จากแฟนตัวยงของหนังแฟนตาซีคนหนึ่ง ที่ชอบดูหนังต่างชาติแบบ soundtrack เท่านั้น
. ทุกคนคาดหวังว่าจะได้ดู 2 ราชนี evil กับ ice ฟาดฟันกันแบบไม่ยั้ง special effect ......... แต่... สิ่งที่ได้
คือ หนังปูทางความยืดเยื้อ บทของตัวละครที่เป็นมนุษย์ธรรมดา ของ คริส และ เจสสิก้า มากกว่า 60% ของ เวลาหนังทั้งหมด
ทั้งที่มี ตัวละคร อลังการ แบบ ชาลิซ และ เอมิลี่ ให้เล่น การต่อสู้แบบเหนือความคาดหมายมากมาย แต่กลับเอาตัวละครของ
ชาลิซ และ เอมิลี่ มาสู้กันแบบ......... ที่ดูจบแล้ว.....ต้องพูดว่า .... แค่เนี่ย ?
เสียดาย พลัง ของทั้ง 2 queen ทื่ควรจะอัดใส่กันได้มากกว่านี้มากๆครับ. พลังของ evil queen ในภาค 1 นี้ เหนือชั้นกว่าภาค 2 มากๆ
มัวแต่เอาเวลาของหนังไปโฟกัสที่พลังการเตะต่อยแบบบ้านๆ ของคริส กับ เจสสิก้า
ทั้ง เอมิลี่ และ ชาลิซ แสดงได้ดีมากๆ. แต่เสียดายโอกาสมากๆครับ เสียดายพลังของทั้งคู่
สมแล้วที่หนังตั้งชื่อว่า the huntsman .
เพราะผ่านไปครึ่งเรื่อง เห็นแต่หน้า huntsman เดินไปเดินมาจริงๆครับ.
เหตผลที่ The Huntsman ไม่สนุกได้คะแนนเวบมะเขือเน่า 18 % (สปอยแน่นอนฮะ)
. ทุกคนคาดหวังว่าจะได้ดู 2 ราชนี evil กับ ice ฟาดฟันกันแบบไม่ยั้ง special effect ......... แต่... สิ่งที่ได้
คือ หนังปูทางความยืดเยื้อ บทของตัวละครที่เป็นมนุษย์ธรรมดา ของ คริส และ เจสสิก้า มากกว่า 60% ของ เวลาหนังทั้งหมด
ทั้งที่มี ตัวละคร อลังการ แบบ ชาลิซ และ เอมิลี่ ให้เล่น การต่อสู้แบบเหนือความคาดหมายมากมาย แต่กลับเอาตัวละครของ
ชาลิซ และ เอมิลี่ มาสู้กันแบบ......... ที่ดูจบแล้ว.....ต้องพูดว่า .... แค่เนี่ย ?
เสียดาย พลัง ของทั้ง 2 queen ทื่ควรจะอัดใส่กันได้มากกว่านี้มากๆครับ. พลังของ evil queen ในภาค 1 นี้ เหนือชั้นกว่าภาค 2 มากๆ
มัวแต่เอาเวลาของหนังไปโฟกัสที่พลังการเตะต่อยแบบบ้านๆ ของคริส กับ เจสสิก้า
ทั้ง เอมิลี่ และ ชาลิซ แสดงได้ดีมากๆ. แต่เสียดายโอกาสมากๆครับ เสียดายพลังของทั้งคู่
สมแล้วที่หนังตั้งชื่อว่า the huntsman .
เพราะผ่านไปครึ่งเรื่อง เห็นแต่หน้า huntsman เดินไปเดินมาจริงๆครับ.