อัล-ลุเกาะเฏาะฮฺ คือ ทรัพย์สินหรือสิ่งที่เป็นกรรมสิทธิของบุคคลที่ได้หล่นหายจากเจ้าของแล้วมีบุคคลอื่นมาพบเจอ
หุก่มของสิ่งที่ตกหล่น
การอนุญาตให้มีการหยิบเอาสิ่งที่หล่นหายแล้วทำประกาศหาเจ้าของถือเป็นอีกความงดงามหนึ่งของอิสลาม ทั้งนี้เพราะว่าถือเป็นการช่วยปกป้องรักษาทรัพย์สินของผู้อื่นและเป็นการได้รับผลบุญแก่ผู้ที่หยิบมันแล้วเอาไปประกาศด้วย
ทรัพย์สินที่สูญหายแบ่งเป็น 3 ประเภทคือ
1. ทรัพย์สินที่คนฐานะปานกลางไม่ห่วงหาเมื่อตกหล่น เช่น ไม้เรียว ไม้เท้า ขนมปังปอนด์ และผลไม้ เป็นต้น ทรัพย์สินชนิดนี้ถือว่าเมื่อพบเจอสามารถครอบครองได้หากไม่พบเจ้าของ และไม่วาญิบที่จะต้องประกาศหาเจ้าของ แต่ที่ดีที่สุดคือการนำทรัพย์นั้นไปบริจาค
2. สัตว์สูญหายที่สามารถปกป้องตัวเองจากสัตว์นักล่าขนาดเล็กได้ เช่น อูฐ วัว ม้า กวาง และนก เป็นต้น สัตว์เหล่านี้ถือว่าไม่มีบัญญัติการนำเอามันมาเก็บไว้ และผู้ใดที่เอามันไปก็ต้องรับผิดชอบชดใช้มัน(หากมันเกิดเสียหาย)พร้อมกับจะต้องทำการประกาศหาเจ้าของตลอดไปโดยไม่มีกำหนดเวลาสิ้นสุด
3. ทรัพย์สินอื่นๆ (ที่นอกเหนือจากทั้งสองประเภทที่กล่าวมา) เช่น เงิน สิ่งของต่างๆ กระเป๋าชนิดต่างๆ และบรรดาสัตว์เลี้ยงที่ไม่อาจระวังตัวเองจากสัตว์นักล่าได้ เช่น แพะ แกะ และลูกอูฐที่ยังเล็ก เป็นต้น ทรัพย์สินเหล่านี้ถือว่าสามารถหยิบจับเอามันมาได้หากมั่นใจตัวเองว่าจะไม่ละเมิดมันและมีความสามารถที่จะทำการประกาศหาเจ้าของได้ โดยที่เขาต้องหาพยานที่มีความยุติธรรมสองคนมาเป็นสักขีพยาน และต้องจดจำถุงที่ใส่มันและเชือกที่ผูกปากถุงของมันไว้แล้วทำการประกาศเป็นระยะเวลาหนึ่งปีเต็มในที่ชุมนุมทั่วไปของผู้คน เช่น ท้องตลาด ประตูทางเข้ามัสยิด เป็นต้นโดยใช้สื่อประเภทต่างๆ ที่ศาสนาอนุญาตในการประกาศดังกล่าว
หุก่มของทรัพย์สินที่หล่นหายหลังจากการประกาศ
1. เมื่อได้ทำการประกาศการพบเจอของตกหล่นมาครบหนึ่งปีเต็มแล้ว หากพบเจอเจ้าของต้องส่งคืนให้กับเขาไป โดยที่ไม่ต้องมีหลักฐานหรือคำสาบานใด แต่ถ้าหากไม่พบเจ้าของก็ต้องจดจำคุณลักษณะและจำนวนของมันไว้ หลังจากนั้นเขาก็สามารถเอามันมาใช้และถือครองมันเป็นกรรมสิทธิ์ได้ แต่เมื่อใดที่เจ้าของของมันมาหาแล้วบอกคุณลักษณะถูกต้องเขาก็ต้องส่งคืนให้ถ้ามันยังอยู่และเขาก็ต้องชดใช้สิ่งที่เหมือนกันแทนหากเป็นสิ่งที่ใช้แล้วหมดไปหรือเสียหายไป
2. หากสิ่งที่พบเจอนั้นเกิดการเสียหายหรือสูญสลายในช่วงเวลาหนึ่งปีที่ทำการประกาศ โดยที่เขาไม่ได้ละเมิดหรือละเลยถือว่าเขาไม่จำเป็นรับผิดชอบชดใช้
เมื่อพบสิ่งของหรืออะไรก็ตามที่ตกหล่นที่ไม่ใช่ของเราผู้ที่เป็นมุสลิมต้องทำอย่างไร(คำสอนศาสนาอิสลามกับทรัพย์สินตกหล่น)
หุก่มของสิ่งที่ตกหล่น
การอนุญาตให้มีการหยิบเอาสิ่งที่หล่นหายแล้วทำประกาศหาเจ้าของถือเป็นอีกความงดงามหนึ่งของอิสลาม ทั้งนี้เพราะว่าถือเป็นการช่วยปกป้องรักษาทรัพย์สินของผู้อื่นและเป็นการได้รับผลบุญแก่ผู้ที่หยิบมันแล้วเอาไปประกาศด้วย
ทรัพย์สินที่สูญหายแบ่งเป็น 3 ประเภทคือ
1. ทรัพย์สินที่คนฐานะปานกลางไม่ห่วงหาเมื่อตกหล่น เช่น ไม้เรียว ไม้เท้า ขนมปังปอนด์ และผลไม้ เป็นต้น ทรัพย์สินชนิดนี้ถือว่าเมื่อพบเจอสามารถครอบครองได้หากไม่พบเจ้าของ และไม่วาญิบที่จะต้องประกาศหาเจ้าของ แต่ที่ดีที่สุดคือการนำทรัพย์นั้นไปบริจาค
2. สัตว์สูญหายที่สามารถปกป้องตัวเองจากสัตว์นักล่าขนาดเล็กได้ เช่น อูฐ วัว ม้า กวาง และนก เป็นต้น สัตว์เหล่านี้ถือว่าไม่มีบัญญัติการนำเอามันมาเก็บไว้ และผู้ใดที่เอามันไปก็ต้องรับผิดชอบชดใช้มัน(หากมันเกิดเสียหาย)พร้อมกับจะต้องทำการประกาศหาเจ้าของตลอดไปโดยไม่มีกำหนดเวลาสิ้นสุด
3. ทรัพย์สินอื่นๆ (ที่นอกเหนือจากทั้งสองประเภทที่กล่าวมา) เช่น เงิน สิ่งของต่างๆ กระเป๋าชนิดต่างๆ และบรรดาสัตว์เลี้ยงที่ไม่อาจระวังตัวเองจากสัตว์นักล่าได้ เช่น แพะ แกะ และลูกอูฐที่ยังเล็ก เป็นต้น ทรัพย์สินเหล่านี้ถือว่าสามารถหยิบจับเอามันมาได้หากมั่นใจตัวเองว่าจะไม่ละเมิดมันและมีความสามารถที่จะทำการประกาศหาเจ้าของได้ โดยที่เขาต้องหาพยานที่มีความยุติธรรมสองคนมาเป็นสักขีพยาน และต้องจดจำถุงที่ใส่มันและเชือกที่ผูกปากถุงของมันไว้แล้วทำการประกาศเป็นระยะเวลาหนึ่งปีเต็มในที่ชุมนุมทั่วไปของผู้คน เช่น ท้องตลาด ประตูทางเข้ามัสยิด เป็นต้นโดยใช้สื่อประเภทต่างๆ ที่ศาสนาอนุญาตในการประกาศดังกล่าว
หุก่มของทรัพย์สินที่หล่นหายหลังจากการประกาศ
1. เมื่อได้ทำการประกาศการพบเจอของตกหล่นมาครบหนึ่งปีเต็มแล้ว หากพบเจอเจ้าของต้องส่งคืนให้กับเขาไป โดยที่ไม่ต้องมีหลักฐานหรือคำสาบานใด แต่ถ้าหากไม่พบเจ้าของก็ต้องจดจำคุณลักษณะและจำนวนของมันไว้ หลังจากนั้นเขาก็สามารถเอามันมาใช้และถือครองมันเป็นกรรมสิทธิ์ได้ แต่เมื่อใดที่เจ้าของของมันมาหาแล้วบอกคุณลักษณะถูกต้องเขาก็ต้องส่งคืนให้ถ้ามันยังอยู่และเขาก็ต้องชดใช้สิ่งที่เหมือนกันแทนหากเป็นสิ่งที่ใช้แล้วหมดไปหรือเสียหายไป
2. หากสิ่งที่พบเจอนั้นเกิดการเสียหายหรือสูญสลายในช่วงเวลาหนึ่งปีที่ทำการประกาศ โดยที่เขาไม่ได้ละเมิดหรือละเลยถือว่าเขาไม่จำเป็นรับผิดชอบชดใช้