“ทนายวันชัย” ชี้ซิ่งเบนซ์ 200 กม./ชม. ชนฟอร์ด ย่างสด 2 นักศึกษา ป.โท เข้าข่ายเจตนาฆ่า โทษถึงประหาร

...แต่อยากบอกสังคมอย่าไปหลงประเด็นเรื่องเมาหรือสารเสพติด จากหลักฐานที่ปรากฏต้องยอมรับว่าผู้ก่อเหตุขับรถเร็วประมาณ 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในถนนที่พลุกพล่าน จึงน่าจะเข้าฐานเจตนาฆ่าคนตาย ไม่ใช่เป็นเรื่องประมาททำให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย ถนนหลวงและมีรถวิ่งขนาดนี้การขับด้วยความเร็ว 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป น่าจะเป็นการเล็งเห็นผลได้ในทางกฎหมาย...

http://www.matichon.co.th/news/74420




เห็นด้วยครับ

ถนนรถราสัญจรไปมาพลุกพล่าน   กฎหมายจราจรก็ระบุห้ามขับเกิน 90 กม./ชม.
แต่ซัดซะ 200 นี่   ไม่ใช่เรื่องประมาทแล้วครับ

เป็นเรื่อง "เล็งเห็นผล"  ได้  ว่าความเร็วขนาด 200 นี่ จะก่อให้เกิดอุบัติเหตุ   บาดเจ็บและเสียชีวิตได้
แต่ก็ยังทำ   ทำทั้งที่สามารถคาดการณ์ได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น

เมื่อเล็งเห็นผลได้   ยังกระทำ   นั่นคือ  "เจตนา"

นี่ขนาดเรื่องเกิดครั้งเดียวนะครับนี่   ยังตีความถึง "เจตนา" ได้



แล้วคดี 99 ศพล่ะครับ

ทหารหลายหมื่น  กระสุนหลายแสนนัด   อาวุธสารพัดชนิด   กลางเมืองหลวง
เผชิญหน้ากับผู้ชุมนุมนับหมื่น   ผู้คนสัญจรไปมาอีกหลายหมื่น   

ยิ่งกว่าจะ "เล็งเห็นผล" ได้   

และไม่ใช่เกิดครั้งเดียว  วันเดียว   แต่เกิดเป็นเดือน   เจ็บ ตายติดต่อกันเป็นเดือน
ไม่ระงับยับยั้ง   ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำ ๆ  กว่าสามสิบวัน

คนบริสุทธิ์ทั้งนั้นที่เจ็บ - ตาย

ไม่ใช่เรื่อง "เจตนาฆ่า"  แล้วคืออะไร ?




แต่แปลก

เรื่องขับรถชนคนตาย   ชี้ได้ว่าแสดงถึงเจตนาฆ่า
แต่เรื่องยิงสนั่นกลางเมืองหลวง  กลับบอกว่าไม่ผิด       ป.ป.ช.บอกว่าถูกต้องทุกประการ

ศาลอาญาไม่รับฟ้องข้อหาเจตนาฆ่าคน  แถมบอกว่าเป็นการปฏิบัติงานในหน้าที่





นี่แหละครับ   ดัดจริตแลนด์