รีวิว เมื่อผมทำ JR Pass หาย สิ่งที่ควรทำและสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องทำ

เพิ่งกลับมาจากญี่ปุ่นสดๆร้อนๆเลยครับ กับประสบการณ์การทำ JR Pass หายไป

วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์ รวมทั้งสรุป สิ่งที่ควรทำ และสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องทำในตอนท้ายนะครับ
ผมขอ spoil เรื่องเล่านะครับ ใครอยากได้อรรถรส ก็คลิ๊กอ่านเรื่องของผมได้ ใครอยากรู้สิ่งที่ควรไม่ควรทำก็อ่านข้ามได้เลย

ที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้น เพื่ออยากให้คนที่ทำ JR pass หาย ได้เห็นเป็นแนวทางนะครับ เพราะถ้าเวลาเราทำหายจริงๆแล้ว มันมืดแปดด้านครับ ไม่รู้จะเริ่มอย่างไหนก่อน อาจไม่เห็นความสำคัญของเรื่องนี้ เพราะคิดว่าไงก็ไม่มีทางหาย(ก่อนไปผมก็คิดแบบนี้) แต่พอทำหายปุ๊บ มืดแปดด้าน เปิดเน็ตหาก็ไม่มีเขียนแนะนำไว้
เอาล่ะครับ ลุยเลย

สิ่งที่ควรทำ

1.    ทันทีที่รู้ว่าทำ JR Pass หาย คุณต้องนึกให้ได้ว่าเห็น JR pass ครั้งล่าสุดที่ไหน เวลาใด และหลังจากนั้นคุณเดินทางไปไหนด้วยวิธีใด ผ่านสถานี JR หรือ Subway อะไรบ้าง ถ้าให้ดีเขียนลงในแผนที่เลยครับ สะดวกเวลาให้เจ้าหน้าที่ดู

2.    ถ้าระยะเวลาที่หายไม่นานมาก และสถานที่ที่สงสัยว่าทำ JR pass หายไม่ไกลมาก อยากให้เดินหาก่อนนะครับ แต่ถ้ามันไกลมากถึงขึ้นต้องนั่งรถไฟไป หรือนานมากเป็นชั่วโมง ข้ามไปเลยครับ ไม่ต้องเดินหา

3.    รีบไปสถานี JR หรือ Subway ที่ใกล้ที่สุด แจ้งรายละเอียดในข้อที่ 1 ให้นายสถานีทราบ เด๋วเค้าจะโทรประสานกับนายสถานีที่เราสงสัยว่าจะทำหายครับ (เพราะส่วนใหญ่ถ้ามีคนเก็บได้ เค้าก็จะส่งคืนที่สถานี JR ที่ใกล้ที่สุดที่เค้าเก็บได้) ถ้ายังไม่เจอ อย่าพึ่งท้อครับ ถามนายสถานีว่า มีสถานีไหนบ้างที่มีแผนก Lost & Found แล้วรีบไปสถานีนั้นครับ(อย่าลืมขอให้นายสถานีเขียนใบโน็ตให้นะครับว่าเราจะไปแผนก Lost and Found เพื่อไปถึงสถานีนั้น ตรงทางออกจะได้ยื่นให้เจ้าหน้าที่ดู ไม่เสียค่าเดินทางในเที่ยวนั้นครับ)

4.    รีบไปสถานี JR ที่มีแผนก Lost & Found ซึ่งมีเฉพาะสถานีใหญ่ๆ(ที่จำได้ตอนนี้ก็ โตเกียว,โอซาก้า,เกียวโต,นาโกยา) ไปถึงให้แจ้งรายละเอียดในข้อที่ 1 นะครับ และอย่าลืมกรอกชื่อนามสกุล ที่อยู่โรงแรม เบอร์โทรโรงแรมหรือของเรา(ถ้ามี) เผื่อถ้าพบเจ้าหน้าที่จะได้ติดต่อเราได้ครับ

5.    ถ้ายังไม่เจอ ก็ รอครับ นึกไว้ในใจ เราทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้นะครับ  ถ้ามีแผนจะเที่ยว ก็จ่ายเงินซื้อตั๋วไปเที่ยวเลยครับ ไม่งั้นแผนพังหมดครับ แต่ถ้ามีแผนสำรองรีบเอามาใช้ครับ โดยเฉพาะเลือกเที่ยวใกล้ๆกับจุดที่เราทำ JR passหาย เผื่อว่าได้คืนจะได้ไม่ต้องเดินทางกลับมาไกล และจะได้ไม่เสียเงินค่าตั๋วเดินทางเยอะ เราทำอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว.. ถึงเวลานี้คงต้องเซ็ง เหนื่อย เสียใจ แต่อย่าให้มันทำให้การเที่ยวของเราแย่ไปกว่านี้ครับ พยายามไปเที่ยวต่อนะครับ และภาวนาให้ได้ JR pass คืน

6.    นึกไว้ในใจเสมอ (อันนี้ผมทำบ่อยถ้าของหาย) ...สสารไม่มีวันหายไปจากโลก... ถ้าของไม่อยู่ที่เรา ก็ต้องอยู่ที่อื่น ไม่สูญสลายไปไหนครับ และญี่ปุ่นก็เป็นประเทศที่ของหายแล้วได้คืนคือเรื่องปกติ ผมเชื่อว่ายังไงก็ได้คืน (แต่เผื่อใจไว้บ้างก็ดีครับ)


สิ่งที่ไม่จำเป็นต้องทำ

1.    อย่าพยายามขอเจ้าหน้าที่ให้ออก JR pass ใบใหม่ให้ ไม่ว่าอย่างไร JR pass ก็ไม่สามารถออกใบใหม่ซ้ำได้ แม้เราจะเก็บ Exchange order (ใบกระดาษที่เราซื้อจาก Agentที่เมืองไทย เพื่อเอามาแลกเป็น JR passที่ญี่ปุ่น) เจ้าหน้าที่จะปฏิเสธอย่างเดียวเท่านั้น หรือบางครั้งถ้านายสถานีเล็กๆอาจบอกว่าให้ไปคุยกับนายสถานีใหญ่ๆว่าอาจออกให้ใหม่ได้ เราก็ไม่ต้องสนใจนะ เสียเวลาไปคุย เพราะยังไงก็ออกใหม่ไม่ได้ครับ

2.    อย่าพยายามขอใช้ใบ Exchange order แทนใบ JR pass ในการเดินทาง แม้ว่าในใบ Exchange order จะมีรายละเอียดครบทุกอย่าง ทั้งชื่อนามสกุล เลขที่passport ตราประทับวันที่แลกเป็น JR pass ตราประทับวันที่เริ่มใช้ JR pass แต่ยังไงใบนี้ก็ใช้แทนใบ JR pass ไม่ได้ครับ เจ้าหน้าที่ไม่สนใจใบนี้เลยนะครับ ปฏิเสธอย่างเดียว คุณไม่มี JR pass ก็คือไม่มี ใบอื่นแทนไม่ได้

3.    ไม่จำเป็นต้องไปถึงสถานีรถไฟที่เราสงสัยว่าทำ JR Passหาย เพื่อไปถามนายสถานีนะครับ เพราะเมื่อเราไปถึงแผนก Lost and Found เจ้าหน้าที่เค้าจะโทรถามให้หมดแล้ว (จากประสบการณ์ผมนั่งรถไฟไปหาครับ ผลคือมีค่าเท่ากัน เสียเวลาป่าวครับ)

4.    ไม่จำเป็นต้องหาสถานีตำรวจเพื่อแจ้งความนะครับ แผนก Lost and Found บอกว่าเจ้าหน้าที่จะประสานแจ้งความให้ ถ้ายังไม่หาไม่พบ

5.    ไม่จำเป็นต้องท้อใจนะครับ เสียแล้วเสียไป หายก็คือหาย ไม่มีใครอยากให้เกิด ทำใจ และรอครับ...

ใครเพิ่มเติมตรงไหน หรือแก้ไขตรงไหน ยินดีครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่