คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 7
ผมยึดหลักมองคน จากนักธุรกิจระดับโลกชาวญี่ปุ่นท่านนึง
บุคลิคภาพ + หลักการ = ตัวตน
โลกออนไลน์เราไม่สามารถเห็นบุคลิคภาพได้ แต่ สำนวนการเขียนทำให้เห็น วิธีคิด สามารถเป็นตัวสะท้อนคาแรคเตอร์ได้
หลักการที่ยึดโยงกับเหตุผล ไม่ยึดโยงกับหลักกรู อารมณ์กรู รสนิยมกรู ก็เป็นมาตรวัดระดับสูงต่ำของmind และ Brain
ที่สุดแล้วเหล่านั้นจะทำให้ "ตัวตน" เป็นที่ปรากฎให้ผู้อื่นรับรู้ได้อย่างไม่ได้ตั้งใจ เช่น การดีเฟนซเรื่อง ไม่ควรเรียก เลอคูว่าโกงข้าวหมา
เป็นแบรนดิ้งห้อยท้ายมากกว่า แทนที่จะสนใจว่า เลอคู มันทำอะไร มันโกงแบบไหน ควรทำเป็นเยี่ยงอย่างหรือไม่ น่าเคารพนับถือใช่มั้ย
และถ้าที่สุดแล้วแบรนดิ้งต่อท้ายจะเปลี่ยนเป็น เลอคู 18มงกุฎก็คงจะทำให้พวกนี้พอใจ
แต่ผมเชื่อว่า เลอคูนี่คงอยากได้ชื่อเดิมมากกว่า เพราะชื่อเดิม บริบทมันอยู่แค่หมาที่เดือดร้อน เค้าเอามาเล่นกันขำๆ แต่ อันใหม่นี้สะท้อนความเลวจากพฤติกรรมเลยนะ ครับ !!
นี่คือคนคิดแต่เรื่อง"ขี้หมา" เล็กๆน้อยๆ ที่หวังจะเสพสมกับความสุขในการเอาชนะ ในประเด็นเล็กๆที่แถออกมาจากประเด็นใหญ่ประเด็นหลัก
ที่ไม่สามารถจะหาหลักการเหตุผลใดๆมาหักล้างได้ ทั้งๆที่ตัวเองไม่ได้เป็นเจ้าตัว ที่แย่กว่านั้นคือไม่รู้เรื่อง และไม่อยู่ในเหตุการณ์ร่วมสมัยนั้น
คนคิดแต่เรื่องยิบย่อยเอามาเป็นประเด็นสร้าง คอนฟิค ตั้งใจละเลยภาพใหญ่ ก็เป็นได้แค่คนอยากจะอวดว่าเก่ง อยากจะฉลาด
ซึ่งพวกเค้า ไม่มีวันเป็นได้ ^^
บอกวิธีมองให้จขกท. แล้วนะ ไปไล่หาอ่านกระทู้วิเคราะห์คนเอาเองว่าใครเข้าข่ายไหน !!
บุคลิคภาพ + หลักการ = ตัวตน
โลกออนไลน์เราไม่สามารถเห็นบุคลิคภาพได้ แต่ สำนวนการเขียนทำให้เห็น วิธีคิด สามารถเป็นตัวสะท้อนคาแรคเตอร์ได้
หลักการที่ยึดโยงกับเหตุผล ไม่ยึดโยงกับหลักกรู อารมณ์กรู รสนิยมกรู ก็เป็นมาตรวัดระดับสูงต่ำของmind และ Brain
ที่สุดแล้วเหล่านั้นจะทำให้ "ตัวตน" เป็นที่ปรากฎให้ผู้อื่นรับรู้ได้อย่างไม่ได้ตั้งใจ เช่น การดีเฟนซเรื่อง ไม่ควรเรียก เลอคูว่าโกงข้าวหมา
เป็นแบรนดิ้งห้อยท้ายมากกว่า แทนที่จะสนใจว่า เลอคู มันทำอะไร มันโกงแบบไหน ควรทำเป็นเยี่ยงอย่างหรือไม่ น่าเคารพนับถือใช่มั้ย
และถ้าที่สุดแล้วแบรนดิ้งต่อท้ายจะเปลี่ยนเป็น เลอคู 18มงกุฎก็คงจะทำให้พวกนี้พอใจ
แต่ผมเชื่อว่า เลอคูนี่คงอยากได้ชื่อเดิมมากกว่า เพราะชื่อเดิม บริบทมันอยู่แค่หมาที่เดือดร้อน เค้าเอามาเล่นกันขำๆ แต่ อันใหม่นี้สะท้อนความเลวจากพฤติกรรมเลยนะ ครับ !!
นี่คือคนคิดแต่เรื่อง"ขี้หมา" เล็กๆน้อยๆ ที่หวังจะเสพสมกับความสุขในการเอาชนะ ในประเด็นเล็กๆที่แถออกมาจากประเด็นใหญ่ประเด็นหลัก
ที่ไม่สามารถจะหาหลักการเหตุผลใดๆมาหักล้างได้ ทั้งๆที่ตัวเองไม่ได้เป็นเจ้าตัว ที่แย่กว่านั้นคือไม่รู้เรื่อง และไม่อยู่ในเหตุการณ์ร่วมสมัยนั้น
คนคิดแต่เรื่องยิบย่อยเอามาเป็นประเด็นสร้าง คอนฟิค ตั้งใจละเลยภาพใหญ่ ก็เป็นได้แค่คนอยากจะอวดว่าเก่ง อยากจะฉลาด
ซึ่งพวกเค้า ไม่มีวันเป็นได้ ^^
บอกวิธีมองให้จขกท. แล้วนะ ไปไล่หาอ่านกระทู้วิเคราะห์คนเอาเองว่าใครเข้าข่ายไหน !!
แสดงความคิดเห็น
พี่ๆสมาชิกมีวิธีพิสูจน์ความเก่ง ความฉลาดแบบใดบ้าง บางทีจะได้ไม่เถียงทะเลาะกันข้ามวัน
มีการถกกันระหว่างความเห็นต่าง การดิ้นของภาษาว่าจะตีความเข้าข้างใคร แต่ผมสะดุดใจตรงที่จะมีการกระแนะกระเเหนเรื่องเสียงส่วนใหญ่
พวกมากลากไป รองมาก็จะมีการดูแคลนอีกฝ่ายว่าไม่เข้าใจประเด็นอ่านไม่แตก
เลยเหมือนมีการตั้งตนเองเป็นบุคคลคุณภาพเหนือกว่าผู้อื่น เหมือนว่าเสียงของตนดังที่สุด ถูกต้องที่สุด
คนเห็นต่างคือผิด คนเห็นต่างมากก็คือพวกมากลากไปไร้สมองต้องโดนจูงจมูก ซึ่งมันเป็นเช่นนั้นจริงหรือ?
การที่คนโน้มน้าวได้น่าเชื่อถือมากกว่ากลายเป็นคนไร้คุณภาพ เพียงเพราะไม่ใช่เสียงคุณภาพอย่างที่บางท่านยกตนมันเป็นแบบนั้นหรือ?
แล้วเราควรใช้อะไรในการวัดดีว่าใครมีมุมมองที่กว้าง ฉลาด มีไหวพริบกว่า เมื่อเสียงส่วนใหญ่ถูกมองว่าพวกมากลากไป
พี่ๆคิดว่าใช้อะไรเป็นเกณฑ์วัดดีครับ