อยากแชร์ประสบการณ์ สำหรับคนที่จะทำ บัตร The Wisdom โดยทำจากประกันเงินฝาก จากธนาคาร กสิกร

ขอออกตัวก่อนว่าเพิ่งหัดตั้งกระทู้นะครับ ยังไม่ค่อยเป็น อาจยาวหน่อยนะครับ แต่เป็นประโยชน์ ไม่รู้ว่า แท๊กถูกรึเปล่า โปรดแนะนำด้วยครับหากผิด

เกริ่นก่อนว่า ผมใช้บริการธนาคารนี้ค่อนข้างบ่อยมากๆแต่หลังจากนี้คงไม่แน่ใจแล้ว ปกติไม่เคยสนใจประกันชีวิตเลย แต่มีทำอยู่ 3แห่ง (รวม ที่นี่) เนื่องจากได้รับการขอร้องมา เรื่องเดียวคือ "ช่วยยอดน้องเค้า"

คือผมได้ทำประกันเงินฝากกับทาง ธนาคารกสิกรไปเมื่อประมาณ 2-3ปีที่แล้ว โดย ณ ตอนนั้นทาง ผจก. และ ทางเซลล์ที่ดูแล พยายามขอร้องให้ทำ โดยสิ่งติดตรึงในหัวถึงทุกวันนี้คือ ผจก.ชวนให้ทำโดยกล่าวว่าจะได้ช่วยยอดน้องเค้าด้วย (ผมไม่แน่ใจตอนนั้นว่าเค้าเริ่มชวนมาเอง หรือผมไปถามว่าอยากได้บัตร The Wisdom ต้องทำยังไงบ้าง) เนื่องจากตอนนั้นทางเค้าเสนอมาว่า จะมีบัตร Wisdom ให้ด้วยนะ เราก็ด้วยความอยากได้ ก็เลยคุยรายละเอียด และขอเวลาคิด.....ไม่กี่วันหลังจากนั้น ผมจึงตัดสินใจทำ ประกัน จ่ายเบี้ยปีละ 800,000 เป็นเวลา 5ปี คุ้มครอง 15ปี (โดยถ้าจำไม่ผิดจะมีให้เลือกแบบ จ่ายเบี้ยปีละ 600,000 800,000 และ 1,200,000 เราจึงเลือกทำแบบกลางจะได้ช่วยยอดเค้าด้วย) โดยยังพูดคุยกับทาง พนง. คนนั้นเลยว่า ผมจะไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศประมานสองปี จะได้บัตรมาทันมั้ย แล้วเราจะเอาไปใช้อะไรที่ต่างประเทศได้บ้าง เห็นน้องเค้าแนะนำดี โดยผมขอยืนยันว่าทาง พนง. ของธนาคารรู้ทุกอย่างว่าผมกำลังจะไปศึกษาต่อ เป็นเวลา ปีครึ่ง-2ปี แล้วเนื่องจากผมยังคงเป็น นศ. วงเงินในบัตรจึงยังไม่สามารถอนุมัติได้ ทางธนาคารจึงเสนอให้ฝากเงิน Hold ไว้เพื่อขอวงเงินบัตรด้วย

หลังจากได้บัตร The Wisdom มา เราก็เริ่มได้ใช้โดยหลักๆเลยคือ เข้าไปทำธุรกรรมกับทางธนาคารนี้ค่อนข้างบ่อย ถึง บ่อยมาก เฉลี่ยอาทิตย์ละ 2-3ครั้ง แล้วเนื่องจากผมกำลังจะไปศึกษาต่อต่างประเทศ จึงยังไม่ได้ใช้ อภิสิทธ์ในบัตรเลย

หลังจากที่ผม กลับมา (มิ.ย. 58) ผมก็ยังไม่ได้เริ่มใช้อภิสิทธ์อะไรนอกเหนือจากการเข้าเลาจ์ของธนาคารเพื่อทำ ธุรกรรม เวลาล่วงเลยมาเรื่อยๆผมก็ได้ จดหมายจากทางธนาคารมาว่า ให้นำเงินมาฝาก หรือ ทำให้ Wealth ถึง 10ล้านเพื่อต่ออายุบัตรก่อนเดือน 3 ปี 59 ไม่งั้นบัตรจะถูกตัดจากการเป็น The Wisdom นะเอ้อ (ปล. จดหมายส่งมาอธิบายดีนะครับ แค่แปลตามความเข้าใจมาให้ฟัง ในจดหมายไม่ถึงกับพูดกระโชกขนาดนี้นะ) ผมจึงคิดว่า เอ้ย อะไรวะ เบี้ยก็ยังส่งไม่ถึงครึ่งทางเลย จะมาตัดบัตร ผมจึงถามไปทาง พนง. ได้คำตอบมาว่า ทางศูนย์บัตรเค้าไม่ยอมต่อให้หรอกครับ ถ้า Wealth ไม่ถึง บอกตามตรง ตอนนั้นเราหน้าชาเลย ว่าแบบกุซวยแล้วหล่ะ เสียค่าโง่ไปเลยดิงั้น

ผมจึงเริ่มหาข้อมูลใน Pantip ก็เพิ่งจะเจอว่า เอ้อมีคนเปนคล้ายๆเราเหมือนกันเลย สงสัยคงอดจริงๆละ เสียค่าโง่ไป 800,000 จ่ายเบี้ยไป 2ปีแล้ว ยังขาดส่งเบี้ยอีก 3ปีที่ยังต้องส่งต่อ แถมยังต้องทิ้งไว้อย่างนั้นเปนเวลารวมทั้งหมด 15ปี

หลังจากนั้นน้าผมคนนึงก็ทำมาในทำนองเดียวกันเลย ผมจึงบอกไปว่า เฮ้ย พอหมดเค้าไม่ต่อให้เลยนะ เค้าตัดเลยยนะ น้าผมบอกว่าอ้าวหรอ เห็นทาง ผจก.สาขาที่น้าผมทำมาบอกว่าเดี๋ยวเค้าดูแลให้ เราก็ เอ้ยทำได้ด้วยหรอ บลาๆๆ
เราก็ไม่ได้หวังอะไรมากละ จนกระทั่ง เมื่อไม่นานมานี้ น้าเราอีกคนก็สนใจทำขึ้นมา แล้วประกอบกับที่เราไปกับน้าด้วยวันนั้น(คนละสาขากับที่ผมทำ) จึงถามกับทาง พนง.ว่า อยากทำ The Wisdom ต้องทำไงได้บ้าง ทาง พนง. คนนี้จึงอธิบายมา 2ข้อ โดยข้อหลังก็คือ ทำประกันเงินฝากระยะยาว โดยน้าผมจะต้องส่งเบี้ย ปีละ 600,000 เป็นเวลา 4ปี แล้วเราก็เลยแกล้งถามไปว่า แล้วอายุบัตรมันมีอายุ 3ปี แล้วจะมีต่อให้มั้ย? ทางพนง.กล่าวว่า ทางบัตรจะต่อให้ตามจำนวนปีที่ส่งเบี้ย แต่เนื่องจากบัตรมีอายุ 3ปี มันจะมีเกินมาแค่ปีเดียวนะ แต่ไม่เป็นไรเดี๋ยวเค้าดูแลให้ พอเราได้ยินมาก็คิดว่า นั่นไง เราโง่อยู่คนเดียวเลย น้าทั้งสองคน คนนึงทำแล้วทางนั้นยืนยันมาว่าเด่วจัดการให้ อีกคนมีท่าทีว่าจะทำ เดี่ยวเค้าดูแลให้ต่อให้ แม่ผมเลยบอกว่า ถ้าเค้าไม่ต่อให้ก็ไม่ต้องไปใช้ แล้วมาทำธุรกรรมผ่านธนาคารอื่นแทนละกัน แต่ผมก็เลยขอลองดูอีกที โดยกลับไปพูดกับ พนง. ผมทำประกันด้วย เค้าบอกว่าขอไปปรึกษาผู้การก่อน สรุปได้ข้อสรุปมาว่า ไม่ได้อยู่ดี ต้องทำให้ Wealth ถึง 10ล้าน หรือไม่ก้ ทำประกันจ่ายเบียเพิ่ม อีกซักปีละ แสนสองแสน ผมเลยคิดเลยว่า อันเก่า ส่งเบี้ยไปยังไม่ถึงครึ่งทาง ก็มาตัดบัตร นี่ยังมีหน้ามาให้เพิ่มเบี้ยอีก (ทำเพิ่ม) เราจึงรุ้สึกว่า การกระทำของธนาคารนี้ อยากได้ลูกค้าจนหน้ามืดเกินไป

สรุป
1. ทำไมตอนทำ ทางธนาคารไม่มีแจ้งก่อนว่า บัตรจะไม่ต้อให้นะ มีแค่ครั้งเดียว หมดแล้วหมดเลยถ้าอยากต่อต้องทำอย่างงั้นอย่างงี้เพิ่ม

2. เสียอารมมากกับธนาคารนี้ พอทำบัตรเสด ไปอยู่เมืองนอกมา 2ปี ไม่ได้ใช้อะไรเลย พอกลับมา สรุปคือมีเวลาใช้อีกแค่ปีเดียว ทั้งๆที่ พนง.รู้ว่าจะไปเรียนต่างประเทศ แต่ก็ไม่แจ้ง ยังคงให้ทำ

3. ส่งเบี้ยไปยังไม่ถึงครึ่งทาง ก็ตัดบัตรละ

4. แถมน้าผมที่จะทำ ส่งเบี้ยน้อยกว่าแค่ปีละ6แสน(ของผม8แสน) แถมยังส่งเบี้ยแค่4ปี(ผม5ปี) แต่ทาง พนง. และผู้การ กลับรับปากเลยว่าจะต่อบัตรให้แน่นอน หากไม่มั่นใจยินดีจะออกหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรให้เลย ทั้งๆที่น้าผมไม่มี Wealth กับทางธนาคารนี้ถึง 10ล้านแน่นอน แถมบัตรเครดิตที่ใช้ปัจจุบันยังไม่ถึงขั้น The Premier เลยด้วยซ้ำ เพราะน้าผมใช้ของธนาคารอื่นๆอยู่

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
ก่อนทำอะไรต้องศึกษาให้ดีดีเลย เรายอมรับว่าเราโง่เองที่ไม่ศึกษาให้ดีก่อน เพราะไม่เคยคิดเลยจริงๆว่าจะทำกันแบบนี้
บอกเลยนะว่า ถ้าทางธนาคารมีการแจ้งแต่แรก เราก็ยังคงทำนะ แต่หลังจากที่กลับมาจากต่างประเทศ เพื่อให้เราได้ใช้บัตร 3ปีเต็มๆ ไม่ใช่มาใช้แค่ปีเดียวแบบนี้ แต่พอเป็นงี้ บอกเลย หมดจิงๆกะธนาคารนี้ ทั้งๆที่เราใช้บริการธนาคารนี้มาหลายๆอย่าง ทั้งแม่เรา ลุงเรา น้าเรา ทั้งเปิดพอร์ตหุ้น ทำแบงค์การันตีกับทางบริษัท

ผมยืนยันว่าข้อมูลทั้งหมดเป็นความจริง หากพิมพ์ผิดพลาดหรือตกหล่นประการณ์ใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย พอดีง่วงมากกก 5555


แก้ไขนข้อมูลเพิ่มเติมนะครับ
ประกันผมคือ ส่งเบี้ยปีละ 8แสนกว่าบาท ส่งเป็นระยะเวลา 6ปี ครับไม่ใช่ 5ปี

ที่เด็ดกว่านั้นคือ พอมาย้อนอ่านกรมธรรม์ ผมได้พบว่าในใบหนังสือสัญญา มีการใส่ตัวประกันอุบัติเหตุสอดใส้มาด้วย ปีละ หมื่นกว่าบาท ซึ่งแน่นอนครับ ผมไม่ได้ทำ หรือได้รับแจ้งว่าทำตัวนี้ให้ด้วยแน่ๆ

ปล. ถ้าประกันอุบัติเหตุตัวนี้มันเป็นส่วนพ่วงกับประกันชีวิตเงินออมที่ผมทำอยู่แล้ว ก็ไม่มีไรครับ แต่ถ้า พนง. จะมายัดนอกเหนือผมว่าเรื่องนี้ยาวครับ (สรุปว่าเคสนี้คือผมทำประกัน2ตัว)
1. ประกันเงินออม(ประกันชีวิต) ที่จะได้รับดอกเบี้ยทุกๆปี จากการส่งเบี้ยปีละ 8 แสนกว่า
2. ประกันอุบัติเหตุ ที่เราจ่ายอย่างเดียวปีละ หมื่นกว่าบาท ไม่ได้รับดอกเบี้ยแต่ได้รับความคุ้มครองอุบัติเหตุ (ซึ่งตัวนี้ผมไม่รู้เรื่องแม้แต่นิดเดียวเลย ตอนขายมาไม่มีการพูดถึงตัวนี้เลยแม้แต่นิดเดียว แต่ดันมีสอดใส้เข้ามาในตัวประกันตามข้อแรกด้วย)

ปล.2 อย่าเพิ่งด่าผมนะครับ ผมยอมรับว่าตอนเซ็นไม่ได้ดูให้ดีๆเอง ข้อนี้ความผิดผมเอง แล้วดันพลาดตรงที่ตอนจ่ายเบี้ย แม่ผมเป็นคนชำระให้ด้วยเนื่องจากผมไม่อยู่ครับ เค้าส่งบิลมาเท่าไหร่แม่ผมก็ชำระเท่านั้น