สวัสดีค่ะเพื่อนๆ วันนี้เราจะพาเพื่อนๆไปทำบุญกัน
สถานที่ ที่เราจะพาไปชมนั้น ไปไม่ยากแต่ก็ไม่ง่ายเลย ต้องมีความพยายาม เพื่อไปแสวงบุญอย่างแรงกล้า
ที่แห่งนั้นก็คือ อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ หรือที่ใคร ๆ เรียกกันจนติดปากว่า "เขาคิชฌกูฏ" นั้นเอง
สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนเดินทางนั้นก็คือ 1.จิตใจที่แข็งแกร่งดั่งภูผา เพราะการเดินทางค่อนข้างลำบาก กว่าจะได้คิวรถ , กว่าจะได้ขึ้นรถ เหนื่อยมาก
2.น้ำดื่ม จะนำไปเองก็ได้ หรือจะไปซื้อที่เขาคิชกุฏ แต่ของที่นั้นแพงมากๆ (เฉพาะค่าน้ำดื่มเราเสียไปหลายบาทเลย)
3.เสื้อแขนยาว อันนี้จะเอาไปหรือไม่เอาไปก็ได้นะ บางคนก็บอกว่าอากาศเย็นมาก แต่โดยส่วนตัวเราว่ามันร้อนสุดๆ
4. ..... คิดไม่ออกละ ใครจะพกไรไปก็พกเถอะ ถ้าถือไหว
ที่แรกที่เราไปถึงคือวัดพลวง คนเยอะมากกกกกกกกกกกก กอไก่ล้านตัว!
เราไปถึงประมาณตี 4 ไปถามคิวรถขึ้นเขา จะได้ขึ้นรถประมาณ 9 โมงเช้า ขุ่นพระ!
พี่สาวเราเลยบอกว่าไปขึ้นอีกที่นึงก็ได้ โอเค ไปก็ไป ไม่มีทางเลือกนิ
ขับรถออกมาประมาณกี่กิโลไม่รู้นะ ก็ถึงวัดกระทิง ดูเผินๆคือคนน้อยกว่าวัดพลวงมาก เลยเดินไปซื้อตั๋วรถกัน
พอถึงที่ขายตั๋ว เจ้าหน้าที่บอกว่าซื้อตอนนี้ได้ขึ้นรถตอนเที่ยงนะคะ
ไม่ต่างกันเลย!! ไม่มีทางเลือกอะไรแล้ว เลยตกลงกันว่าจะซื้อตั๋วที่นี้แหละ
ลืมบอก ซื้อตั๋วรถขึ้นเขาที่วัดกระทิงเนี้ย นั่งรถแค่ต่อเดียว แต่รอรถนานมาก ราคาตั๋วก็คนละ 100 บาท
ระหว่างรอเวลาทางวัดที่ให้เราทำบุญด้วย และก็มีโรงทาน ช่วงเช้าอาหารจะเป็นข้าวต้ม กลางวันจะเป็นพวกแกงต่างๆ
ยังมีร้านอื่นอีกนะ เช่นก๋วยเตี๋ยว, ร้านขายน้ำ
พอท้องอิ่มแล้วก็นั่งรอเวลา รอ รอ...
ถึงเวลาขึ้นรถละ เย้ๆ ............
ทุกๆคนหน้าตาสดชื่นแจ่มใสมากๆ พร้อมที่จะออกเดินทาง
ระหว่างทางขึ้นไปบนเข้านั้น ทางค่อนข้างโหดพอสมควร
พอถึงบนเข้า เราก็เดินๆ
ตลอดทางจะมีที่ให้แวะกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์
เดินขึ้นไปเรื่อยๆ ๆ ๆ ๆ และ เรื่อยๆ
แวะถ่ายรูปแปปนึง
ช่วยด้วยจ้า มีคนจะเป็นลม
ที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นพิเศษนั้น เห็นจะเป็นการนมัสการ "รอยพระบาทเขาคิชฌกูฏ" หรือ "พระบาทพลวง" นั่นเอง
คนเยอะมากๆ เข้าไม่ถึง ขอพรตรงนี้แทนก็แล้วกัน
เดินทางมาซักพักใหญ่ๆ กราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ไปตลอดทาง (เหนื่อยมาก เพลียมาก)
และแล้วเราก็ใกล้จะถึงจุดหมายที่เราหวังไว้แล้วแหละ
ที่แห่งนั้นก็คือ ผ้าแดง
พอถึงแล้วก็ขอพร แล้วเอาผ้าไปผูกตามต้นไม้หรือกิ่งไม้
เวลาก็ล่วงเลยมามากพอสมควร กลับบ้านดีกว่า ทางลงเขามีให้เลือก 2 ทาง คือ ทางที่มาตอนแรก และ ทางที่ใช้เวลาแค่ 15 นาที เราเลือกทางที่ 2 นะ เพราะง่วงและเหนื่อยมาก ป้ายบอกทางตอนลง เขียนไว้ว่า กรุณาใช้เกียร์ต่ำ !
ทางชันมาก แต่ใช้เวลาลงแค่ 15 นาที จริงๆ
พอถึงพื้นที่ ที่รอรถลงเขา อันนี้ก็รอนานเหมือนกัน แต่สุดท้ายก็ได้ขึ้นรถและลงจากเขา กลับถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ อิ่มบุญมากๆ
ขอบคุณทุกๆท่านที่เสียสละเวลาเข้ามาอ่านนะคะ
[CR] เขาคิชกุฏ
สถานที่ ที่เราจะพาไปชมนั้น ไปไม่ยากแต่ก็ไม่ง่ายเลย ต้องมีความพยายาม เพื่อไปแสวงบุญอย่างแรงกล้า
ที่แห่งนั้นก็คือ อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ หรือที่ใคร ๆ เรียกกันจนติดปากว่า "เขาคิชฌกูฏ" นั้นเอง
สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนเดินทางนั้นก็คือ 1.จิตใจที่แข็งแกร่งดั่งภูผา เพราะการเดินทางค่อนข้างลำบาก กว่าจะได้คิวรถ , กว่าจะได้ขึ้นรถ เหนื่อยมาก
2.น้ำดื่ม จะนำไปเองก็ได้ หรือจะไปซื้อที่เขาคิชกุฏ แต่ของที่นั้นแพงมากๆ (เฉพาะค่าน้ำดื่มเราเสียไปหลายบาทเลย)
3.เสื้อแขนยาว อันนี้จะเอาไปหรือไม่เอาไปก็ได้นะ บางคนก็บอกว่าอากาศเย็นมาก แต่โดยส่วนตัวเราว่ามันร้อนสุดๆ
4. ..... คิดไม่ออกละ ใครจะพกไรไปก็พกเถอะ ถ้าถือไหว
ที่แรกที่เราไปถึงคือวัดพลวง คนเยอะมากกกกกกกกกกกก กอไก่ล้านตัว!
เราไปถึงประมาณตี 4 ไปถามคิวรถขึ้นเขา จะได้ขึ้นรถประมาณ 9 โมงเช้า ขุ่นพระ!
พี่สาวเราเลยบอกว่าไปขึ้นอีกที่นึงก็ได้ โอเค ไปก็ไป ไม่มีทางเลือกนิ
ขับรถออกมาประมาณกี่กิโลไม่รู้นะ ก็ถึงวัดกระทิง ดูเผินๆคือคนน้อยกว่าวัดพลวงมาก เลยเดินไปซื้อตั๋วรถกัน
พอถึงที่ขายตั๋ว เจ้าหน้าที่บอกว่าซื้อตอนนี้ได้ขึ้นรถตอนเที่ยงนะคะ
ไม่ต่างกันเลย!! ไม่มีทางเลือกอะไรแล้ว เลยตกลงกันว่าจะซื้อตั๋วที่นี้แหละ
ลืมบอก ซื้อตั๋วรถขึ้นเขาที่วัดกระทิงเนี้ย นั่งรถแค่ต่อเดียว แต่รอรถนานมาก ราคาตั๋วก็คนละ 100 บาท
ระหว่างรอเวลาทางวัดที่ให้เราทำบุญด้วย และก็มีโรงทาน ช่วงเช้าอาหารจะเป็นข้าวต้ม กลางวันจะเป็นพวกแกงต่างๆ
ยังมีร้านอื่นอีกนะ เช่นก๋วยเตี๋ยว, ร้านขายน้ำ
พอท้องอิ่มแล้วก็นั่งรอเวลา รอ รอ...
ถึงเวลาขึ้นรถละ เย้ๆ ............ ทุกๆคนหน้าตาสดชื่นแจ่มใสมากๆ พร้อมที่จะออกเดินทาง
ระหว่างทางขึ้นไปบนเข้านั้น ทางค่อนข้างโหดพอสมควร
พอถึงบนเข้า เราก็เดินๆ
ตลอดทางจะมีที่ให้แวะกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์
เดินขึ้นไปเรื่อยๆ ๆ ๆ ๆ และ เรื่อยๆ
แวะถ่ายรูปแปปนึง
ช่วยด้วยจ้า มีคนจะเป็นลม
ที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นพิเศษนั้น เห็นจะเป็นการนมัสการ "รอยพระบาทเขาคิชฌกูฏ" หรือ "พระบาทพลวง" นั่นเอง
คนเยอะมากๆ เข้าไม่ถึง ขอพรตรงนี้แทนก็แล้วกัน
เดินทางมาซักพักใหญ่ๆ กราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ไปตลอดทาง (เหนื่อยมาก เพลียมาก)
และแล้วเราก็ใกล้จะถึงจุดหมายที่เราหวังไว้แล้วแหละ
ที่แห่งนั้นก็คือ ผ้าแดง
พอถึงแล้วก็ขอพร แล้วเอาผ้าไปผูกตามต้นไม้หรือกิ่งไม้
เวลาก็ล่วงเลยมามากพอสมควร กลับบ้านดีกว่า ทางลงเขามีให้เลือก 2 ทาง คือ ทางที่มาตอนแรก และ ทางที่ใช้เวลาแค่ 15 นาที เราเลือกทางที่ 2 นะ เพราะง่วงและเหนื่อยมาก ป้ายบอกทางตอนลง เขียนไว้ว่า กรุณาใช้เกียร์ต่ำ !
ทางชันมาก แต่ใช้เวลาลงแค่ 15 นาที จริงๆ
พอถึงพื้นที่ ที่รอรถลงเขา อันนี้ก็รอนานเหมือนกัน แต่สุดท้ายก็ได้ขึ้นรถและลงจากเขา กลับถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ อิ่มบุญมากๆ
ขอบคุณทุกๆท่านที่เสียสละเวลาเข้ามาอ่านนะคะ