แก้วถัดมาเข้มขึ้นมาอีกหน่อย Black Jack Martini (480 บาท) แก้วนี้ได้ Jack Daniel’s ผสมกับ Kahlua และ Tia Maria และกาแฟ espresso อีกช็อต ได้รสและกลิ่นกาแฟแฝงด้วยกลิ่นวนิลาหอมๆ อร่อยดีนะแก้วนี้ผมชอบๆ
Chocolate Martini (480 บาท) แรงไม่แพ้แก้วที่แล้ว Vodka ผสม Creme de Cacao และ Galliano เคลือบปากแก้วด้วยช็อคโกแลตอีกที หอมๆหวานๆแต่หนักหน่วงเอาเรื่องนะครับ
นอกจากรสชาติอาหารและเครื่องดื่มที่ยอดเยี่ยมแล้ว จุดเด่นของที่นี่อีกอย่างนึงเลยคือในเรื่องของการบริการครับ จัดว่าดีงามเกินมาตราฐานมากๆ ส่วนราคาอาจจะดูสูงไปหน่อยแต่ถ้ามีบัตร Club Marriott Member มา 2 ท่านลด 50% เลยทีเดียว ถือว่าคุ้มมากๆเลยครับ สำหรับคนที่สนใจไปทานอาหารที่ New York Steak House อย่าลืมโทรจองก่อนด้วยนะ เพราะที่ร้านคนเต็มแทบทุกวันเลยทีเดียว
Address: JW Marriott Hotel Bangkok - 2nd floor, 4 Sukhumvit Soi 2, Bangkok 10110
[SR] [Sheep's Butler] บุกมากินสเต็กเนื้อ Tomahawk ที่ New York Steak House บนโรงแรมหรูใจกลางเมือง กับบริการที่เป็นเลิศ
วันนี้ดีใจมากที่มีโอกาสได้มากินสเต็กอร่อยๆ ในบรรยากาศและการบริการที่ยอดเยี่ยมที่ JW Marriott Hotel Bangkok ด้วยความตื่นเต้นทำให้มาถึงก่อนเวลานัดตั้งครึ่งชั่วโมงแน่ะ เลยเก็บบรรยากาศหน้าร้านรอเพื่อนสมาชิกก่อน ระหว่างรอแอบเห็นมีคนวอร์คอินเข้ามาแบบไม่ได้จองแล้วต้องผิดหวังกลับไปหลายคนทีเดียว เพราะวันนี้ทางร้านมีลูกค้าจองเต็มทุกโต๊ะเลย
พอสมาชิกครบเราก็เข้ามาดูในร้านบ้าง บรรยากาศภายในตกแต่งแบบเรียบๆแต่แฝงไว้ด้วยความหรูหรา แต่ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปในร้านมากนักเพราะคนนั่งกันเต็มร้านทีเดียว มีโต๊ะว่างให้แอบเก็บภาพมาโต๊ะนึง ส่วนพวกเราได้มานั่งในห้อง private จะได้ถ่ายรูปได้สะดวกๆไม่รบกวนแขกท่านอื่นๆ
หลังจากเลือกเมนูกันเสร็จเรียบร้อย Complimentary ก็มาเป็นขนมปังมีทั้งหมด 4 ชนิด ได้แก่ whole wheat ที่คุ้นเคย, Onion หอมๆ, Soya ที่มีส่วนผสมของถั่วเหลือง และ focaccia ที่ใส่โรสแมรีหอมๆ ขนมปังนุ่มอร่อยมาก ขนาดทิ้งไว้จนเย็นแล้วยังนุ่มอยู่เลย
ส่วนเนยมีให้ 2 ชนิด คือเนยแบบธรรมดา กับ Garlic butter หอมๆกลิ่นกระเทียม
เรียกน้ำย่อยเมนูแรกด้วย Traditional Smoked Salmon (590 บาท) มาเป็นรถเข็นแบบนี้เลย แล้วมาแล่ใส่จานกันที่โต๊ะเลยครับ เสร็จแล้วโรยหน้าด้วย มายองเนส caper หัวหอมสับ ไข่ต้ม และ dill (ผักชีลาว) เนื้อแซลมอนรมควันที่นี่แตกต่างจากทีเคยทานตรงที่ไม่ค่อยเค็มดี บีบเลมอนแล้วทานพร้อมกับเครื่องที่โรยหน้ามาเข้ากันมากๆ
ตามมาติดๆกับ Grilled Hokkaido Scallops in the Shell (900 บาท) หอยเชลล์ฮอกไกโดย่างบนกะทะสุกกำลังดี ด้านในไม่สุกมากได้รสหวานของหอยสดๆ วางอยู่บนเห็ดผัดซอสทรัฟเฟิลหอมๆ อร่อยเต็มปากเต็มคำดี
Lump Snow Crab Cake (520 บาท) ของทานเล่นอีกซักจาน มันฝรั่งบดผสมเนื้อปูหิมะทอด กลิ่นหอมๆของเนื้อปูนี่มันดีจริงๆ
เมนูหลักจานแรกมาจากท้องทะเล Black Pepper Crusted Snow fish (1,400 บาท) ปลาหิมะทอดผิวด้านบนกรอบๆ เนื้อด้านในนุ่มๆ หอมกลิ่นพริกไทดำ รสชาติเข้มข้นกำลังดีเลย
และแล้วก็มาถึงพระเอกของงาน Spice Rubbed Australian Tomahawk Wagyu (4,300 บาท) สเต็กเนื้อโทมาฮอว์คขนาด 1 กิโลกรัม พร้อมเครื่องเคียง ชิ้นใหญ่มากสามารถแบ่งกันทานได้ 3-4 คนทีเดียว
จากนั้นก็ค่อยๆแร่เป็นชิ้นๆ แล้ววางเรียงไว้บนกระดูก เห็นเนื้อแดงๆชุ่มฉ่ำๆแบบมิเดียมแรร์แบบนี้แล้วแทบละลายยยย
แล้วก็นำมาวางบนถาดพร้อมเสริฟแล้ว ด้านล่างมีไฟสำหรับเอาไว้สำหรับอุ่นเนื้อด้วย ส่วนคนที่ชอบความสุกมากกว่านี้สามารถนำเนื้อที่เรียงไว้บนกระดูกมาวางลงบนถาดเพื่อเพิ่มความสุกได้ ส่วนผมขอแบบมิเดียมแรร์นี่แหละ อร่อยเด็ด
ซอสมา 3 ชนิด BBQ, Peppercorn และ Blue Cheese
มัสตาร์ดอีก 3 แบบมีทั้ง English Mustard, Dijon Mustard และ Pommery Mustard
นอกจากนั้น ยังมีเกลืออีกมากมายเลือกกันไม่ถูกเรยทีเดียว ปกติผมชอบทานแบบโรยเกลือเนี่ยแหละ ฟินสุดๆแล้ว
เครื่องเคียงมี 2 อย่างคือ Wild Rocket, Parmesan Cheese Salad กับ Roasted Kipfler Potatoes with Rosemary
ต่อด้วยของหวาน Chocolate Dream (500 บาท) เค้กช็อคโกแลตลาวา รสชาติเข้มข้น ด้านในอัดแน่นด้วยซอสช็อคโกแลตเยิ้มๆหวานๆ ทานคู่กับไอศครีมวนิลาของ Häagen-Dazs และซอสสตอร์เบอร์รี่เปรี้ยวๆ ลงตัวสุดๆ
Warm Mixed Berries (550 บาท) ไอศครีม Haagen-Dazs แม็คคาดิเมียวางอยู่บนผลเบอร์รี่สดๆหลากหลายชนิดทั้ง ราสเบอร์รี่ สตอร์เบอร์รี่ และ บลูเบอร์รี่ ก่อนราดด้วยซอสเบอร์รี่เปรี้ยวๆหวานๆ
Apple Pie a la mode (260 บาท) แอปเปิ้ลพายแป้งบางๆกรอบๆไส้แอปเปิ้ลเต็มๆ เสริฟพร้อมไอศครีมวนิลาที่วางอยู่บนแป้งบีสกิตกรอบๆ
ต่อจากของหวานเรามาจิบ Signature Martini แรงๆกันต่อเลย
เริ่มด้วยแก้วที่เบาที่สุดก่อน Cosmopolitan (480 บาท) ค็อกเทลเบส Vodka ผสมกับ Triple Sec และ Cranberry Juice รสชาติหวานๆเปรี้ยวๆไม่หนักมาก
Kyoto (480 บาท) ค็อกเทลเบส Gin ผสมกับ Midori Melon หอมๆหวานๆ กับรสเปรี้ยวของน้ำมะนาวอีกหน่อย เป็นอีกแก้วที่ดื่มง่าย แต่แก้วนี้แรงใช้ได้นะครับ ดื่มเพลินๆนี่เมาไม่รู้ตัว
แก้วถัดมาเข้มขึ้นมาอีกหน่อย Black Jack Martini (480 บาท) แก้วนี้ได้ Jack Daniel’s ผสมกับ Kahlua และ Tia Maria และกาแฟ espresso อีกช็อต ได้รสและกลิ่นกาแฟแฝงด้วยกลิ่นวนิลาหอมๆ อร่อยดีนะแก้วนี้ผมชอบๆ
Chocolate Martini (480 บาท) แรงไม่แพ้แก้วที่แล้ว Vodka ผสม Creme de Cacao และ Galliano เคลือบปากแก้วด้วยช็อคโกแลตอีกที หอมๆหวานๆแต่หนักหน่วงเอาเรื่องนะครับ
Manhattan (480 บาท) คลาสสิคค็อกเทลแก้วนี้ไม่ต้องพูดถึงความแรง เพราะส่วนผสมมีแต่เหล้าล้วนๆ ทั้ง Jim Beam และ Sweet Vermouth (Rosso) ก่อนจะรินลงในแก้วที่มีผลเชอร์รี่เชื่อมวางอยู่ ใครสายแข็งขอแนะนำแก้วนี้เลย
นอกจากรสชาติอาหารและเครื่องดื่มที่ยอดเยี่ยมแล้ว จุดเด่นของที่นี่อีกอย่างนึงเลยคือในเรื่องของการบริการครับ จัดว่าดีงามเกินมาตราฐานมากๆ ส่วนราคาอาจจะดูสูงไปหน่อยแต่ถ้ามีบัตร Club Marriott Member มา 2 ท่านลด 50% เลยทีเดียว ถือว่าคุ้มมากๆเลยครับ สำหรับคนที่สนใจไปทานอาหารที่ New York Steak House อย่าลืมโทรจองก่อนด้วยนะ เพราะที่ร้านคนเต็มแทบทุกวันเลยทีเดียว
Address: JW Marriott Hotel Bangkok - 2nd floor, 4 Sukhumvit Soi 2, Bangkok 10110
Open: Mon - Sun 18:00 – 23:00
Tel: 02 656 7700
ติดตามเพิ่มเติมกันได้ที่ https://www.facebook.com/sheepsbutler