พอกันทีกับ 24 ปี ที่ใช้ AIS!! พนง. ดึงเอกสารลูกค้าออก และเซ็นต์เอกสารแทนลูกค้า

สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้แรกของเรา จึงต้องรอการยืนยันจากทางพันทิป ไม่สามารถลงรูปได้ แต่เราได้ฝากไฟล์และแนบลิ้งค์หลักฐานต่างๆแทนค่ะ

เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 58 แม่เราได้ซื้อมือถือ Samsung Galaxy Note 5 จำนวน 2 เครื่อง จากศูนย์ Samsung ชั้น G ที่เซียร์รังสิต เนื่องจากพนง.ขายของ AIS ที่อยู่ในศูนย์ Samsung ได้เสนอโปรโมชั่น “ลูกค้า AIS ซื้อ Samsung Galaxy Note 5 เครื่องเปล่าราคาพิเศษ ได้รับส่วนลดค่าเครื่อง 2,000 บาท และรับเครดิตเงินคืนทันที 4,000 บาท”

เมื่อแม่เราเห็นโปรโมชั่นนี้ จึงได้สอบถามรายละเอียดจากพนง.เพิ่มเติม ซึ่งพนง.ได้อธิบายว่า “จริงๆแล้ว โปรโมชั่นนี้มีถึงวันที่ 30 ต.ค. 58 แต่ AIS ได้ทำการขยายโปรโมชั่นถึง 31 ธ.ค. 58 แม่เราได้รับสิทธิ์ซื้อ 2 เครื่องได้ เนื่องจากว่าแม่เราใช้บริการของ AIS 2 เบอร์ นับเป็น 2 สิทธิ์ หากแม่เราซื้อพนง.จะกด SMS รับสิทธิ์ให้ทั้ง 2 หมายเลข และสามารถใช้บัตรเครดิตใบเดียวกันรูดได้”

นี่คือ SMS ที่แม่เราได้รับทั้ง 2 หมายเลขค่ะ >>>
https://www.img.in.th/image/7uiS
https://www.img.in.th/image/7uiJ

ส่วนวิธีการรับเครดิตเงินคืนนั้น พนง.แจ้งว่า ให้นำใบเสร็จ พร้อมสลิปบัตรเครดิตไปยื่นได้ที่ AIS ทุกสาขาทั่วประเทศ ภายในวันที่ 31 ธค. 2558  เมื่อเราและแม่ถามรายละเอียดกับพนักงานจนชัดเจนแล้ว ก็ตัดสินใจรูดบัตรเครดิตซื้อ Note 5 เป็นจำนวน 2 เครื่อง พนักงานก็ทำการรูดบัตร 2 ครั้ง เพื่อให้เราได้สลิป 2 ใบ จะได้นำสลิปไปยื่นรับเครดิตเงินคืนได้



วันที่ 25 ธค. 2558 เราและแม่ได้มานำใบเสร็จและสลิปบัตรเครดิตทั้ง 2 ชุด มายื่นที่ AIS สาขาในจังหวัดเรา (ไม่ใช่กทม.) เมื่อพนง.ดูเอกสารพนักงานกลับบอกว่า “ลูกค้าไม่สามารถใช้สิทธิ์นี้ได้ค่ะ เนื่องจากไม่ตรงกับเงื่อนไขของโปรโมชั่นนี้ค่ะ”

เราฟังแล้วเราก็ช็อคว่า เฮ้ย!! อะไรไม่ตรงเงื่อนไข ก็ตอนซื้อยังถามย้ำกับพนง. ตั้งหลายรอบอยู่เลย ว่า “เราจะได้รับเครดิตเงินคืน เครื่องละ 4,000 บาท 2 เครื่องก็ได้รับเงินคืน 8,000 บาทใช่มั้ยคะ??”
พนง.ที่เซียร์ก็ยังบอกเราแบบมั่นใจสุดๆว่า “ได้แน่นอนครับ”  

นี่คือเอกสารที่เรานำมายื่นค่ะ ตอนยื่นเราไม่ได้ถ่ายรูปตัวสำเนาที่ยื่นเก็บไว้นะคะ เพราะไม่ได้คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นค่ะ เลยถ่ายรูปสลิปกับใบเสร็จตัวจริงทั้ง 2 ชุด มาให้ดูค่ะ >>>
https://www.img.in.th/image/7uqQ
https://www.img.in.th/image/7uig
https://www.img.in.th/image/7ui5
มีสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน, สำเนาบัตรเครดิตที่ใช้ยื่น, สำเนาใบเสร็จที่เซียร์รังสิต 2 ใบ และสำเนาสลิปบัตรเครดิต 2 ใบ

เราจึงขอให้พนง.ไปตรวจสอบให้เราอีกรอบ ว่าเราไม่สามารถรับเครดิตเงินคืนจำนวน 8,000 บาทได้จริงๆเหรอ?
เพราะตอนซื้อพนง.ที่เซียร์ยืนยันว่าได้แน่นอน พนักงานคนนั้นจึงขอตัวไปปรึกษาผู้จัดการ (ระหว่างที่พนง.ไม่อยู่นั้น พี่ผู้หญิงข้างๆที่ได้ยินเรื่องทั้งหมด ก็แอบหันมาพูดกับเราว่า “ระวังไม่ได้คืนนะ เพื่อนพี่ก็เคยใช้สิทธิ์แบบนี้แหละของ AIS แล้วสุดท้ายก็ไม่ได้เงินคืน” พอฟังเสร็จเราก็ใจเสียกว่าเดิม ได้แต่คิดในใจว่าซวยแล้วตรู T T)
สักพักพนง.ก็เดินมาบอกเราว่า
พนง. : ผู้จัดการบอกว่า ไม่ได้ค่ะ
เรา   : แต่พนง.ที่เซียร์ยืนยันว่าได้นะคะ
พนง.  : งั้นลูกค้าต้องลองติดต่อพนง.ที่เซียร์คนนั้นดูนะคะ
เรา  : (ช็อคครั้งที่ 1)… คือว่า ไม่มีเบอร์ติดต่อพนง.คนนั้นค่ะ ไม่ทราบว่าทาง AIS พอจะติดต่อให้ได้มั้ยคะ หรือไม่ก็ขอเบอร์ติดต่อก็ได้ค่ะ จะโทรไปสอบถามเอง
พนง. : ไม่ได้ค่ะ เราไม่มีข้อมูลการติดต่อเช่นกัน
เรา  : (ช็อคครั้งที่ 2) งั้นเราต้องขับรถไปหาพนง.ถึงเซียร์เลยเหรอคะ (จังหวัดเราห่างจากกทม.หลายร้อยกิโลเมตร)
พนง. : ค่ะ
… แล้วก็เดินจากไปดูแลลูกค้าคนอื่น ทิ้งเรากับแม่ไว้แบบงงๆ…


แม่เราจึงตัดสินใจเดินไป Shop Samsung เพื่อถามเรื่องโปรโมชั่นนี้กับพนง. ส่วนเรานั่งโทรหา Call Center AIS อยู่ที่ Shop AIS นี่คือบทสนทนา ระหว่างเรากับ Call Center
เรา : (เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ Call Center ฟัง พร้อมกับขอเบอร์ติดต่อพนง.ที่เซียร์คนนั้น)
Call Center : เราไม่มีข้อมูลของพนง.ที่ออกไปขายตาม Shop อื่นๆค่ะ ไม่สามารถรู้ได้ว่าใครออกไปขายที่ Shop ไหน และโปรโมชั่นนี้ที่พนง.แจ้งลูกค้า ทางเราไม่ทราบข้อมูลโปรโมชั่นนี้ค่ะ
เรา : แต่พนง.คนนั้นยืนยันกับเราเองนะคะว่ามีโปรโมชั่นนี้ถึง 31 ธค. 58 เราถึงตัดสินใจซื้อตั้ง 2 เครื่อง แถมในใบเสร็จยังมีชื่อพนง.ขายอยู่เลย ทาง AIS ไม่สามารถตรวจสอบให้ได้จริงๆเหรอคะ?
Call Center : ค่ะ เราไม่สามารถตรวจสอบได้ค่ะ คุณลูกค้าต้องไปติดต่อที่เซียร์เองนะคะ
เรา : ต้องขับรถไปกทม.อีกหลายร้อยกิโลเพื่อไปตามหาพนง.คนนั้นเหรอคะ แล้วถ้าโปรโมชั่นนี้ไม่มีจริง ทำไมพนง.คนนั้นถึงได้โฆษณาออกมาได้คะ ทาง AIS ไม่ได้มีการอบรมให้พนง.เข้าใจก่อนทำการขายเหรอคะ แล้วอีกอย่างที่ทาง AIS บอกว่า ไม่รู้ว่าพนง. AIS คนใดเป็นคนไปขายประจำตาม Shop ต่างๆ ถ้าอย่างงั้นเกิดมีคนมาแต่งตัวเป็นพนง. AIS มาเสนอโปรโมชั่นที่มันไม่มีอยู่จริงก็ได้เหรอคะ
Call center : (……เงียบ……) และได้แต่บอกว่าไม่สามารถช่วยอะไรเราได้ แต่จะลองหาเบอร์ร้านที่เซียร์ให้

เราจึงตัดสินใจไม่คุยต่อ และเดินไปหาแม่ที่ Shop Samsung พร้อมกับอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้พนง.Samsung ฟัง
เมื่อพนง. ได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด ก็ได้ทำการติดต่อสอบถามและโทรประสานงานให้เรา (ตรงนี้ทำให้เรากับแม่ประทับใจ พนง. Samsung มากๆ ที่ให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดี ขอขอบคุณพนง.ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้นด้วยนะคะ) ระหว่างนี้เราก็ได้พยายามทุกวิถีทางเพื่อจะติดต่อพนง.ที่ขายมือถือให้แม่เราวันนั้นให้ได้ แต่สุดท้ายแล้ว เราก็ไม่สามารถติดต่อพนง.คนนั้นได้เลย

เราและพนง. Samsung ใช้เวลาติดต่อประสานงานเป็นเวลาเกือบชั่วโมง กว่าจะได้ข้อสรุปว่าโปรโมชั่นนี้มีจริงๆ

พนง. Samsung จึงได้นำเอกสารของแม่เราไปคุยกับ พนง. AIS ว่าแม่เรามีสิทธิ์ได้รับเงินคืน 2 สิทธิ์ เป็นจำนวนเงิน 8,000 บาท

จากนั้นพนง. AIS (ขอเรียกว่า คุณ ช.) ก็บอกแม่เราว่า เดี๋ยวจะดำเนินการลงทะเบียนรับสิทธิ์ให้ ระหว่างนี้ให้แม่เราไปทานข้าวรอแล้วค่อยกลับมา พร้อมกับขอ SIM โทรศัพท์แม่เราไว้

ขณะที่ครอบครัวเราทานข้าวอยู่ คุณ ช. ทำการโทรเข้ามือถือแม่เรา (หมายเลข A) บอกว่าขอเบอร์โทรศัพท์ของแม่เราอีกเบอร์หน่อย (หมายเลข B) เพื่อที่จะได้ทำการค้นหา IMEI แม่เราก็ได้บอกไป และถามกับคุณช.ว่า เอาแค่เบอร์เดียวเหรอ พี่มี2เบอร์นะ คุณช.ก็ตอบกลับมาว่า เอาแค่เบอร์เดียวครับ เดี๋ยวอีกเบอร์สามารถค้นหาได้ครับ

ผ่านไปสักพัก เรากับแม่ก็ไปรับ SIM  คืน และคุณ ช.ก็บอกว่าเรียบร้อยแล้ว โดยไม่ได้ยื่นเอกสารอะไรให้ตรวจสอบทั้งสิ้น


วันที่ 7 เม.ย. 2559 แม่เราได้รับใบแจ้งยอดบัญชีบัตรเครดิต ถึงได้รู้ว่าแม่เราได้รับเครดิตเงินคืน เป็นจำนวนแค่ 4,000 บาท จึงได้นำเอกสารนี้ไปถามคุณ ช. ว่าทำไมเราถึงไม่ได้เงินเป็นจำนวน 8,000 บาท
รูปใบแจ้งยอดบัตรเครดิตค่ะ >>>
https://www.img.in.th/image/7uqY
คุณ ช. บอกว่าเราลงทะเบียนรับสิทธิ์ เพียงหมายเลขเดียว (หมายเลข B) จึงได้รับแค่ 1 สิทธิ์
เราจึงแสดงหลักฐานว่าเราได้รับข้อความว่าเรากดรับสิทธิ์ทั้ง 2 หมายเลข เราก็ต้องได้ 2 สิทธิ์

คุณ ช. ยังยืนยันว่า เราลงทะเบียนรับสิทธิ์แค่หมายเลขเดียว เพราะเราให้ IMEI คุณ ช. แค่อันเดียว
เราก็บอกว่า เราไม่รู้หรอกว่าต้องใช้กี่ IMEI ในการรับสิทธิ์ เพราะเราไม่ใช่พนง.
เรารู้แค่ว่าเราต้องแสดงอะไรบ้างในการรับสิทธิ์ตามเงื่อนไขที่ AIS ประกาศ ซึ่งเงื่อนไขนั้น AIS บอกเพียงว่า “ให้นำใบเสร็จพร้อมสลิปบัตรเครดิตมาแสดงที่ AIS Shop ก็สามารถรับสิทธิ์ได้” และวันที่ 25 ธค. 58 เราก็ได้นำสลิปทั้ง 2 ใบ (ทั้งหมายเลข A และ B) มาให้คุณ ช. แล้ว นั่นก็แปลว่าเราต้องได้รับ 2 สิทธิ์ใช่หรือไม่
คุณ ช. จึงขอตัวเข้าไปหาเอกสารว่าเราได้ให้เอกสารเค้าไปกี่ชุด ระหว่างนั้นก็มี พนง.อีกคน ชื่อว่าคุณ ก. ออกมาคุยแทน โดยคุณ ก. แจ้งกับเราว่า “ตอนนี้กำลังหาเอกสารอยู่นะครับ ว่าทางลูกค้ายื่นขอรับสิทธิ์กี่สิทธิ์ หากเจอแค่สลิปเดียวก็แสดงว่าคุณลูกค้ายื่นขอรับแค่สิทธิ์เดียว แต่หากมี 2 สลิป ตอนนี้ก็หมดเขตรับสิทธิ์แล้วครับ”

เราจึงถามต่อว่า ถ้าเจอว่าเรายื่น 2 สลิป ทางคุณมีแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างไรค่ะ คุณก. ได้แต่ตอบว่า ต้องดูอีกทีครับ เพราะคุณ ก. เป็นพนง. อีกฝ่าย ไม่รู้ในส่วนของโปรโมชั่น

ด้วยความที่แม่เรามั่นใจว่าวันนั้นแม่เรายื่น 2 สลิป และกลัวว่าพนง.จะดึงเอกสารแม่ออกให้เหลือเพียงสลิปเดียว แม่เราจึงพูดดักไปก่อนว่า “ยังงี้น้องจะดึงเอกสารพี่ออกมั้ยคะ?” คุณ ก. ก็รีบตอบว่า “เราไม่มีทางทำอย่างนั้นอยู่แล้วครับ” พร้อมกับแจ้งเราและแม่ว่าการหาเอกสารนั้นใช้เวลานานพอสมควร ให้เราและแม่ไปทำธุระหรือเดินเล่นรอ

เวลาผ่านไปประมาณครึ่งชม. เรากับแม่ก็กลับมาที่ AIS อีกครั้ง เราเดินไปถามคุณก. และคุณ ช. ว่าเจอเอกสารของเรารึไม่ คุณช.บอกว่าเจอ แต่เจอแค่สลิปเดียว แสดงว่าวันนั้นเราแจ้งรับสิทธิ์แค่สิทธิ์เดียว พร้อมกับนำเอกสารมาให้เราดู

ก่อนที่จะดูเอกสารเราก็ถามคุณ ช. ว่า วันนั้นเรานำเอกสารมาตามเงื่อนไขที่ระบุ นำสลิปมา 2 ใบก็ต้องได้ 2 สิทธิ์สิ
คุณช. ก็บอกว่า นึกว่าคุณลูกค้าซื้อแค่เครื่องเดียว
เราก็ถามคุณช. ว่า คุณจะนึกได้ยังไงว่าซื้อแค่เครื่องเดียว ในเมื่อวันนั้นเรานำสลิปมายื่น 2 ใบ พร้อมกับพูดว่าเราซื้อ 2 เครื่อง ต้องได้รับเงินคืน 8,000 บาทใช่มั้ยคะ
คุณช.ก็ยังยืนยันคำเดิมว่า นึกว่าแม่เราซื้อเครื่องเดียว

เมื่อเราดูเอกสารที่คุณช. ยื่นให้ ก็พบว่ามีแค่สลิปเดียวจริงๆ แต่ที่น่าตกใจคือ เอกสารของเรามันผิดปกติ เราจึงถามคุณช. ดังนี้
เรา : มันคืออะไรเหรอคะ…..
          (เรากำลังจะพูดต่อ แต่คุณช. รีบพูดขึ้นมาว่า)
คุณ ช : รอยเย็บเอกสารใหม่อาจจะเกิดจากการจัดเรียงครับ ไม่มีการแกะเอกสารออกอย่างแน่นอน
เรา : ไม่ได้หมายถึงรอยเย็บค่ะ หมายถึงรอยดึงกระดาษออก 2 ใบ นี่คืออะไรคะ เอกสารที่หายไปใช่ใบเสร็จและสลิปของหมายเลข A รึป่าว?
คุณ ช. : …… เกิดจากตอนเรียงเอกสารครับ ไม่มีการดึงเอกสารออกแน่นอน และผมจะทำแบบนั้นไปทำไมครับ เพราะผมก็ต้องออยากให้ลูกค้าใช้หมายเลขของผมทั้ง 2 หมายเลขอยู่แล้ว

แล้วคุณ ช.ก็รีบบอกว่าวันนั้นแม่ราเซ็นต์รับสิทธิ์แค่สิทธิ์เดียว เรากับแม่ก็งงว่าไปเซ็นต์ตอนไหน ตอนนั้นไม่เห็นมีอะไรให้เซ็นต์ (พอมาดูที่กระดาษดีๆ ถึงเห็นว่าลายเซ็นต์ในสัญญาไม่ใช่ของแม่เรา (แม่เราโดนปลอมลายเซ็นต์ค่า!!!)
https://www.img.in.th/image/7uqF

ช่วยกันดูหน่อยนะคะว่านี่คือเศษอะไรเหรอคะ เศษนี้มาจากการเรียงเอกสารจริงๆหรือไม่ หรือที่จริง คือใบเสร็จและ
สลิปของหมายเลข A ที่หายไปคะ >>>
https://www.img.in.th/image/7uiD
ดูกันชัดๆอีกรูปนะคะ https://www.img.in.th/image/7uiT
เรากับแม่ก็ยังพยายามถามหาข้อเท็จจริงต่อ แต่ก็ไม่ได้ความอะไร ได้ฟังแต่ประโยคเดิมๆ เรากับแม่จึงกลับบ้าน และอยากนำเรื่องราวในครั้งนี้มาแชร์ให้ทุกคนได้อ่านกันค่ะ


ถ้าวันนั้นคุณให้แม่เราเป็นคนเซ็นต์สัญญาเอง แม่เราก็คงได้ตรวจสอบ และเรื่องทั้งหมดนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น
เราไม่รู้ว่าคุณแค่หวังดีกับลูกค้า ต้องการให้แม่เราสะดวกรึเปล่า คุณถึงเซ็นต์สัญญาแทนแม่เรา แต่การกระทำอย่างนี้มันเป็นการกระทำที่ไม่ควรนะคะ

ปล. หาก AIS มาอ่านกระทู้เรา เราอยากถามว่าคุณทำแบบนี้กับลูกค้าที่ใช้บริการคุณมาเป็นเวลา 24 ปีได้ยังไง (แม่เราใช้ AIS มาตั้งปี พ.ศ. 2536 ใช้มาค่ายเดียวไม่เคยเปลี่ยน) แต่พอเจอเหตุการณ์แบบนี้กับตัวเอง บอกได้คำเดียวจะยกเลิกเบอร์ AIS ทั้งหมดทุกเบอร์แล้วค่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 19
ปลอมลายเซ็น เป็นคดีอาญา เอาเรื่องให้ถึงที่สุดครับ
ความคิดเห็นที่ 15
ผมพึ่งเจอเหตุการณ์ล่าสุดเมือวาน เอาเครื่อง IPhone 6 ไปเข้าศูนย์ กล้องหน้าเลื่อน กะว่าถ้าเครมได้ก็จะเครม
เพราะประกันเหลือ นั่งเช็คเครื่องไปมา บอกว่าเครื่องเรางอ ต้องมีค่าใช้จ่าย แล้วก็ต้องรอ 1-2 อาทิตย์ได้เครื่องประมาณหลัง
สงกรานต์ แต่เราก็บอกว่าเครื่องเราจะงอได้ไงเรามั่นมากว่าเครื่องเราไม่งอ คุณเช็คยังไง
สรุปคือการเช็คด้วยสายตา และ ก็เอาเครื่องว่างบนพื้นโต๊ะ แล้วกดๆดูว่าเครื่องระนาบกับพื้นไหม โดยไม่มีเครื่องมืออะไรเลย
ที่เป็นมาตรฐานมากกว่าสายตาดู แต่ที่งง คือมาเครมเครื่องเพราะกล้องหน้าเลื่อน กลับมาเช็คเรื่องเครื่องงอ เรารู้สึกไม่พอใจมาก ก็เลยบอกไม่เครมไม่ซ่อมแล้วถ้ามันมีปัญหามากก็จะไปซ่อมตู้ข้างนอก พนักงานก็แจ้งเพิ่มเติมว่าถ้าซ่อมข้างนอกประกันศูนย์จะหมดเลยนะครับ เราก็เลยตอบไปว่า ไม่เป็นไร เราสะดวกใจที่ไหนเราก็ซ่อมที่นั้น แล้วก็เดินออกมาเลย

ตัดสินใจเดินไปที่ iserve ก่อนช๊อปปิด ช๊อปปิด 2 ทุ่ม เราก็รีบเดินไป ถึงช๊อป iServe พนักงานก็ถามว่าติดต่ออะไร เราบอกเครื่องมีปัญหาครับ กล้องหน้าเลื่อน พนักงานก็เอาเครื่องเราไปเช็ค ไม่ได้ซักอะไรมากมายด้วย เราก็เล่าให้ฟังว่า เมื่อกี้เอาเครื่องไปเครมที่ AiS เค้าบอกเครื่องผมงอด้วย พนักงานก็เลยถามว่าเค้าใช้อะไรเช็ค เราก็บอกไปว่า เค้าใช้สายตากับเอาเครื่องวางบน พื้นโต๊ะ น้องพนักงานบอกว่าเช็คแบบนั้นไม่ได้แล้วอีกอย่าง IPhone 6 กล้องหลังมันนูน ยังไงมันก็ไม่ระนาบครับ ต้องใช้เครื่องมือเช็คโดยช่าง เราก็ลืมนึกไปว่ากล้อง IPhone 6 ด้านหลังมันนูน
สรุปน้องพนักงานเช็คให้ เครื่องไม่ได้งอ ไม่มีอะไรผิดปกติ มีแค่ปัญหาที่กล้องหน้าเลื่อนอย่างเดียว ใช้เวลาไม่เกิน 10นาที ได้เครื่องกลับบ้านบริการเร็วมากและประทับใจ ก่อนกลับ น้องพนักงาน iserve บอกว่าถ้าไม่สะดวกที่ AiS มาที่เราก็ได้ยินดีบริการ
ผมรู้สึกผิดหวังกับบริการของ AiS มากครับ เครื่องผมซื้อที่ศูนย์AIS ผมเลยกลับมาให้ AIS ดูแลเพราะคาดหวังจะได้รับบริการที่ดี แต่ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น #RIP AIS
ความคิดเห็นที่ 33
อย่างนี้ก็สวย ถ้าเราเจอเรื่องปลอมลายเซ็นต์ เราจะบอกเขาไปทันทีว่า
"ขอโทษนะ ขอเวลาพี่โทร.เรียกตำรวจแป้บ พี่ว่ามีคนปลอมลายเซ็นต์ค่ะ"
ว่าแล้วก็ กดโทร.
ความคิดเห็นที่ 41
จขกท ควรแจ้งความก่อนค่ะ เพือให้เอไอเอสเดินหน้าทำอะไรสักอย่าง
นี่เรื่องใหญ่ ไม่ใช่แค่ออกมาอธิบายแล้วจบ ปลอมลายเซ็นนี่ร้ายแรงนะ
ถึงจะยังไม่ได้เอาไปทำอะไรร้ายแรงกว่านี้ แต่มันส่อให้เห็นว่าคุณคิดว่าคุณทำได้ จขกท ควรทำให้เอไอเอสเห็นว่า นี่ร้ายแรง ผู้บริโภคไม่ยอม เพื่อเค้าจะได้เข้มงวดกวดขันพนักงานเขาต่อไป

เป็นเราจะไปแจ้งความแล้วเอาใบแจ้งความไปที่ช็อป
ก่อนที่เขาจะมาบอกว่า พนักงานคนนั้นลาออกแล้ว ไม่เกี่ยวกับเขา
ความคิดเห็นที่ 120
[อัพเดทค่ะ]

วันที่ 12 เม.ย. 2559 เวลาประมาณ 12.00 น. คุณ ช. ได้โทรมาคุยกับแม่จขกท.ค่ะ
โดยมีบทสนทนาคร่าวๆ ประมาณนี้
คุณ ช. : “สวัสดีครับอาจารย์ ผม ช. เป็นลูกศิษย์อาจารย์ จำได้ไหมครับ ผมได้รับการติดต่อจากส่วนกลางของ AIS ว่าให้แก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างเร่งด่วนครับ โดยทางมาร์เก็ตติ้งให้แก้ปัญหาโดยการโอนเงินจำนวน 4,000 บาท คืนให้ครับ รบกวนขอเลข IMEI เครื่องที่ยังไม่ได้รับสิทธิ์ พร้อมทั้งใบเสร็จรับเงินและสลิปบัตรเครดิตที่ทางผมดึงออก เพื่อนำมาดำเนินการคืนเงินให้กับอาจารย์ครับ”
แม่จขกท. จึงได้แจ้งคุณ ช. ว่าจะขอเข้าไปคุยรายละเอียดที่ศูนย์บริการของ AIS ด้วยตัวเองจะดีกว่า
คุณช. จึงแจ้งว่าให้รีบมาติดต่อภายในวันนี้ เพื่อที่จะได้ติดต่อกับส่วนกลาง และดำเนินการให้เสร็จก่อนสงกรานต์

เมื่อเวลาประมาณ 16.30 น. จขกท.และแม่ได้ไปพบคุณ ช. ที่ศูนย์บริการของ AIS
โดยคุณ ช. ได้แจ้งว่า “ทันทีที่ผม ได้รับการติดต่อจากทางส่วนกลาง ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ และรีบประสานงานกับทางมาร์เก็ตติ้งว่าจะคืนส่วนลดให้ลูกค้าอย่างไร ทางมาร์เก็ตติ้งจึงเสนอว่าจะโอนเงินเข้าบัญชีลูกค้าภายในสิ้นเดือนนี้ โดยขอเอกสารเพิ่มเติม 3 อย่าง ได้แก่ บัตรประชาชน ใบเสร็จพร้อมสลิปที่ยังไม่ได้รับสิทธิ์ และหน้าสมุดธนาคารที่จะให้โอนเงินเข้า”

จขกท.จึงถามเพิ่มเติมว่า
จขกท. : หากทางเรารับเครดิตเงินคืน เราจะติดสัญญากับ AIS อีก1ปีหรือไม่ หากไม่จะได้ยกเลิกเลยค่ะ
คุณ ช. : ไม่ติดแล้วครับ เนื่องจากโครงการนี้หมดเขตไปแล้ว แต่ทางเราจะดูแลให้เป็นพิเศษครับ ส่วนเบอร์ที่อาจารย์จะยกเลิก ไม่ทราบว่าเป็นหมายเลขไหนครับ ผมจะได้ดูแลให้ครับ เพราะทางเราก็รู้สึกผิดและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมาก ผมจึงได้ขออนุญาตส่วนกลางขอดูแลหมายเลขของอาจารย์เป็นพิเศษ
แม่จขกท. : หากวันนั้นทางคุณ คุยกับส่วนกลางขอคำแนะนำ  ไม่ใช่ปฏิเสธลูกค้าและกล่าวหาว่าลูกค้ายื่นเอกสารไม่ครบ
คุณ ช. : วันนั้นทางเราไม่ได้ปฏิเสธซะทีเดียวนะครับ ผมก็รีบติดต่อกับทางมาร์เก็ตติ้งให้ แต่อาจจะเป็นเพราะวันนั้นเราคุยกันด้วยอารมณ์ที่เร่งด่วนเลยทำให้อาจารย์ผิดหวังกับการบริการของ AIS
แม่จขกท. : วันนั้นไม่ได้คุยด้วยอารมณ์เลย คุณเอาแต่ปฏิเสธอย่างเดียว หากวันนั้นยอมรับว่าส่งเอกสารครบ ไม่ใช่บอกว่าส่งเอกสารแค่สลิปเดียว ขอโทษว่าเข้าใจผิด มันก็จบ
คุณ ช. : วันนั้นคงเป็นการเข้าใจผิดครับ ซึ่งผมได้ถามน้องๆแล้วว่ามีการดึงเอกสารของอาจารย์ออกมั้ย น้องก็ได้ยอมรับว่าดึงออกจริง เพราะเค้าคงเข้าใจว่าอาจารย์ซื้อแค่เครื่องเดียว ทางเราเลยคุยกันว่างั้นเราจะให้ความช่วยเหลืออาจารย์อย่างเต็มที่
คุณ ช. : ผมไม่แน่ใจว่าวันนั้นเป็นอย่างไร เรามาพูดถึงผลลัพธ์กันดีกว่าว่าทำยังไงถึงจะไม่ให้อาจารย์เสียความรู้สึกไปมากกว่านี้
แม่จขกท. : มันเสียความรู้สึกไปแล้ว
คุณ ช. : อันนี้ผมก็คิดว่าอาจารย์เป็นอาจารย์ผม คือก็ไม่อยากจะเสียอาจารย์ไป และอยากให้อาจารย์อยู่กับเราต่อ
แม่จขกท. : เพราะคำว่าอาจารย์นี่แหละ ครูถึงไม่ทำอะไรรุนแรงไปมากกว่านี้
คุณ ช. : ต้องขอบคุณอาจารย์มากครับ
แม่จขกท. : หากไม่ใช่คำว่าอาจารย์หรือลูกศิษย์ ครูคงไม่รอขนาดนี้ คงไม่รอถึงวันที่เธออกมาพูดว่าขอโทษและเสียใจ
คุณ ช. : เพราะผมเห็นอาจารย์ตั้งแต่ผมอยู่ม.ต้น ผมจึงรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์นี้มาก
จขกท. : แล้วเรื่องการเซ็นต์เอกสารแทนวันนั้นหละคะ
คุณ ช. : ผมคิดว่าวันนั้นผมให้อาจารย์เซ็นต์เองนะครับ
จขกท. : แต่มันไม่เหมือนเลยนะคะ
คุณ ช. : เหรอครับ แต่เหตุการ์มันเกิดขึ้นมา 4 เดือนแล้ว ทางผมก็จำไม่ค่อยได้ และอีกอย่างลายเซ็นต์อาจารย์ค่อนข้างยาก ผมจึงให้คำตอบอย่างแน่นอนไม่ได้ว่าทางผมหรืออาจารย์เป็นคนเซ็นต์
จขกท. : แต่ทางเราไม่เคยเห็นกระดาษใบนั้นเลย จนกระทั่งวันที่ 7 เม.ย. นะคะ
คุณ ช. : ไม่ว่าวันนั้นทางเราจะเป็นคนทำเองหรือไม่ได้ทำเองก็ดีนะครับ แต่ว่าอยากจะแจ้งว่าไม่ว่าพนักงานปลอมหรือไม่ปลอม ผมก็อยากจะขอโทษไว้ก่อนเพราะอันนี้ไม่ทราบจริงๆ พนักงานอาจจะเซ็นต์ไปก่อนเพื่อให้เอกสารสมบรูณ์และลูกค้าได้รับ Cash Back  แต่อาจารย์สามารถเช็คได้เลยครับว่า IMEI ที่เหลือยังไม่ได้มีการนำไปรับสิทธิ์ เราไม่ได้มีการนำไปปลอมแปลงต่อไป ตอนนั้นเราคิดแค่ว่าอยากให้อีกเบอร์นึงของอาจารย์ได้รับสิทธิ์เรียบร้อยเท่านั้นเอง
จขกท. : สรุปแล้วอีกเบอร์นึงที่พนักงานไม่ได้กดรับสิทธิ์ให้เป็นความผิดพลาดของพนักงานใช่มั้ยคะ
คุณ ช. : ใช่ครับ ตอนนั้นผมคิดว่าอยากจะทำอีกเบอร์นึงให้เรียบร้อยเท่านั้นเอง
จขกท. : แล้วพอมีการเช็คว่าเราส่ง 2 สลิปจริง ก็เลยมีการดึงออกใช่มั้ยคะ
คุณ ช. : ใช่ครับ ดึงออกครับ เพื่อให้มันตรงกับหมายเลขที่ทางผมยื่นขอรับสิทธิ์ไป แต่ไม่ได้นำไปปลอมแปลงหรือนำไปรับสิทธิ์เองอย่างแน่นอน

จากนั้นทางจขกท.ก็ยื่นเอกสารที่คุณ ช. ขอเพิ่มเติม คุณช.ได้ทำการถ่ายเอกสารและนำมาให้แม่จขกท.เซ็นต์รับรองสำเนาถูกต้อง พร้อมกับพูดว่า “ยังไงวันนี้ผมก็ขอมอบของขวัญวันสงกรานต์เล็กๆน้อยๆให้ พร้อมกับขอถ่ายรูปเพื่อส่งให้ส่วนกลางดูว่า ทางผมได้มีการพูดคุยและขอโทษกับลูกค้าแล้ว เรื่องนี้จะได้จบๆไปด้วยส่วนหนึ่ง”

แต่ทางจขกท.ปฏิเสธที่จะไม่รับของ และถ่ายภาพใดๆทั้งสิ้นค่ะ

ส่วนเรื่องการเซ็นต์เอกสารแทนนั้น ทางจขกท.ได้ปรึกษากับหลายๆคนดู เห็นว่าคุณช.และทีมงานไม่ได้มีเจตนาทำให้แม่จขกท.ได้รับความเสียหายจึงไม่ได้ดำเนินการต่อและจขกท.ได้ว่ากล่าวไปแล้วว่าการกระทำเช่นนี้เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ หากต้องการเอกสารอะไรเพิ่มเติม ควรจะโทรศัพท์แจ้งให้ลูกค้ามาดำเนินการด้วยตัวเอง ส่วนเรื่องการดึงกเอกสารออกนั้นพนักงานได้ยอมรับผิดและขอโทษพร้อมกับรับผิดชอบในการกระทำที่ไม่รอบคอบในครั้งนี้แล้ว จขกท.ได้แต่หวังว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จะเป็นบทเรียนให้แก่ทาง AIS ว่ามาตรฐานการดำเนินงานของคุณนั้นดีพอหรือไม่ และคุณควรจะปรับปรุงการดำเนินงานของคุณอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก

ขอขอบคุณทุกๆคอมเม้นท์นะคะที่ให้ทั้งคำแนะนำ และกำลังใจค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่