สวัสดีครับ
ในวันนี้ เรามาดูคำสั้น ๆ ที่พบได้บ่อย ๆ กันครับ อย่าง
not กับ no ซึ่งทำให้เกิดความสงสัยทุกครั้งที่จะใช้
อาจารย์ขอฝากแนวทางในการแยกแยะและใช้สองคำนี้ให้ถูกต้องครับ
Not และ no เป็นคำที่แสดงถึงการปฏิเสธทั้งคู่ แต่หลักการใช้จะแตกต่างกัน ดังนี้ครับ:
1. คำว่า not เราใช้ในการเปลี่ยนคำ สำนวน หรือประโยคให้เป็นเชิงปฏิเสธ (negative) ครับ เช่น:
-
Not surprisingly, I failed the test.
- The children went to school, but
not the parents.
- I
have not had lunch yet.
2. เราใช้ no นำหน้า noun (คำนาม), gerund (verb [คำกริยา] + ing ที่ทำหน้าที่เป็น noun) หรือ noun phrase (กลุ่มคำที่ทำหน้าที่เป็น noun) เพื่อสื่อว่า "ไม่มี" ครับ เช่น:
-
No employees came to work today.
-
No swimming in the lake
- There are
no award-winning books on the shelf.
3. ในบางครั้ง ประโยคที่มีโครงสร้าง no + noun (ตามที่ได้กล่าวไปในข้อ 2.) และ verb + not อาจมีความหมายคล้ายกัน แต่โครงสร้างที่มี no จะ "หนักแน่น" หรือ "เด่นชัด" มากกว่าครับ เช่น:
- There
wasn't any money in the bag.
- There was
no money in the bag. (ผู้อ่านหรือผู้ฟังประโยคนี้จะรู้สึกว่ามัน "หนักแน่น" หรือ "เด่นชัด" กว่าประโยคก่อนหน้าครับ)
เคล็ดลับในการแยกแยะวิธีใช้ not กับ no มีเพียงเท่านี้ครับ อาจารย์หวังว่าสิ่งเหล่านี้จะมีประโยชน์สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่กำลังเตรียมตัวสอบ TOEIC และผู้ที่ใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตจริงครับ หากท่านใดมีคำถาม-ข้อสงสัย หรือต้องการให้อธิบายการใช้ภาษาอังกฤษด้านใด สามารถฝาก comment ไว้ได้เลยครับ
แล้วพบกันใหม่ครั้งหน้าใน Today's English Tip for TOEIC and Beyond กับเคล็ดลับการใช้ภาษาอังกฤษ (English usage) และไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ (English grammar) สวัสดีครับ
- อ.ปริญญ์
3 ขั้นตอนสู่การใช้ "not" และ "no" อย่างแม่นยำ - Today's English Tip for TOEIC and Beyond
ในวันนี้ เรามาดูคำสั้น ๆ ที่พบได้บ่อย ๆ กันครับ อย่าง
not กับ no ซึ่งทำให้เกิดความสงสัยทุกครั้งที่จะใช้
อาจารย์ขอฝากแนวทางในการแยกแยะและใช้สองคำนี้ให้ถูกต้องครับ
Not และ no เป็นคำที่แสดงถึงการปฏิเสธทั้งคู่ แต่หลักการใช้จะแตกต่างกัน ดังนี้ครับ:
1. คำว่า not เราใช้ในการเปลี่ยนคำ สำนวน หรือประโยคให้เป็นเชิงปฏิเสธ (negative) ครับ เช่น:
- Not surprisingly, I failed the test.
- The children went to school, but not the parents.
- I have not had lunch yet.
2. เราใช้ no นำหน้า noun (คำนาม), gerund (verb [คำกริยา] + ing ที่ทำหน้าที่เป็น noun) หรือ noun phrase (กลุ่มคำที่ทำหน้าที่เป็น noun) เพื่อสื่อว่า "ไม่มี" ครับ เช่น:
- No employees came to work today.
- No swimming in the lake
- There are no award-winning books on the shelf.
3. ในบางครั้ง ประโยคที่มีโครงสร้าง no + noun (ตามที่ได้กล่าวไปในข้อ 2.) และ verb + not อาจมีความหมายคล้ายกัน แต่โครงสร้างที่มี no จะ "หนักแน่น" หรือ "เด่นชัด" มากกว่าครับ เช่น:
- There wasn't any money in the bag.
- There was no money in the bag. (ผู้อ่านหรือผู้ฟังประโยคนี้จะรู้สึกว่ามัน "หนักแน่น" หรือ "เด่นชัด" กว่าประโยคก่อนหน้าครับ)
เคล็ดลับในการแยกแยะวิธีใช้ not กับ no มีเพียงเท่านี้ครับ อาจารย์หวังว่าสิ่งเหล่านี้จะมีประโยชน์สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่กำลังเตรียมตัวสอบ TOEIC และผู้ที่ใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตจริงครับ หากท่านใดมีคำถาม-ข้อสงสัย หรือต้องการให้อธิบายการใช้ภาษาอังกฤษด้านใด สามารถฝาก comment ไว้ได้เลยครับ
แล้วพบกันใหม่ครั้งหน้าใน Today's English Tip for TOEIC and Beyond กับเคล็ดลับการใช้ภาษาอังกฤษ (English usage) และไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ (English grammar) สวัสดีครับ
- อ.ปริญญ์