สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 45
ดิฉันยังอ่านรายละเอียดไม่ครบถ้วนเนื่องจากมีเวลาน้อย
ดิฉันเคยทำผักปลูกสารพิษมาก่อนด้วยสองมือของดิฉันเอง
แต่อาจจะไม่ได้ถึงขนาดคุณที่ไม่ใช้สารเคมีใดๆเลย แบบคุณเรียกว่าออแกนิคค่ะ
ดิฉันขอใบรับรองจากกรมการเกษตรว่าผักดิฉันปลอดสารพิษ
ดิฉันปลูกตอนอายุ23เรียนจบมาทำงานวิศวะได้1ปีก็คิดอยากปลูกผักเอง
มีปลูกบล๊อคโครี่ ต้นหอม ผักชี แต่ปลูกเป็นสิบไร่ อาจจะมากกว่าเจ้าของกระทู้
มีลูกจ้าง2คน ช่วยพ่นพวกปุ๋ย ถอนหญ้า
การปลูกผักปลอดสารพิษไม่ใช่เป็นไปไม่ได้ถ้าดินคุณดีอยู่แล้วนะคะ
แต่ดิฉันใช้ปุ๋ยคอกด้วยช่วงแรกๆ แต่หลังๆก็ใช้ปุ๋ยเคมีร่วมด้วย เพราะดินดิฉันไม่ดีนัก
โรคและแมลงเป็นของคู่กันที่ตามมา ดิฉันใช้เชื้อแบคทีเรีย กับเชื้อรา มาขยายแล้วฉีดพ่นเอา
ดิฉันอ่านหนังสือค่อนข้างเยอะ ทั้งตรวจสภาพดินและสภาพน้ำ ดิฉันทำทุกอย่างเลยค่ะ
โรคที่น่ากลัวที่สุดคือเชื้อรานะคะ คุณต้องอย่าทำให้ดินมีน้ำขังและลงไตรโคเดอร์ม่าหนักๆ
จุดสำคัญของคุณคือตลาดค่ะ
เพราะผักปลอดสารพิษหาตลอดลงยากนะคะ
ถ้าคุณปลูกพืชหลากหลายอยู่แล้ว ดิฉันแนะนำให้ส่งพวกซุปเปอร์มาเก็ตในกทม
ที่เค้ารับผักปลอดสารพิษโดยเฉพาะ ดิฉันเคยทำส่ง
แต่ตอนนั้นเค้ารับวันละ 10 KGS/ผัก 1 ชนิด ตอนนี้ไม่ทราบว่ายังเป็นอย่างนั้นหรือไม่
เดี๋ยวดิฉันจะบอกชื่อร้านให้ทางหลังไมค์นะคะ(ต้องโทรไปถามลูกน้องเก่าก่อนเพราะหลายปีแล้วจำชื่อไม่ได้)
ตอนนั้นดิฉันปลูกได้ผักที่สวยงามมากเลยค่ะ แต่ไม่มีตลาดจะลง
ปลูกได้เป็นสิบตันเลยค่ะ เครียดมากตอนนั้นค่ะ
เลยเอาไปส่งที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ดิฉันบอก และส่งตามร้านหมูกระทะค่ะ
ได้ราคาดีเลยค่ะ แต่เค้าจะรับครั้งละไม่มาก เหมาะกับคุณมากที่สุดค่ะ
มีร้านหมูกระทะหลายร้านที่ใส่ใจสุขภาพของลูกค้า รับซื้อผักจากดิฉันเพื่อไปแช่แข็งไว้ให้ลูกค้า
คุณต้องวิ่งเข้าร้านจำพวกนี้ หรือลองโทรไปสอบถามและตกลงเรื่องราคาเอาค่ะ
แต่คุณต้องมั่นใจนะคะว่าสามารถปลูกได้ตามORDERที่ลูกค้าสั่งในแต่ละวัน
หรืออีกอย่างที่ดิฉันจะแนะนำคือ คุณทำแพ็คเกจสวยๆ
ฝากตลาดใกล้ๆบ้านคุณขายเลยค่ะ หลายๆร้าน
โดยไปตกลงกันก่อน ดิฉันเคยปลูกพริกขี้หนูสวน แล้วเอาไปให้ตลาดสดขาย
ตอนนั้นได้กิโลละ80บาท แค่ที่ดินแปลงน้อยที่ปลูกเล่นๆหลังบ้าน
ก็เก็บได้วันนึ่งเป็น 10 กิโลนะคะ และมีเหลทอส่งตามร้านอาหารซีฟู๊ดด้วยค่ะ
ได้เงิน 1000 บาททุกวันเลยค่ะ ^_^
แต่ยอมรับนะคะว่าเหนื่อย ทำคนเดียวไม่ไหวหรอกค่ะ
แค่เก็บผักไปขายก็หมดแรงแล้วค่ะ ยังไงก็ต้องมีลูกจ้าง
ดิฉันว่ามีที่ซัก 1-2ไร่กำลังดีนะคะ
ปลูกหลากหลายเอา แมลงก็จะไม่เยอะเท่าไหร่ด้วยค่ะ
มีอะไรปรึกษาดิฉันได้นะคะ ดิฉันเคยเชี่ยวชาญเรื่องปลูกผักมากค่ะ
แต่ตอนนี้ก็ลืมๆไปบ้างเเล้ว 5555 แต่ดิฉันก็อ่านหนังสือเอาแหละค่ะ
ดิฉันแนะนำหนังสือที่ดีๆให้ได้นะคะ
ปัจจุบันดิฉันเป็นสาวรักสวยรักงามค่ะ ปลูกผักแล้วตัวดำ 5555
เลยขอมาทำงานในเมืองกรุงก่อนดีกว่าคะ เดี๋ยวดิฉันโทรถามลูกน้องเก่า
แล้วจะส่งข้อความไปบอกนะคะ สู้ๆนะคะ ปลูกผักแล้วสนุกค่ะ
ดิฉันเคยทำผักปลูกสารพิษมาก่อนด้วยสองมือของดิฉันเอง
แต่อาจจะไม่ได้ถึงขนาดคุณที่ไม่ใช้สารเคมีใดๆเลย แบบคุณเรียกว่าออแกนิคค่ะ
ดิฉันขอใบรับรองจากกรมการเกษตรว่าผักดิฉันปลอดสารพิษ
ดิฉันปลูกตอนอายุ23เรียนจบมาทำงานวิศวะได้1ปีก็คิดอยากปลูกผักเอง
มีปลูกบล๊อคโครี่ ต้นหอม ผักชี แต่ปลูกเป็นสิบไร่ อาจจะมากกว่าเจ้าของกระทู้
มีลูกจ้าง2คน ช่วยพ่นพวกปุ๋ย ถอนหญ้า
การปลูกผักปลอดสารพิษไม่ใช่เป็นไปไม่ได้ถ้าดินคุณดีอยู่แล้วนะคะ
แต่ดิฉันใช้ปุ๋ยคอกด้วยช่วงแรกๆ แต่หลังๆก็ใช้ปุ๋ยเคมีร่วมด้วย เพราะดินดิฉันไม่ดีนัก
โรคและแมลงเป็นของคู่กันที่ตามมา ดิฉันใช้เชื้อแบคทีเรีย กับเชื้อรา มาขยายแล้วฉีดพ่นเอา
ดิฉันอ่านหนังสือค่อนข้างเยอะ ทั้งตรวจสภาพดินและสภาพน้ำ ดิฉันทำทุกอย่างเลยค่ะ
โรคที่น่ากลัวที่สุดคือเชื้อรานะคะ คุณต้องอย่าทำให้ดินมีน้ำขังและลงไตรโคเดอร์ม่าหนักๆ
จุดสำคัญของคุณคือตลาดค่ะ
เพราะผักปลอดสารพิษหาตลอดลงยากนะคะ
ถ้าคุณปลูกพืชหลากหลายอยู่แล้ว ดิฉันแนะนำให้ส่งพวกซุปเปอร์มาเก็ตในกทม
ที่เค้ารับผักปลอดสารพิษโดยเฉพาะ ดิฉันเคยทำส่ง
แต่ตอนนั้นเค้ารับวันละ 10 KGS/ผัก 1 ชนิด ตอนนี้ไม่ทราบว่ายังเป็นอย่างนั้นหรือไม่
เดี๋ยวดิฉันจะบอกชื่อร้านให้ทางหลังไมค์นะคะ(ต้องโทรไปถามลูกน้องเก่าก่อนเพราะหลายปีแล้วจำชื่อไม่ได้)
ตอนนั้นดิฉันปลูกได้ผักที่สวยงามมากเลยค่ะ แต่ไม่มีตลาดจะลง
ปลูกได้เป็นสิบตันเลยค่ะ เครียดมากตอนนั้นค่ะ
เลยเอาไปส่งที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ดิฉันบอก และส่งตามร้านหมูกระทะค่ะ
ได้ราคาดีเลยค่ะ แต่เค้าจะรับครั้งละไม่มาก เหมาะกับคุณมากที่สุดค่ะ
มีร้านหมูกระทะหลายร้านที่ใส่ใจสุขภาพของลูกค้า รับซื้อผักจากดิฉันเพื่อไปแช่แข็งไว้ให้ลูกค้า
คุณต้องวิ่งเข้าร้านจำพวกนี้ หรือลองโทรไปสอบถามและตกลงเรื่องราคาเอาค่ะ
แต่คุณต้องมั่นใจนะคะว่าสามารถปลูกได้ตามORDERที่ลูกค้าสั่งในแต่ละวัน
หรืออีกอย่างที่ดิฉันจะแนะนำคือ คุณทำแพ็คเกจสวยๆ
ฝากตลาดใกล้ๆบ้านคุณขายเลยค่ะ หลายๆร้าน
โดยไปตกลงกันก่อน ดิฉันเคยปลูกพริกขี้หนูสวน แล้วเอาไปให้ตลาดสดขาย
ตอนนั้นได้กิโลละ80บาท แค่ที่ดินแปลงน้อยที่ปลูกเล่นๆหลังบ้าน
ก็เก็บได้วันนึ่งเป็น 10 กิโลนะคะ และมีเหลทอส่งตามร้านอาหารซีฟู๊ดด้วยค่ะ
ได้เงิน 1000 บาททุกวันเลยค่ะ ^_^
แต่ยอมรับนะคะว่าเหนื่อย ทำคนเดียวไม่ไหวหรอกค่ะ
แค่เก็บผักไปขายก็หมดแรงแล้วค่ะ ยังไงก็ต้องมีลูกจ้าง
ดิฉันว่ามีที่ซัก 1-2ไร่กำลังดีนะคะ
ปลูกหลากหลายเอา แมลงก็จะไม่เยอะเท่าไหร่ด้วยค่ะ
มีอะไรปรึกษาดิฉันได้นะคะ ดิฉันเคยเชี่ยวชาญเรื่องปลูกผักมากค่ะ
แต่ตอนนี้ก็ลืมๆไปบ้างเเล้ว 5555 แต่ดิฉันก็อ่านหนังสือเอาแหละค่ะ
ดิฉันแนะนำหนังสือที่ดีๆให้ได้นะคะ
ปัจจุบันดิฉันเป็นสาวรักสวยรักงามค่ะ ปลูกผักแล้วตัวดำ 5555
เลยขอมาทำงานในเมืองกรุงก่อนดีกว่าคะ เดี๋ยวดิฉันโทรถามลูกน้องเก่า
แล้วจะส่งข้อความไปบอกนะคะ สู้ๆนะคะ ปลูกผักแล้วสนุกค่ะ
ความคิดเห็นที่ 2
1. คุณต้องได้ premium จากการขายผักปลอดสารพิษครับ ถ้าราคาหายเท่ากับผักธรรมดาใช้สาร ก็อย่าไปทำปลอดสารพิษขายเลยครับ เสียเวลา ลำบากกว่า ผมคิดว่าจุดนี้คุณน่าจะรู้่แล้ว
2. เลือกขายผักที่กำไร margin สูงๆหน่อยครับ พวก ตระกูลเห็ดนางรมหลวง หรือคะน้าก็โอเคครับ แต่ ถั่วฝักยาว กะเพรา ข่า ตะไคร้ มันจะกำไรน้อยไปนิด
3. ร้ายอาหารที่คุณส่ง เค้าให้เครดิสความเป็นผักปลิดสารหรือเปล่าครับ หรือเค้าาให้คุณเท่าราคาผักใช้สารทัว่ไป ถ้าเป็นเช่นนั้น หาร้ายค้าที่ชูจุดขายเป็นผัดปลอดสาร
4. แนะนำให้เจาะกลุ่มลูกค่ารายย่อยที่มีกำลังซื้อสูงครับ หรือพวกครอบครัวใหญ่ บ้านคนจีนพวกนี้ ไปทำความรู้จักเค้า บอกเค้าว่าเราขายผักปลอดสาร มาซื้อกับเราได้ถ้าทำกับข้าวประจำ ใช้ผักอะไรทุกอาทิตย์ก็สั่งมา แล้วคุณก็ไปส่งที่บ้านทุกอาทิตย์ .. แบบนี้คุณก็คิดราคาเค้าแพงกว่าตลาดที่ใช้สารทั่วไปได้
5. ถ้าขายตลาด ทำpackage ให้มันดูเป็นชุดๆ เป็น set หรือ เป็น unit ดีดีครับ มันส่งผลต่อความน่าซื้อ ขายส่งก็อีกแบบ ขายปลีกก็อีกแบบ .
อยากให้คุณให้ความสำคันกับข้อ 2 มากๆครับ ลองไปหาหนังสือเกี่ยวกับผักมาอ่านแล้วเลือกดูเลย ว่าความน่าสนใจกับราคาขาย แล้วเลือกมาปลูกให้ดีดี กำไรอืื้อซ่าเลยครับ ตอนแรกๆเราเรียนรู้มันไป กำไรน้อยบ้างอะไรบ้างไม่เป็นไรครับ เรื่องปกติ มันอยู่ที่ความสุขครบั ยังไงทำงานแบบมีอำนาจการตัดสินใจเองมันมีความสุขกว่าทำงานในออฟฟิสอยู่แล้วครับ มาให้กำลังใจครับ ...
2. เลือกขายผักที่กำไร margin สูงๆหน่อยครับ พวก ตระกูลเห็ดนางรมหลวง หรือคะน้าก็โอเคครับ แต่ ถั่วฝักยาว กะเพรา ข่า ตะไคร้ มันจะกำไรน้อยไปนิด
3. ร้ายอาหารที่คุณส่ง เค้าให้เครดิสความเป็นผักปลิดสารหรือเปล่าครับ หรือเค้าาให้คุณเท่าราคาผักใช้สารทัว่ไป ถ้าเป็นเช่นนั้น หาร้ายค้าที่ชูจุดขายเป็นผัดปลอดสาร
4. แนะนำให้เจาะกลุ่มลูกค่ารายย่อยที่มีกำลังซื้อสูงครับ หรือพวกครอบครัวใหญ่ บ้านคนจีนพวกนี้ ไปทำความรู้จักเค้า บอกเค้าว่าเราขายผักปลอดสาร มาซื้อกับเราได้ถ้าทำกับข้าวประจำ ใช้ผักอะไรทุกอาทิตย์ก็สั่งมา แล้วคุณก็ไปส่งที่บ้านทุกอาทิตย์ .. แบบนี้คุณก็คิดราคาเค้าแพงกว่าตลาดที่ใช้สารทั่วไปได้
5. ถ้าขายตลาด ทำpackage ให้มันดูเป็นชุดๆ เป็น set หรือ เป็น unit ดีดีครับ มันส่งผลต่อความน่าซื้อ ขายส่งก็อีกแบบ ขายปลีกก็อีกแบบ .
อยากให้คุณให้ความสำคันกับข้อ 2 มากๆครับ ลองไปหาหนังสือเกี่ยวกับผักมาอ่านแล้วเลือกดูเลย ว่าความน่าสนใจกับราคาขาย แล้วเลือกมาปลูกให้ดีดี กำไรอืื้อซ่าเลยครับ ตอนแรกๆเราเรียนรู้มันไป กำไรน้อยบ้างอะไรบ้างไม่เป็นไรครับ เรื่องปกติ มันอยู่ที่ความสุขครบั ยังไงทำงานแบบมีอำนาจการตัดสินใจเองมันมีความสุขกว่าทำงานในออฟฟิสอยู่แล้วครับ มาให้กำลังใจครับ ...
ความคิดเห็นที่ 10
ตามสมาชิกเลขที่ 916200 บอกครับ
เลือกขายผักที่กำไร margin สูงๆหน่อยครับ ทำเกษตรรวยไม่ยากครับ ก่อนอื่นผมมีแนวคิดอย่างนี้ครับ ที่น้อยต้องปลูกของราคาแพง และสิ่งที่ผมปลูกบนพื้นที่ 2 งาน คือ
ถั่วพู ประมาณ หนึ่งงาน เก็บได้วันละประมาณ 10-15 กิโลๆ ละ50- 80 บาท ครับ เก็บทุกวัน
พื้นที่ที่เหลือ เป็น ดอกขจร เก็บได้ประมาณวันละ 7-10 กิโลๆ ละ 80-100 บาท 3 วันเก็บทีนึง
รายได้ของผมต่อเดือนประมาณ 20000 บาท
การทำเกษตรนั้นมันก็เหมือนการทำบริษัทแหละครับ การจัดการดี รายได้ย่อมสูงเป็นธรรมดาครับ
เอาใว้คิดเล่นๆครับ
ทำไมผมถึงปลูกผัก 2 ชนิดนี้
1 ราคาไม่ตกครับ คือ ไม่ว่าช่วงไหนก็มีราคาสูง หรือราคาต่ำสุดก็ยังแพงอยู่
2 ดูแลง่ายครับ แทบไม่ต้องใช้สารเคมีครับ (ลืมบอก บางอย่างต้องมีสารเคมีบ้างครับ ชีวภาพเอาไม่อยู่)
3 ออกแทบทุก ฤดูการ เว้นถั่วพูชอบเย็น ดอกสลิดไม่ชอบเย็น ก็แทนกันไปได้ครับ ราคาสูงตามฤดูด้วยครับ
4 อายุการเก็บเกี่ยวยาวครับ 8 เดือนอย่างต่ำ ไม่ต้องเสียเวลาปลูกใหม่
และกำลังจะทำผักปลอดสารส่งถึงครัวเร็วนี้ครับบบบบบบบบบ
เลือกขายผักที่กำไร margin สูงๆหน่อยครับ ทำเกษตรรวยไม่ยากครับ ก่อนอื่นผมมีแนวคิดอย่างนี้ครับ ที่น้อยต้องปลูกของราคาแพง และสิ่งที่ผมปลูกบนพื้นที่ 2 งาน คือ
ถั่วพู ประมาณ หนึ่งงาน เก็บได้วันละประมาณ 10-15 กิโลๆ ละ50- 80 บาท ครับ เก็บทุกวัน
พื้นที่ที่เหลือ เป็น ดอกขจร เก็บได้ประมาณวันละ 7-10 กิโลๆ ละ 80-100 บาท 3 วันเก็บทีนึง
รายได้ของผมต่อเดือนประมาณ 20000 บาท
การทำเกษตรนั้นมันก็เหมือนการทำบริษัทแหละครับ การจัดการดี รายได้ย่อมสูงเป็นธรรมดาครับ
เอาใว้คิดเล่นๆครับ
ทำไมผมถึงปลูกผัก 2 ชนิดนี้
1 ราคาไม่ตกครับ คือ ไม่ว่าช่วงไหนก็มีราคาสูง หรือราคาต่ำสุดก็ยังแพงอยู่
2 ดูแลง่ายครับ แทบไม่ต้องใช้สารเคมีครับ (ลืมบอก บางอย่างต้องมีสารเคมีบ้างครับ ชีวภาพเอาไม่อยู่)
3 ออกแทบทุก ฤดูการ เว้นถั่วพูชอบเย็น ดอกสลิดไม่ชอบเย็น ก็แทนกันไปได้ครับ ราคาสูงตามฤดูด้วยครับ
4 อายุการเก็บเกี่ยวยาวครับ 8 เดือนอย่างต่ำ ไม่ต้องเสียเวลาปลูกใหม่
และกำลังจะทำผักปลอดสารส่งถึงครัวเร็วนี้ครับบบบบบบบบบ
ความคิดเห็นที่ 19
สวนผมอยู่แถวสามโคก ปทุมธานีครับ
ตอนนี้มาคิดดูแล้ว ปัญหาหลักๆ น่าจะอยู่ที่
1. ผมปลูกผักได้ไม่พอขาย เพราะลูกค้าที่สนใจสินค้าเรามีอยู่พอสมควรครับ
2. ยังไปหากลุ่มลูกค้าที่พร้อมจะซื้อผักในราคาสูงๆ ไม่ค่อยได้
3. ยังจัดการการทำสวนไม่ค่อยดีนัก ตอนนี้พื้นที่ 1 ไร่ ยังทำไม่เต็มเลยครับ เพราะต้องดูแลเองหลายอย่าง และใช้เวลากับธุระอื่นด้วย
4. ยังปลูกผักที่ขายได้ราคาดีไม่ค้่อยได้ผล
มือใหม่อาจต้องใช้เวลาเรียนรู้ แต่คิดว่าคงไม่หยุดครับ จะทำต่อ แต่คงต้องปรับวิธีใหม่ และหารายได้จากทางอื่นเสริมไปด้วย เพื่อเป็นทุนในการพัมนาครับ
ถามว่าเสียดายไหมที่ออกจากงานประจำมาทำตามความฝัน แม้มันจะยังไม่สำเร็จ หรือท้ายที่สุดเราอาจจะเลิกก็ตาม แต่ก็ไม่เสียดายเลยครับ เราได้ลองทำแล้ว และต้องสู้ต่อไป
ตอนนี้มาคิดดูแล้ว ปัญหาหลักๆ น่าจะอยู่ที่
1. ผมปลูกผักได้ไม่พอขาย เพราะลูกค้าที่สนใจสินค้าเรามีอยู่พอสมควรครับ
2. ยังไปหากลุ่มลูกค้าที่พร้อมจะซื้อผักในราคาสูงๆ ไม่ค่อยได้
3. ยังจัดการการทำสวนไม่ค่อยดีนัก ตอนนี้พื้นที่ 1 ไร่ ยังทำไม่เต็มเลยครับ เพราะต้องดูแลเองหลายอย่าง และใช้เวลากับธุระอื่นด้วย
4. ยังปลูกผักที่ขายได้ราคาดีไม่ค้่อยได้ผล
มือใหม่อาจต้องใช้เวลาเรียนรู้ แต่คิดว่าคงไม่หยุดครับ จะทำต่อ แต่คงต้องปรับวิธีใหม่ และหารายได้จากทางอื่นเสริมไปด้วย เพื่อเป็นทุนในการพัมนาครับ
ถามว่าเสียดายไหมที่ออกจากงานประจำมาทำตามความฝัน แม้มันจะยังไม่สำเร็จ หรือท้ายที่สุดเราอาจจะเลิกก็ตาม แต่ก็ไม่เสียดายเลยครับ เราได้ลองทำแล้ว และต้องสู้ต่อไป
ความคิดเห็นที่ 17
ลุยไปเลยครับนอกจากปลูกคะน้าปลอดสาร มีพืชผักอีกหลายชนิดที่ทำเงินได้ดี เช่นกุยช่ายขาว+เขียว
โดยเลี้ยงไก่ไข่ เลี้ยงไส้เดือนดิน เอามูลไก่+มูลไส้เดือนมาทำปุ๋ยให้้ธาตุอาหารกับพืชผัก เอาเศษผักที่
คัดทิ้งมาเ้ลี้ยงไก่+ไส้เดือน ใช้ประโยชน์แบบสร้างเสริมกันไม่ให้เป็นต้นทุน
หรือศึกษาการเพาะถั่วงอกอินทรีย์แบบไม่ใช้สารถั่วอ้วน ใช้ฮอร์โมนพวกไซโตแคนนินจากสาหร่ายหรือ
หัวใช้เท้าผสมน้ำมะพร้าวบำรุงให้อวบอ้วน ขายตลาดบนหรือเพาะแบบอุตสาหกรรมปริมาณมาก เอามา
ขายส่งที่ตลาดรังสิต ตลาดรังสิตเป็นแหล่งรับซื้อมีความต้องการสูง และการเพาะถั่วงอกใช้้น้ำปริมาณ
มาก (ถั่วเขียว 1 กก.ใช้น้ำถึง 240 ลิตร) เอาน้ำเหลือใช้จากการเพาะถั่วมารดพืชผักได้อีกครับ
มีวิธีลดต้นทุนปลูกพืชผักให้ได้ผลผลิตดี ใช้พื้นที่น้อยโดยวิธีปลูกในภาชนะพลาสติกใช้แล้ว พวกลังส้ม-
ลังผลไม้หรือรับซื้อลังพลาสติกจากโรงผลิตแหนมดอนเมือง อยู่แถวๆองค์รักษ์ ราคาประมาณ 25 บาท
ก่อนจะรีไซเคิลนำมาใช้เป็นภาชนะปลูกพืชผักได้อีกไม่ต่ำกว่า 5 ปี ลดต้นทุนได้มาก ขายทิ้งก็ได้ราคา
ไม่ต่ำกว่า 25 บาท/ใบ เหมือนเอามาใช้ฟรีเลยครับ
หรือทำไข่อินทรีย์ขายตลาดบนโดยเลี้ยงไก่ไข่ 1,000 ตัว ผสมอาหารใช้เอง ใช้สูตรปลายข้าว รำ กาก
ถั่วเหลือง ปลาป่น เปลือกหอย และพรีมิกซ์โดยใช้แซนโธฟิลด์จากการสกัดดอกดาวเรืองให้สีไข่ที่เบอร์
10-11 ต้นทุนค่าอาหารประมาณ 1,250 บาท/วัน ขายเป็นไข่ไก่อินทรีย์ฟองละ 5-6 บาท (บางบริษัท
ขาย 8-9 บาท) ผลผลิตไข่ต่อวันเฉลี่ย 70-80% สร้างรายได้ 3,750 บาท/วัน ทำต้นทุนให้ต่ำๆ สร้าง
ส่วนต่างได้่ดีพอสมควร ทำเกษตรอินทรีย์หรือปลูกพืชผักปลอดสารมีตลาดรองรับดีๆ ทำบรรจุภัณฑ์
ให้ดูดีน่ากิน น่าจะยึดเป็นอาชีพเสริมหรืออาชีพหลักอยู่ได้อย่างสบายครับ
โดยเลี้ยงไก่ไข่ เลี้ยงไส้เดือนดิน เอามูลไก่+มูลไส้เดือนมาทำปุ๋ยให้้ธาตุอาหารกับพืชผัก เอาเศษผักที่
คัดทิ้งมาเ้ลี้ยงไก่+ไส้เดือน ใช้ประโยชน์แบบสร้างเสริมกันไม่ให้เป็นต้นทุน
หรือศึกษาการเพาะถั่วงอกอินทรีย์แบบไม่ใช้สารถั่วอ้วน ใช้ฮอร์โมนพวกไซโตแคนนินจากสาหร่ายหรือ
หัวใช้เท้าผสมน้ำมะพร้าวบำรุงให้อวบอ้วน ขายตลาดบนหรือเพาะแบบอุตสาหกรรมปริมาณมาก เอามา
ขายส่งที่ตลาดรังสิต ตลาดรังสิตเป็นแหล่งรับซื้อมีความต้องการสูง และการเพาะถั่วงอกใช้้น้ำปริมาณ
มาก (ถั่วเขียว 1 กก.ใช้น้ำถึง 240 ลิตร) เอาน้ำเหลือใช้จากการเพาะถั่วมารดพืชผักได้อีกครับ
มีวิธีลดต้นทุนปลูกพืชผักให้ได้ผลผลิตดี ใช้พื้นที่น้อยโดยวิธีปลูกในภาชนะพลาสติกใช้แล้ว พวกลังส้ม-
ลังผลไม้หรือรับซื้อลังพลาสติกจากโรงผลิตแหนมดอนเมือง อยู่แถวๆองค์รักษ์ ราคาประมาณ 25 บาท
ก่อนจะรีไซเคิลนำมาใช้เป็นภาชนะปลูกพืชผักได้อีกไม่ต่ำกว่า 5 ปี ลดต้นทุนได้มาก ขายทิ้งก็ได้ราคา
ไม่ต่ำกว่า 25 บาท/ใบ เหมือนเอามาใช้ฟรีเลยครับ
หรือทำไข่อินทรีย์ขายตลาดบนโดยเลี้ยงไก่ไข่ 1,000 ตัว ผสมอาหารใช้เอง ใช้สูตรปลายข้าว รำ กาก
ถั่วเหลือง ปลาป่น เปลือกหอย และพรีมิกซ์โดยใช้แซนโธฟิลด์จากการสกัดดอกดาวเรืองให้สีไข่ที่เบอร์
10-11 ต้นทุนค่าอาหารประมาณ 1,250 บาท/วัน ขายเป็นไข่ไก่อินทรีย์ฟองละ 5-6 บาท (บางบริษัท
ขาย 8-9 บาท) ผลผลิตไข่ต่อวันเฉลี่ย 70-80% สร้างรายได้ 3,750 บาท/วัน ทำต้นทุนให้ต่ำๆ สร้าง
ส่วนต่างได้่ดีพอสมควร ทำเกษตรอินทรีย์หรือปลูกพืชผักปลอดสารมีตลาดรองรับดีๆ ทำบรรจุภัณฑ์
ให้ดูดีน่ากิน น่าจะยึดเป็นอาชีพเสริมหรืออาชีพหลักอยู่ได้อย่างสบายครับ
แสดงความคิดเห็น
เล่าประสบการณ์ ออกจากงานประจำ มาปลูกผักปลอดสารพิษขายครับ
ปกติผมแทบไม่เคยโพสต์เรื่องราวในพันทิปเลย มักจะเข้ามาหาข้อมูลมากกว่า คราวนี้มีเรื่องเล่าและอยากขอคำปรึกษาครับ
ผมอายุ 33 ครับ ก่อนหน้านี้ผมทำงานประจำ แต่มีที่อยู่ที่ปทุมครับ ไม่ไกลจากกรุงเทพ พ่อผมปลูกบ้าน ปลูกต้นไม้ไว้ และมีที่ให้ผมประมาณไร่ครึ่ง บวกกับที่ที่ให้ชาวบ้านเช่าทำนาและปลูกผักอีกประมาณ 6 ไร่ ผมเองชอบปลูกผักครับ ผักปลอดสารพิษ แบบไม่ใช้ยาฆ่าแมลง หรือปุ๋ยเคมี และมันเป็นธุรกิจที่ไม่ต้องลงทุนมาก ถ้าเรามีที่อยู่แล้ว
หลังจากเก็บเงินและศึกษามาระยะนึง ผมก็ออกจากงานประจำเมื่อต้นปี เพื่อมาทำสวนเต็มตัว แต่ยังรับงานแบบฟรีแลนซ์มาทำเพื่อเลี้ยงชีพอยู่ ก่อนออกจากงานผมมีรายได้เดือนละ 30000 กว่าๆ
ผมเริ่มทำสวนเต็มตัวเมื่อเดือน ก.พ. ประมาณ 1 ไร่ ปลูกผักหลากหลายชนิด ถั่วฝักยาว กะเพรา ข่า ตะไคร้ ข้าวโพดอ่อน บวบ กระเจี๊ยบ พริก ฯลฯ ทำปุ๋ยเอง ดูแล ปลูกเอง เก็บเอง มีจ้างคุณลุงคนสวนเก่าของพ่อให้ช่วยดูบ้าง ผักที่ปลูกก็ได้ผลบ้าง ไม่ได้บ้าง แมลงกินบ้าง ผ่านไปสัก 2 เดือนก็ได้ลองส่งผักตามร้านอาหาร 1 ร้าน โดยใช้ผักของป้าที่เขาปลูกในที่ของผมกับผักของผม จะเป็นผักชนิดที่ปลูกได้เยอะหน่อย มีปริมาณพอที่จะส่ง
พอผ่านไปสัก 4 เดือนก็เริ่มเอาผักของตัวเองไปขายที่ตลาดนัดในหน่วยงานราชการแห่งหนึ่ง อาทิตย์ละ 2 วัน โดยใช้ผักของผมและซื้อของชาวบ้านใกล้ๆ ที่เขาปลูกแบบปลอดสาร เพราะผักของผมยังมีไม่มากพอจะวางเต็มโต๊ะ แต่ละวันขายได้เกือบหมดครับ ได้กำไรวันละ 600-1,000 ขายมาได้เดือนกว่าแล้วครับ ผักที่มีเยอะผมส่งร้าน ส่วนผักมีไม่เยอะ ผมเอามาขายปลีกตลาดนัดครับ ราคามันจะดีกว่า แต่ก็เสียเวลาไปนั่งขาย
ตอนนี้ผมมีรายได้จากการขายผักเดือนละประมาณ 7,000-8,000 บาท บวกกับค่างานฟรีแลนซ์อีก เฉลี่ยเดือนนึงก็ได้ประมาณ 15,000 ครับผมไม่มีภาระต้องผ่อนอะไร และยังไม่มีครอบครัว เลยพออยู่ได้ แต่ติดตรงที่ผมยังหาเงินได้ไม่มากพอสำหรับจะเก็บหรือสร้างอนาคต นั้นคือปัญหาใหญ่ครับ
ผมจึงอยากขยับขยายครับ แต่มีปัญหาก็คือ
1. มีผักน้อย นี่คือปัญหาใหญ่ของผมครับ ทั้งชนิดและปริมาณ ส่วนใหญ่ผักผมเป็นผักไทย พวกผักใบ เช่น คะน้า ผมยังปลูกได้ไม่ดีนัก เลยไม่ได้ขาย ไม่พอขายปลีกและขายส่ง (ลูกค้าพอจะมีครับ) จะขยับขยายก็ติดปัญหาเรื่องที่ ตอนนี้มีเพิ่มอีกแค่ครึ่งไร่ ถ้าจะทำเยอะจริงๆ คงต้องขอที่คืนจากคนที่พ่อเคยให้เช่าอยู่ (พ่อผมเสียไปแล้วครับ ตอนผมเพิ่งออกจากงาน) แต่คงต้องใช้เวลาอยู่
2. มีทุนน้อย จะลงทุนหาเช่าที่เพิ่มหรือจ้างคนมาช่วย ก็ยังไม่อยากเสี่ยงไปกู้เงิน และใช่ว่าถ้าเรามีที่เพิ่มอีกไร่ เราจะทำรายได้ได้อีกเท่าตัว มันไม่ใช่สมการแบบนั้น เพราะมันดูแลทั่วถึงยากครับ
3. จะรับผักปลอดสารพิษจากคนอื่นมาขายเพิ่ม ก็หายากครับ ส่วนใหญ่เขาใช้ยากัน
4.ขายผักตามตลาดนัดนั้น ผมขายได้กำไรชิ้นละไม่กี่บาท เลยได้เงินไม่มาก เมื่อเทียบกับสินค้าอื่นที่ได้กำไรต่อชิ้นเป็น 100
5. การส่งผักให้ร้านอาหารนั้น ทำได้ลำบาก เพราะเขาสั่งทีนึงเยอะ บางอย่างของเราไม่พอ เลยไม่ได้ขาย และถ้ามีไปส่งน้อย ก็วิ่งไม่คุ้มค่าน้ำมัน จริงๆ ทุกวันนี้ก็ได้น้อยอยู่แล้ว
6. คนส่วนใหญ่ที่เดินตลาดนัด ยังไม่ใส่ใจเรื่องผักปลอดสารเท่ากับผักราคาถูก ผมขายผักแพงกว่าร้านผักธรรมดานิดหน่อย เพราะผักเราปลอดสารจริงๆ
7. เดี๋ยวนี้คนทำกับข้าวน้อยลงแล้ว ลูกค้าส่วนใหญ่ของผมเป็นผู้หญิงอายุ 40 ปีขึ้นไป คนรุ่นใหม่ เขาชอบซื้อสำเร็จมากกว่า
ตอนนี้อยู่ในช่วงตัดสินใจครับ ว่าจะลุยแกปัญหาต่อไป หรือลองหาลู่ทางอื่น เช่น แปรรูปสินค้า หรือไปทำอย่างอืนเลย ที่มันได้รายได้ดีกว่า ปลูกผักขายแบบนี้ลูกค้าชื่นชม (เขาชมแต่เขาซื้อน้อยครับ 555) มันก็อิ่มใจครับ แต่เงินทองก็เป็นสิ่งสำคัญเหมือนกัน ยังไงถ้าทุ่มเททำต่อไป ผมคิดว่ามันก็ขยับขยายได้ครับ แต่คงใช้เวลานาน สิ่งสำคัญคือผมอยากเก็บเงินสร้างตัวได้เร็วๆ ครับ จะได้ไปขอสาวแต่งงาน 555
เลยอยากเล่าให้ฟัง เพื่อใครสนใจปลูกผักขายบ้าง และอยากได้คำแนะนำเพิ่มครับ