ยักษ์ใหญ่จีน “มิเดียกรุ๊ป” ทุ่ม $473 ล้านเทคโอเวอร์กิจการเครื่องใช้ไฟฟ้า “โตชิบา”
โดย MGR Online
31 มีนาคม 2559 16:13 น.
ยักษ์ใหญ่จีน “มิเดียกรุ๊ป” ทุ่ม $473 ล้านเทคโอเวอร์กิจการเครื่องใช้ไฟฟ้า “โตชิบา”
เอเอฟพี/MGROnline - บริษัท มิเดีย กรุ๊ป (Midea Group) ยักษ์ใหญ่เครื่องใช้ไฟฟ้าของจีน ตัดสินใจเทคโอเวอร์กิจการเครื่องใช้ไฟฟ้าในเครือ “โตชิบา” ด้วยการเข้าซื้อหุ้นถึง 80% ในวงเงิน 473 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คำแถลงร่วมจากบริษัททั้งสองระบุ วานนี้ (30 มี.ค.)
โตชิบา ซึ่งผลิตสินค้าสารพัดอย่างตั้งแต่หม้อหุงข้าวเรื่อยไปยันโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ จะยังคงถือหุ้น 19.9% ในบริษัท โตชิบา ไลฟ์สไตล์ โปรดักต์ส แอนด์ เซอร์วิสเซส คอร์ปอเรชัน (TLSC) และบริษัทแห่งนี้ก็จะยังใช้ชื่อ “โตชิบา” ต่อไป แม้ว่า มิเดีย กรุ๊ป จะกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ก็ตาม
มิเดีย กรุ๊ป จะได้รับอนุญาตให้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์ “โตชิบา” เป็นเวลา 40 ปี ได้เป็นเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญารวมกว่า 5,000 รายการ ตลอดจนถือครองสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้อง
ข้อตกลงซื้อกิจการ TLSC จะมีมูลค่าราว 53,700 ล้านเยน หลังจากที่มีการ “ปรับราคา” เล็กน้อย
นับเป็นอีกครั้งที่บริษัทจากแดนมังกรได้สยายปีกเข้าไปซื้อกิจการในต่างแดน ในขณะที่รัฐบาลจีนมีนโยบายปรับโครงสร้างเศรษฐกิจจากการพึ่งพาอุตสาหกรรมหนักมาเน้นกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศมากขึ้น
ช่วงไม่กี่ปีมานี้ บริษัทสัญชาติจีนตกเป็นข่าวพาดหัวทั่วโลกจากการทุ่มซื้อกิจการของต่างชาติเป็นมูลค่านับพันๆ ล้านดอลลาร์ รวมถึงกรณีของรัฐวิสาหกิจ เคมไชน่า (ChemChina) ซึ่งได้เสนอวงเงิน 43,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อซื้อบริษัท ซีนเจนตา (Syngenta) ผู้ผลิตยาปราบศัตรูพืชและเมล็ดพันธุ์พืชสัญชาติสวิส และหากเจรจากันสำเร็จก็จะสร้างสถิติการเทคโอเวอร์กิจการต่างชาติที่มีมูลค่าสูงที่สุดสำหรับบริษัทจีน
เมื่อเดือน ม.ค. บริษัท ไฮเออร์ (Haier) ของจีนก็ได้ประกาศจะเข้าซื้อธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าในเครือ เจเนอรัล อิเล็กทริก ของสหรัฐฯ ด้วยวงเงิน 5,400 ล้านดอลลาร์
ยักษ์ใหญ่จีน “มิเดียกรุ๊ป” ทุ่ม $473 ล้านเทคโอเวอร์กิจการเครื่องใช้ไฟฟ้า “โตชิบา”
ฟาง หงป๋อ (Fang Hongbo) ประธาน มิเดีย กรุ๊ป แถลงว่า การเข้าซื้อบริษัทในเครือโตชิบาซึ่งเป็น “แบรนด์ที่โดดเด่น” นับเป็นก้าวสำคัญในความพยายามของ มิเดีย กรุ๊ป ที่จะขยายกิจการไปทั่วโลก และจะช่วยเพิ่มศักยภาพด้านการแข่งขันทั้งในตลาดญี่ปุ่น เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และภูมิภาคอื่นๆ
มาซาชิ มุโรมาจิ ประธานโตชิบา ได้เอ่ยเสริมในถ้อยแถลงร่วมว่า ตนเชื่อมั่นว่าการลงทุนของ มิเดีย กรุ๊ป ในด้านงานวิจัยและพัฒนา, การตลาด และการสร้างแบรนด์สินค้า จะทำให้อนาคตของธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าโตชิบาสดใสยิ่งกว่าเดิม
ทั้งนี้ การซื้อกิจการ โตชิบา ของ มิเดีย กรุ๊ป ยังต้องรอคำอนุมัติจากทางการจีน รวมถึงต้องผ่านขั้นตอนการตรวจสอบเรื่องการผูกขาด (anti-trust clearances)
โตชิบา กำลังประสบวิกฤตขาดทุนอย่างหนัก ทั้งยังตกเป็นข่าวอื้อฉาวเรื่องที่ผู้บริหารมีมาตรการบีบคั้นกดดันลูกน้องอย่างเป็นระบบให้แต่งบัญชีทำตัวเลขกำไรเกินความจริง เพื่อปิดบังผลประกอบการที่ย่ำแย่เอาไว้
บริษัทคาดการณ์ว่าจะมีผลประกอบการขาดทุนสูงถึง 6,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงปีงบประมาณที่ผ่านมา ซึ่งสิ้นสุดในเดือน มี.ค. ปี 2016
สำหรับ มิเดีย กรุ๊ป นั้นเริ่มจากการเป็นวิสาหกิจของรัฐที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1968 ปัจจุบันถือเป็นบริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของจีน และทำผลกำไรสุทธิได้สูงถึง 12,700 ล้านหยวนเมื่อปีที่แล้ว เพิ่มขึ้น 21% จากปีก่อนหน้า
นอกจากทำธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นหลักแล้ว มิเดีย กรุ๊ป ยังสยายสาขาออกไปยังวงการรถยนต์ โลจิสติกส์ การนำเข้าส่งออก อสังหาริมทรัพย์ เทคโนโลยีสารสนเทศ และการเงิน
http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9590000033284
เสร็จจีนไปอีก 1 แล้ว พรุ่งนี้จีนจะเทคโอเวอร์บริษัทไหนอีก
โดย MGR Online
31 มีนาคม 2559 16:13 น.
ยักษ์ใหญ่จีน “มิเดียกรุ๊ป” ทุ่ม $473 ล้านเทคโอเวอร์กิจการเครื่องใช้ไฟฟ้า “โตชิบา”
เอเอฟพี/MGROnline - บริษัท มิเดีย กรุ๊ป (Midea Group) ยักษ์ใหญ่เครื่องใช้ไฟฟ้าของจีน ตัดสินใจเทคโอเวอร์กิจการเครื่องใช้ไฟฟ้าในเครือ “โตชิบา” ด้วยการเข้าซื้อหุ้นถึง 80% ในวงเงิน 473 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คำแถลงร่วมจากบริษัททั้งสองระบุ วานนี้ (30 มี.ค.)
โตชิบา ซึ่งผลิตสินค้าสารพัดอย่างตั้งแต่หม้อหุงข้าวเรื่อยไปยันโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ จะยังคงถือหุ้น 19.9% ในบริษัท โตชิบา ไลฟ์สไตล์ โปรดักต์ส แอนด์ เซอร์วิสเซส คอร์ปอเรชัน (TLSC) และบริษัทแห่งนี้ก็จะยังใช้ชื่อ “โตชิบา” ต่อไป แม้ว่า มิเดีย กรุ๊ป จะกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ก็ตาม
มิเดีย กรุ๊ป จะได้รับอนุญาตให้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์ “โตชิบา” เป็นเวลา 40 ปี ได้เป็นเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญารวมกว่า 5,000 รายการ ตลอดจนถือครองสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้อง
ข้อตกลงซื้อกิจการ TLSC จะมีมูลค่าราว 53,700 ล้านเยน หลังจากที่มีการ “ปรับราคา” เล็กน้อย
นับเป็นอีกครั้งที่บริษัทจากแดนมังกรได้สยายปีกเข้าไปซื้อกิจการในต่างแดน ในขณะที่รัฐบาลจีนมีนโยบายปรับโครงสร้างเศรษฐกิจจากการพึ่งพาอุตสาหกรรมหนักมาเน้นกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศมากขึ้น
ช่วงไม่กี่ปีมานี้ บริษัทสัญชาติจีนตกเป็นข่าวพาดหัวทั่วโลกจากการทุ่มซื้อกิจการของต่างชาติเป็นมูลค่านับพันๆ ล้านดอลลาร์ รวมถึงกรณีของรัฐวิสาหกิจ เคมไชน่า (ChemChina) ซึ่งได้เสนอวงเงิน 43,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อซื้อบริษัท ซีนเจนตา (Syngenta) ผู้ผลิตยาปราบศัตรูพืชและเมล็ดพันธุ์พืชสัญชาติสวิส และหากเจรจากันสำเร็จก็จะสร้างสถิติการเทคโอเวอร์กิจการต่างชาติที่มีมูลค่าสูงที่สุดสำหรับบริษัทจีน
เมื่อเดือน ม.ค. บริษัท ไฮเออร์ (Haier) ของจีนก็ได้ประกาศจะเข้าซื้อธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าในเครือ เจเนอรัล อิเล็กทริก ของสหรัฐฯ ด้วยวงเงิน 5,400 ล้านดอลลาร์
ยักษ์ใหญ่จีน “มิเดียกรุ๊ป” ทุ่ม $473 ล้านเทคโอเวอร์กิจการเครื่องใช้ไฟฟ้า “โตชิบา”
ฟาง หงป๋อ (Fang Hongbo) ประธาน มิเดีย กรุ๊ป แถลงว่า การเข้าซื้อบริษัทในเครือโตชิบาซึ่งเป็น “แบรนด์ที่โดดเด่น” นับเป็นก้าวสำคัญในความพยายามของ มิเดีย กรุ๊ป ที่จะขยายกิจการไปทั่วโลก และจะช่วยเพิ่มศักยภาพด้านการแข่งขันทั้งในตลาดญี่ปุ่น เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และภูมิภาคอื่นๆ
มาซาชิ มุโรมาจิ ประธานโตชิบา ได้เอ่ยเสริมในถ้อยแถลงร่วมว่า ตนเชื่อมั่นว่าการลงทุนของ มิเดีย กรุ๊ป ในด้านงานวิจัยและพัฒนา, การตลาด และการสร้างแบรนด์สินค้า จะทำให้อนาคตของธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าโตชิบาสดใสยิ่งกว่าเดิม
ทั้งนี้ การซื้อกิจการ โตชิบา ของ มิเดีย กรุ๊ป ยังต้องรอคำอนุมัติจากทางการจีน รวมถึงต้องผ่านขั้นตอนการตรวจสอบเรื่องการผูกขาด (anti-trust clearances)
โตชิบา กำลังประสบวิกฤตขาดทุนอย่างหนัก ทั้งยังตกเป็นข่าวอื้อฉาวเรื่องที่ผู้บริหารมีมาตรการบีบคั้นกดดันลูกน้องอย่างเป็นระบบให้แต่งบัญชีทำตัวเลขกำไรเกินความจริง เพื่อปิดบังผลประกอบการที่ย่ำแย่เอาไว้
บริษัทคาดการณ์ว่าจะมีผลประกอบการขาดทุนสูงถึง 6,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงปีงบประมาณที่ผ่านมา ซึ่งสิ้นสุดในเดือน มี.ค. ปี 2016
สำหรับ มิเดีย กรุ๊ป นั้นเริ่มจากการเป็นวิสาหกิจของรัฐที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1968 ปัจจุบันถือเป็นบริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของจีน และทำผลกำไรสุทธิได้สูงถึง 12,700 ล้านหยวนเมื่อปีที่แล้ว เพิ่มขึ้น 21% จากปีก่อนหน้า
นอกจากทำธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นหลักแล้ว มิเดีย กรุ๊ป ยังสยายสาขาออกไปยังวงการรถยนต์ โลจิสติกส์ การนำเข้าส่งออก อสังหาริมทรัพย์ เทคโนโลยีสารสนเทศ และการเงิน
http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9590000033284