เนื่องจากช่วงนี้เกิดดราม่า กินมาม่าเกาหลีในโลกโซลเซียวกันเยอะ กับตม.เกาหลี เลยอยากมาเเชร์ประสบการณ์บ้าง โดยส่วนตัวไปมาแล้ว3ครั้ง ล่าสุดไปมาเมื่อ21/9/59 ที่ผ่านมาไปคนเดียว ทั้ง 3 ครั้งที่ไปมา ไปเองล้วนๆๆไม่เกี่ยวกับทัวร์ จองตั๋ว ที่พัก แผนการเดินเดินทางเองทั้งหมด ครั้งแรกไปคนเดียว ครั้งที่2 พาเพื่อนไป(เพื่อนพึ่งเดินทางต่างประเทศครั้งแรก) ครั้งที่3ไปคนเดียว
เท่าที่สังเกตุดูดูระหว่างรอต่อแถวผ่าน ตม.เกาหลี มีทั้วคนไทยและชาติอื่นๆที่ถูกปฏิเสธและเชิญไปอีกยังห้องๆหนึ่งเยอะเหมือนกัน
ลักษณะการทำงานของ ตม เกาหลีคือ
1.ดูพาสปอร์ต และสแกนในเครื่อง
2.สแกนนิ้ว และสอบถาม (ถ้าตอบไม่ได้หรือท่าทางมีพิรุทเขาก็เชิญเข้าห้อง) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคนที่ถูกเชิญไปจะได้สแกนนิ้วก่อนทุกคน เหลือแค่ขั้นตอนสุดท้ายคือปั้มให้ผ่านเข้าเมืองเท่านั้น
เพราะฉะนั้นเห็นหลานคนบอกสแกนแล้วไม่ให้ผ่านหมายความว่าไง ไม่ต้องแปลกใจเพราะเขาสแกนทุกคน เท่าที่สักเกตุดูนะ
สาเหตุหลักๆที่ไม่ผ่าน (ความคิดเห็นส่วนตัว+การสังเกตุดูระหว่างรอ)
1.การแต่งตัว เช่น บ้านเขาไม่ใช่ฤดูหนาว แต่คุณแต่งตัวไปแบบฤดูหนาว มันไม่เข้าพวก ดูน่าสงสัย เข้าใจว่าคุณจัดเต็มแต่มันไม่เข้าพวก เพราะฉะนั้นกรุณาดู อากาศบ้านเขาด้วย
ยังอยู่ที่การแต่งตัว แฟชั่นการแต่งตัวไม่แมทชิ่งกัน คือ เสื้อแดงกางเกงน้ำเงินกระเป๋าเขียวอะไรประมาณนี้ เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ไม่เเมทกันสักอย่าง (ถ้าคุณแยกออกระหว่างคนไทยกับพม่าฉันท์ใด ตม.เกาหลีก็ดูเราออกฉันท์นั้น)
ที่เราพูดถึงการแต่งตัวเยอะ เพราะเราสังเกตุดูแล้วว่ามันมีผลจริงๆ คนที่โดนเรียกไป80%เราในฐานะนักท่องเที่ยวเรายังคิดเลยว่าเขาไม่ได้มาเที่ยวแน่ๆ เพราะจากลักษณะการแต่งตัว แต่งหน้าทำผม มันไม่ได้จริงๆ
2.ไหนๆก็พูดถึง หน้า ผม แล้ว ก็อย่าแต่หน้าจัดเต็มไปมากสำหรับผู้หญิง เพราะมันดูเยอะเกินงาม เอาแบบๆใสๆพอ
3.รอยยิ้มและการสบตา ยิ้มสยามเรานี้แหระช่วยได้ บวกความมั่นใจเข้าไว้ ถ้าเราไม่ได้ทำอะไรผิด เรามาเที่ยวจริงๆ เราจะมีความมั่นใจ กล้าที่จะสบตาและยิ้ม มันใช้ได้จริงๆ เราทำมาแล้วและทุกครั้ง ไม่ลอกแลก หรือทำให้เขารู้ว่าเรากำลังกลัว
3.ภาษาควรจะได้บ้าง ในประโยคพื้นฐาน
4.เงิน ให้คำนวนให้พอดีกับจำนวนวัน และ กันไว้อีกส่วนสำหรับฉุกเฉิน บัตรเครดิต เดบิต ควรจะมี และไม่ควรฝากเงินไว้กับคนอื่น
5.เอกสารรับรองการทำงาน เอกสารรับรองรายได้ นามบัตร เอกสารการจองที่พัก แผนการท่องเที่ยว ใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล เป็นภาษาอังกฤษ
ข้อ 4,กับข้อ 5 ให้เตรียมไว้เผื่อเจ้าหน้าที่ ตม เขาขอดูจะได้ยืนยันตัวเราเองได้
สำหรับตัวเรา เราเตรียมไปทุกครั้ง แต่ไม่เคยได้ใช้ เคยถูกถามแค่ครั้งเดียว คือครั้งแรกที่ไปเกาหลี นอกนั้นไม่ถาม มองหน้าปั้มผ่าน กับประโยคที่ว่า welcome to Korea ตลอด
ส่วนคำถามที่เราเจอก็
1.) What are you doing here?
2.)How long will you be staying?
3.)Where will you be staying?
4.)Are you travelling alone?
แค่นี้เป็นคำถามง่ายๆ
แต่น่าแปลกใจไม่เคยเห็นกระทู้ติ่งเกาหลี หรือคนที่ไปตามนักร้องดาราที่ชอบไม่ผ่านสักคนเลยเนอะ น่าแปลกทำไมพวกเขาผ่านได้ตลอด ทั้งๆที่คนไทยเหมือนกัน ต่างกันแค่คนที่บอกว่าจะไปเที่ยวแต่โดนกักตัว
ทั่งนี้ทั่งนั้นก็ขอให้ทุกคนที่ตั้งใจไปเที่ยวจริงๆโชคดี
ว่าด้วยตม.เกาหลี
เท่าที่สังเกตุดูดูระหว่างรอต่อแถวผ่าน ตม.เกาหลี มีทั้วคนไทยและชาติอื่นๆที่ถูกปฏิเสธและเชิญไปอีกยังห้องๆหนึ่งเยอะเหมือนกัน
ลักษณะการทำงานของ ตม เกาหลีคือ
1.ดูพาสปอร์ต และสแกนในเครื่อง
2.สแกนนิ้ว และสอบถาม (ถ้าตอบไม่ได้หรือท่าทางมีพิรุทเขาก็เชิญเข้าห้อง) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคนที่ถูกเชิญไปจะได้สแกนนิ้วก่อนทุกคน เหลือแค่ขั้นตอนสุดท้ายคือปั้มให้ผ่านเข้าเมืองเท่านั้น
เพราะฉะนั้นเห็นหลานคนบอกสแกนแล้วไม่ให้ผ่านหมายความว่าไง ไม่ต้องแปลกใจเพราะเขาสแกนทุกคน เท่าที่สักเกตุดูนะ
สาเหตุหลักๆที่ไม่ผ่าน (ความคิดเห็นส่วนตัว+การสังเกตุดูระหว่างรอ)
1.การแต่งตัว เช่น บ้านเขาไม่ใช่ฤดูหนาว แต่คุณแต่งตัวไปแบบฤดูหนาว มันไม่เข้าพวก ดูน่าสงสัย เข้าใจว่าคุณจัดเต็มแต่มันไม่เข้าพวก เพราะฉะนั้นกรุณาดู อากาศบ้านเขาด้วย
ยังอยู่ที่การแต่งตัว แฟชั่นการแต่งตัวไม่แมทชิ่งกัน คือ เสื้อแดงกางเกงน้ำเงินกระเป๋าเขียวอะไรประมาณนี้ เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ไม่เเมทกันสักอย่าง (ถ้าคุณแยกออกระหว่างคนไทยกับพม่าฉันท์ใด ตม.เกาหลีก็ดูเราออกฉันท์นั้น)
ที่เราพูดถึงการแต่งตัวเยอะ เพราะเราสังเกตุดูแล้วว่ามันมีผลจริงๆ คนที่โดนเรียกไป80%เราในฐานะนักท่องเที่ยวเรายังคิดเลยว่าเขาไม่ได้มาเที่ยวแน่ๆ เพราะจากลักษณะการแต่งตัว แต่งหน้าทำผม มันไม่ได้จริงๆ
2.ไหนๆก็พูดถึง หน้า ผม แล้ว ก็อย่าแต่หน้าจัดเต็มไปมากสำหรับผู้หญิง เพราะมันดูเยอะเกินงาม เอาแบบๆใสๆพอ
3.รอยยิ้มและการสบตา ยิ้มสยามเรานี้แหระช่วยได้ บวกความมั่นใจเข้าไว้ ถ้าเราไม่ได้ทำอะไรผิด เรามาเที่ยวจริงๆ เราจะมีความมั่นใจ กล้าที่จะสบตาและยิ้ม มันใช้ได้จริงๆ เราทำมาแล้วและทุกครั้ง ไม่ลอกแลก หรือทำให้เขารู้ว่าเรากำลังกลัว
3.ภาษาควรจะได้บ้าง ในประโยคพื้นฐาน
4.เงิน ให้คำนวนให้พอดีกับจำนวนวัน และ กันไว้อีกส่วนสำหรับฉุกเฉิน บัตรเครดิต เดบิต ควรจะมี และไม่ควรฝากเงินไว้กับคนอื่น
5.เอกสารรับรองการทำงาน เอกสารรับรองรายได้ นามบัตร เอกสารการจองที่พัก แผนการท่องเที่ยว ใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล เป็นภาษาอังกฤษ
ข้อ 4,กับข้อ 5 ให้เตรียมไว้เผื่อเจ้าหน้าที่ ตม เขาขอดูจะได้ยืนยันตัวเราเองได้
สำหรับตัวเรา เราเตรียมไปทุกครั้ง แต่ไม่เคยได้ใช้ เคยถูกถามแค่ครั้งเดียว คือครั้งแรกที่ไปเกาหลี นอกนั้นไม่ถาม มองหน้าปั้มผ่าน กับประโยคที่ว่า welcome to Korea ตลอด
ส่วนคำถามที่เราเจอก็
1.) What are you doing here?
2.)How long will you be staying?
3.)Where will you be staying?
4.)Are you travelling alone?
แค่นี้เป็นคำถามง่ายๆ
แต่น่าแปลกใจไม่เคยเห็นกระทู้ติ่งเกาหลี หรือคนที่ไปตามนักร้องดาราที่ชอบไม่ผ่านสักคนเลยเนอะ น่าแปลกทำไมพวกเขาผ่านได้ตลอด ทั้งๆที่คนไทยเหมือนกัน ต่างกันแค่คนที่บอกว่าจะไปเที่ยวแต่โดนกักตัว
ทั่งนี้ทั่งนั้นก็ขอให้ทุกคนที่ตั้งใจไปเที่ยวจริงๆโชคดี