ธรรมบท เรื่อง พราหมณ์คนใดคนหนึ่ง


รูปภาพจาก buddhanet.net/dhammapada



๑๙. เรื่องพราหมณ์คนใดคนหนึ่ง [๒๘๒]
ข้อความเบื้องต้น
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภพราหมณ์คนใดคนหนึ่ง ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า เป็นต้น. " โย ทุกฺขสฺส " เป็นต้น.

           ได้ยินว่า ทาสคนหนึ่งของพราหมณ์นั้น เมื่อสิกขาบทอันพระศาสดายังไม่ทรงบัญญัติ หนีไปบวชบรรลุพระอรหัตแล้ว. พราหมณ์ค้นหาอยู่ก็ไม่พบ ในวันหนึ่งพบท่านเข้าไปบิณฑบาตกับพระศาสดาที่ระหว่างประตูได้ยึดจีวรไว้อย่างมั่น.   พระศาสดาเสด็จกลับ ตรัสถามว่า " นี่อะไรกัน ?  พราหมณ์."

           พราหมณ์. ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ (ภิกษุนี้) เป็นทาสของข้าพระองค์.

           พระศาสดา. พราหมณ์ ภิกษุนั่น เป็นผู้มีภาระอันปลงแล้ว.    เมื่อพระศาสดาตรัสว่า " เป็นผู้มีภาระอันปลงแล้ว," พราหมณ์กำหนดได้ว่า " เป็นพระอรหันต์." เหตุนั้น เมื่อพราหมณ์กราบทูลแม้อีกว่า " อย่างนั้นหรือ ? พระโคดมผู้เจริญ."

           พระศาสดาตรัสว่า " ถูกแล้ว พราหมณ์ ภิกษุนั่นเป็นผู้มีภาระอันปลงแล้ว " ดังนี้แล้ว ตรัสพระคาถานี้ว่า :-

           ๑๙. โย ทุกฺขสฺส ปชานาติ อิเธว ขยมตฺตโน
           ปนฺนภารํ วิสญฺญุตฺตํ ตมหํ พฺรูมิ พฺรหฺมณํ.

          " ผู้ใด ในศาสนานี้แล รู้ชัดความสิ้นไปแห่งทุกข์
           ของตน, เราเรียกผู้นั้น ซึ่งมีภาระอันปลงแล้ว ผู้
           พรากได้แล้วว่า เป็นพราหมณ์."

แก้อรรถ
           บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ทุกฺขสฺส ได้แก่ ขันธทุกข์.    บทว่า ปนฺนภารํ เป็นต้น ความว่า เราเรียกผู้มีภาระคือขันธ์อันปลงแล้ว ผู้พรากได้แล้วจากโยคะ ๔ หรือสรรพกิเลสนั้นว่า เป็นพราหมณ์.    ในกาลจบเทศนา พราหมณ์นั้นตั้งอยู่ในโสดาปัตติผลแล้ว. เทศนาได้เป็นประโยชน์แม้แก่ชนผู้ประชุมกันแล้ว ดังนี้แล.

เรื่องพราหมณ์คนใดคนหนึ่ง จบ.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่