เริ่มเรื่องเลยล่ะกัน เราเป็นผู้หญิงไทยปกติบ้านๆนี้แหละอายุ26เรามีแฟน เรากับแฟนยังไม่ได้แต่งงานกันแต่เราคบกันมาตั้งแต่เราอายุ22ตอนนี้ก็4ปีกว่าแล้ว ตอนนี้เราก็อยู่บ้านของแฟน
แฟนเราอยู่บ้านที่มีจำนวนคนทั้งหมด4คน พ่อ แม่ แฟน และน้องของแฟน
เรามีแฟนคนนี้คนแรกและก็ไม่แน่ใจว่าคนอื่นๆที่อยู่ในฐานะลูกสะใภ้เหมือนกับเราจะเจอปัญหาเดียวกันกับเราไหม
ตอนนี้ทางบ้านแฟนเรากำลังมีโครงการจะซื้อบ้านซึ่งพ่อและแม่เค้าตกลงที่จะซื้อสองหลัง เค้าให้สาเหตุว่า หลังเดียวอยู่กันไม่พอ อีกอย่างอยากให้เรากับแฟนมีบ้านเป็นของตัวเอง ก็จะให้เราและแฟนรับหน้าที่ซื้อและผ่อนบ้านอีกหลังหนึ่ง เราก็รับฟังปกติและก็มาปรึกษากับแฟนก็ตกลงที่จะซื้อเพราะเราก็พอมีเงินที่จะผ่อนและสร้างครอบครัว แต่เราขอให้บ้านเป็นชื่อของเราเพราะเราจะได้มีหลักประกันชีวิตอีกอย่างเราเป็นคนออกเงินในเรื่องบ้านทุกอย่างเราก็อยากให้มันเป็นชื่อของเรา เพราะตอนนี้แฟนเราผ่อนรถเก๋ง1คันและให้พ่อแม่น้องเขาอีกทุกๆเดือน มีภาระผ่อนเกี่ยวกับหนี้สินของแม่เขาอีกหลายอย่าง แต่เราไม่อยากยุ่ง เพราะมันคือเรื่องส่วนตัวของเขา เดือนๆหนึ่งแทบจะไม่เหลือเงิน เงินที่ใช้กินทุกๆวันก็คือเงินของเรา และถ้าจะไปผ่อนบ้านก็ต้องเป็นเงินของเราอยู่ดี
เรากับแฟนก็ตกลงกันได้แบบไม่มีปัญหาอะไรกัน เพราะเราใช้เหตุและผลมาคุยกัน
จนตอนนี้ก็ซื้อบ้านเรียบร้อยแล้ว กำลังย้ายเข้าไปอยู่และต่อเติมนิดๆหน่อยๆตามแบบที่เราคิดเอาไว้แล้ว
เราคิดว่าปัญหามันจะจบแค่เรื่องชื่อเจ้าบ้าน..........แต่ปล่าวเลยค่ะ
ปัญหามันมาเกิดตอนที่แม่ของแฟนเราบอกว่าจะเอาชั้นล่างของทั้งสองหลังทุบรวมเข้าด้วยกัน และทำเป็นร้านขายของ
และจะเอารั้วของโครงการออกทำเป็นที่ดินเดียว จะได้มีพื้นที่ใช้สอยเยอะๆ
เราไม่พอใจมากๆเพราะนั้นก็เป็นบ้านเรา ทำไมถึงต้องทุบรวม อีกอย่างเรากับแฟนยังไม่ได้แต่งงานกัน นั้นก็ถือว่านี้คือกรรมสิทธิ์ของเราที่เรามีสิทธิ์จะทำอะไรก็ได้ ไม่ใช่ให้เเม่เขามาคิดแทนเรา
เราก็แอบคิดว่าเราคิดมากไปหรือปล่าว แต่เรายอมไม่ได้จริงๆเพราะนั้นมันคือบ้าน มันควรเป็นสิทธิ์ของเจ้าของบ้าน
พอเราไม่ยอมแม่แฟนก็ทำท่าจะไม่พอใจ พูดเหมือนทวงบุญคุณที่เราอยู่บ้านเขามาตลอด เรายอมมาตลอดนะ ทั้งเอารถของเรา(รถกระบะของเราเองนะคะไม่ใช่รถเก๋งของแฟน)เอารถของเราไปรับจ้างขนนู้นนี้นั้นจนรถเป็นรอย แถมไม่เคยให้เงินค่ารถ เติมน้ำมันคืนให้เราเต็มที่นะ300จากที่เรามีเต็มถังตลอดเพราะเราเป็นคนที่ชอบเดินทางไปต่างจังหวัดบ้างเพราะงานเราไม่หยุดนิ่ง
น้องของแฟนก็เข้าไปเอาโน้ตบุ้คในห้องเรามาเล่นจนพังและบางครั้งก็แอบขโมยเงินเรา แต่เราก็ไม่เคยฟ้องแม่แฟนเลยสักครั้ง
งานบ้านทุกอย่างเราทำหมด บอกจากใจเลยว่าอาบน้ำทุกครั้งก็ขัดห้องน้ำทุกครั้ง ซักให้ยันกางเกงในของทุกคนในบ้าน เพราะปกติเราก็ทำให้พ่อกับแม่เรา
ตอนนี้เราหงุดหงิดมาก บ้านก็เงินของเรา ไหนจะเงินที่ต้องใช้จ่ายในทุกๆวันอีก ใช้กัน2คนนะไม่ใช่คนเดียว เพราะเงินของแฟนเราก็หมดไปกับการปลดหนี้สินของแม่เขาที่สร้างไว้ตั้งแต่สมัยไหนๆหลายที่มาก
มีใครเคยเจอปัญหาแบบเราบ้างคะ แล้วเราควรจะทำไงดี จะปล่อยเลยตามเลยหรือจะใจแข็งยืนยันว่าไม่ยอมเหมือนเดิม
แม่ผัว ลูกสะใภ้ ปัญหาใหญ่ของหญิงไทย
แฟนเราอยู่บ้านที่มีจำนวนคนทั้งหมด4คน พ่อ แม่ แฟน และน้องของแฟน
เรามีแฟนคนนี้คนแรกและก็ไม่แน่ใจว่าคนอื่นๆที่อยู่ในฐานะลูกสะใภ้เหมือนกับเราจะเจอปัญหาเดียวกันกับเราไหม
ตอนนี้ทางบ้านแฟนเรากำลังมีโครงการจะซื้อบ้านซึ่งพ่อและแม่เค้าตกลงที่จะซื้อสองหลัง เค้าให้สาเหตุว่า หลังเดียวอยู่กันไม่พอ อีกอย่างอยากให้เรากับแฟนมีบ้านเป็นของตัวเอง ก็จะให้เราและแฟนรับหน้าที่ซื้อและผ่อนบ้านอีกหลังหนึ่ง เราก็รับฟังปกติและก็มาปรึกษากับแฟนก็ตกลงที่จะซื้อเพราะเราก็พอมีเงินที่จะผ่อนและสร้างครอบครัว แต่เราขอให้บ้านเป็นชื่อของเราเพราะเราจะได้มีหลักประกันชีวิตอีกอย่างเราเป็นคนออกเงินในเรื่องบ้านทุกอย่างเราก็อยากให้มันเป็นชื่อของเรา เพราะตอนนี้แฟนเราผ่อนรถเก๋ง1คันและให้พ่อแม่น้องเขาอีกทุกๆเดือน มีภาระผ่อนเกี่ยวกับหนี้สินของแม่เขาอีกหลายอย่าง แต่เราไม่อยากยุ่ง เพราะมันคือเรื่องส่วนตัวของเขา เดือนๆหนึ่งแทบจะไม่เหลือเงิน เงินที่ใช้กินทุกๆวันก็คือเงินของเรา และถ้าจะไปผ่อนบ้านก็ต้องเป็นเงินของเราอยู่ดี
เรากับแฟนก็ตกลงกันได้แบบไม่มีปัญหาอะไรกัน เพราะเราใช้เหตุและผลมาคุยกัน
จนตอนนี้ก็ซื้อบ้านเรียบร้อยแล้ว กำลังย้ายเข้าไปอยู่และต่อเติมนิดๆหน่อยๆตามแบบที่เราคิดเอาไว้แล้ว
เราคิดว่าปัญหามันจะจบแค่เรื่องชื่อเจ้าบ้าน..........แต่ปล่าวเลยค่ะ
ปัญหามันมาเกิดตอนที่แม่ของแฟนเราบอกว่าจะเอาชั้นล่างของทั้งสองหลังทุบรวมเข้าด้วยกัน และทำเป็นร้านขายของ
และจะเอารั้วของโครงการออกทำเป็นที่ดินเดียว จะได้มีพื้นที่ใช้สอยเยอะๆ
เราไม่พอใจมากๆเพราะนั้นก็เป็นบ้านเรา ทำไมถึงต้องทุบรวม อีกอย่างเรากับแฟนยังไม่ได้แต่งงานกัน นั้นก็ถือว่านี้คือกรรมสิทธิ์ของเราที่เรามีสิทธิ์จะทำอะไรก็ได้ ไม่ใช่ให้เเม่เขามาคิดแทนเรา
เราก็แอบคิดว่าเราคิดมากไปหรือปล่าว แต่เรายอมไม่ได้จริงๆเพราะนั้นมันคือบ้าน มันควรเป็นสิทธิ์ของเจ้าของบ้าน
พอเราไม่ยอมแม่แฟนก็ทำท่าจะไม่พอใจ พูดเหมือนทวงบุญคุณที่เราอยู่บ้านเขามาตลอด เรายอมมาตลอดนะ ทั้งเอารถของเรา(รถกระบะของเราเองนะคะไม่ใช่รถเก๋งของแฟน)เอารถของเราไปรับจ้างขนนู้นนี้นั้นจนรถเป็นรอย แถมไม่เคยให้เงินค่ารถ เติมน้ำมันคืนให้เราเต็มที่นะ300จากที่เรามีเต็มถังตลอดเพราะเราเป็นคนที่ชอบเดินทางไปต่างจังหวัดบ้างเพราะงานเราไม่หยุดนิ่ง
น้องของแฟนก็เข้าไปเอาโน้ตบุ้คในห้องเรามาเล่นจนพังและบางครั้งก็แอบขโมยเงินเรา แต่เราก็ไม่เคยฟ้องแม่แฟนเลยสักครั้ง
งานบ้านทุกอย่างเราทำหมด บอกจากใจเลยว่าอาบน้ำทุกครั้งก็ขัดห้องน้ำทุกครั้ง ซักให้ยันกางเกงในของทุกคนในบ้าน เพราะปกติเราก็ทำให้พ่อกับแม่เรา
ตอนนี้เราหงุดหงิดมาก บ้านก็เงินของเรา ไหนจะเงินที่ต้องใช้จ่ายในทุกๆวันอีก ใช้กัน2คนนะไม่ใช่คนเดียว เพราะเงินของแฟนเราก็หมดไปกับการปลดหนี้สินของแม่เขาที่สร้างไว้ตั้งแต่สมัยไหนๆหลายที่มาก
มีใครเคยเจอปัญหาแบบเราบ้างคะ แล้วเราควรจะทำไงดี จะปล่อยเลยตามเลยหรือจะใจแข็งยืนยันว่าไม่ยอมเหมือนเดิม