ความเดิมจากกระทู้ที่แล้ว
http://ppantip.com/topic/34908350 (EP1.)
http://ppantip.com/topic/34912499 (EP2.)
วันที่สามตื่นมาเช็คอากาศซักหน่อย โอ้ยยย ลบห้า มันทำให้ใจหวั่นไหว จะไปดีหรือเปล่านะกำแพงเมืองจีนเนี่ย ปวดเท้าจากเมื่อวานด้วยที่เดินหลงอยู่ในพระราชวังฤดูร้อนซะนาน ทำใจซักพัก เอาว่ะ !! ไหนๆก็มาถึงปักกิ่งละ ไม่ไปก็เหมือนมาไม่ถึงอาบน้ำแต่งตัวหาไรกินก่อนจะต้องเดินอีกครั้ง
เมื่อวานตอนเดินกับจากตลาด หวังฟูเจี่ยง ก็เห็นร้านนึงน่ากินวันนี้ไปกินร้านนั้นดีกว่า สั่งอะไรไม่รู้ดูจากรูป ได้ชามมใหญ่มากกกกกก กินไม่หมดเลยอะ
หลังจากเพิ่มพลังละก็ออกเดินทางระหว่างทางสตาบั๊กซักแก้วละกัน นั่ง subway line2 ลงสถานี jishuitan ทางออก A พอขึ้นมาให้หันหลังกลับละเดินตรงมาเลยไม่ต้องกลัวหลง ง่ายมากกกก แต่จะเจอสถานีรถเมย์สายต่างๆใหญ่มากให้เดินตามถนนมาเลย ระหว่างทางจะมีป้ายใหญ่ๆ บอกทางเป็นระยะ ในที่สุดก็เจอละ 919 และ 877 เขาชี้ให้มา 877 ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ค่ารถ 12 หยวน ระหว่างทางก็จะมีไกด์มาบรรยาย น่าจะเป็นประวัติของกำแพงเมืองจีนมั้ง เดาล้วนๆ ระหว่างบรรยายมีเสียงหัวเราะขำออกมาเป็นระยะ แต่หน้าไกด์คือนิ่งมาก หรือนี่เป็นที่มาของคำว่า ตลกหน้าตายกันแน่ พอเริ่มไกล้จะถึง ไกด์ก็บรรยายต่อ เป็นภาษาจีน ไอ้เราไม่รู้เรื่องก็ได้แต่มองวิวไปเรื่อยๆ หิมะที่ยังไม่ละลายปกคลุมบางสวนของภูเขาแซมกับโขดหิน สวยดีนะ พอลงรถ ก็เดินตามทางไปเรื่อย ระหว่างทางก็แวะถ่ายรูปบ้างไรบ้างประปรายตามประสาคนไม่เคยเจอหิมะ อิอิ ก่อนเข้ากำแพงเมืองจีนซื้อตั๋ว 35 หยวน
ช่วงที่ผมไปเป็นฤดูหนาว เลยซื้อตั๋วมาในราคา 35 หยวน พอได้ตั๋วมาแล้วก็ลุยกันเลยครับ และแล้วก็เดินไปเรื่อยๆ เดินถึงชั้นสี่พอเหนื่อย 5555555 เขาบอกว่า ป้อมที่ 8 ทางเหนือ เป้นที่ที่สูงที่สุดทางตอนเหนือของจีนเลยนะ สูง 888 miles แต่ไปไม่ถึง เหนื่อยก่อน
ก่อนจะกลับหาไรกินนิดหน่อย อันนี้ไม่รู้จริงๆว่าเนื้ออะไรเพราะไม่มีภาษาอังกฤษเลยแต่ก้ซื้อมา 6 ไม้ 10 หยวน กลัวจริงๆ กลัวเป็นเนื้อหมา แต่ก็กินไปแล้วแหละ 555
ตอนกลับก็ต่อแถวเข้าคิวขึ้นรถ เหมือนจะเป็นระเบียบเพราะมีชนีกะหลัวนางมาแซงคิวเอาซะนี่ มันน่าตบให้ ขนาดเขามีที่กั้นนะมันยังแซงเบียดๆเข้าไปเลย ก่อนขึ้นรถก็นึกว่าจะต้องจ่ายตังเหมือนตอนมา ที่ไหนได้ใช้บัตรสีฟ้าได้ เอ๊ะ หรือตอนมาก็ใช้ได้นะ หรือนี่เราโดนหลอกอะ
หลังจากกลับจากกำแพงเมืองจีน ต่อด้วยตลาด panjiayuan สถานี panjiayuan line 10 ทางออก C ขั้นมาเจอเบนซ์ เลี้ยวขวานิดนึงถึงเลย ใหญ่มาก สำหรับใครที่ชอบ หยก หิน เครื่องลางต่างๆ เหมาะมากสำหรับตลาดแห่งนี้
ไม่ไหวล้าวววเมื่อยขามาก ขอกลับที่พักไปเอาแรงก่อนนะ เพราะเย็นนี้จะไปลุยถนน sanlitun bar สถานี dongsi shitiao ทางออก C เดินตรงตามถนนมาเรื่อยๆ ไม่ต้องกลัวหลง เดินไกลพอผมควร ผ่านสี่แยกไปแดง 3 แยกไฟแดง จะเจอป้าย sanlitun ใหญ่มาก แล้วก็เลือกร้านตามสบาย หลังจากเลือกร้านได้แล้วก็ลุยเล้ยยยย
ไปคนเดียวก็เอาซะเละ แต่เนื่องจากเป็นคนที่ขี้ระแวงนิดนึง กลัวมากกับการโดนแท๊กซี่ของแต่ละประเทศหลอก เลยเลือกที่จะอยู่ทั้งคืน 55555555 (อันที่จริงคือติดลมอะแหละ) อยู่จนถึง ตี5 เพื่อจะนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินกลับโฮสเทล เป็นไงละ ตื่นมาอีกที เที่ยงกว่า เลยต้องรีบอาบน้ำแต่งตัวภายในเวลา 20 นาที เพื่อ เช็คเอ้า แล้วก็หาอะไรกินในย่านนั้น
hang มากบอกเลย แต่ด้วยความว่าเราต้อง strong เราต้องสู้ ต้องสู้ถึงจะชนะ ก็ต้องเที่ยวต่อ วันนี้ไม่อยากไปไหนเลยเดินเล่นแถวโฮสเทลและได้เรียนรู้ว่าการมาเที่ยวปักกิ่งครั้งนี้ทำให้ผมมองคนจีนเปลี่ยนไปพอสมควร ขาก
แน่นอนมีครับแต่เท่าที่เห็นคือคนแก่ มนุษย์ลุง มนุษย์ป้า เท่าที่ผมเที่ยวในปักกิ่ง ผมเห็นการเข้าแถวซื้อของ การเข้าแถวขึ้นรถเมย์ตามสายต่างๆ การเข้าแถวซื้อบัตรโดยสารรถไฟฟ้า ขึ้นลงบันไดชิดขวา ทุกอย่างที่เกิดขึ้นทั้งหมด ทำให้ผมเปลี่ยนความคิดไม่ดีกับคนจีนไปเลยมากพอผมควร การเที่ยวปักกิ่งครั้งนี้คือผมไม่ได้เปิด VPN ไม่ได้เล่น facebook, Instagram, line เรียกได้ว่าตัดขาดจากเพื่อนๆที่อยู่เมืองไทยไปโดยสิ้นเชิง แต่ก็สนุกไปอีกแบบนะครับ
ปล.รูปอาจจะไม่สวยเพราะทุกรูปผมถ่ายจากกล้อง โทรศัพท์มือถือของผมเอง บวกกับการแต่งภาพโดยใช้ VSCO cam
สุดท้ายขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ
[CR] [CR]เที่ยวปักกิ่งเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ไปเที่ยวโดยไม่อ่านกระทู้นี้ไม่ได้ !!!!! [รูปเยอะมาก] ตอนจบ
http://ppantip.com/topic/34908350 (EP1.)
http://ppantip.com/topic/34912499 (EP2.)
วันที่สามตื่นมาเช็คอากาศซักหน่อย โอ้ยยย ลบห้า มันทำให้ใจหวั่นไหว จะไปดีหรือเปล่านะกำแพงเมืองจีนเนี่ย ปวดเท้าจากเมื่อวานด้วยที่เดินหลงอยู่ในพระราชวังฤดูร้อนซะนาน ทำใจซักพัก เอาว่ะ !! ไหนๆก็มาถึงปักกิ่งละ ไม่ไปก็เหมือนมาไม่ถึงอาบน้ำแต่งตัวหาไรกินก่อนจะต้องเดินอีกครั้ง
เมื่อวานตอนเดินกับจากตลาด หวังฟูเจี่ยง ก็เห็นร้านนึงน่ากินวันนี้ไปกินร้านนั้นดีกว่า สั่งอะไรไม่รู้ดูจากรูป ได้ชามมใหญ่มากกกกกก กินไม่หมดเลยอะ
หลังจากเพิ่มพลังละก็ออกเดินทางระหว่างทางสตาบั๊กซักแก้วละกัน นั่ง subway line2 ลงสถานี jishuitan ทางออก A พอขึ้นมาให้หันหลังกลับละเดินตรงมาเลยไม่ต้องกลัวหลง ง่ายมากกกก แต่จะเจอสถานีรถเมย์สายต่างๆใหญ่มากให้เดินตามถนนมาเลย ระหว่างทางจะมีป้ายใหญ่ๆ บอกทางเป็นระยะ ในที่สุดก็เจอละ 919 และ 877 เขาชี้ให้มา 877 ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ค่ารถ 12 หยวน ระหว่างทางก็จะมีไกด์มาบรรยาย น่าจะเป็นประวัติของกำแพงเมืองจีนมั้ง เดาล้วนๆ ระหว่างบรรยายมีเสียงหัวเราะขำออกมาเป็นระยะ แต่หน้าไกด์คือนิ่งมาก หรือนี่เป็นที่มาของคำว่า ตลกหน้าตายกันแน่ พอเริ่มไกล้จะถึง ไกด์ก็บรรยายต่อ เป็นภาษาจีน ไอ้เราไม่รู้เรื่องก็ได้แต่มองวิวไปเรื่อยๆ หิมะที่ยังไม่ละลายปกคลุมบางสวนของภูเขาแซมกับโขดหิน สวยดีนะ พอลงรถ ก็เดินตามทางไปเรื่อย ระหว่างทางก็แวะถ่ายรูปบ้างไรบ้างประปรายตามประสาคนไม่เคยเจอหิมะ อิอิ ก่อนเข้ากำแพงเมืองจีนซื้อตั๋ว 35 หยวน
ช่วงที่ผมไปเป็นฤดูหนาว เลยซื้อตั๋วมาในราคา 35 หยวน พอได้ตั๋วมาแล้วก็ลุยกันเลยครับ และแล้วก็เดินไปเรื่อยๆ เดินถึงชั้นสี่พอเหนื่อย 5555555 เขาบอกว่า ป้อมที่ 8 ทางเหนือ เป้นที่ที่สูงที่สุดทางตอนเหนือของจีนเลยนะ สูง 888 miles แต่ไปไม่ถึง เหนื่อยก่อน
ก่อนจะกลับหาไรกินนิดหน่อย อันนี้ไม่รู้จริงๆว่าเนื้ออะไรเพราะไม่มีภาษาอังกฤษเลยแต่ก้ซื้อมา 6 ไม้ 10 หยวน กลัวจริงๆ กลัวเป็นเนื้อหมา แต่ก็กินไปแล้วแหละ 555
ตอนกลับก็ต่อแถวเข้าคิวขึ้นรถ เหมือนจะเป็นระเบียบเพราะมีชนีกะหลัวนางมาแซงคิวเอาซะนี่ มันน่าตบให้ ขนาดเขามีที่กั้นนะมันยังแซงเบียดๆเข้าไปเลย ก่อนขึ้นรถก็นึกว่าจะต้องจ่ายตังเหมือนตอนมา ที่ไหนได้ใช้บัตรสีฟ้าได้ เอ๊ะ หรือตอนมาก็ใช้ได้นะ หรือนี่เราโดนหลอกอะ
หลังจากกลับจากกำแพงเมืองจีน ต่อด้วยตลาด panjiayuan สถานี panjiayuan line 10 ทางออก C ขั้นมาเจอเบนซ์ เลี้ยวขวานิดนึงถึงเลย ใหญ่มาก สำหรับใครที่ชอบ หยก หิน เครื่องลางต่างๆ เหมาะมากสำหรับตลาดแห่งนี้
ไม่ไหวล้าวววเมื่อยขามาก ขอกลับที่พักไปเอาแรงก่อนนะ เพราะเย็นนี้จะไปลุยถนน sanlitun bar สถานี dongsi shitiao ทางออก C เดินตรงตามถนนมาเรื่อยๆ ไม่ต้องกลัวหลง เดินไกลพอผมควร ผ่านสี่แยกไปแดง 3 แยกไฟแดง จะเจอป้าย sanlitun ใหญ่มาก แล้วก็เลือกร้านตามสบาย หลังจากเลือกร้านได้แล้วก็ลุยเล้ยยยย
ไปคนเดียวก็เอาซะเละ แต่เนื่องจากเป็นคนที่ขี้ระแวงนิดนึง กลัวมากกับการโดนแท๊กซี่ของแต่ละประเทศหลอก เลยเลือกที่จะอยู่ทั้งคืน 55555555 (อันที่จริงคือติดลมอะแหละ) อยู่จนถึง ตี5 เพื่อจะนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินกลับโฮสเทล เป็นไงละ ตื่นมาอีกที เที่ยงกว่า เลยต้องรีบอาบน้ำแต่งตัวภายในเวลา 20 นาที เพื่อ เช็คเอ้า แล้วก็หาอะไรกินในย่านนั้น
hang มากบอกเลย แต่ด้วยความว่าเราต้อง strong เราต้องสู้ ต้องสู้ถึงจะชนะ ก็ต้องเที่ยวต่อ วันนี้ไม่อยากไปไหนเลยเดินเล่นแถวโฮสเทลและได้เรียนรู้ว่าการมาเที่ยวปักกิ่งครั้งนี้ทำให้ผมมองคนจีนเปลี่ยนไปพอสมควร ขากแน่นอนมีครับแต่เท่าที่เห็นคือคนแก่ มนุษย์ลุง มนุษย์ป้า เท่าที่ผมเที่ยวในปักกิ่ง ผมเห็นการเข้าแถวซื้อของ การเข้าแถวขึ้นรถเมย์ตามสายต่างๆ การเข้าแถวซื้อบัตรโดยสารรถไฟฟ้า ขึ้นลงบันไดชิดขวา ทุกอย่างที่เกิดขึ้นทั้งหมด ทำให้ผมเปลี่ยนความคิดไม่ดีกับคนจีนไปเลยมากพอผมควร การเที่ยวปักกิ่งครั้งนี้คือผมไม่ได้เปิด VPN ไม่ได้เล่น facebook, Instagram, line เรียกได้ว่าตัดขาดจากเพื่อนๆที่อยู่เมืองไทยไปโดยสิ้นเชิง แต่ก็สนุกไปอีกแบบนะครับ
ปล.รูปอาจจะไม่สวยเพราะทุกรูปผมถ่ายจากกล้อง โทรศัพท์มือถือของผมเอง บวกกับการแต่งภาพโดยใช้ VSCO cam
สุดท้ายขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ