คือสงสัยว่า มันยังต้อง มีค่าสินสอด กันอีกหรอครับสมัยนี้ ถ้าเป็นสมัยก่อน ผมจะไม่สงสัยเลย เพราะกว่าฝ่ายชาย ฝ่ายหญิง จะได้กัน แต่ละที่เขา ต้องพิสูจน์กันหลายๆอย่าง หนึ่งในนั้น รวมถึงสินสอดด้วย แต่(อาจจะหยาบคายนิดนะครับ)แต่สมัยนี้ มาทั้งการทดลองอยู่ก่อนแต่ง มีอะไรกันแค่ขำๆไม่คิดมาก อย่างนี้แล้ว คุณค่า มันไปอยู่ที่ไหนหมดครับ ในเมื่อทั้งชายและหญิง ไม่ได้มองว่ามันสำคัญ มันจะมีค่าอะไรครับ ถ้าจะนับสินสอดจริงๆคือ ต้องไปเก็บกับคนที่ได้คุณ คนแรกถึงจะถูก แต่ดันมาเก็บ กับคนที่ได้คนสุดท้าย แถมยังบอกว่า ชายหญิงเท่าเทียมกัน งั้นก็ต้องมีสินสอดให้ฝ่ายชาย ด้วยสิครับ เพราะเขาก็เป็นลูก มีพ่อแม่ ถูกเลี้ยงดูมาเหมือนกัน แต่ทำไมไปให้แต่ฝ่ายหญิง ละครับ พอมาถึงต้องนี้ ก็จะมีคนบอกว่าเพราะฝ่ายหญิงเสียหาย ยังไงละ แล้วที่ฝ่ายหญิงเสียหายก่อนจะแต่งงาน ทำไมไม่ไปเก็บสินสอดก่อนหน้านั้นละ ทำไมมาเก็บสินสอดที่ฝ่ายชายที่จะแต่งงาน เท่านั้น และมาถึงตรงนี้ที่ว่า สินสอดคือการบ่งบอกว่า ฝ่ายชายจะสามารถดูแลฝ่ายหญิงได้ไหม คือถ้าเป็นสมัยก่อนจะไม่เถียงเลยครับ แต่สมัยนี้ ชายหญิง เรียกร้องความเท่าเทียมกัน ฝ่ายหญิงก็ไม่ได้ เฝ้าบ้านเฝ้าเรือนเหมือนแต่ก่อน ออกไปทำมาหากินได้ งั้นก็แปลว่าทั้ง 2 ฝ่ายต่างสามารถเลี้ยงดูกันเองได้ งั้นค่าสินสอดควรจะออกคนละ ครึ่ง ไหมครับ หรือถ้า ฝ่ายชายอยู่บ้านเป็นพ่อบ้านพ่อเรือน ฝ่ายหญิงออกไปทำมาหากิน ก็ต้องเปลี่ยนมาเป็น ฝ่ายถูกขอสิครับ