มีเรื่องประหลาดบางอย่างกำลังเกิดขึ้นกับโลกของเรา
ในช่วงประมาณปี ค.ศ.2000 แกนหมุนขั้วโลกเหนือ ได้เริ่มย้ายไปทางทิศตะวันออก
และตอนนี้นักวิทยาศาสตร์ที่ห้องวิจัยระบบขับเคลื่อนไอพ่น(Jet Propulsion Laboratory - JPL) ได้คิดออกแล้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร
และสิ่งที่น่าตกใจคือ เบื้องหลังของเหตุการณ์นั้น เป็นฝีมือของมนุษย์ อย่างเรานี่ล่ะ
แกนหมุนของดาวเคราะห์ต่างๆ รวมถึงโลกของเรา อยู่ภายใต้สนามแม่เหล็กคงที่
เพราะว่าดาวเคราะห์นั้นไม่ได้มีสันฐานที่สมมาตรอย่างสมบูรณ์ แต่มันเต็มไปด้วยหลุมบ่อมากมาย
ซึ่งสิ่งเหล่านั้นล้วนคือมวล ที่เคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา (น่าจะหมายถึงการหมุนอยู่ตลอดเวลา)
"ถ้าหากเรามีการเคลื่อนย้ายมวล เราก็กำลังทำลายความสมมาตรเดิมที่มีอยู่ และนั้นทำให้แกนการหมุนเกิดการเริ่มเคลื่อนย้าย"
Surendra Adhikari จากห้องวิจัยระบบขับเคลื่อนไอพ่น บอกกับ Gizmodo
จากการเฝ้าสังเกตุอย่างถี่ถ้วน และการวิเคราะห์ผ่านโมเดลคณิตศาสตร์ Adhikari ได้ค้นพบว่า
การเคลื่อนตัวล่าสุดของขั้วโลกของเรานั้นมาจากสองสาเหตุหลักคือ การละลายของน้ำแข็ง ทั้งจากบนเกาะกรีนแลนด์ และแผ่นน้ำแข็งของขั้วโลกใต้
และอีกสาเหตุหนึ่งคือ การเปลี่ยนแปลงของพื้นที่การกักเก็บน้ำบนแผ่นดิน ทั้งสองสาเหตุนี้คือที่มาของปรากฏการณ์การเคลื่อนที่ของขั้วโลกที่ประหลาด
Adhikari บอกว่า "พื้นฐานของเหตุการณ์นั้นมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นปัจจัยขับเคลื่อนการย้ายที่ของแกนขั้วโลก" การค้นพบของเขาจะถูกตีพิมพ์ใน Science Advances วันนี้
นักวิทยาศาสตร์มีการตรวจวัดแกนหมุนของโลกอย่างละเอียดมาตั้งแต่ปี 1899 แล้ว
ในช่วงก่อนศตวรรษที่ 21 ขั้วแกนหมุนของโลก จะอยู่บริเวณอ่าวฮัตสัน ในแคนนาดา และมีการเคลื่อนที่ประมาณ 7 เซนติเมตรต่อปี
การเคลื่อนที่ ที่ยาวนานนี้เชื่อกันว่ามาจากการสูญเสียของแผ่นน้ำแข็ง ลอว์เรนไทด์ ที่ปกคลุมแคนนาดา
และสหรัฐอเมริกาตอนเหนือในช่วงสุดท้ายของยุคน้ำแข็ง
แต่ในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา รายงานการหมุนของแกนโลกได้แสดงให้เห็นถึงรูปแบบใหม่ของการเปลี่ยนแปลง
ขั้วการหมุนของโลกกำลังหันหน้าย้ายไปสู่ทิศตะวันออก ตามแนวเส้นแวงกรีนวิช ด้วยความเร็วที่มากขึ้นเป็นสองเท่าจากในอดีต
ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า มันเกี่ยวข้องกับการละลายของแผ่นน้ำแข็งบนกรีนแลนด์ นี่คือสิ่งที่เราเข้าใจกันโดยทั่วไป
แต่การลดลงของแผ่นน้ำแข็งนั้น ไม่ได้บอกเรื่องทั้งหมดแก่เรา จากการรวมรูปแบบการกระจายมวล
กับข้อมูลจากดาวเทียมของ ศูนย์ทดลองทางภูมิอากาศ และการกู้คืนแรงโน้มถ่วงของ NASA (NASA’s Gravity Recovery and Climate Experiment (GRACE)) Adhikari ได้เอ่ยถึงปัจจัยสำคัญอีกประการคือ ปริมาณการเก็บน้ำบนแผ่นดิน โดยเฉพาะบนพื้นแผ่นยูเรเซีย
กิจกรรมของมนุษย์นั้นได้มีการย้ายน้ำในปริมาณมหาศาลผ่านการปั้ม แต่ผลจากการที่สถาพที่เปลี่ยนแปลงก็ส่งผลโดยอ้อมด้วยเช่นกัน
ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้บางพื้นที่แล้งขึ้น หรือชื้นขึ้น
การเปลี่ยนแปลงของสิ่งเหล่านี้โดยรวมแล้ว ทำให้โลกเราเอียงเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย
การกักเก็บน้ำบนแผ่นดินนั้นมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับคุณลักษณะสำคัญของแกนในการหมุนของโลกเรา
ปรากฏการณ์ decadal oscillation (ไม่ทราบความหมายว่ามันคือปรากฏการณ์อะไร) จากทางตะวันออกไปตะวันตก
ขั้วของโลกจะไม่เคลื่อนที่เป็นเส้นตรง แต่มันจะเป็นการเคลื่อนที่ที่แกว่งไปมา
และที่นี่ นี่เป็นครั้งแรก ที่มีการนำเสนอกลไกทางกายภาพที่เป็นไปได้สำหรับเรื่องนี้
และกลไกกายภาพ ที่เป็นจุดสำคัญที่ทำให้เราศึกษาการเคลื่อนที่ของขั้วโลกคือ
การปรับโครงสร้างของสภาพอากาศในอดีตที่ผ่านมา เรามีบันทึกการเคลื่อนที่ของขั้วโลกนับตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 20 เป็นต้นมา
แล้วตอนนี้เราก็เข้าในว่ามันมีความเกี่ยวข้องกันกับรูปแบบของความแห้งแล้งและความชื้น
มันแปลว่า เราจะเริ่มตอบคำถาม ประมาณว่า ในช่วงศตวรรษที่ 20 จะมีพื้นที่ไหนบนโลกนี้ ที่จะแห้งแล้ง หรือชื้นขึ้นบ้างได้
และนี่ก็เป็นสิ่งที่ Adhikari กำลังทำอยู่ โดยทำการวิจัยร่วมกับ นักอุทกศาสตร์ที่ JPL (ห้องวิจัยระบบขับเคลื่อนไอพ่น)
บางทีสิ่งสำคัญที่สุด อาจจะเป็นการค้นพบนี้ คือได้นำเสนอหลักฐานสำคัญ ที่แสดงให้เห็นว่า กิจกรรมของมนุษย์
ได้กลายเป็นส่วนสำคัญในการกำหนดธรรมชาติของโลกใบนี้ ในช่วงปลายปีนี้กลุ่มนักวิจัยจะมีการตรวจสอบข้อเสนออย่างเป็นทางการ
ที่จะนำพวกเราเข้าสู่ยุคทางธรณีวิทยาใหม่ ซึ่งเป็นยุคของมนุษย์ และเครื่องจักร และให้ชื่อยุคว่า "the Anthropocene
(ยุคที่กิจกรรมของมนุษย์ มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมของโลก อย่างชัดเจน)"
"ผมช่วยอะไรไม่ได้ เพียงแต่รู้สึกว่าการเปิดเผยเรื่องที่เรากำลังเปลี่ยนจุดขั้วแม่เหล็กโลกไปอย่างมากนี่ เป็นการยืนยันในเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี" (หมายถึงการยืนยันว่าสภาพภูมิอากาศโลกกำลังเปลี่ยน เพราะฝีมือมนุษย์)**
ปล.ขอขอบคุณคำแปลในส่วนนี้จากคุณยักคุง ในคห.ที่ 11 นะครับ
ที่มา
http://gizmodo.com/we-finally-know-why-the-north-pole-is-moving-east-1769588584
ขอโทษที่แปลไม่รู้เรื่องบ้างนะครับ เพราะเป็นเรื่องที่ จขกท. ไม่ค่อยมีพื้นฐาน แค่เห็นว่าน่าสนใจเลยแปลมาให้ได้อ่านกันเท่านั้น
ในที่สุดเราก็รุ้เสียทีว่า ทำไมขั้วโลกเหนือจึงค่อยๆย้ายไปทางตะวันออก!!!
ในช่วงประมาณปี ค.ศ.2000 แกนหมุนขั้วโลกเหนือ ได้เริ่มย้ายไปทางทิศตะวันออก
และตอนนี้นักวิทยาศาสตร์ที่ห้องวิจัยระบบขับเคลื่อนไอพ่น(Jet Propulsion Laboratory - JPL) ได้คิดออกแล้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร
และสิ่งที่น่าตกใจคือ เบื้องหลังของเหตุการณ์นั้น เป็นฝีมือของมนุษย์ อย่างเรานี่ล่ะ
แกนหมุนของดาวเคราะห์ต่างๆ รวมถึงโลกของเรา อยู่ภายใต้สนามแม่เหล็กคงที่
เพราะว่าดาวเคราะห์นั้นไม่ได้มีสันฐานที่สมมาตรอย่างสมบูรณ์ แต่มันเต็มไปด้วยหลุมบ่อมากมาย
ซึ่งสิ่งเหล่านั้นล้วนคือมวล ที่เคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา (น่าจะหมายถึงการหมุนอยู่ตลอดเวลา)
"ถ้าหากเรามีการเคลื่อนย้ายมวล เราก็กำลังทำลายความสมมาตรเดิมที่มีอยู่ และนั้นทำให้แกนการหมุนเกิดการเริ่มเคลื่อนย้าย"
Surendra Adhikari จากห้องวิจัยระบบขับเคลื่อนไอพ่น บอกกับ Gizmodo
จากการเฝ้าสังเกตุอย่างถี่ถ้วน และการวิเคราะห์ผ่านโมเดลคณิตศาสตร์ Adhikari ได้ค้นพบว่า
การเคลื่อนตัวล่าสุดของขั้วโลกของเรานั้นมาจากสองสาเหตุหลักคือ การละลายของน้ำแข็ง ทั้งจากบนเกาะกรีนแลนด์ และแผ่นน้ำแข็งของขั้วโลกใต้
และอีกสาเหตุหนึ่งคือ การเปลี่ยนแปลงของพื้นที่การกักเก็บน้ำบนแผ่นดิน ทั้งสองสาเหตุนี้คือที่มาของปรากฏการณ์การเคลื่อนที่ของขั้วโลกที่ประหลาด
Adhikari บอกว่า "พื้นฐานของเหตุการณ์นั้นมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นปัจจัยขับเคลื่อนการย้ายที่ของแกนขั้วโลก" การค้นพบของเขาจะถูกตีพิมพ์ใน Science Advances วันนี้
นักวิทยาศาสตร์มีการตรวจวัดแกนหมุนของโลกอย่างละเอียดมาตั้งแต่ปี 1899 แล้ว
ในช่วงก่อนศตวรรษที่ 21 ขั้วแกนหมุนของโลก จะอยู่บริเวณอ่าวฮัตสัน ในแคนนาดา และมีการเคลื่อนที่ประมาณ 7 เซนติเมตรต่อปี
การเคลื่อนที่ ที่ยาวนานนี้เชื่อกันว่ามาจากการสูญเสียของแผ่นน้ำแข็ง ลอว์เรนไทด์ ที่ปกคลุมแคนนาดา
และสหรัฐอเมริกาตอนเหนือในช่วงสุดท้ายของยุคน้ำแข็ง
แต่ในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา รายงานการหมุนของแกนโลกได้แสดงให้เห็นถึงรูปแบบใหม่ของการเปลี่ยนแปลง
ขั้วการหมุนของโลกกำลังหันหน้าย้ายไปสู่ทิศตะวันออก ตามแนวเส้นแวงกรีนวิช ด้วยความเร็วที่มากขึ้นเป็นสองเท่าจากในอดีต
ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า มันเกี่ยวข้องกับการละลายของแผ่นน้ำแข็งบนกรีนแลนด์ นี่คือสิ่งที่เราเข้าใจกันโดยทั่วไป
แต่การลดลงของแผ่นน้ำแข็งนั้น ไม่ได้บอกเรื่องทั้งหมดแก่เรา จากการรวมรูปแบบการกระจายมวล
กับข้อมูลจากดาวเทียมของ ศูนย์ทดลองทางภูมิอากาศ และการกู้คืนแรงโน้มถ่วงของ NASA (NASA’s Gravity Recovery and Climate Experiment (GRACE)) Adhikari ได้เอ่ยถึงปัจจัยสำคัญอีกประการคือ ปริมาณการเก็บน้ำบนแผ่นดิน โดยเฉพาะบนพื้นแผ่นยูเรเซีย
กิจกรรมของมนุษย์นั้นได้มีการย้ายน้ำในปริมาณมหาศาลผ่านการปั้ม แต่ผลจากการที่สถาพที่เปลี่ยนแปลงก็ส่งผลโดยอ้อมด้วยเช่นกัน
ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้บางพื้นที่แล้งขึ้น หรือชื้นขึ้น
การเปลี่ยนแปลงของสิ่งเหล่านี้โดยรวมแล้ว ทำให้โลกเราเอียงเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย
การกักเก็บน้ำบนแผ่นดินนั้นมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับคุณลักษณะสำคัญของแกนในการหมุนของโลกเรา
ปรากฏการณ์ decadal oscillation (ไม่ทราบความหมายว่ามันคือปรากฏการณ์อะไร) จากทางตะวันออกไปตะวันตก
ขั้วของโลกจะไม่เคลื่อนที่เป็นเส้นตรง แต่มันจะเป็นการเคลื่อนที่ที่แกว่งไปมา
และที่นี่ นี่เป็นครั้งแรก ที่มีการนำเสนอกลไกทางกายภาพที่เป็นไปได้สำหรับเรื่องนี้
และกลไกกายภาพ ที่เป็นจุดสำคัญที่ทำให้เราศึกษาการเคลื่อนที่ของขั้วโลกคือ
การปรับโครงสร้างของสภาพอากาศในอดีตที่ผ่านมา เรามีบันทึกการเคลื่อนที่ของขั้วโลกนับตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 20 เป็นต้นมา
แล้วตอนนี้เราก็เข้าในว่ามันมีความเกี่ยวข้องกันกับรูปแบบของความแห้งแล้งและความชื้น
มันแปลว่า เราจะเริ่มตอบคำถาม ประมาณว่า ในช่วงศตวรรษที่ 20 จะมีพื้นที่ไหนบนโลกนี้ ที่จะแห้งแล้ง หรือชื้นขึ้นบ้างได้
และนี่ก็เป็นสิ่งที่ Adhikari กำลังทำอยู่ โดยทำการวิจัยร่วมกับ นักอุทกศาสตร์ที่ JPL (ห้องวิจัยระบบขับเคลื่อนไอพ่น)
บางทีสิ่งสำคัญที่สุด อาจจะเป็นการค้นพบนี้ คือได้นำเสนอหลักฐานสำคัญ ที่แสดงให้เห็นว่า กิจกรรมของมนุษย์
ได้กลายเป็นส่วนสำคัญในการกำหนดธรรมชาติของโลกใบนี้ ในช่วงปลายปีนี้กลุ่มนักวิจัยจะมีการตรวจสอบข้อเสนออย่างเป็นทางการ
ที่จะนำพวกเราเข้าสู่ยุคทางธรณีวิทยาใหม่ ซึ่งเป็นยุคของมนุษย์ และเครื่องจักร และให้ชื่อยุคว่า "the Anthropocene
(ยุคที่กิจกรรมของมนุษย์ มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมของโลก อย่างชัดเจน)"
"ผมช่วยอะไรไม่ได้ เพียงแต่รู้สึกว่าการเปิดเผยเรื่องที่เรากำลังเปลี่ยนจุดขั้วแม่เหล็กโลกไปอย่างมากนี่ เป็นการยืนยันในเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี" (หมายถึงการยืนยันว่าสภาพภูมิอากาศโลกกำลังเปลี่ยน เพราะฝีมือมนุษย์)**
ปล.ขอขอบคุณคำแปลในส่วนนี้จากคุณยักคุง ในคห.ที่ 11 นะครับ
ที่มา
http://gizmodo.com/we-finally-know-why-the-north-pole-is-moving-east-1769588584
ขอโทษที่แปลไม่รู้เรื่องบ้างนะครับ เพราะเป็นเรื่องที่ จขกท. ไม่ค่อยมีพื้นฐาน แค่เห็นว่าน่าสนใจเลยแปลมาให้ได้อ่านกันเท่านั้น