เพื่อน...สมัยมัธยม

วันนี้ฉันอยากมาเล่าเรื่องตอนสมัยมัธยม เรื่องที่เปลี่ยนจุดเปลี่ยนของฉัน

ตอนที่ฉันกำลังศึกษาอยู่ชั้น ม.6 หรือเรียกแบบเต็มๆว่า มัธยมศึกษาปีที่ 6
ช่วงเวลานั้น ฉันได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าห้อง
ซึ่งแน่นอน.. ฉันรู้สึกดีมาก และมีความตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาต่างๆที่ห้องมีให้ดีอย่างที่ทุกคนต้องการ
ด้วยเหตุนี้ ฉันจึงเป็นทั้งหัวหน้าห้องและเหรัญญิกของห้อง
ใช่คะ เป็นทั้งสองหน้าที่
เหตุผลที่ฉันทำหน้าที่นี้ด้วย เพราะเพื่อนที่เป็นเหรัญญิกนั้นไม่ได้ทำบัญชีรายรับรายจ่าย
ทุกครั้งที่มีการจ่ายต่างๆของห้อง ก็ไม่ได้เขียนไว้
จนเกิดปัญหาต่างๆมากมาย ฉันเลยตัดปัญหา ด้วยการเป็นเหรัญญิกเองสะเลย

ในช่วงแรกเพื่อนทุกคนก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
แต่แล้ววันหนึ่ง เพื่อนคนที่เป็นเหรัญญิกคนก่อนก็ได้มาขอทำหน้าที่เดิมของเธอ
ซึ่งฉันได้ปฏิเสธเธอไป

พอตกกลางคืน โทรศัพท์ได้มีข้อความเข้าตลอดทั้งคืน
คนที่ส่งมาไม่ใช่ใคร แต่เป็นเพื่อนๆกลุ่มของเพื่อนคนที่เคยเป็นเหรัญญิกนั่นเอง
พวกเขาส่งมาว่าฉันว่าทำไมถึงไม่ให้เพื่อนเขาทำ แค่นี้แบ่งหน้าที่กันไม่ได้หรือไง..และอีกสารพัดอย่าง
จนฉันทนไม่ไหว เลยเลือกที่จะโทรหาเพื่อนคนที่เคยเป็นเหรัญญิกนั้นว่า
ถ้าเราให้แกทำ แกช่วยทำบัญชีได้ไหม ซึ่งเป็นคำขอสุดท้ายที่ได้พูดกับเธอ
และตอนนั้นเธอก็รับปาก...

หลังจากวันนั้น
เพื่อนคนนั้นก็เก็บเงินตามปกติ และมีเก็บตังเกินเหตุ 100 นึงบ้าง 200 บ้าง แต่เธอก็บอกว่าเอาไปทำอะไร
ทุกคนเลยยอมจ่ายให้ ซึ่งฉันก็ยอมจ่ายด้วยเช่นกัน
ฉันเป็นหัวหน้าห้องได้ไม่นาน ฉันก็เริ่มโดนแกล้ง
การโดนแกล้งก็คือ โดนให้ไปเอางาน โดนใช้ให้ไปทำนั่นทำนี่ โดนเอาไปล้อเลียน ว่า นินทา สารพัด
แล้วยังมีการแขวะในเฟส ซึ่งคนที่แขวะ...ก็เพื่อนที่เป็นเหรัญญิกนั่นเอง
เพื่อนๆของเธอก็มาคอมเม้นต์สมทบกัน

จนสุดท้ายฉันไปบอกกับอาจารย์ที่ปรึกษาว่าฉันไม่ไหวแล้ว ขอลาออกจากการเป็นหัวหน้า
พร้อมกับบอกเหตุผล และเหตุการณ์ต่างๆที่ฉันได้เจอ ซึ่งอาจารย์ก็เข้าใจและดำเนินการให้
สุดท้ายก็ได้หัวหน้าคนใหม่ เขาเป็นผู้ชาย และเป็นหัวหน้ารองตอนที่ฉันเป้นหัวหน้าอีกด้วย
เพื่อนกลุ่มเหรัญญิกก็เข้าหากันใหฐ่ พูดประจบสอพลอสารพัดอย่าง
แต่หัวหน้าคนใหม่นี้...สนิทกับฉันระดับหนึ่ง เวลามีปัญหาอะไร เขาจะมาถามฉันก่อนเสมอ
และแน่นอน ฉันก็ยินดีช่วยงานเขาเสมอ

จริงๆแล้ว เรื่องของเพื่อนคนนี้ยังไม่จบ..
แต่ฉันขอเล่าเอาไว้เพียงเท่านี้

เพราะเพื่อนคนนี้ และเพื่อนกลุ่มของเธอทำให้ฉันเข้มแข็งขึ้น
ร้องไห้จนไม่มีน้ำตา เหนื่อยจนแทบลุกไม่ไหว แต่สุดท้ายฉันก็ลุกขึ้นมาได้
ต้องขอบคุณพวกเธอจริงๆ ที่สร้างรอยแผลไว้
ไม่งั้นฉันคงไม่เข้มแข็งขนาดนี้

เรื่องทั้งหมดที่ฉันเอามาเล่านี้ ฉันอยากให้
คนที่ท้อ หรือกำลังเจอปัญหา รู้สึกเหนื่อย รู้สึกท้อ
ให้ลองลุกขึ้นสู้ดูนะคะ เมื่อเราลุกขึ้นได้ เราจะเป็นคนใหม่ที่เข้มแข็งกว่าเดิมแน่นอนคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่