ความอดทน(ซอบร์)กับมุมมองคำสอนศาสนาอิสลาม

กระทู้คำถาม
เล่าจากอะบียะห์ยา ซุฮัยบ์ บุตร ซินาน  ว่า : ท่านรอซูลุลลอฮ์  ได้กล่าวว่า :
          “กิจกรรมของผู้ศรัทธานั้น ช่างประหลาดเหลือเกิน เพราะกิจกรรมของเขาทั้งหมดนั้นเป็นความดีแก่ตัวเขาทั้งสิ้น ซึ่งจะไม่เป็นเช่นนั้นแก่ผู้ใด นอกจากผู้ศรัทธาเท่านั้น ถ้าหากเขาได้รับสิ่งที่น่าปลาบปลื้มยินดี เขาก็สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของอัลเลาะห์ นั่นเป็นความดีสำหรับเขา และถ้าหากมีสิ่งไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นกับเขา เขาก็อดทน นั่นก็เป็นความดีสำหรับเขาอีกเช่นกัน”
รายงานโดยมุสลิม

เล่าจากอะนัส  ว่า : ท่านนบี  เดินผ่านผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังร้องไห้อยู่ที่หลุมฝังศพ ท่านได้กล่าวว่า :
“เธอจงยำเกรงอัลเลาะห์ และจงอดทนเถิด”
หล่อนได้กล่าวว่า :
ท่านจงไปให้พ้น เพราะท่านไม่ได้ประสบกับพิบัติเช่นฉัน! โดยหล่อนไม่รู้ว่าคนที่หล่อนพูดด้วยนั้นคือท่านนบี
ต่อมาได้มีผู้บอกแก่นางว่า : นั่นคือท่านนบี  หล่อนจึงไปหาท่านนบี  ที่ประตูบ้าน โดยหล่อนไม่พบว่ามีคนเฝ้าประตูที่บ้านของท่านเลย หล่อนได้กล่าวว่า :
ฉันไม่รู้ว่าเป็นท่าน
ท่านได้กล่าวว่า :
“ที่จะเป็นความอดทนที่แท้จริงนั้นคือ ขณะที่พบกับความหายนะเป็นครั้งแรก”
รายงานโดยบุคอรีย์และมุสลิม
ในรายงานของมุสลิมว่า : “หล่อนร้องไห้เพราะลูกของนางตาย”

เล่าจากอะบีฮุรอยเราะห์  ว่า : ท่านรอซูลุลลอฮ์  ได้กล่าวว่า :
           “อัลเลาะห์ตาอาลาได้ทรงตรัสว่า : เราไม่มีการตอบแทนใดจะมอบให้แก่บ่าวผู้มีศรัทธาของเรา เมื่อเราได้เก็บเอาคนรักของเขาที่เป็นชาวโลกนี้ไป และเขาก็สามารถอดทนได้ นอกจากสวรรค์เท่านั้น”
รายงานโดยบุคอรีย์

เล่าจากอะนัส  ได้กล่าวว่า : ฉันได้ยินท่านรอซูลุลลอฮ์  กล่าวว่า :
แน่แท้อัลเลาะห์ผู้ทรงรู้ยิ่งใหญ่และเกรียงไกร ได้ทรงตรัสว่า :
            “เมื่อเราได้ทดลองบ่าวของเราด้วยการเก็บของรักสองอย่างของเขาไป และเขาสามารถอดทนได้ เราจะทดแทนให้เขาด้วยสวนสวรรค์ แทนการสูญเสียของรักทั้งสองของเขา” หมายถึงดวงตาทั้งสองข้างของเขา
รายงานโดยบุคอรีย์

เล่าจากอะตออฺ บุตร อะบี รอบาฮ์ กล่าวว่า : อิบนุ อับบาส  ได้ถามฉันว่า :
ฉันจะไม่บอกท่านถึงผู้หญิงที่เป็นชาวสวรรค์หรือ?
ฉันตอบว่า : หามิได้ (โปรดบอกเถิด)
เขาได้กล่าวว่า : คือหญิงผิวดำที่คนนี้ที่ได้มาหาท่านนบี  แล้วนางก็กล่าวว่า :
ฉันเป็นโรคลมบ้าหมู และร่างกายของฉันก็มักเปิดเสมอ ขอท่านได้โปรดวิงวอนต่ออัลเลาะห์ ให้ฉันด้วยเถิด
ท่านกล่าวว่า :
ถ้าหากเธอประสงค์ ให้เธอจงอดทน แล้วเธอจะได้รับสวรรค์ และถ้าหากเธอประสงค์ ฉันจะวิงวอนขอต่ออัลเลาะห์ตาอาลาให้เธอหายจากโรคร้าย
นางกล่าวว่า : ฉันจะอดทน
และนางได้กล่าวต่อไปว่า :
ความจริงร่างกายของฉันมักเปิด ขอท่านได้โปรดวิงวอนขอต่ออัลเลาะห์ ไม่ให้ร่างกายของฉันเปิด
ท่านนบีได้วิวอนขอให้แก่นาง
รายงานโดยบุคอรีย์และมุสลิม

เล่าจากอะบีอับดิ้รเราะห์มาน อับดิ้ลลาห์ บุตรมัสอูด  ว่า : คล้ายกับฉันมองไปที่ท่านรอซูลลุลลอฮ์  กำลังเล่าถึงนบีท่านหนึ่งจากบรรดานบีทั้งหลาย (ขออัลเลาะห์โปรดประทานความเมตตาและความสันติแก่พวกเขา) ที่พวกพ้องของนบีท่านนั้นได้ตีเขาจนเลือดไหล ขณะที่เขากำลังเช็ดเลือดออดจากใบหน้าของเขา เขากล่าวว่า :
       “ข้าแต่อัลเลาะห์ ได้โปรดอภัยโทษแก่พวกพ้องของฉัน เพราะพวกเขายังไม่รู้”
รายงานโดยบุคอรีย์และมุสลิม

เล่าจากอบีสะอีด และอะบีฮุรอยเราะห์  จากท่านนบี  ได้กล่าวว่า :
       “ไม่ว่าจะเป็นความเหน็ดเหนื่อย ความป่วยไข้ ความหม่นหมอง ความโศกเศร้า ภัยอันตราย และความกลัดกลุ้มที่ได้มาประสบกับมุสลิม แม้กระทั่งหนามที่เขาโดนตำ นอกจากอัลเลาะห์จะทรงลบล้างความผิดต่างๆของเขาด้วยเหตุต่างๆที่เขาประสบนั้น”
รายงานโดยบุคอรีย์และมุสลิม

เล่าจากท่านอะบีฮุรอยเราะห์  ว่า ท่านรอซูลุลลอฮ์  ได้กล่าวว่า :
“ผู้ใดที่อัลเลาะห์ปรารถนาให้เขาได้รับความดี พระองค์จะให้ภัยพิบัติเกิดขึ้นกับเขา”
รายงานโดยบุคอรีย์

เล่าจากอะนัส  ว่า ท่านรอซูลุลลอฮ์  ได้กล่าวว่า :
           “คนใดคนหนึ่งในหมู่พวกท่านจะต้องไม่อยากตายเพราะมีความเดือดร้อนที่มาประสบกับเขา แต่ถ้าเขาอยู่ในภาวะที่จำเป็นต้องอยากตาย ให้เขากล่าวว่า : ข้าแต่อัลเลาะห์ ได้โปรดให้ข้าพเจ้ามีชีวิตอยู่ต่อไป ตราบที่การมีชีวิตอยู่เป็นความดีสำหรับข้าพเจ้า และได้โปรดให้ข้าพเจ้าตายไป เมื่อความตายเป็นการดีสำหรับข้าพเจ้า”
รายงานโดยบุคอรีย์และมุสลิม

เล่าจากอะนัส  ว่า ท่านรอซูลุลเลาะห์  ได้กล่าวว่า :
        “เมื่ออัลเลาะห์ประสงค์ให้บ่าวของพระองค์ได้รับความดี พระองค์จะรีบลงโทษเขาในโลกนี้ และเมื่อพระองค์ประสงค์ให้บ่าวของพระองค์ได้รับความชั่วร้าย พระองค์จะระงับการลงโทษที่เขาได้ทำบาปไว้ก่อน เพื่อพระองค์จะได้จัดการลงโทษเขาอย่างเต็มที่ในวันกิยามะห์”
         และท่านนบี  ได้กล่าวว่า : “การตอบแทนที่ยิ่งใหญ่ ขึ้นอยู่กับภัยพิบัติ (บะลาอฺ) ที่ยิ่งใหญ่ ความจริงอัลเลาะห์ตาอาลา เมื่อพระองค์ทรงรักพวกใด พระองค์จะทรงทดสอบพวกเขาด้วยภัยพิบัติ ผู้ใดยอมรับ เขาย่อมได้รับความพอใจของพระองค์ ผู้ใดไม่ยอมรับ เขาก็จะได้รับความไม่พอใจของพระองค์”
รายงานโดยติรมีซี และกล่าวว่า : เป็นฮะดีษฮะซัน

เล่าจากมุอ๊าซ บุตร อะนัส  ว่าท่านนบี  กล่าวว่า :
“ผู้ใดสามารถข่มความโกรธลงได้ ทั้งที่เขาสามารถจะกระทำตามความโกรธให้เป็นผลสำเร็จได้ อัลเลาะห์(ซ.บ.) จะทรงเรียกเขาเหนือกว่าชาวโลกทั้งปวงในวันกิยามะห์ เพื่อให้เขาเลือกสาวสวรรค์ตามแต่เขาจะต้องการ”
รายงานโดยอบูดาวูด และติรมีซี และกล่าวว่าเป็นฮะดีษฮะซัน

เล่าจากสุไลมาน บุตร สุรอด ว่า : ฉันนั่งอยู่กับท่านนบี  ขณะนั้นมีชายสองคนกำลังด่าทอกัน คนหนึ่งจากในสองหน้าแดง เส้นข้างลำคอพองโต ท่านรอซูลุลลอฮ์  กล่าวว่า :
“ความจริงฉันรู้ว่ามีคำๆหนึ่ง ถ้าหากเขากล่าว ความโกรธก็จะหายไปจากเขา ถ้าหากเขากล่าวว่า : ฉันขอป้องกันด้วยอัลเลาะห์ ให้พ้นจากชัยฏอนที่ถูกสาปแช่ง ความโกรธก็จะหายไปจากเขา ต่อมาหากเขาได้ไปบอกแก่ชายคนนั้นว่า : ความจริงท่านนบี  กล่าวว่า : “ท่านจงป้องกันด้วยอัลเลาะห์ให้พ้นจากชัยฏอนที่ถูกสาปแช่งด้วยเถิด”
รายงานโดยบุคอรีย์และมุสลิม

เล่าจากอะบี ยะห์ยา อุสัยด์ บุตร ฮุดอยร์  ว่า มีชาวอันซอรคนหนึ่งได้กล่าวว่า : โอ้ท่านรอซูลุลลอฮ์ ขอท่านได้โปรดแต่งตั้งฉันให้มีตำแหน่งในทางบริหารเหมือนกับที่ท่านแต่งตั้งคนๆนั้น
ท่านได้กล่าวว่า :
“ความจริงต่อไปพวกท่านจะต้องเผชิญกับการเอารัดเอาเปรียบ ภายหลังฉันจากไป ดังนั้นพวกท่านจะอดทน จนกว่าพวกท่านจะไปพบกับฉันที่สระน้ำ”
รายงานโดยบุคอรีย์และมุสลิม





ที่มา: ริยาดุสซอลีฮีน


โดย อาจารย์ อรุณ บุญชม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่