“SETA 2016” ระดมความคิด สู่พลังงานที่ยั่งยืน
ที่ประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ หรือ COP21 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ให้ความเห็นชอบข้อตกลงลดก๊าซเรือนกระจกฉบับสมบูรณ์ โดยมีเป้าหมายหลักคือจำกัดอุณหภูมิเฉลี่ยของโลก ส่งเสริมการพัฒนาสังคมคาร์บอนต่ำ และทิศทางการลงทุนที่สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาแบบคาร์บอนต่ำ ซึ่งประเทศไทยเองก็ร่วมลงมติให้ความเห็นชอบในข้อตกลงนี้
จึงถือเป็นโอกาสดีที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดงานการประชุมและนิทรรศการนานาชาติพลังงานและเทคโนโลยีที่ยั่งยืนแห่งเอเชีย 2559 หรือ SETA 2016 ซึ่งนอกจากการจัดนิทรรศการและการประชุมทางวิชาการระดับนานาชาติในเรื่องพลังงานแล้ว หนึ่งในไฮไลท์เด่นภายในงานยังมีการเสวนาของตัวแทนในระดับองค์กรระหว่างประเทศ ในหัวข้อ
“การเตรียมการการจัดการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาวะอากาศ (Climate Change) ในข้อตกลงการลดคาร์บอน ณ กรุงปารีส ของอาเซียน” เพื่อร่วมกันระดมความคิด ร่วมหาแนวทางแก้ไขการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลก ตามข้อตกลงร่วมกันในการลดคาร์บอน ณ กรุงปารีส และจะทำให้มองเห็นทางออกของการมีและใช้พลังงานอย่างยั่งยืน ในขณะที่การรักษาสิ่งแวดล้อมก็ยังคงอยู่ควบคู่กันไป
รศ.ดร.ธัชชัย สุมิตร ประธานคณะกรรมการดำเนินงาน SETA 2016 กล่าวว่า SETA 2016 จะรวบรวมเอาองค์ความรู้และเทคโนโลยีทางด้านพลังงานที่ทันสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาไว้เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานได้เรียนรู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และรับฟังผลการวิจัยและกรณีศึกษาต่างๆ ผ่านการประชุมทางวิชาการในหัวข้อต่างๆ กว่า 100หัวข้อใน 4 ประเด็นหลักที่ครอบคลุมทั้งด้านนโยบาย ด้านเทคโนโลยีโรงไฟฟ้าที่ทันสมัยพลังงานทางเลือกเพื่อการคมนาคมขนส่ง และเทคโนโลยีพลังงานที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
"เราควรมีสัดส่วนการใช้อย่างไรจึงจะสมดุล เช่นใช้ก๊าซให้น้อยลง หรือเมื่อเทคโนโลยีเจริญก้าวหน้า ก็ใช้เชื้อเพลิงจากฟอสซิลอีกครั้ง และเพิ่มการใช้งานจากพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลมให้มากขึ้น SETA 2016 จะสร้างองค์ความรู้ เพื่อเปิดมุมมองและนำไปพัฒนาต่อยอดเทคโนโลยีด้านพลังงานให้กับเรามากขึ้น" รศ.ดร.ธัชชัย สุมิตร กล่าวปิดท้าย
โครงการพลังงาน และเทคโนโลยีที่ยั่งยืนแห่งเอเชีย 2559 หรือ SETA 2016 (Sustainable Energy & Technology Asia) 23-25 มีนาคม 2559 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุม ไบเทค กรุงเทพฯ
รายละเอียดเพิ่มเติมwww.seta.asia และ www.facebook.com/SETA.ASIA
“SETA 2016” ระดมความคิด สู่พลังงานที่ยั่งยืน
ที่ประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ หรือ COP21 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ให้ความเห็นชอบข้อตกลงลดก๊าซเรือนกระจกฉบับสมบูรณ์ โดยมีเป้าหมายหลักคือจำกัดอุณหภูมิเฉลี่ยของโลก ส่งเสริมการพัฒนาสังคมคาร์บอนต่ำ และทิศทางการลงทุนที่สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาแบบคาร์บอนต่ำ ซึ่งประเทศไทยเองก็ร่วมลงมติให้ความเห็นชอบในข้อตกลงนี้
จึงถือเป็นโอกาสดีที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดงานการประชุมและนิทรรศการนานาชาติพลังงานและเทคโนโลยีที่ยั่งยืนแห่งเอเชีย 2559 หรือ SETA 2016 ซึ่งนอกจากการจัดนิทรรศการและการประชุมทางวิชาการระดับนานาชาติในเรื่องพลังงานแล้ว หนึ่งในไฮไลท์เด่นภายในงานยังมีการเสวนาของตัวแทนในระดับองค์กรระหว่างประเทศ ในหัวข้อ “การเตรียมการการจัดการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาวะอากาศ (Climate Change) ในข้อตกลงการลดคาร์บอน ณ กรุงปารีส ของอาเซียน” เพื่อร่วมกันระดมความคิด ร่วมหาแนวทางแก้ไขการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลก ตามข้อตกลงร่วมกันในการลดคาร์บอน ณ กรุงปารีส และจะทำให้มองเห็นทางออกของการมีและใช้พลังงานอย่างยั่งยืน ในขณะที่การรักษาสิ่งแวดล้อมก็ยังคงอยู่ควบคู่กันไป
รศ.ดร.ธัชชัย สุมิตร ประธานคณะกรรมการดำเนินงาน SETA 2016 กล่าวว่า SETA 2016 จะรวบรวมเอาองค์ความรู้และเทคโนโลยีทางด้านพลังงานที่ทันสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาไว้เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานได้เรียนรู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และรับฟังผลการวิจัยและกรณีศึกษาต่างๆ ผ่านการประชุมทางวิชาการในหัวข้อต่างๆ กว่า 100หัวข้อใน 4 ประเด็นหลักที่ครอบคลุมทั้งด้านนโยบาย ด้านเทคโนโลยีโรงไฟฟ้าที่ทันสมัยพลังงานทางเลือกเพื่อการคมนาคมขนส่ง และเทคโนโลยีพลังงานที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
"เราควรมีสัดส่วนการใช้อย่างไรจึงจะสมดุล เช่นใช้ก๊าซให้น้อยลง หรือเมื่อเทคโนโลยีเจริญก้าวหน้า ก็ใช้เชื้อเพลิงจากฟอสซิลอีกครั้ง และเพิ่มการใช้งานจากพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลมให้มากขึ้น SETA 2016 จะสร้างองค์ความรู้ เพื่อเปิดมุมมองและนำไปพัฒนาต่อยอดเทคโนโลยีด้านพลังงานให้กับเรามากขึ้น" รศ.ดร.ธัชชัย สุมิตร กล่าวปิดท้าย
โครงการพลังงาน และเทคโนโลยีที่ยั่งยืนแห่งเอเชีย 2559 หรือ SETA 2016 (Sustainable Energy & Technology Asia) 23-25 มีนาคม 2559 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุม ไบเทค กรุงเทพฯ
รายละเอียดเพิ่มเติมwww.seta.asia และ www.facebook.com/SETA.ASIA