ผมรู้ว่ากระทู้แนวนี้มีเยอะครับ แต่อยากลองตั้งเพื่อมาคุยดูบ้าง
ผมอยากรู้ว่าประเพณีโบราณ สินสอดแต่งงานสมัยนี้ยังจำเป็นมีอยู่มั้ย ?
สินสอดคำนี้ทุกคนคงรู้จักกันดีเนอะ คำๆนี้ส่วนใหญ่ คือเงินที่ผู้ชายต้องหามาเพื่อไปขอแต่งงาน
เมื่อก่อนประเพณีเป็นที่นิยมใช้กันมาก เพื่อเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าผู้ชายสามารถเลี้ยงผู้หญิงได้ ไม่ทำให้ผู้หญิงลำบาก พ่อแม่ฝ่ายหญิงจะได้สบายใจ
เพราะเมื่อก่อนคนที่เป็นฝ่ายทำงานคือผู้ชาย ผู้หญิงไม่มีรายได้ ทำแต่งานบ้านเท่านั้น
แต่สมัยนี้ ชายหญิงเท่าเทียมกันแล้ว ผู้หญิงมีการศึกษา ไม่ต่างจากฝ่ายชายเลย
สมัยนี้หลายคู่ พอแต่งงานหลายคู่ก็ย้ายไปอยู่ด้วยกันเลย ไม่ได้ไปอยู่บ้านผู้ชายเสียด้วยซ้ำ
เลยอยากถามว่าสินสอดจำเป็นต้องมีอีกหรือ ?
คือเคยอ่านความเห็นของผู้หญิงมาบ้าง ผู้หญิงมักจะบอกว่า ต้องมีสิ
ผู้หญิง : เป็นค่าน้ำนมไง ค่าเลี้ยงดูไง กว่าจะเลี้ยงผู้หญิงโตมาขนาดนี้ต้องใช้เงินไปเท่าไร
ความเห็นผม : แล้วผู้ชายเกิดมาจากกระบอกไม้ไผ่หรอ เกิดมาโตเลยหรอ ต้องก็มีค่าเลี้ยงดูเหมือนกันป่ะ
ผู้หญิง : เป็นสิ่งพิสูจน์ไง ว่าผู้ชายเลี้ยงดูผู้หญิงได้
ความเห็นผม : อ่าว แล้วถ้าผู้ชายไม่เลี้ยง ทำงานเองไม่ได้หรอครับ ต้องรอผู้ชายเลี้ยงฝ่ายเดียวหรอ มีมือมีเท้ามีสมองเหมือนกัน คือ ต้องช่วยกันหาเงินป่ะ
ผู้หญิง : เงินเป็นเครื่องพิสูจน์ไง ว่าผู้ชายมั่นคง แต่งไปแล้วไม่ลำบาก เป็นสิ่งยืนยันว่าผู้ชายคู่ควรกับผู้หญิง
ความเห็นผม : อ่าว แล้วผู้ชายไม่ต้องมีสิ่งยืนยันบ้างหรอ ว่าผู้หญิงคู่ควรกับผู้ชาย ถ้าเงินเป็นเครื่องพิสูจน์ผู้ชาย แล้วอะไรเป็นเครื่องพิสูจน์ผู้หญิงล่ะ
ผู้หญิง : เป็นเพศแม่ ต้องลำบากอุ้มท้อง
ความเห็นผม : มันก็ลูกของสองคนป่ะครับ ผมเข้าใจในความเป็นแม่นะ ความหมายมันยิ่งใหญ่ แต่ถ้าคุณคิดจะมีลูกแล้วคิดว่าตัวเองเสียเปรียบต้องเอาเงินผู้ชายอย่างเดียว ถ้าคิดว่าการมีลูกคือเสียผลประโยชน์ คิดแบบนี่ไม่ต้องมีลูกก็ได้นะ
คือผมเห็นบางคู่ไง ผู้ชายไปกู้เงินมาเพื่อเป็นสินสอดแต่งผู้หญิง แล้วทั้งคู่มาใช้หนี้ด้วยกันหลังแต่งงาน มันใช่หรอครับ
แทนที่จะดูที่เงิน ดูความพร้อมไม่ดีกว่าหรอ ดูการงานสองฝ่าย ดูนิสัยว่าเข้ากันมั้ย ดูว่ามีบ้าน มีรถ มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง อะไรแบบนี้ไม่ดีกว่าหรอครับ
สำคัญคือทั้งคู่ต้องรักกันด้วย ทำไมต้องให้ฝ่ายช่ายพิสูจน์ฝ่ายเดียวครับ
คือ ที่ผมกล่าวมาทั้งหมดเนี้ย ผมว่ามีผู้หญิงหลายคนมองผมว่าเป็นผู้ชายเห็นแก่ตัวแน่เลยครับ แต่ไม่มองว่าฝ่ายชายต้องลำบากยังไงบ้าง
ผมแค่มองว่าของบางอย่างที่มันล้าสมัย ไม่เหมาะกับสมัยใหม่แล้ว มันก็ควรจะยกเลิกได้แล้วป่ะครับ ?
ปล. ผมโอเคกับหลายคู่นะ ฝ่ายหญิงช่วยกันเก็บเงินพร้อมฝ่ายชาย แล้วเอาเงินสินสอดที่ได้ไปแต่ยอดเพื่อลูก สร้างครอบครัวอะไรงี้
อยากฟังความเห็นของเพื่อนๆเรื่องสินสอดในยุคนี้หน่อยครับ
ผมอยากรู้ว่าประเพณีโบราณ สินสอดแต่งงานสมัยนี้ยังจำเป็นมีอยู่มั้ย ?
สินสอดคำนี้ทุกคนคงรู้จักกันดีเนอะ คำๆนี้ส่วนใหญ่ คือเงินที่ผู้ชายต้องหามาเพื่อไปขอแต่งงาน
เมื่อก่อนประเพณีเป็นที่นิยมใช้กันมาก เพื่อเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าผู้ชายสามารถเลี้ยงผู้หญิงได้ ไม่ทำให้ผู้หญิงลำบาก พ่อแม่ฝ่ายหญิงจะได้สบายใจ
เพราะเมื่อก่อนคนที่เป็นฝ่ายทำงานคือผู้ชาย ผู้หญิงไม่มีรายได้ ทำแต่งานบ้านเท่านั้น
แต่สมัยนี้ ชายหญิงเท่าเทียมกันแล้ว ผู้หญิงมีการศึกษา ไม่ต่างจากฝ่ายชายเลย
สมัยนี้หลายคู่ พอแต่งงานหลายคู่ก็ย้ายไปอยู่ด้วยกันเลย ไม่ได้ไปอยู่บ้านผู้ชายเสียด้วยซ้ำ
เลยอยากถามว่าสินสอดจำเป็นต้องมีอีกหรือ ?
คือเคยอ่านความเห็นของผู้หญิงมาบ้าง ผู้หญิงมักจะบอกว่า ต้องมีสิ
ผู้หญิง : เป็นค่าน้ำนมไง ค่าเลี้ยงดูไง กว่าจะเลี้ยงผู้หญิงโตมาขนาดนี้ต้องใช้เงินไปเท่าไร
ความเห็นผม : แล้วผู้ชายเกิดมาจากกระบอกไม้ไผ่หรอ เกิดมาโตเลยหรอ ต้องก็มีค่าเลี้ยงดูเหมือนกันป่ะ
ผู้หญิง : เป็นสิ่งพิสูจน์ไง ว่าผู้ชายเลี้ยงดูผู้หญิงได้
ความเห็นผม : อ่าว แล้วถ้าผู้ชายไม่เลี้ยง ทำงานเองไม่ได้หรอครับ ต้องรอผู้ชายเลี้ยงฝ่ายเดียวหรอ มีมือมีเท้ามีสมองเหมือนกัน คือ ต้องช่วยกันหาเงินป่ะ
ผู้หญิง : เงินเป็นเครื่องพิสูจน์ไง ว่าผู้ชายมั่นคง แต่งไปแล้วไม่ลำบาก เป็นสิ่งยืนยันว่าผู้ชายคู่ควรกับผู้หญิง
ความเห็นผม : อ่าว แล้วผู้ชายไม่ต้องมีสิ่งยืนยันบ้างหรอ ว่าผู้หญิงคู่ควรกับผู้ชาย ถ้าเงินเป็นเครื่องพิสูจน์ผู้ชาย แล้วอะไรเป็นเครื่องพิสูจน์ผู้หญิงล่ะ
ผู้หญิง : เป็นเพศแม่ ต้องลำบากอุ้มท้อง
ความเห็นผม : มันก็ลูกของสองคนป่ะครับ ผมเข้าใจในความเป็นแม่นะ ความหมายมันยิ่งใหญ่ แต่ถ้าคุณคิดจะมีลูกแล้วคิดว่าตัวเองเสียเปรียบต้องเอาเงินผู้ชายอย่างเดียว ถ้าคิดว่าการมีลูกคือเสียผลประโยชน์ คิดแบบนี่ไม่ต้องมีลูกก็ได้นะ
คือผมเห็นบางคู่ไง ผู้ชายไปกู้เงินมาเพื่อเป็นสินสอดแต่งผู้หญิง แล้วทั้งคู่มาใช้หนี้ด้วยกันหลังแต่งงาน มันใช่หรอครับ
แทนที่จะดูที่เงิน ดูความพร้อมไม่ดีกว่าหรอ ดูการงานสองฝ่าย ดูนิสัยว่าเข้ากันมั้ย ดูว่ามีบ้าน มีรถ มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง อะไรแบบนี้ไม่ดีกว่าหรอครับ
สำคัญคือทั้งคู่ต้องรักกันด้วย ทำไมต้องให้ฝ่ายช่ายพิสูจน์ฝ่ายเดียวครับ
คือ ที่ผมกล่าวมาทั้งหมดเนี้ย ผมว่ามีผู้หญิงหลายคนมองผมว่าเป็นผู้ชายเห็นแก่ตัวแน่เลยครับ แต่ไม่มองว่าฝ่ายชายต้องลำบากยังไงบ้าง
ผมแค่มองว่าของบางอย่างที่มันล้าสมัย ไม่เหมาะกับสมัยใหม่แล้ว มันก็ควรจะยกเลิกได้แล้วป่ะครับ ?
ปล. ผมโอเคกับหลายคู่นะ ฝ่ายหญิงช่วยกันเก็บเงินพร้อมฝ่ายชาย แล้วเอาเงินสินสอดที่ได้ไปแต่ยอดเพื่อลูก สร้างครอบครัวอะไรงี้