มะหมวยกลับมาอีกครั้งหลังจากคราวก่อนรีวิวสระบ้านเพื่อน สระน้ำของมะหมาไปแล้ว
วันนี้ต่อให้บ้านอยู่ไกลแต่ใจไปถึง ก็ต้องถึงน่ะสิคะท่านผู้ชม
ซึ่งที่นั่นก็คือ
The Animal Cafe ! แถวสาธุประดิษฐ์
ก็ไม่เท่าไหร่ค่ะ แค่ขากลับระยะทาง 44 กิโลฯเอง…
The Animal Cafe ชื่อนี้บางคนไม่คุ้นหู บางคนบอกกำลังบูม
ซึ่งบูมไม่บูมเด็กบางกะปิอย่างเราก็บุกมาถึงถิ่นแล้วค่ะ
ส่วนเรื่องเส้นทางต้องขออภัยที่ไม่สามารถแนะนำได้อย่างแน่ชัด เนื่องจากนี่ก็ขับตาม Google Maps มาเลย แต่ก็บอกได้ว่าอยู่ใกล้เซ็นทรัลพระรามสาม
หากขับมาถึงเซ็นทรัลพระรามสาม ให้เลยไปหน่อย แล้วเลี้ยวซ้ายตรง
ดิอัพ (Up เป็นชื่ออเวนิว)
เมื่อเลี้ยวซ้ายมาตรงมาเรื่อยๆ จะเจอซอยนราธิวาส 24 (ซึ่งคือสาธุประดิษฐ์ 19) เลี้ยวเข้ามาๆ
ตรงเข้ามาเรื่อยๆ จะเจอ Maxvalu อยู่ฝั่งซ้ายมือ เยื้องมาทางขวาจะเจอร้านเลยค่ะ ป้ายร้านสวยและโดดเด่นมากๆ ชอบดีไซน์ค่ะ
เมื่อมาถึงร้านก็ได้รับการต้อนรับอย่างดีจากพี่ๆ พนักงาน
ตอนแรกสงสัย แมวหูยาวหายไปไหน ทำไมเจอแต่แมวหูกุดทั้งนั้นเลย
อ๋อ อยู่ชั้นสองค่ะ สั่งอาหารแล้วไปกันเถอะ (หรือจะขึ้นไปสั่งชั้นสองก็ได้นะ)
ชั้นสองกัน
สั่งอาหารกันเสร็จ ระหว่างรออาหารก็เป็นช่วงเวลาที่เราจะได้เพลิดเพลินบันเทิงใจกับ...กับ…
กรี๊ดดดด นั่นนกฮูกของจริงนี่หว่า นึกว่ารูปปั้น!
เดี๋ยวๆ ก่อนจับต้องสัตว์อย่าลืมล้างมือก่อนด้วยนะ
น้อง
แฮร์รี่ พอตเตอร์ นกฮูกไวท์เฟส ดาวเด่นประจำคาเฟ่นี่เอง เห็นในเพจนึกว่าจะตัวใหญ่ ไอ้เราก็มองหานกฮูกยักษ์รอบร้าน ที่ไหนได้ตัวเปี๊ยกหนึ่ง แถมยังนิ่งสุดๆ แต่ก็ไม่แปลก ตอนกลางวันเป็นเวลานอนของเขานี่เนอะ
ใครที่อยากเล่นกับน้อง รบกวนอย่าปลุกแฮร์รี่เลยนะ ให้แฮร์รี่หลับพริ้วๆ เราก็ยื่นหน้าเข้าไปเซลฟี่ได้
ใครโชคดีจะไปเจอตอนแฮร์รี่ตื่นตาโตพอดีเลย ถ้าใครอยู่ที่ร้านนานๆ แฮร์รี่จะตื่นเป็นพักๆ ค่ะ
ลำดับต่อไปเรามากันที่
คาราคัลแคท หรือ แมวทะเลทราย ซึ่งเป็นน้องแมวหูยาวที่มะหมวยอยากมาหามะเหมียวนั่นเอง !
เห็นน้องๆ ไซส์นี้คือไซส์เด็กนะคะ เพิ่งจะสามเดือนเอง นับว่าตัวเล็กมาก ชื่อผักกาดกับหัวหอม
ไว้มะเหมียวตัวใหญ่เมื่อไหร่จะมาเยี่ยมอีกรอบนะจ้ะ ต้องตัวใหญ่มากแน่ๆ เลย
ห้องสัตว์ถ้าจะเข้าไปได้ต้องมีพี่ๆ พนักงานเข้าไปด้วยนะคะ เพื่อคอยดูความเรียบร้อยและแนะนำวิธีจับน้องแมวอย่างถูกวิธี
เช่นน้องแมวคาราคัลเนี่ย ต้องอุ้มด้วยท่าที่จะทำให้น้องแมวมั่นใจว่าเขาจะไม่ตกแน่นอน ไม่งั้นเขาจะพยายามดีดตัว แล้วก็ไม่ควรยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ น้องแมวเพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเองค่ะ
นอกจากนั้นยังมีน้อง
ชินชิล่า ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นสัตว์ที่ขนนุ่มที่สุดในโลก
คือแมมมอธกับมอมแมม น้องๆ เป็นสัตว์กลางคืน เลยมักจะออกมาเล่นคึกคักกันตอนสามทุ่มใกล้ปิดร้าน
แล้วก็ยังมี
ปูเสฉวน หมาน้ำ แล้วก็
กบอาร์เจนติน่า (ชื่อซูโม่)
ตัวกบนี้จะอยู่ในตู้ใต้แอร์ค่ะ มะหมวยไม่กล้าถ่ายเยอะ กลัวกบอ่ะ TT แต่สีน้องซูโม่ก็สวยจริงๆ นะ
หมาน้ำจะมีอยู่สองตัวในตู้น้ำตกใต้โต๊ะกระจก ต้องพยายามส่องหาสักหน่อย
ส่วนปูเสฉวนอยู่ตู้ข้างๆ เลยค่ะ นั่งมองปูเดินขวักไขว่ไปมาก็เพลินตาดี
ปูด้วยยย
แล้วก็... โดยในอนาคตอันใกล้กำลังจะมีน้อง
เฟนเนคฟ็อกซ์ตามมาบริการทุกท่านด้วยล่ะค่ะ (Fennec Fox)
นอกจากจะมีน้องจิ้งจอกมาเพิ่ม ยังจะมี
แมวเซอร์วัล หรือแมวทะเลทรายเหมือนกัน ซึ่งเป็นแมวทะเลทรายลายดาว (แต่เป็นแมวสายพันธ์คนละพื้นที่ เซอร์วัลแคทจะอยู่เขตใกล้น้ำ เช่นซาวันน่าเป็นต้น) ก็เป็นมะแมวมะเหมียวที่น่าจับตามองรอการมาถึงไม่แพ้กันค่ะ
เอาล่ะแล้วเราก็มาถึงช่วงเวลาอันสำคัญ
เวลาอาหาร!!
ถึงเวลาอาหารกันบ้าง จริงๆ ที่นี่มีเมนูอาหารน่าทานหลายอย่าง โดยเมนูแนะนำจะมี
เบอร์เกอร์ กับ
สเต็กเนื้อ
แต่วันนี้ที่สั่งไปก็จะมี….
ปีกไก่ทอดสไตล์เกาหลี 90 บาท แค่ภาพก็สามารถอธิบายได้ดีกว่าคำพูด แนะนำให้กินตอนอุ่นๆ ร้อนๆ รับรองติดใจสั่งเพิ่มอีกจาน ใจเองอยากสั่งเพิ่มอีกจานอยู่ค่ะ ติดที่สั่งเมนูอื่นอีกหลายจาน กลัวจะกินไม่ไหว ถ้าเหลือก็เสียดาย ห่อกลับบ้านก็กลัวไม่อร่อยเท่านั่งกินคู่กับบรรยากาศในร้าน
สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า 190 บาท อันนี้สำหรับคนที่เป็นสาวกคาโบนาร่าไม่ควรพลาดค่ะ รสชาติของครีมซอสกลมกล่อมกำลังดี ตัดด้วยกลิ่นหอมๆ และเสียงเคี้ยวกรุบกรอบของเบคอน ปริมาณก็ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป แต่ด้วยความที่เป็นสาวกสปาเก็ตตี้ เผลอพลั้งปล่อยปากปล่อยใจแปบเดียวหมดเฉยเลย
พอร์คชอป 300 บาท รสชาติเนื้อหมูอร่อยใช้ได้ค่ะ ประกอบด้วยเฟรนฟรายอีกเล็กน้อย เนื้อหนานุ่มเหมาะสำหรับสาวกทานสเต็ก โดยหลังจากแอบถามเจ้าของร้านมา ถึงได้รู้ว่าที่นี่จ้างเชฟมือดีมาปรุงอาหารแต่ละจาน ไม่แปลกใจเลยที่อร่อยแบบนี้
ซีซาร์สลัด 220 บาท ก็มีความเป็นสลัด อืม… ยังไงดีล่ะ 5555 ส่วนตัวชอบทานสลัดเป็นชีวิตจิตใจอยู่แล้ว เลยชอบหมดแหละ แต่หากบางคนชอบให้มีรสชาติของน้ำสลัดที่หวานหน่อย โต๊ะหลักในร้านก็จะมีเครื่องปรุงให้นะคะ ทางนี้ชอบมายองเนสค่ะ เลยกินมายองเนสกับสลัดก็อร่อยไปอีกแบบ
และ
ฮันนี่โทส 250 บาท คือ… อร่อยมากกกก ได้เยอะมากกก รสชาติและปริมาณสมราคามากๆ
ไม่รู้จะอธิบายเป็นคำพูดยังไงดี ใครไปถึงมะหมวยอยากให้สั่งค่ะ สั่งเลยค่ะ สั่งเถอะค่ะ รับรองคุณจะไม่ผิดหวัง รสชาติของขนมปังกับน้ำเชื่อมละมุนลิ้น เนื้อขนมปังกรอบนอกนุ่มในกำลังดี ส่วนตัวผลไม้ก็หวานตัดเปรี้ยวตัดหวานปนกันไป เป็นการปิดท้ายมื้ออาหารที่ดีงามพระรามสามสุดๆ
เครื่องดื่มที่สั่งคือ
โกโก้และ
ลาเต้ค่ะ โกโก้ส่วนใหญ่ที่เคยทานจะมีรสขมแบบรักษาความเป็นโกโก้ แต่โกโก้ที่นี่จะออกหวาน เหมาะสำหรับคนชอบทานหวานค่ะ ส่วนลาเต้ก็ใช้ได้เลย อยากเลือกระดับความหวานมากน้อยก็บอกพนักงานหลังเคาน์เตอร์เอาค่ะ
อร่อยมากแค่ไหนโปรดติดตามน้ำหนักที่จะเพิ่มขึ้นในไตรมาสนี้
แอบถ่ายเครื่องดื่มโต๊ะชาวบ้านบ้าง พี่เจ้าของร้านบอกว่ามันชื่อน้ำ
Turn Me On (ชื่อเท่ระเบิดจริงๆ) ลองแอบไปดูดมา เปรี้ยวหวานเข้มข้นแบบน้ำผลไม้ (ไม่ได้ไปแอบจริงๆ นะ มะหมวยสั่งเพิ่มมาอีกแก้วค่ะ แต่ลืมถ่ายไว้ แหะๆ)
อ๋อๆ ที่ชอบอีกอย่างคือ
ขนมปลาค่ะ ขนมย้อนวัยเด็ก ชอบมาก 5555555
ทุกโต๊ะที่มานั่งจะได้ทานหมดนะคะ ไม่เสียค่าบริการเพิ่ม กินเลยค่ะ เอาให้คุ้ม 5555
วันนี้มีเด็กๆ พากันเข้ามานั่งเล่นกับน้องแมวด้วย
โดยนั่งนับเงินรวมเงินกันกินเค้กได้จานหนึ่ง พี่เจ้าของร้านเลยลดให้อีกด้วย น่ารักกก
สรุปว่าคุ้มค่ากับการเดินทางข้ามฝั่งกรุงเทพไปไหม?... คุ้มค่ะ
ไม่ใช่เพียงแค่สัตว์แปลกน่ารักจับต้องได้ แต่เรื่องอาหารก็เลิศรสไม่แพ้กัน
บรรยากาศในร้านสลัวๆ เปิดเพลงเคล้าไปด้วย นั่งชิลได้สบายๆ
(อาจจะถ่ายไม่สวย แต่ร้านสวยจริงๆ นะเออ)
โดยมีของหนักแล้วเครื่องดื่มก็ยังมีไวน์นานาชนิดและเบียร์ด้วย
แต่กฏของร้านคือหากดื่มแอลกอฮอล์แล้วจะไม่อนุญาตให้เข้าห้องสัตว์นะคะ เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเองและตัวสัตว์ด้วย
ร้านเปิดตอน 11 โมง ถึง 4 ทุ่มทุกวันนะคะ
ในส่วนของรายละเอียดของร้าน เพิ่มเติมแนะนำเพจเลยดีกว่า
เพจ
The Animal Cafe สามารถโทรสอบถามได้ตลอดในเวลาทำการ
https://www.facebook.com/theanimalcafethailand/
เจ้าของร้านเป็นมิตร เป็นกันเอง และใจดีมาก วันนี้ที่ไปก็นั่งคุยกันเรื่องสัตว์นานาจิปาถะอยู่นานเลย
เรียกได้ว่าตั้งแต่เรื่องมะหมามะแมวยันงู กิ้งก่า เต่า จิ้งจก ตุ๊กแก กบ เขียดกันเลย 5555555
แน่นอนว่าสัตว์พวกนี้หากมีความสนใจอยากเลี้ยงจริง สามารถติดต่อทางร้านได้ค่ะ ส่วนราคาก็หลังไมค์กับร้านค่ะ
แต่ต้องมั่นใจว่าสามารถดูแลพวกเขาได้จริง มาๆ มานั่งพูดคุยกับเจ้าของร้านถึงเรื่องการเลี้ยงการดูแลได้เลย
ที่สำคัญคือ... เจ้าของร้านงานดีจริงๆ นะเออ 5555555555555
ปิดท้ายด้วยภาพอีกเล็กๆ น้อยๆ
ขอบคุณทุกๆ ท่านที่อ่านมาจนถึงจุดนี้ค่ะ จบแล้ว เย้ๆ ยาวเนอะ 555
หวังว่าเพื่อนๆ จะหาโอกาสไปเพลิดเพลินกับอาหารและเหล่า Exotic Pet ตัวน้อยตัวใหญ่ที่ร้าน The Animal Cafe กันนะคะ
สำหรับวันนี้มะหมวยลาก่อน สวัสดีค่า
[CR] ส่องสัตว์แปลก ณ The Animal Cafe สาธุประดิษฐ์ 19 ใครจะกล้าพลาด !
วันนี้ต่อให้บ้านอยู่ไกลแต่ใจไปถึง ก็ต้องถึงน่ะสิคะท่านผู้ชม
ซึ่งที่นั่นก็คือ The Animal Cafe ! แถวสาธุประดิษฐ์
ก็ไม่เท่าไหร่ค่ะ แค่ขากลับระยะทาง 44 กิโลฯเอง…
The Animal Cafe ชื่อนี้บางคนไม่คุ้นหู บางคนบอกกำลังบูม
ซึ่งบูมไม่บูมเด็กบางกะปิอย่างเราก็บุกมาถึงถิ่นแล้วค่ะ
ส่วนเรื่องเส้นทางต้องขออภัยที่ไม่สามารถแนะนำได้อย่างแน่ชัด เนื่องจากนี่ก็ขับตาม Google Maps มาเลย แต่ก็บอกได้ว่าอยู่ใกล้เซ็นทรัลพระรามสาม
หากขับมาถึงเซ็นทรัลพระรามสาม ให้เลยไปหน่อย แล้วเลี้ยวซ้ายตรงดิอัพ (Up เป็นชื่ออเวนิว)
เมื่อเลี้ยวซ้ายมาตรงมาเรื่อยๆ จะเจอซอยนราธิวาส 24 (ซึ่งคือสาธุประดิษฐ์ 19) เลี้ยวเข้ามาๆ
ตรงเข้ามาเรื่อยๆ จะเจอ Maxvalu อยู่ฝั่งซ้ายมือ เยื้องมาทางขวาจะเจอร้านเลยค่ะ ป้ายร้านสวยและโดดเด่นมากๆ ชอบดีไซน์ค่ะ
เมื่อมาถึงร้านก็ได้รับการต้อนรับอย่างดีจากพี่ๆ พนักงาน
ตอนแรกสงสัย แมวหูยาวหายไปไหน ทำไมเจอแต่แมวหูกุดทั้งนั้นเลย
อ๋อ อยู่ชั้นสองค่ะ สั่งอาหารแล้วไปกันเถอะ (หรือจะขึ้นไปสั่งชั้นสองก็ได้นะ)
ชั้นสองกัน
สั่งอาหารกันเสร็จ ระหว่างรออาหารก็เป็นช่วงเวลาที่เราจะได้เพลิดเพลินบันเทิงใจกับ...กับ…
กรี๊ดดดด นั่นนกฮูกของจริงนี่หว่า นึกว่ารูปปั้น!
เดี๋ยวๆ ก่อนจับต้องสัตว์อย่าลืมล้างมือก่อนด้วยนะ
น้องแฮร์รี่ พอตเตอร์ นกฮูกไวท์เฟส ดาวเด่นประจำคาเฟ่นี่เอง เห็นในเพจนึกว่าจะตัวใหญ่ ไอ้เราก็มองหานกฮูกยักษ์รอบร้าน ที่ไหนได้ตัวเปี๊ยกหนึ่ง แถมยังนิ่งสุดๆ แต่ก็ไม่แปลก ตอนกลางวันเป็นเวลานอนของเขานี่เนอะ
ใครที่อยากเล่นกับน้อง รบกวนอย่าปลุกแฮร์รี่เลยนะ ให้แฮร์รี่หลับพริ้วๆ เราก็ยื่นหน้าเข้าไปเซลฟี่ได้
ใครโชคดีจะไปเจอตอนแฮร์รี่ตื่นตาโตพอดีเลย ถ้าใครอยู่ที่ร้านนานๆ แฮร์รี่จะตื่นเป็นพักๆ ค่ะ
ลำดับต่อไปเรามากันที่คาราคัลแคท หรือ แมวทะเลทราย ซึ่งเป็นน้องแมวหูยาวที่มะหมวยอยากมาหามะเหมียวนั่นเอง !
เห็นน้องๆ ไซส์นี้คือไซส์เด็กนะคะ เพิ่งจะสามเดือนเอง นับว่าตัวเล็กมาก ชื่อผักกาดกับหัวหอม
ไว้มะเหมียวตัวใหญ่เมื่อไหร่จะมาเยี่ยมอีกรอบนะจ้ะ ต้องตัวใหญ่มากแน่ๆ เลย
ห้องสัตว์ถ้าจะเข้าไปได้ต้องมีพี่ๆ พนักงานเข้าไปด้วยนะคะ เพื่อคอยดูความเรียบร้อยและแนะนำวิธีจับน้องแมวอย่างถูกวิธี
เช่นน้องแมวคาราคัลเนี่ย ต้องอุ้มด้วยท่าที่จะทำให้น้องแมวมั่นใจว่าเขาจะไม่ตกแน่นอน ไม่งั้นเขาจะพยายามดีดตัว แล้วก็ไม่ควรยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ น้องแมวเพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเองค่ะ
นอกจากนั้นยังมีน้องชินชิล่า ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นสัตว์ที่ขนนุ่มที่สุดในโลก
คือแมมมอธกับมอมแมม น้องๆ เป็นสัตว์กลางคืน เลยมักจะออกมาเล่นคึกคักกันตอนสามทุ่มใกล้ปิดร้าน
แล้วก็ยังมีปูเสฉวน หมาน้ำ แล้วก็กบอาร์เจนติน่า (ชื่อซูโม่)
ตัวกบนี้จะอยู่ในตู้ใต้แอร์ค่ะ มะหมวยไม่กล้าถ่ายเยอะ กลัวกบอ่ะ TT แต่สีน้องซูโม่ก็สวยจริงๆ นะ
หมาน้ำจะมีอยู่สองตัวในตู้น้ำตกใต้โต๊ะกระจก ต้องพยายามส่องหาสักหน่อย
ส่วนปูเสฉวนอยู่ตู้ข้างๆ เลยค่ะ นั่งมองปูเดินขวักไขว่ไปมาก็เพลินตาดี
ปูด้วยยย
แล้วก็... โดยในอนาคตอันใกล้กำลังจะมีน้องเฟนเนคฟ็อกซ์ตามมาบริการทุกท่านด้วยล่ะค่ะ (Fennec Fox)
นอกจากจะมีน้องจิ้งจอกมาเพิ่ม ยังจะมีแมวเซอร์วัล หรือแมวทะเลทรายเหมือนกัน ซึ่งเป็นแมวทะเลทรายลายดาว (แต่เป็นแมวสายพันธ์คนละพื้นที่ เซอร์วัลแคทจะอยู่เขตใกล้น้ำ เช่นซาวันน่าเป็นต้น) ก็เป็นมะแมวมะเหมียวที่น่าจับตามองรอการมาถึงไม่แพ้กันค่ะ
เอาล่ะแล้วเราก็มาถึงช่วงเวลาอันสำคัญ
เวลาอาหาร!!
ถึงเวลาอาหารกันบ้าง จริงๆ ที่นี่มีเมนูอาหารน่าทานหลายอย่าง โดยเมนูแนะนำจะมี เบอร์เกอร์ กับ สเต็กเนื้อ
แต่วันนี้ที่สั่งไปก็จะมี….
ปีกไก่ทอดสไตล์เกาหลี 90 บาท แค่ภาพก็สามารถอธิบายได้ดีกว่าคำพูด แนะนำให้กินตอนอุ่นๆ ร้อนๆ รับรองติดใจสั่งเพิ่มอีกจาน ใจเองอยากสั่งเพิ่มอีกจานอยู่ค่ะ ติดที่สั่งเมนูอื่นอีกหลายจาน กลัวจะกินไม่ไหว ถ้าเหลือก็เสียดาย ห่อกลับบ้านก็กลัวไม่อร่อยเท่านั่งกินคู่กับบรรยากาศในร้าน
สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า 190 บาท อันนี้สำหรับคนที่เป็นสาวกคาโบนาร่าไม่ควรพลาดค่ะ รสชาติของครีมซอสกลมกล่อมกำลังดี ตัดด้วยกลิ่นหอมๆ และเสียงเคี้ยวกรุบกรอบของเบคอน ปริมาณก็ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป แต่ด้วยความที่เป็นสาวกสปาเก็ตตี้ เผลอพลั้งปล่อยปากปล่อยใจแปบเดียวหมดเฉยเลย
พอร์คชอป 300 บาท รสชาติเนื้อหมูอร่อยใช้ได้ค่ะ ประกอบด้วยเฟรนฟรายอีกเล็กน้อย เนื้อหนานุ่มเหมาะสำหรับสาวกทานสเต็ก โดยหลังจากแอบถามเจ้าของร้านมา ถึงได้รู้ว่าที่นี่จ้างเชฟมือดีมาปรุงอาหารแต่ละจาน ไม่แปลกใจเลยที่อร่อยแบบนี้
ซีซาร์สลัด 220 บาท ก็มีความเป็นสลัด อืม… ยังไงดีล่ะ 5555 ส่วนตัวชอบทานสลัดเป็นชีวิตจิตใจอยู่แล้ว เลยชอบหมดแหละ แต่หากบางคนชอบให้มีรสชาติของน้ำสลัดที่หวานหน่อย โต๊ะหลักในร้านก็จะมีเครื่องปรุงให้นะคะ ทางนี้ชอบมายองเนสค่ะ เลยกินมายองเนสกับสลัดก็อร่อยไปอีกแบบ
และฮันนี่โทส 250 บาท คือ… อร่อยมากกกก ได้เยอะมากกก รสชาติและปริมาณสมราคามากๆ
ไม่รู้จะอธิบายเป็นคำพูดยังไงดี ใครไปถึงมะหมวยอยากให้สั่งค่ะ สั่งเลยค่ะ สั่งเถอะค่ะ รับรองคุณจะไม่ผิดหวัง รสชาติของขนมปังกับน้ำเชื่อมละมุนลิ้น เนื้อขนมปังกรอบนอกนุ่มในกำลังดี ส่วนตัวผลไม้ก็หวานตัดเปรี้ยวตัดหวานปนกันไป เป็นการปิดท้ายมื้ออาหารที่ดีงามพระรามสามสุดๆ
เครื่องดื่มที่สั่งคือโกโก้และลาเต้ค่ะ โกโก้ส่วนใหญ่ที่เคยทานจะมีรสขมแบบรักษาความเป็นโกโก้ แต่โกโก้ที่นี่จะออกหวาน เหมาะสำหรับคนชอบทานหวานค่ะ ส่วนลาเต้ก็ใช้ได้เลย อยากเลือกระดับความหวานมากน้อยก็บอกพนักงานหลังเคาน์เตอร์เอาค่ะ
อร่อยมากแค่ไหนโปรดติดตามน้ำหนักที่จะเพิ่มขึ้นในไตรมาสนี้
แอบถ่ายเครื่องดื่มโต๊ะชาวบ้านบ้าง พี่เจ้าของร้านบอกว่ามันชื่อน้ำ Turn Me On (ชื่อเท่ระเบิดจริงๆ) ลองแอบไปดูดมา เปรี้ยวหวานเข้มข้นแบบน้ำผลไม้ (ไม่ได้ไปแอบจริงๆ นะ มะหมวยสั่งเพิ่มมาอีกแก้วค่ะ แต่ลืมถ่ายไว้ แหะๆ)
อ๋อๆ ที่ชอบอีกอย่างคือขนมปลาค่ะ ขนมย้อนวัยเด็ก ชอบมาก 5555555
ทุกโต๊ะที่มานั่งจะได้ทานหมดนะคะ ไม่เสียค่าบริการเพิ่ม กินเลยค่ะ เอาให้คุ้ม 5555
วันนี้มีเด็กๆ พากันเข้ามานั่งเล่นกับน้องแมวด้วย
โดยนั่งนับเงินรวมเงินกันกินเค้กได้จานหนึ่ง พี่เจ้าของร้านเลยลดให้อีกด้วย น่ารักกก
สรุปว่าคุ้มค่ากับการเดินทางข้ามฝั่งกรุงเทพไปไหม?... คุ้มค่ะ
ไม่ใช่เพียงแค่สัตว์แปลกน่ารักจับต้องได้ แต่เรื่องอาหารก็เลิศรสไม่แพ้กัน
บรรยากาศในร้านสลัวๆ เปิดเพลงเคล้าไปด้วย นั่งชิลได้สบายๆ
(อาจจะถ่ายไม่สวย แต่ร้านสวยจริงๆ นะเออ)
โดยมีของหนักแล้วเครื่องดื่มก็ยังมีไวน์นานาชนิดและเบียร์ด้วย
แต่กฏของร้านคือหากดื่มแอลกอฮอล์แล้วจะไม่อนุญาตให้เข้าห้องสัตว์นะคะ เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเองและตัวสัตว์ด้วย
ร้านเปิดตอน 11 โมง ถึง 4 ทุ่มทุกวันนะคะ
ในส่วนของรายละเอียดของร้าน เพิ่มเติมแนะนำเพจเลยดีกว่า
เพจ The Animal Cafe สามารถโทรสอบถามได้ตลอดในเวลาทำการ
https://www.facebook.com/theanimalcafethailand/
เจ้าของร้านเป็นมิตร เป็นกันเอง และใจดีมาก วันนี้ที่ไปก็นั่งคุยกันเรื่องสัตว์นานาจิปาถะอยู่นานเลย
เรียกได้ว่าตั้งแต่เรื่องมะหมามะแมวยันงู กิ้งก่า เต่า จิ้งจก ตุ๊กแก กบ เขียดกันเลย 5555555
แน่นอนว่าสัตว์พวกนี้หากมีความสนใจอยากเลี้ยงจริง สามารถติดต่อทางร้านได้ค่ะ ส่วนราคาก็หลังไมค์กับร้านค่ะ
แต่ต้องมั่นใจว่าสามารถดูแลพวกเขาได้จริง มาๆ มานั่งพูดคุยกับเจ้าของร้านถึงเรื่องการเลี้ยงการดูแลได้เลย
ที่สำคัญคือ... เจ้าของร้านงานดีจริงๆ นะเออ 5555555555555
ปิดท้ายด้วยภาพอีกเล็กๆ น้อยๆ
ขอบคุณทุกๆ ท่านที่อ่านมาจนถึงจุดนี้ค่ะ จบแล้ว เย้ๆ ยาวเนอะ 555
หวังว่าเพื่อนๆ จะหาโอกาสไปเพลิดเพลินกับอาหารและเหล่า Exotic Pet ตัวน้อยตัวใหญ่ที่ร้าน The Animal Cafe กันนะคะ
สำหรับวันนี้มะหมวยลาก่อน สวัสดีค่า
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น