ญี่ปุ่นหลังเปิดประเทศ 22-27/10/2565 พักอุเอโนะและชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ Tazawako

คราวนี้วางแผนเดินทาง 5 วัน 4 คืนครับ จองตั๋วการบินไทยไว้ตั้งแต่ช่วงเมษายน 2565 ที่ผ่านมา
จริงๆ ก็ลุ้นเหมือนกันว่าถึงวันนี้ที่จะเดินทาง ญี่ปุ่นจะเปิดประเทศแบบ 100% หรือยัง หรือต้องทำอะไรเพิ่มเติมกว่าก่อนโควิดหรือไม่ ซึ่งสุดท้ายเราได้ฟรีวีซ่า แสดงแค่การได้รับวัคซีนครบ 3 เข็ม (ของเราฉีด 4 เข็ม) ลงทะเบียนบนแอพฯ my SOS ล่วงหน้าเท่านั้น
-------------

20.48 22/10/65 สนามบินสุวรรณภูมิ
🔆 รอบนัเดินทางไปกับการบินไทย ออกจากสุวรรณภูมิ 5 ทุ่ม 50 ถึงนาริตะตามตาราง 8.25 น. เค้าเตอร์การบินไทยที่สุวรรณภูมิชอดูใบวัคซีน และทวนว่าได้ลงแอพฯ my sos แล้ว ใช่หรือไม่ ไฟลท์ TG 642
🔆 รอเช็คอินเค้าเตอร์การบินไทยประมาณ 15 นาที เราโหลดกระเป๋าคนละ 1 ใบ
🔆 ตม. ไทย ให้บริการเฉพาะช่วงที่ใช้เจ้าหน้าที่ ช่องอัตโนมัติยังไม่เปิดมีกระดาษ A4 เขียนปิดไว้ว่า "อยู่ระหว่างการอัพเดทซอฟท์แวร์" แต่รอบกลับเขาประเทศ 27/10/2565 ใช้ช่องอัตโนมัติได้ตามปกติ
🔆 การบินไทยเสิร์ฟแซนวิชไก่มื้อดึก ส่วนเช้าเป็นออมเลท+ไส้กรอก หรือหมี่ซั่วผัดกุ้ง คิดถึงแกงเผ็ดเป็ดยางเหมือนกันนะ คิดว่าเป็นเมนูที่ถูกปากที่สุดแล้ว

-------------
ราว 8.30 น. 23/10/65 ตม.ญี่ปึ่น ที่สนามบินนาริตะ
🌼 มีเจ้าหน้าที่ตรวจว่าทำแอพฯ my sos มาแล้วหรือไม่ ถ้าทำเรียบร้อยจะยื่นบัตรผ่านให้ แล้วไปต่อคิวตรวจคนเข้าเมืองได้เลย กรณียังไม่ได้ทำมาก็ต้องทำจนกว่าจะเสร็จ
🌼 เรากรอก immigration fom  ออนไลน์มาแล้ว ซึ่งจะได้ QR code ออกมา ต่อคิว ตม. อยู่ประมาณ 30 นาที ตอนเข้าลงตราในหนังสือเดินทาง เราก็แค่ยื่นหนังสือเดินทางและโทรศัพท์มือถือหน้าที่มี QR code ให้ไป สแกนนิ้วครับ ไม่ถึง 3 นาที ก็เดินตัวปลิวออกมารับกระเป๋า
🌼 กรณีศุลกากร ทีแรกพอได้กระเป๋าครบถ้วนแล้ว เราไปตามคิวที่ช่องปกติ ที่มีคนคอยตรวจสอบ พอถึงคิวเรา เจ้าหน้าที่ให้เราไปทำเองที่ช่องอัตโนมัติ สรุปว่า ถ้ากรอกข้อมูลออนไลน์และได้ QR code มาแล้ว (custom declaration form) ให้เข้าช่องอัตโนมัติแล้วทำเองเลย (สอดพาสปอร์ต--> สแกน QR code--> ทำตามขั้นตอนที่หน้าจอจนเสร็จ) 
🌼 เรื่องโควิด-19 จริงๆ ไม่มีการขอดูเอกสารเกี่ยวกับโควิดที่จุดนี้แล้ว อาจเพราะเราได้อัพโหลดไฟล์เอกสารเหล่านั้นตั้งแต่ทำ my sos เรารับวัคซีน 4 เข็ม เข็มที่ 4 เมื่อกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมาครับ
🌼 การสวมหน้ากากอนามัยและมาตรการโควิดต่างๆ อยู่ในระดับขอความร่วมมือ แต่เอาเข้าจริงคนญี่ปุ่นก็มีความเคยชินกับการใส่หน้ากากอนามัยแบบเป็นปกติในชีวิตประจำวัน มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร แค่มันเลยมีเหตุผลสนับสนุนมากขึ้นสำหรับนักท่องเที่ยวอย่างเราๆ ให้สวมหน้ากากอนามัยไปกับพวกเขาด้วย

--------------
เข้าเมืองและแลก JR pass
*ทริปนี้ของเราเป็นทริปท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยรถไฟ JR นะครับ*
🔆 ของเราซื้อ JR east pass ไว้ จากแอพฯ traveloka ปริ้นใบคอนเฟิร์มเป็นกระดาษออกมา 
🔆 เราแลกที่เค้าเตอร์ JR สนามบินนาริตะ terminal 2 ประมาณ 9.40 น. และขอให้เจ้าหน้าที่ทำ reserve seat สำหรับมาลงที่สถานีโตเกียวโดย Narita express ขบวน 9.48 น. เจ้าหน้าที่ย้ำหลายครั้งว่าเธอจะไปขึ้นรถได้ทันหรือไม่ เรายืนยันตามนั้น
🔆 คราวนี้ที่โตเกียวเราพักโรงแรมย่านอุเอโนะ 23-27/10/2565 จองผ่าน AirAsia Go 
🔆 Hotel SUNROUTE STELLA UENO เดินประมาณ 5 นาทีจากสถานี JR อุเอโนะ ห้องค่อนข้างกว้าง และเตียงใหญ่กว่าราคาพอสมควร สะอาดตามมาตรฐานโรงแรมญี่ปุ่น ... เรียกว่าสะอาดมากก็น่าจะได้
🔆 วันนี้ (23/10/2565) ไม่ได้ออกไปไหนไกล เดินไปเดินมาอยู่แถวนั้น นั่งรถไฟไปฮาราจูกุ ชิบูย่า และพักผ่อน ซื้อของตามอัธยาศัย
🔆 เราถือเงินสดไปบางส่วน และบางส่วนแลกใส่บัตร travel card ของ scb ไว้ บัตรสามารถนำไปรูดข่ายค่าสินค้าได้โดยตรง และกดออกมาเป็นเงินสด ค่าธรรมเนียมครั้งละ 220 เยน กดถอนเงินได้วันละไม่เกิน 100,000 เยน และถ้ากดที่ตู้ของอิออนจะไม่เสียค่าธรรมเนียมนี้ มีคนรีวิวการกดไว้แล้วพอสมควร ทำตามนั้นได้เลยเพียงแต่ 1. ตู้อิออนหาค่อนข้างยาก 2. ตู้เอทีเอ็มของแต่ละธนาคารอาจมีเมนูที่ต่างกันเล็กน้อย ต้องลองครับ 3. และบางตู้เมนูให้กดสูงสุดได้แค่ 50,000 เยน และ 4. สุดท้ายเราก็หาตู้ของอิออนไม่เจอ และตัดสินใจใช้บริการตู้ของ 7-11
*JR pass ที่เราได้เป็นแบบสามารถสอดเข้าในเครื่องได้เลย ไม่ต้องเข้าช่องพิเศษแล้วยื่นให้เจ้าหน้าที่ดูอีกต่อไป และการ reserve seat สามารถทำกับเครื่องขายตั๋วได้เช่นเดียวกัน*

-----------------
24/10/65 วันนี้ตั้งใจไปเอ้าเล็ททึ่ karuizawa เป็นหลัก
🌸 ฝนตกและอากาศค่อนข้างเย็น
🌸 การ reserve seat สำหรับโดยสารรถไฟ JR ปัจจุบันต้องทำเองที่ตู้อัตโนมัติ มีภาษาอังกฤษให้กดเลือก ทำได้ครั้งละไม่เกิน 4 ผู้โดยสาร (สอด JR pass เข้าไปทีละใบจนครบคน) เมื่อเสร็จกระบวนการ เครื่องจะคืน JR pass และตั๋ว reserve seat ที่ได้ออกมาพร้อมกันในคราวเดียว


--------------------
25/10/65
🔆 เริ่มต้นวันตอน 06.10 น. ที่หน้าโรงแรมเพื่อขึ้นรถไฟชินกันเซ็นรอบ 06.28 น. มุ่งหน้า Tazawako ไม่ได้ reserve seat เพราะตู้อัตโนมัติไม่มี seat ให้ reserve กะว่าจะมาลุ้นขึ้นตู้ non reserve seat เอา แต่ปรากฏว่าเมื่อมาถึงที่ชานชาลา ป้ายขึ้นว่าทั้งขบวนเป็น reserve seat ทั้งหมด ... แผนเลยเปลี่ยน
🔆 เดิมเรา reserve seat ได้ที่ขบวนออกจากอุเอโนะ 08.46 น. เพื่อถึง Tazawako 11.28 น. แต่ ณ เวลาที่เรามาถึงชานชาลาแล้ว และเราขึ้นขบวนที่ต้องการไม่ได้ และขบวน 08.21 น. มุ่งหน้าเซ็นไดกำลังจะเข้าสถานี(ขบวนนี้ปลายทางแค่เซ็นได) เราตัดสินใจขึ้นขบวนนี้เพื่อลงเซ็นไดและเดินเล่นที่นั่นสัก 2 ชั่วโมง จากนั้นค่อยขึ้นขบวนที่เรา reserve seat ไว้จากเซ็นไดมุ่งหน้า Tazawako ตามแผนเดิม ... ใช่ครับ เราจะพักที่นั่น 1 คืน ยังไงจึงต้องไป Tazawako
🔆 แต่สุดท้ายแผนก็เปลี่ยนอีกรอบ เมื่อถึงเซ็นได เรากระโดดขึ้นขบวนที่ออกจากอุเอโอนะ 6.28 น. นั่นแหล่ะ (ขบวนที่มีแต่ reserve seat ล้วน) แต่ไม่มีที่นั่งและก็ต้องยืนประมาณ 1 ชั่วโมง สรุปว่า แทนที่จะยืน 3 ชั่วโมงตั้งแต่อุเอโนะ ก็เป็นนั่ง 2 ชั่วโมง+ ยืน 1 ชั่วโมง ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ณ ขณะนั้น

-----------
Tazawako
🌸 เราถึงสถานี Tazawako ราว 10 โมงครึ่ง นั่งรถโดยสารประจำทางจากหน้าสถานีมาลงป้าย Arupa Komakusa ราคา 630 เยน ซึ่งเดินจากตรงนี้ไปโรงแรมที่จองไว้ (โรงแรม komatake gland hotel) จากนั้นนั่งรถโดยสารขึ้นไปลงที่ป้ายก่อนสุดสาย 1 ป้าย - vacation village (休暇村前) (เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ) ค่าโดยสารคิดตามระยะทางโดยหยิบตั๋วตอนขึ้นและจ่ายเงินค่าโดยสารให้พอดีตอนลง (ตอนลงเราเสียค่ารถ 250 เยน จากป้าย vacation village มาลงที่ป้ายแถวๆ หน้าโรงแรม)
🌸 ใบไม้เปลี่ยนสีกำลังสวย เดินไปตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่ทางอุทยานฯ (Lake Tazawako highland park) จัดไว้ให้ ห้องน้ำและอาหารหาค่อนข้างยาก เตรียมไปด้วยจะดีมาก ต้องวางแผนเดินดีๆ เพราะช่วงนี้มืดเร็ว ประมาณ 5 โมงเย็นฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว
(รูปด้านล่างซ้ายสุดคือป้าย Arupa komakusa รูปกลางป้ายแถวๆ โรงแรม ขวาสุดคือป้ายที่นั่งไปลงแล้วเดินดูใบไม้แดง)


----------------------------
คุณหมูยอ
เดินทาง 22-27/10/2565
บันทึก 28/10/2565
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่