กระแส กล้องหน้ารถมาแรง ตำรวจเสนอให้ติดมากับ รถป้ายแดง ช่วยลดข้อพิพาทปราบอาชญากรรม

จากกรณีที่ปัจจุบันมีความนิยมติดกล้องหน้ารถกันอย่างแพร่หลาย จนมูลนิธิเมาไม่ขับได้มีการเสนอรัฐบาลกำหนดเป็นนโยบายเพื่อเป็นการดึงดูดและสนับสนุนให้ประชาชนติดกล้องเพิ่มขึ้น เช่น ลดภาษีนำเข้าตัวกล้อง หรือการนำใบเสร็จไปลดหย่อนภาษี เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว

ภาพจาก https://i.ytimg.com/vi/bdV3CmdcCGc/maxresdefault.jpg
พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รองบช.น.) ดูแลงานจราจร กล่าวว่า เห็นด้วยกับแนวคิดของมูลนิธิเมาไม่ขับเพราะหากรถทุกคันที่ใช้ถนนติดตั้งกล้องหน้ารถจะทำให้ปัญหาด้านการจราจร ปัญหาอุบัติเหตุรถชน ปัญหาอาชญากรรมที่เกิดขึ้นสามารถตรวจสอบได้โดยง่ายซึ่งจะเห็นจากที่ผ่านมาว่ากรณีที่เกิดอุบัติเหตุโดยส่วนมากเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะได้หลักฐานมาจากกล้องหน้ารถซึ่งทำให้นำไปสู่การจับตัวผู้กระทำความผิดได้ ทั้งนี้ถือเป็นมาตรการที่ดีมากที่ภาครัฐจะต้องสนับสนุน โดยภาครัฐต้องเข้าไปมีส่วนร่วมหรือมีการส่งเสริมให้ประชาชนเห็นความสำคัญหันมาติดตั้งกล้องกันเพิ่มมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นการหาภาคีเครือข่ายเอกชนเข้า มาร่วมดำเนินการ เพราะตนเห็นว่าการติดตั้งกล้องหน้ารถแต่ละครั้งมีความคุ้มค่า เพราะจ่ายเงินเฉพาะค่าอุปกรณ์เพียงครั้งเดียวโดยไม่ต้องจ่ายค่ารายเดือนซึ่ง หากภาครัฐมีมาตรการสนับสนุนเชื่อว่าประชาชนจะให้ความร่วมมือในการติดตั้ง

พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวต่อว่า  ส่วนเรื่องงานจราจรก็สามารถช่วยได้เช่นกัน แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องมีช่องทางให้ประชาชนสามารถส่งข้อมูลภาพที่มีการบันทึกรถที่ทำผิดกฎจราจรได้เพื่อทำการออกใบสั่ง ซึ่งจะช่วยแบ่งเบาภาระเจ้าหน้าที่ตำรวจราจรได้มากขึ้น ดังนั้นหากจะให้กล้องหน้ารถ ได้อย่างมีประสิทธิภาพทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะต้องหาช่องทางให้ประชาชนส่งภาพเข้ามาโดยเบื้องต้นในอนาคตหากสามารถดำเนิน การได้จริงทางบช.น.จะต้องมีการปรับปรุงศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร(บก .02)ให้มีระบบขึ้นมารองรับ อีกทั้งตนยังมีแนวคิดเสนอให้บริษัทขายรถยนต์เพิ่มฟังก์ชันติดตั้งกล้องหน้ารถมาพร้อมกับตัวรถจะดีมาก ประชาชนจะได้ไม่ต้องเสียเงินติดเพิ่มด้วย ในส่วนของกล้องซีซีทีวีที่ภาครัฐติดตั้งตามถนนต่างๆนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ ยังสามารถใช้ประโยชน์ได้เพราะในการบริหารจราจรจะต้องมีการดูท้ายแถวในแต่ละเส้นทางเพื่อสั่งการให้เจ้าหน้ที่ตำรวจจราจรสน.ท้องที่เร่งระบายรถเพื่อไม่ ให้การจราจติดขัด

http://www.dailynews.co.th/bangkok/388948
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่