ความคิดเห็นและทัศนคติจากเด็กคนหนึ่งซึ่งยังอยู่ในวัยเรียน
ก่อนอื่น ขอบอกก่อนนะครับ ว่า ผมไม่ได้กำลังจะต้องเอาสินสอดไปให้ใคร
พูดตรงๆเลยผมมองว่า สินสอดคือความเห็นแก่ตัวรูปแบบหนึ่งของสังคมไทยโบราณ (จากยุคโบราณ ซึ่งยังมีในปัจจุบัน) ครับ
ความรัก คือ สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างคน 2 คน ทำไมเราถึงต้องลำบากเหนื่อยแรงกายหาเงินไปให้คนที่เราไม่ได้รักเป็นแฟนครับ ?
มันไม่ดีกว่าหรอถ้าเราเอาเงินก้อนนั้นมาใช้เป็นเงินทุนสร้างชีวิตสร้างธุรกิจอะไรก็ตามสำหรับชีวิตคู่รักในอนาคต
ผมคงมองว่าเหมาะสมนะ สมมติรักผู้หญิงคนหนึ่ง ขอให้เก็บเงินจำนวนหนึ่ง โดยที่เงินนั้นไม่ใช่ว่าเอาไปให้แม่ยาย หากแต่เอาไปเป็นทุนการศึกษาลูกในอนาคต เงินฉุกเฉินเพื่อเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝันในอนาคต
ทำไมต้องให้สินสอดครับ ?
เพื่อเป็นสิ่งค้ำประกันว่าฝ่ายชายสามารถดูแลฝ่ายหญิงได้ มันใช่จริงๆหรอ ?
เดี๋ยวนี้เรามีความเท่าเทียมทางเพศ ฝ่ายหญิงเองสามารถหาเงินเองได้นะ ไม่จำเป็นต้องอยู่เฉยๆรอให้ฝ่ายชายมาดูแลเลย
ยุคสมัยเราเปลี่ยนไปแล้วนะครับ สมัยก่อนผู้หญิงต้องเฝ้าบ้าน มาดูปัจจุบันนี่ ผู้หญิงสามารถหางานทำได้ และมีคนที่ได้เงินสูงกว่ารายได้ขั้นต่ำตามกฎหมายกำหนดตั้งเยอะแยะ
อีกอย่าง ถ้าหากว่ามันจะถูก ที่สินสอดเป็นสิ่งค้ำประกันว่าฝ่ายหญิงจะมีชีวิตที่ดี ถามตรงๆเถอะ เจ้าสาวได้สินสอดคืนจากพ่อแม่ตัวเองหรอ ?
เพื่อดูว่าฝ่ายชายจะมีกำลังทรัพย์มากพอจะดูแลฝ่ายหญิงได้ ?
"ดูแล" ความหมายคืออะไรครับ ? มีเงินเยอะ ? แค่นั้นหรอ
ถึงถ้าใช่ แล้วการขอสินสอดมันพิสูจน์อะไรได้อะ ทำไมไม่ดู Banking Statement
ความรักเป็นเรื่องของคน 2 คน
แต่ฝ่ายหนึ่งต้องลำบากหาเงินหมดสิ้นเนื้อประดาตัว เพื่อความสุขสบายของบุคคลที่ 3 อย่างนั้นหรอ มันจะเห็นแก่ตัวไปหน่อยมั้ย
แล้วอีกอย่าง การสร้างความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยา มันก็ควรตะเป็นการทำความตกลงกันเองของ 2 ฝ่าย
การที่เราต้องเอาเงินไปจ่ายเพื่อแลกกับคำยินยอม มันต่างอะไรกับ การซื้อขาย งั้นหรอครับ
ความรัก มันเป็นเรื่องของคน 2 คน
ที่จริงผมเองมองว่า แม้กระทั่งประเพณีการแต่งงาน การหมั้นหมาย มันก็ไม่สำคัญเลย
คือ มันควรจะเป็นการที่ ทำหรือไม่ทำก็ได้ ไม่ใช่ว่ามีกฎหมายบังคับ
ความรักนิรันดร์ มันควรจะเป็นเรื่องของความตกลงปลงใจและความเชื่อใจกันของ 2 ฝ่ายเอง
การแต่งงานมันไม่ควรจะเป็นข้อผูกมัดของคู่รักเลย
เพราะการสิ้นสุดของความสัมพันธ์คู่รัก มันควรจะจบลงได้ด้วยตัวคู่รัก ไม่ใช่ถูกควบคุมด้วยกฎหมาย เงื่อนไขการหย่า อะไรไร้สาระนั่น
"การให้สินสอด" ความเห็นแก่ตัวอันเลวร้ายมาก ซึ่งเกิดขึ้นในสังคมไทย.. ยกเลิกมันเถอะนะครับ สำหรับใครที่อ่านแล้วคิดได้
ก่อนอื่น ขอบอกก่อนนะครับ ว่า ผมไม่ได้กำลังจะต้องเอาสินสอดไปให้ใคร
พูดตรงๆเลยผมมองว่า สินสอดคือความเห็นแก่ตัวรูปแบบหนึ่งของสังคมไทยโบราณ (จากยุคโบราณ ซึ่งยังมีในปัจจุบัน) ครับ
ความรัก คือ สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างคน 2 คน ทำไมเราถึงต้องลำบากเหนื่อยแรงกายหาเงินไปให้คนที่เราไม่ได้รักเป็นแฟนครับ ?
มันไม่ดีกว่าหรอถ้าเราเอาเงินก้อนนั้นมาใช้เป็นเงินทุนสร้างชีวิตสร้างธุรกิจอะไรก็ตามสำหรับชีวิตคู่รักในอนาคต
ผมคงมองว่าเหมาะสมนะ สมมติรักผู้หญิงคนหนึ่ง ขอให้เก็บเงินจำนวนหนึ่ง โดยที่เงินนั้นไม่ใช่ว่าเอาไปให้แม่ยาย หากแต่เอาไปเป็นทุนการศึกษาลูกในอนาคต เงินฉุกเฉินเพื่อเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝันในอนาคต
ทำไมต้องให้สินสอดครับ ?
เพื่อเป็นสิ่งค้ำประกันว่าฝ่ายชายสามารถดูแลฝ่ายหญิงได้ มันใช่จริงๆหรอ ?
เดี๋ยวนี้เรามีความเท่าเทียมทางเพศ ฝ่ายหญิงเองสามารถหาเงินเองได้นะ ไม่จำเป็นต้องอยู่เฉยๆรอให้ฝ่ายชายมาดูแลเลย
ยุคสมัยเราเปลี่ยนไปแล้วนะครับ สมัยก่อนผู้หญิงต้องเฝ้าบ้าน มาดูปัจจุบันนี่ ผู้หญิงสามารถหางานทำได้ และมีคนที่ได้เงินสูงกว่ารายได้ขั้นต่ำตามกฎหมายกำหนดตั้งเยอะแยะ
อีกอย่าง ถ้าหากว่ามันจะถูก ที่สินสอดเป็นสิ่งค้ำประกันว่าฝ่ายหญิงจะมีชีวิตที่ดี ถามตรงๆเถอะ เจ้าสาวได้สินสอดคืนจากพ่อแม่ตัวเองหรอ ?
เพื่อดูว่าฝ่ายชายจะมีกำลังทรัพย์มากพอจะดูแลฝ่ายหญิงได้ ?
"ดูแล" ความหมายคืออะไรครับ ? มีเงินเยอะ ? แค่นั้นหรอ
ถึงถ้าใช่ แล้วการขอสินสอดมันพิสูจน์อะไรได้อะ ทำไมไม่ดู Banking Statement
ความรักเป็นเรื่องของคน 2 คน
แต่ฝ่ายหนึ่งต้องลำบากหาเงินหมดสิ้นเนื้อประดาตัว เพื่อความสุขสบายของบุคคลที่ 3 อย่างนั้นหรอ มันจะเห็นแก่ตัวไปหน่อยมั้ย
แล้วอีกอย่าง การสร้างความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยา มันก็ควรตะเป็นการทำความตกลงกันเองของ 2 ฝ่าย
การที่เราต้องเอาเงินไปจ่ายเพื่อแลกกับคำยินยอม มันต่างอะไรกับ การซื้อขาย งั้นหรอครับ
ความรัก มันเป็นเรื่องของคน 2 คน
ที่จริงผมเองมองว่า แม้กระทั่งประเพณีการแต่งงาน การหมั้นหมาย มันก็ไม่สำคัญเลย
คือ มันควรจะเป็นการที่ ทำหรือไม่ทำก็ได้ ไม่ใช่ว่ามีกฎหมายบังคับ
ความรักนิรันดร์ มันควรจะเป็นเรื่องของความตกลงปลงใจและความเชื่อใจกันของ 2 ฝ่ายเอง
การแต่งงานมันไม่ควรจะเป็นข้อผูกมัดของคู่รักเลย
เพราะการสิ้นสุดของความสัมพันธ์คู่รัก มันควรจะจบลงได้ด้วยตัวคู่รัก ไม่ใช่ถูกควบคุมด้วยกฎหมาย เงื่อนไขการหย่า อะไรไร้สาระนั่น