รีวิวครั้งแรกค่ะ(ยืมล็อคอินเพื่อนมา) เหตุผลที่อยากรีวิว คืออยากแชร์ความประทับใจทริปนี้ และข้อมูลต่างๆที่มีประโยชน์ค่ะ เพราะตอนไปเที่ยวแต่ละที่ได้ข้อมูลดีๆจากพี่ๆ Pantip ที่รีวิวตลอดเลยค่ะ ขอบพระคุณทุกคนมากเลย
ทริปนี้ จริงๆแพลนด้วยกันไปทั้งหมด4คน แต่ล่ม!! เหลือผู้หญิง2คน ลังเลอยู่นานจะไปดีไหม อันตรายไหม? ถึงก็มืด
แถมจอดนอน บนรถ3ชั่วโมงอีก....แต่สุดท้ายก็ไปกันค่ะ
เครื่องบินดีเลย์ทั้งไปและกลับ ส่วนเรื่อง ตม. รีดไถ ไม่เจอค่ะ ตอนแรกแอบกลัว
สุดท้ายมาถึงสนามบิน ได้คุยกับบริษัท travel life ไว้ ชื่อAidey (ถูกที่สุดจากการให้หลายบริษัทตีราคามา555) ได้เจอกับคนขับรถถือป้ายชื่อเรา ยื่นรออยู่ โล่งใจมีคนมารับแล้ว เตรียมตัวตุนขนมสำหรับเดินทางไป Cemoro Lawang (ชื่อหมู่บ้านที่อยู่บนเขา) อีก3ชั่วโมง โดยรถ Avanza นั่งสบาย นอนสบาย ประเทศเค้าใช้แต่รถยี่ห้อนี้ทั้งนั้นเลย ขึ้นเขามาประมาณ1ชั่วโมงก็ ปิดแอร์ เปิดกระจกขึ้น ได้รับรู้ถึงความหนาว
รูปที่หมู่บ้าน Cemoro Lawang ถ่ายตอนขากลับ ขาไปมืดแล้ว (รูปจากกล้องมือถือทั้งทริป)
ถึงที่จุดเปลี่ยนรถ(จากAvanza เป็นรถ Jeep ) ที่หมู่บ้าน Cemoro Lawang ที่คิดไว้คือจะไม่นอนหลับค่ะ(กลัว) แต่ไม่น่ากลัวเลยค่ะ เพราะจอดกันหลายคันมาก เจอกลุ่มคนไทยอีก1กลุ่มที่มาด้วยกัน ถุงมือ ถุงเท้า ขนม มีคนมาเคาะกระจกรถเพื่อขาย2-3 รอบ นี่จะได้หลับไหม เรื่องห้องน้ำแถวนั้นมีค่ะ แต่ความสะอาดอย่าพูดถึง!! อากาศหนาวมากๆๆ
พอถึงเวลาตี3 เปลี่ยนไปขึ้นรถ Jeep เพื่อไต่เขาค่ะ ย้ำว่าไต่ ทางสุดยอดมาก แต่คนขับเค้าชำนาญค่ะ รู้ว่าจุดไหนต้องเบา จุดไหนต้องเร่ง เลยรู้สึกไม่กลัว คนขับรถ Jeep คนละคนกับAvanzaนะค่ะ ที่เจอพูดEng ไม่ได้ค่ะ (Aideyมาด้วยค่ะ)
ประมาณเกือบ 1ชั่วโมง ถึงจุดชมวิว Kingkong Hill แนะนำมากๆ ณ จุดนี้. ไม่ต้องไปแย่งชิงกับคนเป็นร้อย...แต่ฟังก่อน!!
Aideyบอกเราจะเดินขึ้นไปที่จุดชมวิว แต่อย่าใช้คำว่าเดินเลย ปีนเขาชัดๆดึงหญ้าข้างๆเพื่อขึ้นไป ไม่ไกลมากค่ะ แต่มืด ลมแรง หนาวมาก
และไม่ได้เตรียมไฟฉายไป(ควรเป็นไฟฉายสวมที่หัว เพราะมือ2ข้างต้องจับหญ้าข้างทางตลอด เดี๋ยวตก ) Aideyนำทาง ช่วยส่องไฟฉายตลอดทาง ประมาณ15นาทีถึงที่หมาย Aideyตั้งโต๊ะ เตรียมน้ำร้อน ชงชา กาแฟ ให้ดื่ม (เตรียมขนมปังติดไปเองด้วยค่ะ) ระหว่างรอพระอาทิตย์ขึ้นตอนตี5 ดูดาว ทางช้างเผือก สวยมากๆ
มีรถJeep มาแค่ 3 คันเองค่ะ จุดนี้ เตรียมขึ้นเขาไปจุดชมวิวพร้อมๆกัน ประมาณ7-8คนค่ะ
Aideyนำทาง แนะนำให้ใส่ถุงมือ หญ้าอาจบาดได้
ในที่สุดก็ถึง...
มาถึงเวลาไปปากปล่องภูเขาไฟ ที่เราเห็นถ่ายคู่กันอยู่นี่แหละ
ไปประมาณ10นาที ถึงจุดจอดรถ Jeep
เราต้องมาเลือกแล้วว่า จะเดินไป หรือขึ้นม้า ไปปากปล่องภูเขาไฟ
อันนี้คือรูปบนบันไดทางขึ้นปล่องภูเขาไฟ ที่เห็นไกลๆนั้นคือวัด แล้วไกลไปอีกเงาๆคือที่จุดจอดรถ Jeep
ก่อนไปลังเล ขี่ม้าดีไหม? แนะนำให้ขี่ค่ะ สนุกดี มันก็ไกลอยู่นะ เลือกม้าตัวใหญ่ๆหน่อย
เพื่อนเลือกตัวเล็ก ม้าเหนื่อย มีทรุดเกือบตกม้า ราคาแบบไม่ได้ต่อ ไป-กลับ 125000 Rp (~340บาท)
บางคนอยากเดินเที่ยวไปเรื่อยๆ ก็ขี่ไปอย่างเดียว แล้วเดินกลับเองก็ได้ค่ะ แต่ขึ้นม้าก็สามารถแวะข้างทางได้ค่ะ
มาถึงจุดพักม้าค่ะ เราต้องเดินขึ้นต่อเอง ม้าก็จะรอเราอยู่ตรงนี้
จำม้าตัวเองไว้ด้วยนะค่ะ555
แวะนั่งกินมาม่าก่อนขึ้นค่ะ ลมพัดทรายก็เข้าปาก ได้บรรยากาศจริงๆ สนุกดี5555
เห็นคนซื้อกันเยอะ เป็นดอกไม้เอาไว้บูชาโยนใส่ปากปล่องภูเขาไฟ เป็นดอกที่อยู่ได้เป็น10ปี(Aideyบอกมา)
ถึงเวลาเดินขึ้น ก็ไม่ไกลมากค่ะ ระหว่างทางขึ้นบันไดมีจุดให้นั่งพักเยอะเลย
[CR] (CR) ความประทับใจที่ โบรโม่ อินโดนีเซีย Bromo,Indonesia
ทริปนี้ จริงๆแพลนด้วยกันไปทั้งหมด4คน แต่ล่ม!! เหลือผู้หญิง2คน ลังเลอยู่นานจะไปดีไหม อันตรายไหม? ถึงก็มืด
แถมจอดนอน บนรถ3ชั่วโมงอีก....แต่สุดท้ายก็ไปกันค่ะ
เครื่องบินดีเลย์ทั้งไปและกลับ ส่วนเรื่อง ตม. รีดไถ ไม่เจอค่ะ ตอนแรกแอบกลัว
สุดท้ายมาถึงสนามบิน ได้คุยกับบริษัท travel life ไว้ ชื่อAidey (ถูกที่สุดจากการให้หลายบริษัทตีราคามา555) ได้เจอกับคนขับรถถือป้ายชื่อเรา ยื่นรออยู่ โล่งใจมีคนมารับแล้ว เตรียมตัวตุนขนมสำหรับเดินทางไป Cemoro Lawang (ชื่อหมู่บ้านที่อยู่บนเขา) อีก3ชั่วโมง โดยรถ Avanza นั่งสบาย นอนสบาย ประเทศเค้าใช้แต่รถยี่ห้อนี้ทั้งนั้นเลย ขึ้นเขามาประมาณ1ชั่วโมงก็ ปิดแอร์ เปิดกระจกขึ้น ได้รับรู้ถึงความหนาว
รูปที่หมู่บ้าน Cemoro Lawang ถ่ายตอนขากลับ ขาไปมืดแล้ว (รูปจากกล้องมือถือทั้งทริป)
ถึงที่จุดเปลี่ยนรถ(จากAvanza เป็นรถ Jeep ) ที่หมู่บ้าน Cemoro Lawang ที่คิดไว้คือจะไม่นอนหลับค่ะ(กลัว) แต่ไม่น่ากลัวเลยค่ะ เพราะจอดกันหลายคันมาก เจอกลุ่มคนไทยอีก1กลุ่มที่มาด้วยกัน ถุงมือ ถุงเท้า ขนม มีคนมาเคาะกระจกรถเพื่อขาย2-3 รอบ นี่จะได้หลับไหม เรื่องห้องน้ำแถวนั้นมีค่ะ แต่ความสะอาดอย่าพูดถึง!! อากาศหนาวมากๆๆ
พอถึงเวลาตี3 เปลี่ยนไปขึ้นรถ Jeep เพื่อไต่เขาค่ะ ย้ำว่าไต่ ทางสุดยอดมาก แต่คนขับเค้าชำนาญค่ะ รู้ว่าจุดไหนต้องเบา จุดไหนต้องเร่ง เลยรู้สึกไม่กลัว คนขับรถ Jeep คนละคนกับAvanzaนะค่ะ ที่เจอพูดEng ไม่ได้ค่ะ (Aideyมาด้วยค่ะ)
ประมาณเกือบ 1ชั่วโมง ถึงจุดชมวิว Kingkong Hill แนะนำมากๆ ณ จุดนี้. ไม่ต้องไปแย่งชิงกับคนเป็นร้อย...แต่ฟังก่อน!!
Aideyบอกเราจะเดินขึ้นไปที่จุดชมวิว แต่อย่าใช้คำว่าเดินเลย ปีนเขาชัดๆดึงหญ้าข้างๆเพื่อขึ้นไป ไม่ไกลมากค่ะ แต่มืด ลมแรง หนาวมาก
และไม่ได้เตรียมไฟฉายไป(ควรเป็นไฟฉายสวมที่หัว เพราะมือ2ข้างต้องจับหญ้าข้างทางตลอด เดี๋ยวตก ) Aideyนำทาง ช่วยส่องไฟฉายตลอดทาง ประมาณ15นาทีถึงที่หมาย Aideyตั้งโต๊ะ เตรียมน้ำร้อน ชงชา กาแฟ ให้ดื่ม (เตรียมขนมปังติดไปเองด้วยค่ะ) ระหว่างรอพระอาทิตย์ขึ้นตอนตี5 ดูดาว ทางช้างเผือก สวยมากๆ
มีรถJeep มาแค่ 3 คันเองค่ะ จุดนี้ เตรียมขึ้นเขาไปจุดชมวิวพร้อมๆกัน ประมาณ7-8คนค่ะ
Aideyนำทาง แนะนำให้ใส่ถุงมือ หญ้าอาจบาดได้
ในที่สุดก็ถึง...
มาถึงเวลาไปปากปล่องภูเขาไฟ ที่เราเห็นถ่ายคู่กันอยู่นี่แหละ
ไปประมาณ10นาที ถึงจุดจอดรถ Jeep
เราต้องมาเลือกแล้วว่า จะเดินไป หรือขึ้นม้า ไปปากปล่องภูเขาไฟ
อันนี้คือรูปบนบันไดทางขึ้นปล่องภูเขาไฟ ที่เห็นไกลๆนั้นคือวัด แล้วไกลไปอีกเงาๆคือที่จุดจอดรถ Jeep
ก่อนไปลังเล ขี่ม้าดีไหม? แนะนำให้ขี่ค่ะ สนุกดี มันก็ไกลอยู่นะ เลือกม้าตัวใหญ่ๆหน่อย
เพื่อนเลือกตัวเล็ก ม้าเหนื่อย มีทรุดเกือบตกม้า ราคาแบบไม่ได้ต่อ ไป-กลับ 125000 Rp (~340บาท)
บางคนอยากเดินเที่ยวไปเรื่อยๆ ก็ขี่ไปอย่างเดียว แล้วเดินกลับเองก็ได้ค่ะ แต่ขึ้นม้าก็สามารถแวะข้างทางได้ค่ะ
มาถึงจุดพักม้าค่ะ เราต้องเดินขึ้นต่อเอง ม้าก็จะรอเราอยู่ตรงนี้
จำม้าตัวเองไว้ด้วยนะค่ะ555
แวะนั่งกินมาม่าก่อนขึ้นค่ะ ลมพัดทรายก็เข้าปาก ได้บรรยากาศจริงๆ สนุกดี5555
เห็นคนซื้อกันเยอะ เป็นดอกไม้เอาไว้บูชาโยนใส่ปากปล่องภูเขาไฟ เป็นดอกที่อยู่ได้เป็น10ปี(Aideyบอกมา)
ถึงเวลาเดินขึ้น ก็ไม่ไกลมากค่ะ ระหว่างทางขึ้นบันไดมีจุดให้นั่งพักเยอะเลย