สัพเพเหระธรรม .. แม่

กระทู้สนทนา
สัพเพเหระธรรม ..

แม่

โดย kittima235


            ฉันไม่รู้หรอกว่าใครกันนะ เป็นคนคิดคำว่า “แม่” ขึ้นมาแทนบุคคลท่านหนึ่ง ซึ่งใน
ชีวิตนี้ของฉันมีได้เพียงคนเดียวเท่านั้น ไม่สามารถที่จะให้ใครมาแทนที่ได้ เพราะมีคน
คนเดียวเท่านั้นที่อุ้มท้องและสามารถให้กำเนิดชีวิตนี้แก่ฉันในชาตินี้ได้
ฉันโชคดี ที่มีโอกาสเห็นแม่ตั้งแต่แรกเกิด มีโอกาสได้รับความรักและการเลี้ยงดู
จนฉันเติบใหญ่ มีโอกาสได้เห็นความรักที่แม่มีต่อลูก ตอนฉันยังเล็กฉันไม่รู้หรอกว่า แม่
สำคัญมากแค่ไหน รู้แต่ว่าเป็นคนที่ฉันคอยเอาแต่ใจกับท่าน ฉันเกเรกับท่านได้โดยที่
ท่านไม่เคยคิดเกลียดฉันเลย ถึงแม่ตี แม่โกรธ แต่ท่านไม่เคยคิดที่จะทิ้งฉันให้โดดเดี่ยว
ตามลำพัง ฉันแอบเห็นแม่ร้องไห้ หลังจากตีฉันไปแล้ว ฉันก็ไม่เข้าใจว่าทำไมแม่ต้อง
ร้องไห้ด้วย ในเมื่อแม่เป็นคนตี แม่ไม่ได้เจ็บอะไร ฉันต่างหากที่เจ็บตัว
            
            ตอนฉันอายุ ๑๒ ปี ฉันต้องเสียพี่ชายที่เป็นฝาแฝดกับฉันด้วยโรคมะเร็งในสมอง
ฉันก็เสียใจที่เสียพี่ชายที่เป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เกิด แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความ
เสียใจมันก็จางลง แต่กับแม่ มันไม่ใช่อย่างนั้น แม่ยังคงคิดถึงลูกชายเสมอ ร้องไห้
เป็นเวลาหลายปี ฉันได้แต่คิดว่าทำไมแม่ลืมความเสียใจช้าจัง มันผ่านไปแล้วนะ แต่แม่
ยังคงไม่ลืมลูกชายของท่าน ทำไมแม่รักเขามากขนาดนั้นเชียวเหรอ ทำไมถึงมีความรัก
ได้ขนาดนั้นนะ ฉันไม่เข้าใจ

            เมื่อฉันโตขึ้นมา ฉันเริ่มติดเพื่อนมากกว่าแม่ ฉันคิดแต่ว่าโลกนี้ช่างกว้างใหญ่ไพศาล
มีอะไรให้เรียนรู้เยอะแยะเต็มไปหมด ฉันสนใจพ่อกับแม่ลดน้อยลง มัวแต่ไปเอาใจคน
รอบข้างให้รู้สึกรักและเอ็นดูฉัน ฉันพยายามทำตัวดีกับคนอื่นเพื่อให้เป็นที่รักของทุกคน
แต่กับพ่อและแม่ ฉันรู้สึกเหมือนท่านทั้งสองเป็นของตายที่จะรักฉันและไม่ทิ้งฉันไป
อย่างแน่นอน ฉันเมินเฉย โต้เถียง ปั้นปึ่ง กับท่านทั้งสอง ฉันไม่ได้สนใจว่าท่านจะเสีย
ใจและเฝ้ารอฉันมากแค่ไหน ฉันมัวแต่ประมาทหลงไปกับกิเลสของตน โดยลืมไปว่า
วันเวลา มันผ่านไปไม่เคยถอยคืนกลับ ฉันเห็นแต่อนาคต แต่ฉันไม่เคยได้อยู่กับปัจจุบัน
ฉันมัวแต่คิดว่าอนาคตเป็นของเที่ยง ฉันต้องมีความสุขแน่นอน

            ฉันเริ่มเรียนรู้กับความเสียใจ โดยความเสียใจนี้ไม่ได้เกิดจากพ่อและแม่ แต่เกิด
จากคนรัก ชีวิตช่วงนั้นฉันรู้สึกล้มลุกคลุกคลานมาก ฉันยึดเขามาก แต่เขาไม่ได้สนใจ
ฉันอีก ฉันเสียใจร้องไห้ทุกวัน ฉันรู้สึกเหมือนไม่เหลือใครแล้ว โลกนี้ช่างโหดร้ายกับฉัน
แต่มีอ้อมกอดหนึ่ง ที่คอยประคับประคองฉันไว้ “อ้อมกอดของแม่” แม่ไม่ดุ ไม่ว่า
ฉันสักคำ แม่คอยอยู่ข้าง ๆ ฉัน ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ฉันไม่ได้อยู่ข้าง ๆ แม่เลย แม่คอย
รับฟังอารมณ์และความรู้สึกของฉัน ในขณะที่ฉันไม่เคยมีเวลาฟังความรู้สึกของแม่
บ้าง แม่เริ่มพาฉันเข้าวัด แม่ยอมงดขายของ ยอมเสียรายได้ เพื่อสละเวลาเป็นเพื่อน
ฉัน “เราไปวัดด้วยกัน ไปทำใจให้สงบ” แม่สร้างจุดเริ่มต้นชีวิตธรรมะให้กับฉัน
ถ้าไม่ทุกข์ จะไม่เคยเห็นทางดับทุกข์ ถ้าไม่ทุกข์ จะไม่เคยเห็นเลยว่ามีแม่และพ่อที่
คอยรักและเป็นห่วง

            เวลาผ่านไป ความเศร้าของฉันเริ่มลดลง แต่ก็นั่นแหละ เมื่อหายเศร้าก็เริ่มหายไป
จากพ่อและแม่อีก เห็นแต่อนาคตของตนเองอีก จนกระทั่งแม่เริ่มป่วยหนักขึ้น อัน
ที่จริงฉันรู้ว่าแม่ป่วยเป็นโรคมะเร็งรังไข่ แต่ในใจลึก ๆ ของฉันคอยแต่ปฏิเสธตนเอง
ไม่อยากรับรู้ว่าแม่ป่วยเพราะคอยแต่หลอกตัวเองว่า แม่จะต้องดีขึ้นและมีอายุยืน
อยู่กับฉันไปจนแก่เฒ่า ให้ฉันได้เลี้ยงยามชรา ก็แม่สัญญากับฉันไว้อย่างนั้นนี่นา แต่
ความเป็นจริงก็ไม่ได้เป็นไปตามใจ ถึงแม้ว่าแม่อยากอยู่กับฉันใจแทบขาด สัญญากับฉัน
เป็นมั่นเหมาะว่าจะอยู่เป็นเพื่อนฉัน อยากเห็นครอบครัวใหม่ของฉัน อยากอุ้มหลาน
ก่อนแม่ถึงจะจากไป แต่ใครเล่าจะกะเกณฑ์ อนาคตตนเองได้ นอกจากกรรมจัดสรร
ให้เป็นไปตามกฎแห่งกรรม

            แม่เริ่มป่วยหนักขึ้น ฉันเริ่มกลัว ฉันเริ่มเรียนรู้ความสูญเสียที่แท้จริง การสูญเสียคนรัก
ครั้งนั้นมันเทียบไม่ได้ เพราะเรายังได้เจอกันอีก แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่
เพราะถ้าสูญเสียแล้ว เมื่อไหร่เราจะได้เจอกันอีก เราจะจำกันได้หรือเปล่า แม่ยัง
อยากมีลูกอย่างฉันหรือเปล่า ในช่วงเวลานั้น ฉันต้องไปรับราชการต่างจังหวัด
มันหลีกเลี่ยงไม่ได้ ฉันเริ่มคิดถึงแม่ใจแทบขาด มันเป็นช่วงโค้งสุดท้ายที่ฉัน
จะได้ทำหน้าที่ของลูก แต่ถ้าฉันไม่ทำงานรับราชการจะเอาเงินที่ไหนมาเป็น
ค่ารักษาดูแลแม่ มันช่างทรมานเหลือเกิน ฉันฝากแม่ไว้กับอาจารย์แพทย์ให้
ช่วยดูแล และรีบกลับมาหาแม่ทุกวันเสาร์อาทิตย์ รู้ไหมว่า แม่รอฉัน นับวัน
รอให้ถึงวันเสาร์อาทิตย์เพื่อที่จะได้เจอฉัน แม่พยายามเขียนจดหมายให้ฉัน
ฉบับหนึ่ง เป็นจดหมายฉบับสุดท้ายซึ่งมีค่ามากที่สุดสำหรับฉัน แม่บรรยายความรักที่มี
ต่อฉัน ความห่วงหาอาทร ที่แม่ไม่ได้คิดถึงตัวเองเลย คิดถึงแต่อนาคตของฉัน จดหมาย
ฉบับนั้นเป็นลายมือที่อ่อนแรงเหลือเกิน แต่เต็มไปด้วยความเข้มแข็งของจิตใจของ
แม่ แม่ไม่เคยกลัวตาย แต่แม่กลัวอนาคตของลูกที่จะไม่มีคนคอยเป็นเพื่อน คอยให้คำ
ปรึกษาเวลาเจอกับความทุกข์ จะมีใครจริงใจกับลูกเท่ากับแม่ แม่อยากยืนหยัดกับลูก
เคียงข้างลูกตลอดไป ฉันสะเทือนใจมาก ฉันยังไม่สามารถให้แม่ ได้เท่ากับที่แม่ให้ฉัน
เพียงแค่ส่วนเสี้ยว ฉันยังไม่สามารถทำได้เลย

            ฉันภาวนาขอให้มีปาฏิหาริย์ แต่ความจริงก็คือความจริง สุดท้ายแม่ก็จากฉันไป
อย่างสงบ ปล่อยให้ฉันร้องไห้ เสียใจกับวันเวลาที่ผ่านมา มันเหมือนไร้ค่า ชีวิตที่ไขว่คว้า
มาตลอดชีวิตคืออะไร เพราะความสำเร็จต่าง ๆ ที่ฉันได้มา มันไม่ได้ช่วยให้คนที่รักฉัน
อยู่กับฉันได้อีก ฉันมัวแต่เสียเวลาสร้างเกียรติยศจอมปลอม คนที่คอยภาคภูมิใจกับฉัน
จริง ๆ ก็มีเพียงแม่กับพ่อเท่านั้น แต่ตอนนี้ฉันขาดคนที่ภูมิใจในตัวฉันอย่างแท้จริงไป
แล้วหนึ่งท่าน เหลือแต่เพียงพ่อเท่านั้น ฉันไม่มีโอกาสย้อนกลับไปเพื่อคอยดูแลแม่แล้ว
คงเหลือแต่พ่อ ที่แม่ช่วยแสดงให้เห็นว่าเวลาที่เราจะอยู่ด้วยกันมันสั้นนัก

            แม่ของฉัน ไม่ใช่เพียงให้ฉันอาศัยท้องเกิดมาเป็นคน แต่ท่านได้แสดงธรรมหลาย
อย่างในชีวิตให้กับฉัน แม้กระทั่งธรรมที่เกิดจากความดับสูญของชีวิตตนเอง ท่านสร้าง
ให้ฉันเห็นว่าชีวิตคนเราสั้นนัก ความไม่เที่ยงมันมีอยู่จริง อย่าประมาท เพราะเวลา
และสายน้ำไม่เคยรอใครและไม่เคยหวนกลับ คนที่รักเรามากที่สุด ควรเป็นคนที่เรา
ต้องใส่ใจและมอบความรักให้มากที่สุดเช่นกัน มิใช่เห็นเป็นเพียงของตายที่จะกลับมา
หาเมื่อไหร่ก็ได้ เพราะเวลานั้นอาจจะไม่มีอีกต่อไป

            ฉันพิมพ์บทความนี้ด้วยน้ำตาแห่งความรู้สึกสำนึกผิด รู้สึกเสียดายวันเวลาที่ผ่าน
พ้นไป เหมือนกับสุภาษิตจีนที่ว่า “ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตา” ฉันไม่หวังอะไรนอกเสีย
จากอยากเตือนสติผู้ที่เป็นลูกและยังมีบุญที่ได้อยู่กับพ่อและแม่ ฉันไม่รู้หรอกว่าบุญที่
ทำดีกับพ่อแม่มันยิ่งใหญ่แค่ไหน แต่ฉันรู้เพียงว่า เมื่อหมดโอกาสแล้วจะเสียใจอย่างยิ่ง
แล้วย้อนคืนไม่ได้อีก ตอนนี้ฉันยังโชคดีที่เหลือพ่อ ฉันจะไม่ยอมให้ตนเองผิดพลาด
อย่างในอดีต แต่ลึก ๆ แล้วฉันอยากทำให้แม่ด้วย “แม่ – ผู้หญิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต
ของฉัน”

            ไม่ว่าชาติใด ก็ขอเป็นลูกของแม่อีก และขอมีโอกาสตอบแทนพระคุณและมีโอกาส
แก้ตัว ไม่ทำให้แม่เสียใจอีกต่อไป…

            บทกลอน “พ่อแก่ แม่เฒ่า” โดยท่าน อ.สุนทรเกตุ

พ่อแม่ก็แก่เฒ่า จำจากเจ้าไม่อยู่นาน

จะพบจะพ้องพาน เพียงเสี้ยววานของคืนวัน

ใจจริงไม่อยากจาก เพราะยังอยากเห็นลูกหลาน

แต่ชีพมิทนทาน ย่อมร้าวรานสลายไป

ขอเถิดถ้าสงสาร อย่ากล่าวขานให้ช้ำใจ

คนแก่ชราวัย ผิดเผลอไผลเป็นแน่นอน

ไม่รักก็ไม่ว่า เพียงเมตตาช่วยอาทร

ให้กินและให้นอน คลายทุกข์ผ่อนพอสุขใจ

เมื่อยามเจ้าโกรธขึ้ง ให้นึกถึงเมื่อเยาว์วัย

ร้องไห้ยามป่วยไข ได้ใครเล่าช่วยปลอบปรน

เฝ้าเลี้ยงจนโตใหญ่ แม้เหนื่อยกายก็ยอมทน

หวังเพียงให้ได้ยล เติบโตจนสง่างาม

ขอโทษถ้าทำผิด ขอให้คิดทุกทุกยาม

ใจแท้มีแต่ความ หวังติดตามช่วยอวยชัย

ต้นไม้ที่ใกล้ฝั่ง มีหรือหวังอยู่นานได้

วันหนึ่งคงล้มไป ทิ้งฝั่งไว้ให้วังเวง

ขออนุโมทนานะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่