สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
เราไม่เห็นด้วยกับทฤษฎีนี้มาตั้งนานแล้วค่ะ 55555
เวลาเห็นหลาย ๆ คนยกอันนี้ขึ้นมาพูดในใจก็จะแบบ "อืมม ไม่แปลกใจทำไมยังไม่ประสบความสำเร็จเรื่องความรัก"
ในมุมมองเรา มันไม่มีใครที่เข้ากันได้เป๊ะ ๆ แบบ 100% หรอก
คิดง่าย ๆ นะ แค่หันกลับมามองตัวเราเอง มันยังมีบางวันที่เราไม่ชอบตัวเองเลยจริงไหม
วันแย่ ๆ วันซุ่มซ่าม ทำอะไรก็ผิดพลาด พูดอะไรก็ผิดหูคนอื่น bad day สุด ๆ
ขนาดเรายังไม่ได้ชอบตัวเองในทุกวันเลย แล้วกับอีกคนนึงซึ่งไม่ได้โตขึ้นมาด้วยกัน มันจะเป็นไปได้ยังไง
ดังนั้น ความรักที่ดีเนี่ย ความคลิก ความเข้ากันได้ เราให้ประมาณ 50-70% ค่ะ
ที่เหลือคือการปรับตัวในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้อยู่ร่วมกันได้ต่างหาก
แฟนเราที่คบกันอยู่ เค้าก็มีส่วนที่ทั้งใช่ และส่วนที่ทั้งไม่ใช่
คบกันมา 3 ปี บอกได้เลยปัญหาเยอะมาก ทั้งหนักทั้งเบา เกือบเลิกกันก็มี
สิ่งที่เราชอบคือผู้ชายคนนี้มีทัศนคติที่โอเค ไม่กดขี่ผู้หญิง ไม่เห็นแก่ตัว รักหมาเรา พ่อแม่เราชอบ พื้นฐานทางครอบครัวใกล้เคียงกัน
สิ่งที่เราไม่ชอบ ก็มีเยอะ ข้อเสียต่าง ๆ นานา เป็นคนไม่กล้าตัดสินใจ มีปัญหาไม่ค่อยพูด รวมถึงเรื่องจุกจิกอีกหลายอย่าง
แต่สิ่งที่ทำให้ยังอยู่ด้วยกันได้คือการปรับตัวค่ะ ซึ่งแน่นอนว่ามันต้องใช้ความพยายาม
เรากล้าพูดได้เลยว่า ถ้าต่างฝ่ายต่างไม่มีใครพยายามเลย ยังไงก็ไม่รอดค่ะ
เวลาเห็นหลาย ๆ คนยกอันนี้ขึ้นมาพูดในใจก็จะแบบ "อืมม ไม่แปลกใจทำไมยังไม่ประสบความสำเร็จเรื่องความรัก"
ในมุมมองเรา มันไม่มีใครที่เข้ากันได้เป๊ะ ๆ แบบ 100% หรอก
คิดง่าย ๆ นะ แค่หันกลับมามองตัวเราเอง มันยังมีบางวันที่เราไม่ชอบตัวเองเลยจริงไหม
วันแย่ ๆ วันซุ่มซ่าม ทำอะไรก็ผิดพลาด พูดอะไรก็ผิดหูคนอื่น bad day สุด ๆ
ขนาดเรายังไม่ได้ชอบตัวเองในทุกวันเลย แล้วกับอีกคนนึงซึ่งไม่ได้โตขึ้นมาด้วยกัน มันจะเป็นไปได้ยังไง
ดังนั้น ความรักที่ดีเนี่ย ความคลิก ความเข้ากันได้ เราให้ประมาณ 50-70% ค่ะ
ที่เหลือคือการปรับตัวในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้อยู่ร่วมกันได้ต่างหาก
แฟนเราที่คบกันอยู่ เค้าก็มีส่วนที่ทั้งใช่ และส่วนที่ทั้งไม่ใช่
คบกันมา 3 ปี บอกได้เลยปัญหาเยอะมาก ทั้งหนักทั้งเบา เกือบเลิกกันก็มี
สิ่งที่เราชอบคือผู้ชายคนนี้มีทัศนคติที่โอเค ไม่กดขี่ผู้หญิง ไม่เห็นแก่ตัว รักหมาเรา พ่อแม่เราชอบ พื้นฐานทางครอบครัวใกล้เคียงกัน
สิ่งที่เราไม่ชอบ ก็มีเยอะ ข้อเสียต่าง ๆ นานา เป็นคนไม่กล้าตัดสินใจ มีปัญหาไม่ค่อยพูด รวมถึงเรื่องจุกจิกอีกหลายอย่าง
แต่สิ่งที่ทำให้ยังอยู่ด้วยกันได้คือการปรับตัวค่ะ ซึ่งแน่นอนว่ามันต้องใช้ความพยายาม
เรากล้าพูดได้เลยว่า ถ้าต่างฝ่ายต่างไม่มีใครพยายามเลย ยังไงก็ไม่รอดค่ะ
ความคิดเห็นที่ 6
มันหมายถึง "..ไม่ต้องพยายามมาก" ต่างหากครับ
มันเป็นทฤษฏีแรงดึงดูดครับ กับคนที่ใช่เนี่ย มันจะมีแรงดึงดูดตลอดเวลา เช่น อยากรู้จักจังเลย ทำไมสิ่งที่เค้าทำมันดีจังเลย ทำไมคิดเหมือนกันเลย อะไรทำนองนี้ครับ
"..ถ้าคิดแบบนี้กันทั้ง2ฝ่าย ชาตินี้จะได้คบกันไหมคะ.." ถ้าแบบอันนี้คือคนที่ไม่ใช่ครับ ถ้าเป็นคนที่ใช่ แรงดึงดูดมันจะฉุดให้ใจรู้สึกอยากทำความรู้จักกันเอง
มันเป็นทฤษฏีแรงดึงดูดครับ กับคนที่ใช่เนี่ย มันจะมีแรงดึงดูดตลอดเวลา เช่น อยากรู้จักจังเลย ทำไมสิ่งที่เค้าทำมันดีจังเลย ทำไมคิดเหมือนกันเลย อะไรทำนองนี้ครับ
"..ถ้าคิดแบบนี้กันทั้ง2ฝ่าย ชาตินี้จะได้คบกันไหมคะ.." ถ้าแบบอันนี้คือคนที่ไม่ใช่ครับ ถ้าเป็นคนที่ใช่ แรงดึงดูดมันจะฉุดให้ใจรู้สึกอยากทำความรู้จักกันเอง
ความคิดเห็นที่ 11
ประโยคนี้มันไม่ได้สื่อว่า คุณไม่ต้องทำอะไรในชีวิตเลย ให้นั่งรอคอยฟ้าคอยฝน รอพรหมลิขิตแล้วทุกอย่างจะสมหวังเอง แต่มันสื่อว่า การที่คุณเป็น"คนที่ใช่" คุณแทบไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรเลย ไม่ต้องคอยวิ่งตามตลอดเวลา ไม่ต้องสูญเสียตัวตน สูญเสียความเป็นตัวเองเพื่อให้เค้ามารัก เพราะถึงยังไงคนที่ใช่หรือคนที่พิเศษนั้น เค้าอยู่เฉยๆเค้าก็ใช่และเป็นคนพิเศษอยู่ดีค่ะ
แสดงความคิดเห็น
"คนที่ใช่มันไม่ต้องพยายาม" แล้วถ้าต่างฝ่ายต่างไม่พยายาม จะได้คบกันไหมคะ?
ชาตินี้จะได้คบกันไหมคะ?
ต่างคนต่างรอให้อีกฝ่ายเข้าหาเนี่ย
เราแค่รู้สึกขัดแย้งกับทฤษฎีนี้นิดหน่อยค่ะ
**เพิ่มเติม
ขอบคุณทุกความเห็นนะคะ
เราสรุปได้ว่า ความพยายามที่เกิดจากความเต็มใจ = ปรับตัวเข้าหากัน
ความพยายามที่เกิดจากความไม่เต็มใจ = ฝืน
ซึ่งใครจะเห็นด้วยหรือไม่กับทฤษฎีนี้หรือไม่ขึ้นอยู่กับว่า
เราตีความหมายของคำว่าพยายามไว้แบบไหน
สุดท้ายนี้ถ้าเจอคนที่ใช่แล้วอย่าปล่อยให้เขาเดินผ่านไปเฉยๆนะคะ ขอให้โชคดีทุกคนค่ะ😊😊😊