จากภาพที่แชร์กันอย่างแพร่หลายว่า
พบมัมมี่โบราณสวมรองเท้า Adidas
แต่ความจริงมีการนำภาพมามโนเอา
ที่มา
http://bit.ly/1NjhFJl
.
.
คาดว่าพบศพสตรีชนเผ่า Turkik
บนยอดเขาสูง 2,803 เมตร
ที่เทือกเขาอัลไต Altai Mountains
Turk เติร์ก ศัพท์จีนโบราณหมายถึง ทาส
มักเหมารวมพวกชนเผ่าเร่ร่อนแถบตะวันตกของจีน
เพราะพวกนี้มักมารุกราน/ปล้นชิงทรัพย์สิน
เข่นฆ่าข่มขืนคนในดินแดนฮั่นบ่อยครั้ง
จนต้องทางการจีนต้องไปปราบอยู่เป็นประจำ
แม้จะสร้างกำแพงเมืองจีนไว้ป้องกันส่วนหนึ่งแล้วก็ตาม
เวลาจีนรบชนะมักจะจับพวกนี้มาเป็นทาส
ตามหลักการ ชนะ คือ ราชา แพ้ คือ ขี้ข้า
จากหนังสือ
สุขสันต์ วิเวกเมธากร(เล่าชวนหัว)
ผู้เรียบเรียงสามก๊ก เลียดก๊ก ขันทีจีน
.
รองเท้าที่พบบ่งบอกว่าชนเผ่านี้
เป็นช่างฝีมือที่มีทักษะดีมาก : Khovd Museum
.
ศพมนุษย์โบราณรายนี้ห่อผ้าไว้อย่างดี
คล้ายการแสดงการไว้อาลัย
และเป็นการค้นพบศพชนเผ่า Turkik
ที่สภาพสมบูรณ์ที่สุดครั้งแรก
ในใจกลางทวีปเอเซีย Central Asia
โดย B.Sukhbaatar นักวิจัยที่ Khovd Museum
" ศพที่พบไม่ใช่ชนชั้นสูง เราเชื่ออย่างนั้น
ดูเหมือนว่าน่าจะเป็นสตรี เพราะไม่มีธนูในหลุมศพ
ตอนนี้พวกเราพยายามแกะผ้าห่อศพ
และเมื่อแกะผ้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว
จะสามารถบอกเพศผู้ตายได้ชัดเจนขึ้น "
ภายในหลุมศพมัมมี่ที่นักโบราณคดีค้นพบ
มีข้าวของที่วางเคียงข้างศพ มี อานม้า บังเหียน
แจกันดิน ชามไม้ รางไม้ กาต้มน้ำเหล็ก
ซากศพม้าหนึ่งตัว และ Dool (เสื้อผ้ามองโกเลีย) 4 ตัว
.
.
.
ทั้งยังพบหมอน หัวแกะหัวหนี่ง
กระเป๋าเดินทางที่น่าจะทำจากหนังแกะ
กระดูกแพะหลายชิ้นและกระเป๋าหนังใส่แก้วน้ำ
น่าจะเป็นศพชาว Turkik ครั้งแรกสุดที่ค้นพบ
ที่มีสภาพสมบูรณ์แบบที่สุดในมองโกเลีย
และน่าจะทั้งเขตเอเชียกลาง
นับเป็นปรากฎการณ์ที่หายากมาก
เพราะนี่คือการแสดงให้เห็นถึง
ความเชื่อและพีธีกรรมของชาว Turkiks
เห็นได้ชัดเลยว่าม้าถูกฆ่าตาย
เพื่อฝังลงไปพร้อมกับศพ
มันเป็นม้าตัวเมีย อายุราว 4-8 ปี
และยังมีเสื้อผ้าฝ้ายอีก 4 ชุด
.
.
สิ่งที่น่าสนใจที่เราพบ
ไม่ใช่เรื่องการใช้ขนแกะเพียงอย่างเดียว
แต่ยังพบว่ามีการใช้ขนอูฐด้วย
เราประมาณการอายุศพได้จากข้าวของที่พบ
คาดว่าอยู่ในช่วงต้น ๆ คริสต์ศตวรรษที่ 6 "
นักโบราณคดีจากพิพิธภัณฑ์เมือง Khovd
ได้รับแจ้งจากคนเลี้ยงปศุสัตว์ในท้องถิ่น
ว่าพบศพที่น่าจะเป็นคนโบราณ
การค้นพบครั้งนี้จะช่วยทำให้เข้าใจได้อย่างลึกซึ้ง
เกี่ยวกับชนพื้นเมือง Turks ในมองโกลเลียยุคโบราณ
.
Khovd Museum
.
" หลุมฝังศพนี้ลึกถึง 3 เมตร
ที่ความสูง 2,803 จากระดับน้ำทะเล
ด้วยสภาพภูมิอากาศที่มีอุณหภูมิหนาวจัด
จึงช่วยรักษาศพและข้าวของภายใน
การค้นพบครั้งนี้ ได้บอกเราว่า
ชนเผ่านี้มีทักษะเชิงช่างฝีมืออย่างมาก
ในหลุมศพของชาวบ้านทั่วไป
เราเข้าใจว่าทักษะเชิงช่างฝีมือ
ได้รับการพัฒนาไปค่อนข้างดีทีเดียว "
B.Sukhbaatar ให้สัมภาษณ์
.
เทือกเขาอัลไต อยู่ระหว่างไซบีเรียในรัสเซีย มองโกเลีย จีนและคาซักสถาน
.
หลุมศพอยู่บนเทีอกเขาอัลไต
ที่ความสูง 2,803 เมตรจากระดับน้ำทะเล
: The Siberian Times
.
เรียบเรียง/ที่มา
http://bit.ly/1NjhFJl
http://bit.ly/1XAlzDy
http://bit.ly/20Do3Tu
.
.
เรื่องเล่าไร้สาระ โปรดใช้วิจารณญาณ
คนไทยไม่ได้มาจากเทือกเขาอัลไต
สุจิตต์ วงษ์เทศ กับ เนาวรัตน์ พงศ์ไพบูลย์
แม้จะไม่ได้เดินทางไปแถบเทือกเขานั้น
แต่สอบถามคนรัสเซียที่ต่างยืนยันว่า
ไม่มีใครอยู่ได้เพราะอากาศหนาวเย็นมาก
มันเป็นภูเขาน้ำแข็งเขตควบคุมพิเศษทางทหาร
.
คนไทยไม่ได้มาจากเทือกเขาอัลไต
.
.
ที่มาของเรื่องคนไทยมาจากเทือกเขาอัลไต
ขุนวิจิตรมาตรา (สง่า กาญจนาคพันธ์)
เริ่มต้นเขียนเรื่องนี้ขึ้นมาโดยแต่ง
หนังสือชื่อ หลักไทย พร้อมทั้งสรุปว่า
คนไทยมีจุดกำเนิดมาจากบริเวณเทือกเขาอัลไต
โดยอ้างแนวคิดของวิลเลี่ยม คลิฟตัน ดอดด์
และได้รับพระราชทานรางวัลการแต่งเรื่องนี้
จากรัชกาลที่ 7 ใน พ.ศ.2471
ต่อมา หลวงวิจิตรวาทการ
ได้ตอกย้ำวาทกรรมในเรื่องนี้
ด้วยวิทยุหนังสือโฆษณาชวนเชื่อ
เพื่อปลุกเร้าความรักชาติ/คลั่งชาติ
สนองตัณหาผู้นำจอมพล แปลก พิบูลสงคราม
ยุคมาลานำไทยไปสู่มหาอำนาจ
.
.
ชนเผ่าไท ไต กะได จ้วง
เดิมน่าจะอยู่ทางฝั่งตะวันออก
ของจีนแถวเซี่ยงไฮ้ลงมา
พระนางไซซีหญิงงามที่เจ้าโกวเจี้ยน แคว่นเยว่
ถวายให้ราชันย์ฟูไซ่ แคว้นอู่
ตามกลยุทธ์นางงามล่มแผ่นดิน
วิญญูชน 20 ปีล้างแค้นก็ยังไม่สายเกินไป
เรื่องราวในประวัติศาสตร์ที่สรุปว่า
เมื่อกระต่ายสิ้น หมาล่าเนื้อก็จะถูกจับต้ม
หรือราชันย์บางคนร่วมทุกข์ได้ แต่ร่วมสุขไม่ได้
พาลจะฆ่าทิ้งให้หมดเพราะขวางหูขวางตา
เวลาได้เถลิงอำนาจแล้ว เช่น
จูหยวนจาง สตาลิน ตระกูลคิม เหมาเจ๋อตุง
เพิ่มเติม
http://bit.ly/1NtOpQd
มีการสันนิษฐานว่าพระนางไซซี
ชาวเยว่เป็นชนเผ่าไทกลุ่มหนึ่ง
เพราะมีการถอดคำหลายคำ
ที่ทางอาลักษณ์จีนจดบันทึกไว้นานแล้ว
แต่ไม่รู้ความหมายแปลความไม่ได้
แต่พอให้คนไทยฟังจะแปลได้เกือบทั้งหมด
ตามคำบอกเล่าของ นายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์
ที่ไปบุกเบิกตลาดการค้ากลุ่มซีพีในจีน
จ้วง สันนิษฐานน่าจะคือคำว่า หลวง
เพราะแต่เดิมแถบถิ่นนั้น
เป็นเมืองหลักของชนเผ่าไท
ก่อนชนเผ่าไทจะแยกย้ายไปหลายแห่ง
ตามนาค 2 ตัว แม่น้ำของ กับ สาละวิน
.
ข้อมูลเพิ่มเติม
http://bit.ly/22ALtZ9
http://bit.ly/1WwjKJz
.
.
แต่เดิมไม่มีประเทศไทย
คนในเขตอุษาอาคเนย์
จะเรียกคนไทยในประเทศไทยนี้ว่า
สยาม ศยาม ศยม ศาม ศาน ฉาน
เสียม เซียม เซี่ยม ซือแย
เพราะรวมคนหลายเผ่าพันธุ์หลายเชื้อชาติ
มีในเอกสารของ จิตร ภูมิศักดิ์
และ ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ
เพิ่งจะมาระบุว่าประเทศไทย
สมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม
ที่ประกาศใช้คำว่าประเทศไทย
วันที่ 24 มิถุนายน 2482
แม้ว่าจะมีการคัดค้านกันอย่างแรง
เพราะแต่เดิมใช้คำว่า
สยามประเทศ
แต่ก็ประกาศใช้ได้ตามหลักนิยมว่า
ผู้ถืออาวุธสุดจักร้าย เพราะจัดการฝ่ายคัดค้าน/ต่อต้านได้
ที่มา
http://bit.ly/1qMTIFO
มีตัวเลขประมาณว่า
ชนเผ่าไท ไต กะได จ้วง ไทย
ที่ใช้ภาษาไท ไต กะได จ้วง ไทย
ที่มีคำศัพท์เหมือนกัน/คล้ายกัน
แต่ตัวเขียนหนังสือแตกต่างกัน
ตั้งแต่อินเดีย ไทยอาหม ไทยใหญ่/ฉาน ลาว
ชาวสยามในมาเลย์ พม่า กัมพูชา(เกาะกง)
ซึ่งเป็นดินแดนรัฐไทยเดิม
ไทดำในเวียตนาม จ้วงในจีน
ชนเผ่ากลุ่มน้อยไท ไต กะได ในจีน
ประมาณการว่ามีมากกว่า 100 กว่าล้านคน
จำนงค์ ทองภิรมย์ คือผู้สนใจศึกษาเรื่องราวชนเผ่าไท จ้วง กะได
มีบทความและเอกสารการศึกษาจำนวนมาก
.
.
ดินแดนสุวรรณภูมิที่ตั้งสยามรัฐ
รัฐไทยเดิมมีคนหลายชนชาติอาศัยอยู่
ตามบันทึกหม่าฮวน อาลักษณ์ที่ติดตามเจิ้งเหอ(ซำเปากง)
ระบุว่ามีคนจีนไปอยู่กันมากแถวมะละกา/อินโดนีเซีย
มีครอบครัวที่นั่น บางคนก็เปลี่ยนไปเป็นมุสลิม
และบางส่วนมาอยู่ในสยามและเขมร
มีทั้งแขกมาจากอาหรับ เปอร์เซียร์ อินเดีย ปะปนกันทั่ว
ร่องรอยที่มา นักประวัติศาสตร์หลายท่านสันนิษฐานว่า
ชนเผ่าอารยันน่าจะอพยพมาจากแถวทะเลสาบแคสเปียน
มีร่องรอยถ้อยคำในภาษาสันสกฤต เปอร์เซีย ละติน
Indo-Aryan Indo-Iranian Indo-Europain
ชนเผ่าอารยันที่เข้ามาครอบครองชมพูทวีป/อนุทวีป/อินเดีย
มีชัยชนะเหนือชนเผ่าพื้นเมืองนครรัฐแถบนี้/อีกหลายแห่ง
เพราะขับขี่ม้าร่วมรบได้ หลอมเหล็กเป็นอาวุธได้
เหล็กมีความแข็งแกร่ง/คมกว่า
อาวุธชนพื้นเมืองที่ทำด้วย ไม้ หิน หรือ
ทองสัมฤทธิ์ = โลหะทองแดงผสมดีบุก
พบเห็นมากในพระพุทธรูปโบราณของไทย
ชนเผ่าอารยันได้ทำลายนครรัฐต่าง ๆ ลง
แล้วเหยียดหยาม/จับบรรดาคนพื้นเมือง
เป็นพวกทาส/พวกวรรณะศูทร/พวกวรรณะจัณฑาล
ส่วนพวกวรรณะกษัตริย์ชนเผ่าอารยัน
ผสมพันธุ์กับพวกวรรณะใดก็ได้
บุตร/บุตรีที่เกิดมายังเป็นพวกวรรณะกษัตริย์
เพราะผู้ถืออาวุธสุดจักร้าย/ตัดคอคนคัดค้านได้
ดัง พระวิฑูฑภะ ได้ล้างแค้นฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ศากยะวงศ์
จนแทบสูญสิ้นเชื้อสายพระศาสดาในอินเดีย
ที่เหลือรอดตายส่วนมากหนีไปอยู่ในเนปาล
แม้ว่าพระพุทธองค์จะไปห้ามทัพด้วยพระองค์เองถึง 3 ครั้ง
เพราะในสมัยเยาว์วัย
พระวิฑูฑภะ
เหล่ากษัตริย์ศากยะวงศ์ที่เจ้ายศเจ้าอย่างบ้าชนชั้นวรรณะ
ต่างเคยพากันดูถูก/เหยียดหยาม
พระนางวาสก มารดาพระองค์กับพระองค์
ว่ามีเชื้อสายมาจากสตรีวรรณะทาส
แต่ได้มีบุตรีกับกษัตริย์องค์หนึ่งในราชวงศ์ศากยะ
จึงนับว่าเป็นพวกวรรณะกษัตริย์แต่ต่ำศักดิ์ยิ่งนัก
ถ้าถือตามหลักศาสนาพราหมณ์/ฮินดู
พระมารดากับพระองค์ต้องเป็นพวกวรรณะจัณฑาล
ชัยชนะชนเผ่าอารยันเหนือชนเผ่าพื้นเมืองครั้งนั้น
เป็นบ่อเกิดชนชั้นวรรณะต่าง ๆ ในอินเดีย
ตำนานเทพเทวาอสูรในอินเดีย
จนถึงวรรณคดีเรื่องรามายณะ/รามเกียรติ์
และทำให้มีการอพยพผู้คนระลอกใหญ่
มาแถวสุวรรณภูมิหนีภัยสงคราม/การถูกจับเป็นทาส
แล้วในเวลาต่อมาก็อพยพตามมากันอีกหลายระลอก
ดังปรากฏร่องรอยตัวอักษรสลักบนหิน
โบราณวัตถุ สิ่งก่อสร้างต่าง ๆ
อินโดนีเซีย/มาเลย์ระบุว่า
ชนเผ่าดั้งเดิมของพวกตนน่าจะมาจากอินเดีย
รวมทั้งปรัชญาความเชื่อจากทางอินเดีย
จะมีบทบาทและผลกระทบในไทยมากกว่าชาติอื่น
มีคำพังเพยชาวบ้านว่า
ขอมตัวดำสูงใหญ่ เขมรตัวเตี้ยเล็กผิวคล้ำ
ลาวทำ ไทยแก้ ไทยทำ ขอมแก้ ขอมทำ แขกแก้
สมัยก่อนชาวบ้านที่เชื่อว่าถูกคุณไสย/ถูกของเข้า
วิธีแก้ที่ดีที่สุดตัองรู้ว่าหมอผีชาติไหนทำ
แล้วไปหาชาติที่เป็นครูมาแก้
เพราะวิชาหมอผีครูแขกคือปรมาจารย์
มีร่องรอยขอมในสงขลา
มีถ้ำหินขุดด้วยมือคน (
ถ้ำคูหา)
ใกล้วัดพะโคะ อ.สทิงพระ จ.สงขลา
มีโบราณวัตถุหินศิวลึงค์กับแท่นหินโยนี
กับ พังสนามชัย = ตระพัง สระพัง
ที่เก็บกักน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภาคใต้
แต่ไม่ค่อยมีคนไปเยี่ยมชมมากนัก
เว้นแต่พวกชอบไสยศาสตร์/ประวัติศาสตร์
.
.
มีร่องรอยภาษาขอม/เขมรในปักษ์ใต้
จะทิ้ง จทึง/สทึง=ชัก/ลาก เปรี๊ยะ=พระ เปรี๊ยะวิเฮียร์=พระวิหาร
มีประเพณีเรือชักพระในทะเลน้อย
สงขลา=กับดัก ขาล/สะกดผิด เสือปลา
มีศาลาหยบเสือที่หัวเขาเขียวใกล้ท่าเรือสงขลา
ระโนด ระโนฎ= ตะโนด โตนด ต้นตาล
ตะเครียะ=ร่มเย็น สะเดา=ร้อน ชะแม=ตำลึง
ชะแล=ท่าน้ำ ท่าแซ/ท่าแซะ=อานม้า
พัง/ตะพัง/ตระพัง=สระน้ำ ละงู/ละงัว=งา สตูล
มึก/จมึก=ดื่ม กำปง=ท่าน้ำ/หมู่บ้าน
กะเปอร์=จระเข้ ระนอง
โมถ่าย โม=หมาก ถ่ายชื่อคน ? สุราษฏร์ธานี
จากการสอบถาม
ปแฏงมหาบุญเรือง คัชมาย์
อดีตอาจารย์พิเศษมหาวิทยาลัยราชภัฎสุรินทร์
ปราชญ์ชาวบ้าน/ล่ามเขมร อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
มีคำยืมเขมรในภาษาไทยถิ่นใต้จำนวน1,320 คำ
ในจำนวนนี้มีอยู่ 573 คำ ที่ตรงกับคำยืมเขมร
ในภาษาไทยมาตรฐาน และมีอยู่ 394 คำ
เป็นคำยืมเขมรที่ปรากฎเฉพาะในภาษาไทยถิ่นใต้
เปรมินทร์ คาระวี
.
โปรดช่วยรักษาบรรยากาศในการสนทนา
เกรงว่ากระทู้จะปลิวหายไปก่อนกาลเวลาอันสมควร
ที่มาของภาพมัมมี่ 1,500 ปี สวมรองเท้า Adidas
พบมัมมี่โบราณสวมรองเท้า Adidas
แต่ความจริงมีการนำภาพมามโนเอา
ที่มา http://bit.ly/1NjhFJl
.
.
คาดว่าพบศพสตรีชนเผ่า Turkik
บนยอดเขาสูง 2,803 เมตร
ที่เทือกเขาอัลไต Altai Mountains
Turk เติร์ก ศัพท์จีนโบราณหมายถึง ทาส
มักเหมารวมพวกชนเผ่าเร่ร่อนแถบตะวันตกของจีน
เพราะพวกนี้มักมารุกราน/ปล้นชิงทรัพย์สิน
เข่นฆ่าข่มขืนคนในดินแดนฮั่นบ่อยครั้ง
จนต้องทางการจีนต้องไปปราบอยู่เป็นประจำ
แม้จะสร้างกำแพงเมืองจีนไว้ป้องกันส่วนหนึ่งแล้วก็ตาม
เวลาจีนรบชนะมักจะจับพวกนี้มาเป็นทาส
ตามหลักการ ชนะ คือ ราชา แพ้ คือ ขี้ข้า
จากหนังสือ สุขสันต์ วิเวกเมธากร(เล่าชวนหัว)
ผู้เรียบเรียงสามก๊ก เลียดก๊ก ขันทีจีน
.
รองเท้าที่พบบ่งบอกว่าชนเผ่านี้
เป็นช่างฝีมือที่มีทักษะดีมาก : Khovd Museum
.
ศพมนุษย์โบราณรายนี้ห่อผ้าไว้อย่างดี
คล้ายการแสดงการไว้อาลัย
และเป็นการค้นพบศพชนเผ่า Turkik
ที่สภาพสมบูรณ์ที่สุดครั้งแรก
ในใจกลางทวีปเอเซีย Central Asia
โดย B.Sukhbaatar นักวิจัยที่ Khovd Museum
" ศพที่พบไม่ใช่ชนชั้นสูง เราเชื่ออย่างนั้น
ดูเหมือนว่าน่าจะเป็นสตรี เพราะไม่มีธนูในหลุมศพ
ตอนนี้พวกเราพยายามแกะผ้าห่อศพ
และเมื่อแกะผ้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว
จะสามารถบอกเพศผู้ตายได้ชัดเจนขึ้น "
ภายในหลุมศพมัมมี่ที่นักโบราณคดีค้นพบ
มีข้าวของที่วางเคียงข้างศพ มี อานม้า บังเหียน
แจกันดิน ชามไม้ รางไม้ กาต้มน้ำเหล็ก
ซากศพม้าหนึ่งตัว และ Dool (เสื้อผ้ามองโกเลีย) 4 ตัว
.
.
ทั้งยังพบหมอน หัวแกะหัวหนี่ง
กระเป๋าเดินทางที่น่าจะทำจากหนังแกะ
กระดูกแพะหลายชิ้นและกระเป๋าหนังใส่แก้วน้ำ
น่าจะเป็นศพชาว Turkik ครั้งแรกสุดที่ค้นพบ
ที่มีสภาพสมบูรณ์แบบที่สุดในมองโกเลีย
และน่าจะทั้งเขตเอเชียกลาง
นับเป็นปรากฎการณ์ที่หายากมาก
เพราะนี่คือการแสดงให้เห็นถึง
ความเชื่อและพีธีกรรมของชาว Turkiks
เห็นได้ชัดเลยว่าม้าถูกฆ่าตาย
เพื่อฝังลงไปพร้อมกับศพ
มันเป็นม้าตัวเมีย อายุราว 4-8 ปี
และยังมีเสื้อผ้าฝ้ายอีก 4 ชุด
.
.
สิ่งที่น่าสนใจที่เราพบ
ไม่ใช่เรื่องการใช้ขนแกะเพียงอย่างเดียว
แต่ยังพบว่ามีการใช้ขนอูฐด้วย
เราประมาณการอายุศพได้จากข้าวของที่พบ
คาดว่าอยู่ในช่วงต้น ๆ คริสต์ศตวรรษที่ 6 "
นักโบราณคดีจากพิพิธภัณฑ์เมือง Khovd
ได้รับแจ้งจากคนเลี้ยงปศุสัตว์ในท้องถิ่น
ว่าพบศพที่น่าจะเป็นคนโบราณ
การค้นพบครั้งนี้จะช่วยทำให้เข้าใจได้อย่างลึกซึ้ง
เกี่ยวกับชนพื้นเมือง Turks ในมองโกลเลียยุคโบราณ
.
Khovd Museum
.
" หลุมฝังศพนี้ลึกถึง 3 เมตร
ที่ความสูง 2,803 จากระดับน้ำทะเล
ด้วยสภาพภูมิอากาศที่มีอุณหภูมิหนาวจัด
จึงช่วยรักษาศพและข้าวของภายใน
การค้นพบครั้งนี้ ได้บอกเราว่า
ชนเผ่านี้มีทักษะเชิงช่างฝีมืออย่างมาก
ในหลุมศพของชาวบ้านทั่วไป
เราเข้าใจว่าทักษะเชิงช่างฝีมือ
ได้รับการพัฒนาไปค่อนข้างดีทีเดียว "
B.Sukhbaatar ให้สัมภาษณ์
.
เทือกเขาอัลไต อยู่ระหว่างไซบีเรียในรัสเซีย มองโกเลีย จีนและคาซักสถาน
.
หลุมศพอยู่บนเทีอกเขาอัลไต
ที่ความสูง 2,803 เมตรจากระดับน้ำทะเล
: The Siberian Times
.
เรียบเรียง/ที่มา
http://bit.ly/1NjhFJl
http://bit.ly/1XAlzDy
http://bit.ly/20Do3Tu
.
.
เรื่องเล่าไร้สาระ โปรดใช้วิจารณญาณ
คนไทยไม่ได้มาจากเทือกเขาอัลไต
สุจิตต์ วงษ์เทศ กับ เนาวรัตน์ พงศ์ไพบูลย์
แม้จะไม่ได้เดินทางไปแถบเทือกเขานั้น
แต่สอบถามคนรัสเซียที่ต่างยืนยันว่า
ไม่มีใครอยู่ได้เพราะอากาศหนาวเย็นมาก
มันเป็นภูเขาน้ำแข็งเขตควบคุมพิเศษทางทหาร
.
คนไทยไม่ได้มาจากเทือกเขาอัลไต
.
.
ที่มาของเรื่องคนไทยมาจากเทือกเขาอัลไต
ขุนวิจิตรมาตรา (สง่า กาญจนาคพันธ์)
เริ่มต้นเขียนเรื่องนี้ขึ้นมาโดยแต่ง
หนังสือชื่อ หลักไทย พร้อมทั้งสรุปว่า
คนไทยมีจุดกำเนิดมาจากบริเวณเทือกเขาอัลไต
โดยอ้างแนวคิดของวิลเลี่ยม คลิฟตัน ดอดด์
และได้รับพระราชทานรางวัลการแต่งเรื่องนี้
จากรัชกาลที่ 7 ใน พ.ศ.2471
ต่อมา หลวงวิจิตรวาทการ
ได้ตอกย้ำวาทกรรมในเรื่องนี้
ด้วยวิทยุหนังสือโฆษณาชวนเชื่อ
เพื่อปลุกเร้าความรักชาติ/คลั่งชาติ
สนองตัณหาผู้นำจอมพล แปลก พิบูลสงคราม
ยุคมาลานำไทยไปสู่มหาอำนาจ
.
.
ชนเผ่าไท ไต กะได จ้วง
เดิมน่าจะอยู่ทางฝั่งตะวันออก
ของจีนแถวเซี่ยงไฮ้ลงมา
พระนางไซซีหญิงงามที่เจ้าโกวเจี้ยน แคว่นเยว่
ถวายให้ราชันย์ฟูไซ่ แคว้นอู่
ตามกลยุทธ์นางงามล่มแผ่นดิน
วิญญูชน 20 ปีล้างแค้นก็ยังไม่สายเกินไป
เรื่องราวในประวัติศาสตร์ที่สรุปว่า
เมื่อกระต่ายสิ้น หมาล่าเนื้อก็จะถูกจับต้ม
หรือราชันย์บางคนร่วมทุกข์ได้ แต่ร่วมสุขไม่ได้
พาลจะฆ่าทิ้งให้หมดเพราะขวางหูขวางตา
เวลาได้เถลิงอำนาจแล้ว เช่น
จูหยวนจาง สตาลิน ตระกูลคิม เหมาเจ๋อตุง
เพิ่มเติม http://bit.ly/1NtOpQd
มีการสันนิษฐานว่าพระนางไซซี
ชาวเยว่เป็นชนเผ่าไทกลุ่มหนึ่ง
เพราะมีการถอดคำหลายคำ
ที่ทางอาลักษณ์จีนจดบันทึกไว้นานแล้ว
แต่ไม่รู้ความหมายแปลความไม่ได้
แต่พอให้คนไทยฟังจะแปลได้เกือบทั้งหมด
ตามคำบอกเล่าของ นายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์
ที่ไปบุกเบิกตลาดการค้ากลุ่มซีพีในจีน
จ้วง สันนิษฐานน่าจะคือคำว่า หลวง
เพราะแต่เดิมแถบถิ่นนั้น
เป็นเมืองหลักของชนเผ่าไท
ก่อนชนเผ่าไทจะแยกย้ายไปหลายแห่ง
ตามนาค 2 ตัว แม่น้ำของ กับ สาละวิน
.
ข้อมูลเพิ่มเติม
http://bit.ly/22ALtZ9
http://bit.ly/1WwjKJz
.
.
แต่เดิมไม่มีประเทศไทย
คนในเขตอุษาอาคเนย์
จะเรียกคนไทยในประเทศไทยนี้ว่า
สยาม ศยาม ศยม ศาม ศาน ฉาน
เสียม เซียม เซี่ยม ซือแย
เพราะรวมคนหลายเผ่าพันธุ์หลายเชื้อชาติ
มีในเอกสารของ จิตร ภูมิศักดิ์
และ ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ
เพิ่งจะมาระบุว่าประเทศไทย
สมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม
ที่ประกาศใช้คำว่าประเทศไทย
วันที่ 24 มิถุนายน 2482
แม้ว่าจะมีการคัดค้านกันอย่างแรง
เพราะแต่เดิมใช้คำว่า สยามประเทศ
แต่ก็ประกาศใช้ได้ตามหลักนิยมว่า
ผู้ถืออาวุธสุดจักร้าย เพราะจัดการฝ่ายคัดค้าน/ต่อต้านได้
ที่มา http://bit.ly/1qMTIFO
มีตัวเลขประมาณว่า
ชนเผ่าไท ไต กะได จ้วง ไทย
ที่ใช้ภาษาไท ไต กะได จ้วง ไทย
ที่มีคำศัพท์เหมือนกัน/คล้ายกัน
แต่ตัวเขียนหนังสือแตกต่างกัน
ตั้งแต่อินเดีย ไทยอาหม ไทยใหญ่/ฉาน ลาว
ชาวสยามในมาเลย์ พม่า กัมพูชา(เกาะกง)
ซึ่งเป็นดินแดนรัฐไทยเดิม
ไทดำในเวียตนาม จ้วงในจีน
ชนเผ่ากลุ่มน้อยไท ไต กะได ในจีน
ประมาณการว่ามีมากกว่า 100 กว่าล้านคน
จำนงค์ ทองภิรมย์ คือผู้สนใจศึกษาเรื่องราวชนเผ่าไท จ้วง กะได
มีบทความและเอกสารการศึกษาจำนวนมาก
.
.
ดินแดนสุวรรณภูมิที่ตั้งสยามรัฐ
รัฐไทยเดิมมีคนหลายชนชาติอาศัยอยู่
ตามบันทึกหม่าฮวน อาลักษณ์ที่ติดตามเจิ้งเหอ(ซำเปากง)
ระบุว่ามีคนจีนไปอยู่กันมากแถวมะละกา/อินโดนีเซีย
มีครอบครัวที่นั่น บางคนก็เปลี่ยนไปเป็นมุสลิม
และบางส่วนมาอยู่ในสยามและเขมร
มีทั้งแขกมาจากอาหรับ เปอร์เซียร์ อินเดีย ปะปนกันทั่ว
ร่องรอยที่มา นักประวัติศาสตร์หลายท่านสันนิษฐานว่า
ชนเผ่าอารยันน่าจะอพยพมาจากแถวทะเลสาบแคสเปียน
มีร่องรอยถ้อยคำในภาษาสันสกฤต เปอร์เซีย ละติน
Indo-Aryan Indo-Iranian Indo-Europain
ชนเผ่าอารยันที่เข้ามาครอบครองชมพูทวีป/อนุทวีป/อินเดีย
มีชัยชนะเหนือชนเผ่าพื้นเมืองนครรัฐแถบนี้/อีกหลายแห่ง
เพราะขับขี่ม้าร่วมรบได้ หลอมเหล็กเป็นอาวุธได้
เหล็กมีความแข็งแกร่ง/คมกว่า
อาวุธชนพื้นเมืองที่ทำด้วย ไม้ หิน หรือ
ทองสัมฤทธิ์ = โลหะทองแดงผสมดีบุก
พบเห็นมากในพระพุทธรูปโบราณของไทย
ชนเผ่าอารยันได้ทำลายนครรัฐต่าง ๆ ลง
แล้วเหยียดหยาม/จับบรรดาคนพื้นเมือง
เป็นพวกทาส/พวกวรรณะศูทร/พวกวรรณะจัณฑาล
ส่วนพวกวรรณะกษัตริย์ชนเผ่าอารยัน
ผสมพันธุ์กับพวกวรรณะใดก็ได้
บุตร/บุตรีที่เกิดมายังเป็นพวกวรรณะกษัตริย์
เพราะผู้ถืออาวุธสุดจักร้าย/ตัดคอคนคัดค้านได้
ดัง พระวิฑูฑภะ ได้ล้างแค้นฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ศากยะวงศ์
จนแทบสูญสิ้นเชื้อสายพระศาสดาในอินเดีย
ที่เหลือรอดตายส่วนมากหนีไปอยู่ในเนปาล
แม้ว่าพระพุทธองค์จะไปห้ามทัพด้วยพระองค์เองถึง 3 ครั้ง
เพราะในสมัยเยาว์วัย พระวิฑูฑภะ
เหล่ากษัตริย์ศากยะวงศ์ที่เจ้ายศเจ้าอย่างบ้าชนชั้นวรรณะ
ต่างเคยพากันดูถูก/เหยียดหยาม
พระนางวาสก มารดาพระองค์กับพระองค์
ว่ามีเชื้อสายมาจากสตรีวรรณะทาส
แต่ได้มีบุตรีกับกษัตริย์องค์หนึ่งในราชวงศ์ศากยะ
จึงนับว่าเป็นพวกวรรณะกษัตริย์แต่ต่ำศักดิ์ยิ่งนัก
ถ้าถือตามหลักศาสนาพราหมณ์/ฮินดู
พระมารดากับพระองค์ต้องเป็นพวกวรรณะจัณฑาล
ชัยชนะชนเผ่าอารยันเหนือชนเผ่าพื้นเมืองครั้งนั้น
เป็นบ่อเกิดชนชั้นวรรณะต่าง ๆ ในอินเดีย
ตำนานเทพเทวาอสูรในอินเดีย
จนถึงวรรณคดีเรื่องรามายณะ/รามเกียรติ์
และทำให้มีการอพยพผู้คนระลอกใหญ่
มาแถวสุวรรณภูมิหนีภัยสงคราม/การถูกจับเป็นทาส
แล้วในเวลาต่อมาก็อพยพตามมากันอีกหลายระลอก
ดังปรากฏร่องรอยตัวอักษรสลักบนหิน
โบราณวัตถุ สิ่งก่อสร้างต่าง ๆ
อินโดนีเซีย/มาเลย์ระบุว่า
ชนเผ่าดั้งเดิมของพวกตนน่าจะมาจากอินเดีย
รวมทั้งปรัชญาความเชื่อจากทางอินเดีย
จะมีบทบาทและผลกระทบในไทยมากกว่าชาติอื่น
มีคำพังเพยชาวบ้านว่า
ขอมตัวดำสูงใหญ่ เขมรตัวเตี้ยเล็กผิวคล้ำ
ลาวทำ ไทยแก้ ไทยทำ ขอมแก้ ขอมทำ แขกแก้
สมัยก่อนชาวบ้านที่เชื่อว่าถูกคุณไสย/ถูกของเข้า
วิธีแก้ที่ดีที่สุดตัองรู้ว่าหมอผีชาติไหนทำ
แล้วไปหาชาติที่เป็นครูมาแก้
เพราะวิชาหมอผีครูแขกคือปรมาจารย์
มีร่องรอยขอมในสงขลา
มีถ้ำหินขุดด้วยมือคน (ถ้ำคูหา)
ใกล้วัดพะโคะ อ.สทิงพระ จ.สงขลา
มีโบราณวัตถุหินศิวลึงค์กับแท่นหินโยนี
กับ พังสนามชัย = ตระพัง สระพัง
ที่เก็บกักน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภาคใต้
แต่ไม่ค่อยมีคนไปเยี่ยมชมมากนัก
เว้นแต่พวกชอบไสยศาสตร์/ประวัติศาสตร์
.
จะทิ้งพระ-ทวดนอน
.
มีร่องรอยภาษาขอม/เขมรในปักษ์ใต้
จะทิ้ง จทึง/สทึง=ชัก/ลาก เปรี๊ยะ=พระ เปรี๊ยะวิเฮียร์=พระวิหาร
มีประเพณีเรือชักพระในทะเลน้อย
สงขลา=กับดัก ขาล/สะกดผิด เสือปลา
มีศาลาหยบเสือที่หัวเขาเขียวใกล้ท่าเรือสงขลา
ระโนด ระโนฎ= ตะโนด โตนด ต้นตาล
ตะเครียะ=ร่มเย็น สะเดา=ร้อน ชะแม=ตำลึง
ชะแล=ท่าน้ำ ท่าแซ/ท่าแซะ=อานม้า
พัง/ตะพัง/ตระพัง=สระน้ำ ละงู/ละงัว=งา สตูล
มึก/จมึก=ดื่ม กำปง=ท่าน้ำ/หมู่บ้าน
กะเปอร์=จระเข้ ระนอง
โมถ่าย โม=หมาก ถ่ายชื่อคน ? สุราษฏร์ธานี
จากการสอบถาม ปแฏงมหาบุญเรือง คัชมาย์
อดีตอาจารย์พิเศษมหาวิทยาลัยราชภัฎสุรินทร์
ปราชญ์ชาวบ้าน/ล่ามเขมร อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
มีคำยืมเขมรในภาษาไทยถิ่นใต้จำนวน1,320 คำ
ในจำนวนนี้มีอยู่ 573 คำ ที่ตรงกับคำยืมเขมร
ในภาษาไทยมาตรฐาน และมีอยู่ 394 คำ
เป็นคำยืมเขมรที่ปรากฎเฉพาะในภาษาไทยถิ่นใต้
เปรมินทร์ คาระวี
.
โปรดช่วยรักษาบรรยากาศในการสนทนา
เกรงว่ากระทู้จะปลิวหายไปก่อนกาลเวลาอันสมควร