สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
ลองเขียนวงจรชีวิตของคนทำงานออฟฟิศ กับวงชีวิตของคนทำธุรกิจเอง เทียบกันสิ
อันนี้เขียนจากชีวิตผมนะครับ ลองเอาของคุณมาเทียบก็ได้
ทำงานออฟฟิศ (ใน กทม)
ตื่น 05.30น
ออกจากบ้านไปทำงาน 06.00น ขณะเดินทางมีลุ้น
ถึงสำนักงาน 8.30.....9.00น บางวันอดมื้อเช้า
ทำงานถึงเที่ยง พักทานกลางวัน
บ่ายโมง เริ่มงาน ยัน 18.00น เลิกงาน ระหว่างงานโดนสารพัด ยุ่งกับชีวิตการงานคนอื่น คนอื่นยุ่งกับชีวิตงานเรา สารพัด
18.00กลับบ้าน ...แง่วบนถนน ถึงบ้านเกือบ 2ทุ่ม
23.00เข้านอน
ปล... ทำงานออฟฟิศ คิดแต่เรื่องงานตั้งแต่ตื่นยันหลับ
บ่อยครั้งที่เกิดคำถาม หกโมงเช้าแวะซื้อข้าวเหนียวหมูย่างปากซอย แม่ค้าตื่นตีห้าพอกับเรา แต่เก้าโมงเช้าแม่ค้าขายหมูย่างหมดแล้ว
แม่ค้ารับเงินแล้ว 2000-3000บาท แต่เรา 9.00น ยังไม่ถึงออฟฟิศเลย ..เฮ้ย
ออกมาทำเอง
ตื่น 05.30 น
06.00 ออกวิ่ง วันละ 10กม ถึง 07.30น
ต่อด้วยรดน้ำตันไม้ ผักที่ปลูกรอบๆบ้าน
08.00 ออกไปตลาด ซื้ออาหารคน อาหารหมา มากินเป็นเพื่อนกัน
09.00 ขับรถส่งสินค้า (น้ำเห็ด) ให้ร้านค้า และลูกค้าประจำ
10.00 กลับเข้าบ้าน นอนดูเล่นเฟส ไลน์ คุยกับเพื่อนๆ มีออร์ลูกค้าสั่งทางไลน์ด้วย
13.00น เตรียมข้าวของ อุปกรณ์ ไปขายของ ที่ตลาดแถวๆบ้าน (เวียนตลาดไปตามวัน)
14.00ออกจากบ้าน
15.00 ตั้งร้าน เริ่มขาย
18.00-19.00 เก็บร้านกลับบ้าน นับตังค์ ......
20.00 ถึงบ้าน
21.00 ทำน้ำเห็ด ทำเตรียมไว้เตรียมขายวันพรุ่งนี้
22.00 เข้านอน
เทียบดูแล้ว
ตื่นเท่ากัน เข้านอนเท่ากัน เหนื่อยพอกันแล้วแต่วันแล้วแต่โอกาส
แต่การออกมาทำเอง เราควบคุมตัวเราเองได้ ชีวิตไม่ได้ขึ้นอยู่กับเจ้านาย
ผมว่า ทำเอง พอเข้าที่แล้ว เราจะสบายกว่า
อยากพัก อยากหยุด ทำได้ ไม่ต้องเขียนใบลา รออนุมัติ
ลองเทียบดูนะครับ ว่าวงจรรายวันของคุณเป็นเช่นไร
ปล...ตัวเลขบอกเวลา ผมทำกลมๆ ใหเข้าใจง่าย ครับ
อันนี้เขียนจากชีวิตผมนะครับ ลองเอาของคุณมาเทียบก็ได้
ทำงานออฟฟิศ (ใน กทม)
ตื่น 05.30น
ออกจากบ้านไปทำงาน 06.00น ขณะเดินทางมีลุ้น
ถึงสำนักงาน 8.30.....9.00น บางวันอดมื้อเช้า
ทำงานถึงเที่ยง พักทานกลางวัน
บ่ายโมง เริ่มงาน ยัน 18.00น เลิกงาน ระหว่างงานโดนสารพัด ยุ่งกับชีวิตการงานคนอื่น คนอื่นยุ่งกับชีวิตงานเรา สารพัด
18.00กลับบ้าน ...แง่วบนถนน ถึงบ้านเกือบ 2ทุ่ม
23.00เข้านอน
ปล... ทำงานออฟฟิศ คิดแต่เรื่องงานตั้งแต่ตื่นยันหลับ
บ่อยครั้งที่เกิดคำถาม หกโมงเช้าแวะซื้อข้าวเหนียวหมูย่างปากซอย แม่ค้าตื่นตีห้าพอกับเรา แต่เก้าโมงเช้าแม่ค้าขายหมูย่างหมดแล้ว
แม่ค้ารับเงินแล้ว 2000-3000บาท แต่เรา 9.00น ยังไม่ถึงออฟฟิศเลย ..เฮ้ย
ออกมาทำเอง
ตื่น 05.30 น
06.00 ออกวิ่ง วันละ 10กม ถึง 07.30น
ต่อด้วยรดน้ำตันไม้ ผักที่ปลูกรอบๆบ้าน
08.00 ออกไปตลาด ซื้ออาหารคน อาหารหมา มากินเป็นเพื่อนกัน
09.00 ขับรถส่งสินค้า (น้ำเห็ด) ให้ร้านค้า และลูกค้าประจำ
10.00 กลับเข้าบ้าน นอนดูเล่นเฟส ไลน์ คุยกับเพื่อนๆ มีออร์ลูกค้าสั่งทางไลน์ด้วย
13.00น เตรียมข้าวของ อุปกรณ์ ไปขายของ ที่ตลาดแถวๆบ้าน (เวียนตลาดไปตามวัน)
14.00ออกจากบ้าน
15.00 ตั้งร้าน เริ่มขาย
18.00-19.00 เก็บร้านกลับบ้าน นับตังค์ ......
20.00 ถึงบ้าน
21.00 ทำน้ำเห็ด ทำเตรียมไว้เตรียมขายวันพรุ่งนี้
22.00 เข้านอน
เทียบดูแล้ว
ตื่นเท่ากัน เข้านอนเท่ากัน เหนื่อยพอกันแล้วแต่วันแล้วแต่โอกาส
แต่การออกมาทำเอง เราควบคุมตัวเราเองได้ ชีวิตไม่ได้ขึ้นอยู่กับเจ้านาย
ผมว่า ทำเอง พอเข้าที่แล้ว เราจะสบายกว่า
อยากพัก อยากหยุด ทำได้ ไม่ต้องเขียนใบลา รออนุมัติ
ลองเทียบดูนะครับ ว่าวงจรรายวันของคุณเป็นเช่นไร
ปล...ตัวเลขบอกเวลา ผมทำกลมๆ ใหเข้าใจง่าย ครับ
สมาชิกหมายเลข 6234355 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3156047 ทึ่ง, สมาชิกหมายเลข 1204761 ถูกใจ, อยากเขกหัวตัวเอง ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1258583 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1598803 ถูกใจ, หญิงสาวผู้เงียบเหงา ถูกใจ, ทะเลฟ้าภูเขาเขียว ถูกใจ, โชว์เสี่ยวให้สาวกรี๊ด.. ถูกใจ, สองมือนักสู้ ถูกใจรวมถึงอีก 10 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 23
ถ้าทำธุรกิจส่วนตัวหวังที่จะรวย และหวังที่จะสบาย
คิดผิด................ ค่ะ
ต้องรับผิดชอบอะไรเยอะ
เป็นลูกจ้าง บริษัทเจ๊ง เราหางานใหม่
ธุรกิจที่เราทำเจ๊ง เป็นหนี้ ไม่เป็นหน้ก็ท้อหมดกำลังใจเริ่มต้นใหม่ลำบาก
การตลาดสมัยนี้ ว่าหางานประจำยากแล้ว ธุรกิจส่วนตัวยากกว่าค่ะ
เพราะมีแต่คนสนับสนุนธุรกิจส่วนตัว จนหนังสือขายดีแทบเทน้ำเทท่า
นั่นหมายความว่าหลายคนเห็นด้วยที่จะมาทำธุรกิจสว่นตัว
100 คนขายผลไม้ในตลาด ลูกค้าจะเลือกซื้อ 100 คนไหม .....ไม่
ทุกคนไม่ได้ประสบความสำเร็จทุกคน ต้องมีคนที่ขายได้ดี และเจ๊ง
ถ้าคิดว่าธุรกิจแนวใหม่กำลังขาดแคลนก็คิดผิด เพียงแค่เราเริ่มทำปุ๊บ ก็มีคนคิดเหมือนเราปั๊บ
จะล้นตลาดในไม่ช้า
เป็นลูกจ้าง โดนแค่กดดัน รายได้น้อย
แต่เรารับผิดชอบแค่ส่วนที่เราทำ เงินเดือนน้อยก็เก็บๆไป มันก็ใหญ่ได้
ถ้าคิดว่าอยากรวย ถามหน่อยรวยแล้วเอาเงินไปทำอะไร......
ยิ่งหวังมากก็ก้าวพลาดได้ มีธุรกิจพันล้านวันนี้ พรุ่งนี้เจ๊งก็มีให้เห็นไปหลายราย
ฆ่าตัวตายไปไม่น้อย คิดดีๆค่ะ
แต่ที่อ่านๆดูแล้ว เจ้าของกระทู้ไม่ได้สนใจเรื่องเงินเท่าเวลา
เราว่าลองเปลี่ยนงานที่ทำให้มีความสุขมากกว่านี้ดีกว่าค่ะ
หยุดเยอะกว่า รายได้น้อยกว่าก็ยังดี
เอางี้ไหมคะ ลองหางานที่เป็นธุรกิจส่วนตัวเป็นงานเสริม
เราเห็นผลว่ามันไม่มีทางล่มแน่ๆ ค่อยลาออกจากประจำ
แล้วลงมาทำธุรกิจเต็มตัวทีหลัง
สู้ๆนะคะ เงินไม่สำคัญเท่าสุขภาพและความสุขค่ะ
ปล.เราอาจพิมกลับไปกลับมาเพราะ อ่านๆข้ามๆ แล้วกลับมาย้อนอ่านทั้งหมดใหม่อีกรอบ
คิดผิด................ ค่ะ
ต้องรับผิดชอบอะไรเยอะ
เป็นลูกจ้าง บริษัทเจ๊ง เราหางานใหม่
ธุรกิจที่เราทำเจ๊ง เป็นหนี้ ไม่เป็นหน้ก็ท้อหมดกำลังใจเริ่มต้นใหม่ลำบาก
การตลาดสมัยนี้ ว่าหางานประจำยากแล้ว ธุรกิจส่วนตัวยากกว่าค่ะ
เพราะมีแต่คนสนับสนุนธุรกิจส่วนตัว จนหนังสือขายดีแทบเทน้ำเทท่า
นั่นหมายความว่าหลายคนเห็นด้วยที่จะมาทำธุรกิจสว่นตัว
100 คนขายผลไม้ในตลาด ลูกค้าจะเลือกซื้อ 100 คนไหม .....ไม่
ทุกคนไม่ได้ประสบความสำเร็จทุกคน ต้องมีคนที่ขายได้ดี และเจ๊ง
ถ้าคิดว่าธุรกิจแนวใหม่กำลังขาดแคลนก็คิดผิด เพียงแค่เราเริ่มทำปุ๊บ ก็มีคนคิดเหมือนเราปั๊บ
จะล้นตลาดในไม่ช้า
เป็นลูกจ้าง โดนแค่กดดัน รายได้น้อย
แต่เรารับผิดชอบแค่ส่วนที่เราทำ เงินเดือนน้อยก็เก็บๆไป มันก็ใหญ่ได้
ถ้าคิดว่าอยากรวย ถามหน่อยรวยแล้วเอาเงินไปทำอะไร......
ยิ่งหวังมากก็ก้าวพลาดได้ มีธุรกิจพันล้านวันนี้ พรุ่งนี้เจ๊งก็มีให้เห็นไปหลายราย
ฆ่าตัวตายไปไม่น้อย คิดดีๆค่ะ
แต่ที่อ่านๆดูแล้ว เจ้าของกระทู้ไม่ได้สนใจเรื่องเงินเท่าเวลา
เราว่าลองเปลี่ยนงานที่ทำให้มีความสุขมากกว่านี้ดีกว่าค่ะ
หยุดเยอะกว่า รายได้น้อยกว่าก็ยังดี
เอางี้ไหมคะ ลองหางานที่เป็นธุรกิจส่วนตัวเป็นงานเสริม
เราเห็นผลว่ามันไม่มีทางล่มแน่ๆ ค่อยลาออกจากประจำ
แล้วลงมาทำธุรกิจเต็มตัวทีหลัง
สู้ๆนะคะ เงินไม่สำคัญเท่าสุขภาพและความสุขค่ะ
ปล.เราอาจพิมกลับไปกลับมาเพราะ อ่านๆข้ามๆ แล้วกลับมาย้อนอ่านทั้งหมดใหม่อีกรอบ
แสดงความคิดเห็น
ออกมาทำธุรกิจส่วนตัวแล้วมีเวลาว่างมากขึ้น มีชีวิตที่ดีกว่าพนักงานประจำจริงไหม