถต่อไปเว้ เผอิญว่าพี่คนลาวที่ข้ามชายแดนไปเวียดนามด้วยกัน
พูดภาษาเวียดนามได้ เลยทำให้การสื่อสารถามเจ้าหน้าที่เพื่อหารถต่อไปเว้ง่ายขึ้นเยอะครับ ต้องขอขอบคุณพี่ชาวลาวที่เป็นธุระในการช่วยถามหา
รถตู้จนได้รถตู้ไปเว้ ผมก็ไม่เคยคิดแหละครับตอนก่อนเดินทางว่า เราจะสามารถช่วยเหลือคนแปลกหน้าร่วมโลกที่เพิ่งเจอกันได้มากกว่านี้
ขอบคุณพี่คนลาวที่ทำให้คำว่า "มิตรภาพสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่"

รถตู้จากด่านสะหวันไปที่เว้ ราคาจะอยู๋ที่ 150000 ดอง ซึ่งผมไม่แน่ใจด้วยว่าราคานี้จะคงที่ด้วยหรือเปล่า ยังไงสมาชิกที่จะเดินทางด้วยเส้นทาง
ด่านสะหวันไปเว้ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมนะครับ แน่นอนอีกเช่นเคยว่าภาพบรรยากาศการเดินทางระหว่างทางก็ไม่ได้ถ่ายเช่นเดิม เพราะว่า

หลับครับ

ก่อนเดินทางผมก็ไม่ได้คิดหรอกครับว่า เดินทางมันจะเหนื่อยขนาดนี้ แต่โชคดีที่อายุผมยังไม่มาก (21 ปี) เลยยังไหวกับการเดินทางที่ไม่หยุดพักแบบนี้ครับ

ยังไงก็ตามรถตู้ที่นั่งมา ไม่ได้เข้าไปในตัวใจกลางเมืองเว้ แต่จอดห่างจากที่พักที่อยู่แถว Walking Street ประมาณ 7 กิโล จุดนี้แหละครับ

ผมโดนโกงค่ามอเตอร์ไซค์

เอาจริงๆก่อนเดินทาง ก็ศึกษาข้อมูลมาครับว่า สิ่งขึ้นชื่ออย่างนึงของเวียดนามจากการบอกเล่าต่อมาของผู้ที่ได้เคยเข้าไปสัมผัสด้วยตัวเองคือ
การโกงหรือโก่งราคาขึ้นนี่แหละครับ แต่ด้วยเวลาตอนนั้นที่เหนื่อย เลยตัดสินใจขึ้นรถมอไซค์รับจ้างไป โดยตกลงราคาที่ 100000 ดอง
ซึ่งถามว่าแพงว่าปกติมั้ย ผมคิดว่าแพงกว่า 2 เท่า แต่ก็ด้วยความเหนื่อยและอยากไปถึงที่พักไวๆ เพราะ ณ ตอนนั้นเวลาประมาณ 18.00 นาฬิกา

เมื่อถึงที่พัก จึงได้บังเกิดสถานการณ์การปะทะคำรมขึ้นมา ดังนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ฉะนั้น การเดินทางว่าเวียดนามในเวียดนาม ไม่ว่าจะยังไง เรียก GRAB เถอะครับ เพื่อความอุ่นใจ และอย่าให้ความเหนื่อยหรือความรู้สึกนำเหนือความคิด
มิเช่นนั้นแล้ว สมาชิกก็อาจจะประสบพบเจอเช่นเดียวกันกับผมครับ ยังโชคดีครับที่ผมปลอดภัยและเขาไม่ตามมาหาเรื่องต่อ

หลังจากนั้นก็เดินทางเข้าที่พักครับ จบการเดินทางสุดทรหด นั่งรถ 4 รอบ ใน 24 ชั่วโมง

พรุ่งนี้จะพยายามเขียนกระทู้ต่อให้จบนะครับ เพื่อไม่ให้อารมณ์ร่วมระหว่างการอ่านขาดหายไปครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่