5 สินค้าเกษตรรวยเว่อร์.. อยากพลิกชีวิตต้องอ่าน!!!

ประเทศไทยเป็นแหล่งผลิตสินค้าเกษตรชั้นดี ที่ผ่านมาเราขาดการส่งเสริมและสนับสนุน หนำซ้ำยังหันไปหมกมุ่นอยู่กับสินค้าอุตสาหกรรมจนล้นตลาด แต่วันนี้หลายคนเริ่มตระหนักว่าอาหารคือปัจจัยสำคัญของชีวิต ทุกคนบนโลกล้วนต้องการอาหาร แล้วทำไมเราไม่ผลิตอาหารป้อนสู่ตลาดโลก ล่าสุดสำนักข่าว “Thai quote” ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพืชเกษตรทั้ง 5 ชนิดที่ใครก็ตามตั้งใจทำจริง รวยเว่อร์..แน่นอน

                ตะไคร้ เป็นพืชเกษตรที่กำลังมาแรงแซงทางโค้งเพราะใช้ได้ตั้งแต่โคนจรดปลาย ทำได้ตั้งแต่เครื่องต้มยำยันน้ำสุขภาพ โรงงานเครื่องแกงเสาะหากันจ้าละหวั่น ขนาดทำสัญญาซื้อขายตั้งแต่เตรียมดิน สนนราคาการันตีขั้นต่ำ กก.10-15 บาท ว่ากันว่าเกษตรกรบางคนมีรายได้จากการปลูกตะไคร้ขายมากถึงวันละ 30,000 บาท ปลูกง่ายรายได้ดีขนาดนี้ ไม่ทำไม่ได้แล้ว

                กล้วย ขึ้นชื่อว่ากล้วยไม่ว่าจะเป็นกล้วยไข่ กล้วยน้ำว้า กล้วยหอม หรือแม้กระทั่งกล้วยตากมีเท่าไหร่ก็ไม่พอขาย เพราะตลาดมีความต้องการสูง โดยเฉพาะตลาดญี่ปุ่นกับจีนต้องมาจองกันถึงสวน ไม่ต้องมองอื่นไกล แค่ในบ้านเรา กล้วยหอมหวีสวยๆขายกันหวีละ 90-150 บาท ในคอนวีเนียนสโตร์ลูกละ 8 บาท ไม่พอขาย เพราะฉะนั้นอย่าแปลกใจที่เกษตรกรหลายคนจะหันไปปลูกกล้วยโกยรายได้ในช่วงน้ำแล้งแบบนี้

                มะนาว พืชอีกชนิดที่ทำเป็นรายได้เป็นกอบเป็นกำ จะปลูกแบบเป็นไร่หรือปลูกในกระถางอ่างซีเมนต์ก็ได้ กรรมวิธีการปลูกไม่ยาก ถ้าได้พันธุ์ดีๆให้น้ำมาก เป็นที่ต้องการของตลาด สามารถขายได้ราคา ผลละ 4-5 บาท แหล่งระบายสินค้ามีตั้งแต่ตลาดสด ตลาดนัด ร้านเครื่องดื่ม ร้านอาหาร เรียกว่าถ้ามีแรงปลูกก็มีคนซื้อว่างั้นเถอะ

                มะพร้าว กินสดก็ได้ แปรรูปก็ดี โดยเฉพาะมะพร้าวน้ำหอมของไทยขึ้นชื่อลือชาติดตลาดโลกโกยเงินเข้าประเทศปีละหลายพันล้าน ตลาดใหญ่ๆคือฮ่องกง มาเลเซีย สิงคโปร์ และยุโรป ยิ่งในปัจจุบันคนรุ่นใหม่มองข้ามมะพร้าวหันไปปลูกพืชชนิดอื่น เจ้าของสวนมะพร้าวเลยโกยเงินเพลิน เพราะคนปลูกน้อย แต่ความต้องการในตลาดมีมาก ประกอบกับตอนนี้มีเทคนิคปอกเปลือกกินได้ทั้งลูกก็เลยยิ่งได้รับความนิยม ขายกันลูกละ 20-30 บาท ว่ากันว่าตลาดต่างประเทศอย่างเกาหลีใต้วางขายในซุปเปอร์มาร์เก็ตลูกละ 70 บาท

                มะม่วง ไม่ว่าจะยุคไหนสมัยไหนมะม่วงก็ยังเป็นสินค้ายอดฮิตติดลมบน เป็นผลไม้มีอนาคต ถ้าทำดี ผลผลิตงาม รับรองพ่อค้าวิ่งมาจองซื้อถึงสวน กำไรก็ไม่มากไม่น้อย บวกลบต้นทุนเหลือประมาณไร่ละ 50,000 บาท ถ้าปลูกซัก 30 ไร่ก็ลองคูณว่าจะได้กำไรเท่าไหร่ ในต่างประเทศขายกันใบหนึ่งหลายสิบบาท เช่นมะม่วงน้ำดอกไม้ในญี่ปุ่นขายกันลูกละ 50 บาท เห็นแบบนี้ไม่ปลูกไม่ได้แล้ว แต่ขอบอกไว้ก่อนว่าการจะปลูกพืชชนิดไหน ต้องมีความมุ่งมั่นตั้งใจ ไม่ใช่เห็นคนอื่นรวยเว่อร์ก็ทำตาม แบบนั้นนอกจากจะไม่ประสบความสำเร็จแล้ว ยังทำให้สินค้าล้นตลาดอีกต่างหาก

http://thaiquote.org/article-details.php?code=733
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่