สวัสดีค่ะ คือโดยปกติแล้วไม่ใช่คนที่ชอบบ่นนะคะ แต่ที่มาตั้งกระทู้นี้ก็เพื่อที่จะแชร์เรื่องราวที่ได้ไปพบเจอมา หรืออาจจะเรียกว่าระบายก็ได้ค่ะ ซึ่งกระทู้นี้ไม่ใช่กระทู้คำถามหรอกนะคะ แต่ จขกท ยังไม่ได้เป็นสมาชิกแบบเต็มตัวเลยตั้งได้แค่กระทู้คำถามค่ะ ขอโทษในจุดนี้ด้วยนะคะ
เรื่องมันมีอยู่ว่า จขกท เองเนี่ยเรียนที่มหาวิทยาลัยในภาคอีสานแห่งหนึ่ง โดยพักอยู่หอข้างในมหา'ลัย ยอมรับว่าพอได้เข้ามาอยู่ที่นี่ก็ค่อนข้างชอบไม่น้อยเลยค่ะ เพราะดูเป็นหอพักที่ดูเงียบสงบ สะอาด มีโรงอาหารและอาหารอร่อย ทุกอย่างดูโอเคและดีไปหมด..
จนกระทั่งวันหนึ่ง ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่า ในโรงอาหารมีร้านข้าวอยู่ 4 ร้าน โดยมีร้านอาหารตามสั่ง ร้านข้าวไข่เจียว ร้านข้าวราดแกง และร้านอาหารอีสาน โดยมี 2 ร้านที่ขายดีที่สุดนั่นคือร้านข้าวไข่เจียวและร้านอาหารตามสั่ง ซึ่งประเด็นมันอยู่ที่แม่ค้าร้านอาหารตามสั่งเค้าไม่ชอบร้านข้าวไข่เจียว เพียงเพราะว่าร้านนั้นเค้าขายดีกว่า คนไปกินเยอะกว่า -- แม่ค้าร้านอาหารตามสั่งจึงพลอย(พาล)ไม่ชอบเด็กที่ไปซื้อข้าวไข่เจียวบ่อยๆอีกด้วย
ข้อสังเกตที่เห็นได้ชัดคือ เวลาที่ร้านข้าวไข่เจียวมาเปิด ร้านอาหารตามสั่งจะปิด หรือไม่มาขายเลย จะมาขายอีกทีก็ต่อเมื่อร้านข้าวไข่เจียวปิด คือมีโอกาสน้อยมากที่ร้านทั้งสองจะเปิดขายพร้อมกัน ซึ่งเอาจริงๆแล้วร้านขายข้าวไข่เจียวนี่ไม่ได้อะไรกับร้านอาหารตามสั่งเลยนะคะ คือเค้าก็ขายของปกติไม่ได้คิดอะไร ไม่เหมือนแม่ค้าร้านอาหารตามสั่งที่คอยตามจิกลูกค้าร้านข้าวไข่เจียวตลอด
จขกท ก็เคยได้ยินมาจากเพื่อนค่ะว่า เวลาลูกค้าประจำของร้านข้าวไข่เจียวมาสั่งอาหารตามสั่งที่ร้านป้าทีไร ป้าจะชอบพูดเหน็บประมาณว่า ที่ร้านข้าวหมด หรืออาหารนั้นๆหมด ถ้าอยากกินข้าวให้ไปกินร้านข้าวไข่เจียวไป พอพูดจบก็เดินเชิดเข้าร้านไปตามระเบียบ ทำเอาคนนั้นที่ไปสั่งข้าวถึงกับอึ้ง ไม่คิดว่าป้าจะพูดแบบนี้ ทั้งๆที่ความจริงแล้วข้าวก็ไม่ได้หมดอะไร -- จากนั้นคนนั้นก็ไม่ไปกินร้านป้าคนนี้อีกเลย
ในตอนแรกที่ได้ฟังเพื่อนเล่าก็อึ้งเหมือนกันว่า เฮ้ย! ทำไมทำแบบนี้ ซึ่งนับตั้งแต่นั้นก็เริ่มสังเกตว่าป้าแกเป็นแบบนั้นจริงๆมั้ย ซึ่งในทุกครั้งที่เราไปสั่งอาหารร้านป้าตามสั่งแกมักจะบอกว่า ข้าวยังหุงไม่สุก ข้าวหมด เนื้อปลา เนื้อไก่หมด บลาๆๆ แต่ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไร เพราะคิดว่าคงหมดจริงๆแหละ แต่ว่าพอนานเข้าเวลา จขกท กับเพื่อนไปสั่งข้าวทีไรไม่เคยได้กินสักที ป้าแกมีแต่อ้างว่า หมด หมด หมด พอได้ยินแบบนี้ก็โอเค ไม่กินก็ได้ แต่ประเด็นคือ พอคนอื่นมาสั่งกลับได้ข้าวตามที่สั่งซะงั้น คือสรุปป้าคงไม่อยากขายให้พวกเรา จขกท เลยเริ่มที่จะไม่ไปสั่งร้านนั้นอีก และไปกินข้าวไข่เจียวแทน
ขอบอกก่อนเลยว่า ร้านข้าวไข่เจียวเนี่ย แม่ค้า พ่อค้า น่ารักมากกกกก ข้าวไข่เจียวหมูสับจานละ 20 บาทเเถมยังเพิ่มข้าวได้ด้วย คือได้เยอะมากๆ จนบางทีก็กินไม่หมดด้วยซ้ำ รวมถึงร้านนี้ยังใจดีมากๆอีกด้วย คือเป็นมิตรกับลูกค้าอ่ะ (ต่างจากร้านป้าตามสั่งอย่างลิบลับ 🙄)
วกกลับมาที่เรื่องร้านป้าตามสั่งต่อ เรื่องเกิดขึ้นในวันนี้เลย คืออาทิตย์ที่แล้วเป็นช่วงสงกรานต์ ร้านอาหารก็ปิดกลับบ้านหมด บางร้านจะกลับมาขายวันที่ยี่สิบกว่าๆ แต่คือวันนี้ร้านป้าตามสั่งมาเปิดร้านเดียว ประกอบกับ จขกท และเพื่อนอีก 2 ชีวิตหิวมากๆ เลยไปสั่งร้านป้าตามสั่ง พร้อมทั้งคิดในใจว่า คงได้กินบ้างแหละ มันคงไม่หมดบ่อยอะไรขนาดนั้นหรอก
พอเดินไปถึงร้านกับเพื่อนอีกสองคน กำลังจะเขียนรายการอาหาร ป้าเดินออกมามองหน้าพวกเราสามคนพร้อมทั้งพูดว่า "ข้าวยังหุงไม่สุกค่ะ" เราสามคนก็เลยมองหน้ากัน พร้อมคิดในใจว่า "อีกละ.." เลยเปลี่ยนเมนูเป็นสุกี้แทน ป้ามองหน้า (ไม่สิ เรียกว่าจ้องขเม็งดีกว่า) พร้อมบอกว่า "น้ำจิ้มสุกี้หมด" แล้วพวกเราสามคนก็เลยมองหน้ากันอีกครั้ง ซึ่ง จขกท กำลังจะอ้าปากถามป้าตามสั่งพอดีว่า 'พอจะมีอะไรที่สั่งได้บ้างคะ' แต่ไม่ทัน ป้าสวนพูดขึ้นมาก่อนพร้อมกับน้ำเสียงประชดประชัน กระแนะกระแหนสุดๆ ป้าพูดว่า "ไม่สั่งก็ไม่เป็นไร ไม่ได้ว่าไร เพราะปกติก็กินร้านข้าวไข่เจียว" พูดจบก็สะบัดหน้าใส่พร้อมเดินเข้าครัว พวกเราสามคนยืนอึ้งกันอยู่ จากนั้นก็รีบเดินกลับไปที่โต๊ะ แล้วไปนั่งคุยกันกับเพื่อนคนอื่นๆเกี่ยวกับเรื่องนี้ทันที
จากที่ป้าบอกว่า ไม่สั่งไม่เป็นไรนี่ อย่ามาโกหกเลย เพราะถ้าไม่เป็นไรจริงๆ จะไปแขวะร้านข้าวไข่เจียวทำไม อีกอย่าง ไอ้คำว่า ไม่สั่ง เนี่ย คือพวกหนูสั่งไป ป้าก็บอกว่าหมดๆ ไอ้นั่นไอ้นี่ไม่มี แล้วพวกหนูจะสั่งอะไรได้อ่ะป้า? ป้าพูดออกมาแบบนี้มันใช่เหรอ? คือพวกหนูไม่ได้ไปขอข้าวป้ากินฟรีเลยนะ ปฏิเสธลูกค้าด้วยตรรกะแบบนี้ป้าจะขายได้อีกนานเท่าไหร่? ป้าไม่ง้อลูกค้า โอเคไม่เป็นไร ไม่ได้อยากให้ง้ออะไรหรอก ไม่อยากขายก็ไม่อยากซื้อเหมือนกัน แต่ถ้าหากว่าป้าทำแบบนี้กับลูกค้าคนอื่นๆอีก สักวันลูกค้าร้านป้าจะร่อยหรอลง และอาจจะไม่เหลือเลยก็ได้ ถ้าป้ายังคงพูดจากระแนะกระแหนลูกค้าอยู่.. เอาจริงๆ ความเป็นมิตรกับลูกค้าป้าแทบจะเท่าหางอึ่งเลยแหละ (ขออภัยถ้าหากเปรียบเทียบรุนแรงเกินไป) ป้าจะขายของให้แต่ลูกค้าที่ซื้อแต่ร้านป้าเท่านั้นเนี่ยนะ? พอพวกเค้าเหล่านั้นเปลี่ยนไปกินข้าวไข่เจียว ป้าก็จะไม่ขายให้เลย อ้างโน่นอ้างนี่ว่าหมด จขกท ก็ไม่มั่นใจเหมือนกันว่าหมดจริงมั้ย แต่หมดบ่อยทุกครั้งที่ไปสั่งเลยเนี่ย มันก็เกินไปจริงๆนะ --
แค่นั้นยังไม่จบ พอกลับมาที่โต๊ะ ก็เล่าให้เพื่อนฟัง จากนั้นเพื่อนก็ไปซื้อข้าวในร้านสะดวกซื้อแทน ซึ่งตอนที่เดินผ่านร้านป้านะ เห็นคนอื่นไปสั่งก็ยังได้ข้าวปกติ สั่งอะไรก็ได้กิน ไม่มีอะไรหมด..
คือพอมาคิดๆดูแล้วก็รู้สึกตลกชะมัด ที่ผ่านมาไปสั่งอาหารร้านป้าไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แต่ก็ไม่เคยได้กินเลย พอมาวันนี้ โอเค เข้าใจแจ่มแจ้งเลย จริงๆข้าวมันไม่ได้หมดหรอก ป้าแค่ไม่อยากขายให้เท่านั้นเอง... ก็ไม่เป็นไร พวกเราได้เรียนรู้แล้วว่าไม่ควรไปสั่งข้าวร้านป้าอีก..
ข้อความทั้งหมดที่ จขกท ได้พิมพ์มา เป็นประสบการณ์จริง 1,000,000% ไม่มีดัดแปลงหรือใส่สีตีไข่ เพราะ จขกท ก็ไม่รู้จะทำแบบนั้นไปทำไม ยังไงซะความจริงก็คือความจริง
แต่ จขกท ต้องขออภัยหากข้อความที่ จขกท พิมพ์ ทำให้คนอ่านรู้สึกไม่ดีในการใช้ภาษา หรือบางข้อความอาจจะพิมพ์ด้วยอารมณ์ ถ้าหากว่ามันรุนแรงเกินไป ก็ต้องขอโทษด้วยค่ะ
ป.ล. จขกท ไม่รู้ว่าตื้นลึกหนาบางของร้านป้าตามสั่งกับร้านไข่เจียวเป็นอย่างไร แต่เท่าที่เคยเป็นลูกค้าทั้งสองร้าน ทำให้ทราบว่า ความเป็นมิตรและความเอาใจใส่ต่อลูกค้านั้นเป็นสิ่งที่สำคัญในการทำมาค้าขาย ยิ่งมีเยอะเท่าไหร่ คุณก็จะได้ใจลูกค้าเยอะมากเท่านั้น เพราะฉะนั้นแล้ว..เอาใจเขามาใส่ใจเราด้วยนะคะ
ขอบคุณค่ะ
เป็นอะไร ทำไมแม่ค้าร้านอาหารตามสั่งที่หอชอบจิกกัดลูกค้า?
เรื่องมันมีอยู่ว่า จขกท เองเนี่ยเรียนที่มหาวิทยาลัยในภาคอีสานแห่งหนึ่ง โดยพักอยู่หอข้างในมหา'ลัย ยอมรับว่าพอได้เข้ามาอยู่ที่นี่ก็ค่อนข้างชอบไม่น้อยเลยค่ะ เพราะดูเป็นหอพักที่ดูเงียบสงบ สะอาด มีโรงอาหารและอาหารอร่อย ทุกอย่างดูโอเคและดีไปหมด..
จนกระทั่งวันหนึ่ง ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่า ในโรงอาหารมีร้านข้าวอยู่ 4 ร้าน โดยมีร้านอาหารตามสั่ง ร้านข้าวไข่เจียว ร้านข้าวราดแกง และร้านอาหารอีสาน โดยมี 2 ร้านที่ขายดีที่สุดนั่นคือร้านข้าวไข่เจียวและร้านอาหารตามสั่ง ซึ่งประเด็นมันอยู่ที่แม่ค้าร้านอาหารตามสั่งเค้าไม่ชอบร้านข้าวไข่เจียว เพียงเพราะว่าร้านนั้นเค้าขายดีกว่า คนไปกินเยอะกว่า -- แม่ค้าร้านอาหารตามสั่งจึงพลอย(พาล)ไม่ชอบเด็กที่ไปซื้อข้าวไข่เจียวบ่อยๆอีกด้วย
ข้อสังเกตที่เห็นได้ชัดคือ เวลาที่ร้านข้าวไข่เจียวมาเปิด ร้านอาหารตามสั่งจะปิด หรือไม่มาขายเลย จะมาขายอีกทีก็ต่อเมื่อร้านข้าวไข่เจียวปิด คือมีโอกาสน้อยมากที่ร้านทั้งสองจะเปิดขายพร้อมกัน ซึ่งเอาจริงๆแล้วร้านขายข้าวไข่เจียวนี่ไม่ได้อะไรกับร้านอาหารตามสั่งเลยนะคะ คือเค้าก็ขายของปกติไม่ได้คิดอะไร ไม่เหมือนแม่ค้าร้านอาหารตามสั่งที่คอยตามจิกลูกค้าร้านข้าวไข่เจียวตลอด
จขกท ก็เคยได้ยินมาจากเพื่อนค่ะว่า เวลาลูกค้าประจำของร้านข้าวไข่เจียวมาสั่งอาหารตามสั่งที่ร้านป้าทีไร ป้าจะชอบพูดเหน็บประมาณว่า ที่ร้านข้าวหมด หรืออาหารนั้นๆหมด ถ้าอยากกินข้าวให้ไปกินร้านข้าวไข่เจียวไป พอพูดจบก็เดินเชิดเข้าร้านไปตามระเบียบ ทำเอาคนนั้นที่ไปสั่งข้าวถึงกับอึ้ง ไม่คิดว่าป้าจะพูดแบบนี้ ทั้งๆที่ความจริงแล้วข้าวก็ไม่ได้หมดอะไร -- จากนั้นคนนั้นก็ไม่ไปกินร้านป้าคนนี้อีกเลย
ในตอนแรกที่ได้ฟังเพื่อนเล่าก็อึ้งเหมือนกันว่า เฮ้ย! ทำไมทำแบบนี้ ซึ่งนับตั้งแต่นั้นก็เริ่มสังเกตว่าป้าแกเป็นแบบนั้นจริงๆมั้ย ซึ่งในทุกครั้งที่เราไปสั่งอาหารร้านป้าตามสั่งแกมักจะบอกว่า ข้าวยังหุงไม่สุก ข้าวหมด เนื้อปลา เนื้อไก่หมด บลาๆๆ แต่ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไร เพราะคิดว่าคงหมดจริงๆแหละ แต่ว่าพอนานเข้าเวลา จขกท กับเพื่อนไปสั่งข้าวทีไรไม่เคยได้กินสักที ป้าแกมีแต่อ้างว่า หมด หมด หมด พอได้ยินแบบนี้ก็โอเค ไม่กินก็ได้ แต่ประเด็นคือ พอคนอื่นมาสั่งกลับได้ข้าวตามที่สั่งซะงั้น คือสรุปป้าคงไม่อยากขายให้พวกเรา จขกท เลยเริ่มที่จะไม่ไปสั่งร้านนั้นอีก และไปกินข้าวไข่เจียวแทน
ขอบอกก่อนเลยว่า ร้านข้าวไข่เจียวเนี่ย แม่ค้า พ่อค้า น่ารักมากกกกก ข้าวไข่เจียวหมูสับจานละ 20 บาทเเถมยังเพิ่มข้าวได้ด้วย คือได้เยอะมากๆ จนบางทีก็กินไม่หมดด้วยซ้ำ รวมถึงร้านนี้ยังใจดีมากๆอีกด้วย คือเป็นมิตรกับลูกค้าอ่ะ (ต่างจากร้านป้าตามสั่งอย่างลิบลับ 🙄)
วกกลับมาที่เรื่องร้านป้าตามสั่งต่อ เรื่องเกิดขึ้นในวันนี้เลย คืออาทิตย์ที่แล้วเป็นช่วงสงกรานต์ ร้านอาหารก็ปิดกลับบ้านหมด บางร้านจะกลับมาขายวันที่ยี่สิบกว่าๆ แต่คือวันนี้ร้านป้าตามสั่งมาเปิดร้านเดียว ประกอบกับ จขกท และเพื่อนอีก 2 ชีวิตหิวมากๆ เลยไปสั่งร้านป้าตามสั่ง พร้อมทั้งคิดในใจว่า คงได้กินบ้างแหละ มันคงไม่หมดบ่อยอะไรขนาดนั้นหรอก
พอเดินไปถึงร้านกับเพื่อนอีกสองคน กำลังจะเขียนรายการอาหาร ป้าเดินออกมามองหน้าพวกเราสามคนพร้อมทั้งพูดว่า "ข้าวยังหุงไม่สุกค่ะ" เราสามคนก็เลยมองหน้ากัน พร้อมคิดในใจว่า "อีกละ.." เลยเปลี่ยนเมนูเป็นสุกี้แทน ป้ามองหน้า (ไม่สิ เรียกว่าจ้องขเม็งดีกว่า) พร้อมบอกว่า "น้ำจิ้มสุกี้หมด" แล้วพวกเราสามคนก็เลยมองหน้ากันอีกครั้ง ซึ่ง จขกท กำลังจะอ้าปากถามป้าตามสั่งพอดีว่า 'พอจะมีอะไรที่สั่งได้บ้างคะ' แต่ไม่ทัน ป้าสวนพูดขึ้นมาก่อนพร้อมกับน้ำเสียงประชดประชัน กระแนะกระแหนสุดๆ ป้าพูดว่า "ไม่สั่งก็ไม่เป็นไร ไม่ได้ว่าไร เพราะปกติก็กินร้านข้าวไข่เจียว" พูดจบก็สะบัดหน้าใส่พร้อมเดินเข้าครัว พวกเราสามคนยืนอึ้งกันอยู่ จากนั้นก็รีบเดินกลับไปที่โต๊ะ แล้วไปนั่งคุยกันกับเพื่อนคนอื่นๆเกี่ยวกับเรื่องนี้ทันที
จากที่ป้าบอกว่า ไม่สั่งไม่เป็นไรนี่ อย่ามาโกหกเลย เพราะถ้าไม่เป็นไรจริงๆ จะไปแขวะร้านข้าวไข่เจียวทำไม อีกอย่าง ไอ้คำว่า ไม่สั่ง เนี่ย คือพวกหนูสั่งไป ป้าก็บอกว่าหมดๆ ไอ้นั่นไอ้นี่ไม่มี แล้วพวกหนูจะสั่งอะไรได้อ่ะป้า? ป้าพูดออกมาแบบนี้มันใช่เหรอ? คือพวกหนูไม่ได้ไปขอข้าวป้ากินฟรีเลยนะ ปฏิเสธลูกค้าด้วยตรรกะแบบนี้ป้าจะขายได้อีกนานเท่าไหร่? ป้าไม่ง้อลูกค้า โอเคไม่เป็นไร ไม่ได้อยากให้ง้ออะไรหรอก ไม่อยากขายก็ไม่อยากซื้อเหมือนกัน แต่ถ้าหากว่าป้าทำแบบนี้กับลูกค้าคนอื่นๆอีก สักวันลูกค้าร้านป้าจะร่อยหรอลง และอาจจะไม่เหลือเลยก็ได้ ถ้าป้ายังคงพูดจากระแนะกระแหนลูกค้าอยู่.. เอาจริงๆ ความเป็นมิตรกับลูกค้าป้าแทบจะเท่าหางอึ่งเลยแหละ (ขออภัยถ้าหากเปรียบเทียบรุนแรงเกินไป) ป้าจะขายของให้แต่ลูกค้าที่ซื้อแต่ร้านป้าเท่านั้นเนี่ยนะ? พอพวกเค้าเหล่านั้นเปลี่ยนไปกินข้าวไข่เจียว ป้าก็จะไม่ขายให้เลย อ้างโน่นอ้างนี่ว่าหมด จขกท ก็ไม่มั่นใจเหมือนกันว่าหมดจริงมั้ย แต่หมดบ่อยทุกครั้งที่ไปสั่งเลยเนี่ย มันก็เกินไปจริงๆนะ --
แค่นั้นยังไม่จบ พอกลับมาที่โต๊ะ ก็เล่าให้เพื่อนฟัง จากนั้นเพื่อนก็ไปซื้อข้าวในร้านสะดวกซื้อแทน ซึ่งตอนที่เดินผ่านร้านป้านะ เห็นคนอื่นไปสั่งก็ยังได้ข้าวปกติ สั่งอะไรก็ได้กิน ไม่มีอะไรหมด..
คือพอมาคิดๆดูแล้วก็รู้สึกตลกชะมัด ที่ผ่านมาไปสั่งอาหารร้านป้าไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แต่ก็ไม่เคยได้กินเลย พอมาวันนี้ โอเค เข้าใจแจ่มแจ้งเลย จริงๆข้าวมันไม่ได้หมดหรอก ป้าแค่ไม่อยากขายให้เท่านั้นเอง... ก็ไม่เป็นไร พวกเราได้เรียนรู้แล้วว่าไม่ควรไปสั่งข้าวร้านป้าอีก..
ข้อความทั้งหมดที่ จขกท ได้พิมพ์มา เป็นประสบการณ์จริง 1,000,000% ไม่มีดัดแปลงหรือใส่สีตีไข่ เพราะ จขกท ก็ไม่รู้จะทำแบบนั้นไปทำไม ยังไงซะความจริงก็คือความจริง
แต่ จขกท ต้องขออภัยหากข้อความที่ จขกท พิมพ์ ทำให้คนอ่านรู้สึกไม่ดีในการใช้ภาษา หรือบางข้อความอาจจะพิมพ์ด้วยอารมณ์ ถ้าหากว่ามันรุนแรงเกินไป ก็ต้องขอโทษด้วยค่ะ
ป.ล. จขกท ไม่รู้ว่าตื้นลึกหนาบางของร้านป้าตามสั่งกับร้านไข่เจียวเป็นอย่างไร แต่เท่าที่เคยเป็นลูกค้าทั้งสองร้าน ทำให้ทราบว่า ความเป็นมิตรและความเอาใจใส่ต่อลูกค้านั้นเป็นสิ่งที่สำคัญในการทำมาค้าขาย ยิ่งมีเยอะเท่าไหร่ คุณก็จะได้ใจลูกค้าเยอะมากเท่านั้น เพราะฉะนั้นแล้ว..เอาใจเขามาใส่ใจเราด้วยนะคะ
ขอบคุณค่ะ