พระมหาพงศ์นรินทร์-นักการเมือง-นักวิชาการแฉ"ธรรมกาย"บิดเบือนคำสอนพระไตรปิฎก สอนให้คนมีกิเลสใช้วัตถุทำการตลาด-จิตวิทยามวลชนกล่อมประชาชน
"ลัทธิดังกล่าวสามารถโตได้ในไทยเพราะ อาศัยจุดอ่อนในเรื่องของฐานะการเงินของประชาชนและการนำเอาเรื่องของการตลาดมาใช้ในเรื่องความขัดแย้งโดยมีการวางแผนไว้ก่อน เนื่องจากทางวัดพระธรรมกายก็มีผู้ที่ไม่เห็นด้วยอยู่เยอะ เรื่องนี้เป็นการยกระดับทางปัญญา เรารับพุทธศาสนามาจากศรีลังกา จึงทำให้การนำไปบิดเบือนหลักการหลักธรรมบ้าง เมื่อมีประเด็นที่ทำให้ผู้คนไม่พอใจ สื่อใหญ่จึงเชิญไปออกรายการซึ่งทางวัดธรรมกายนั้นก็ได้ชิงพื้นที่สื่อ ทำให้คนสนใจ จากนั้นเมื่อมีการเข้าไปถามถึงข้อมูลเป็นตัวบุคคลจึงมีการเชิญชวนให้ไปดูที่วัดก่อนว่า เป็นอย่างไรแล้วค่อยวิพากษ์ วิจารณ์ จากนั้นจึงได้เห็นพิธีกรรมที่ดูยิ่งใหญ่ หรูหรา ซึ่งถือเป็นจิตวิทยามวลชนประเภทหนึ่ง ที่หวังให้เกิดความประทับใจ โดยมีการใช้คำประโลมโลกในเรื่องของความโลภ เช่น การใช้วัตถุเป็นเครื่องวัด บุญบารมี เรื่องดังกล่าวทำให้เกิด กิเลส มีการบิดเบือนคำสอนจากในพระไตรปิฎก มีการสร้างคำศัพท์ใหม่ๆขึ้นมาเช่นคำว่า ที่สุดแห่งธรรม ซึ่งแต่เดิมในพระไตรปิฎกนั้นจะใช้คำว่า ที่สุดแห่งทุกข์ เมื่อประชาชนได้ฟังคำบัญญัติใหม่เหล่านั้นมากเข้า ก็จะเชื่อว่า เป็นเรื่องจริง” พระมหาพงศ์นรินทร์ ฐิตวํโส กล่าว
อ้างอิงจากที่นี่ครับ
http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/633690
พระมหาพงศ์นรินทร์ยัน'ธรรมกาย'บิดเบือนคำสอนพระไตรปิฎก ถ้าเป็นจริงนี่ผู้บูชาธรรมกายปาราชิกไหมครับ
"ลัทธิดังกล่าวสามารถโตได้ในไทยเพราะ อาศัยจุดอ่อนในเรื่องของฐานะการเงินของประชาชนและการนำเอาเรื่องของการตลาดมาใช้ในเรื่องความขัดแย้งโดยมีการวางแผนไว้ก่อน เนื่องจากทางวัดพระธรรมกายก็มีผู้ที่ไม่เห็นด้วยอยู่เยอะ เรื่องนี้เป็นการยกระดับทางปัญญา เรารับพุทธศาสนามาจากศรีลังกา จึงทำให้การนำไปบิดเบือนหลักการหลักธรรมบ้าง เมื่อมีประเด็นที่ทำให้ผู้คนไม่พอใจ สื่อใหญ่จึงเชิญไปออกรายการซึ่งทางวัดธรรมกายนั้นก็ได้ชิงพื้นที่สื่อ ทำให้คนสนใจ จากนั้นเมื่อมีการเข้าไปถามถึงข้อมูลเป็นตัวบุคคลจึงมีการเชิญชวนให้ไปดูที่วัดก่อนว่า เป็นอย่างไรแล้วค่อยวิพากษ์ วิจารณ์ จากนั้นจึงได้เห็นพิธีกรรมที่ดูยิ่งใหญ่ หรูหรา ซึ่งถือเป็นจิตวิทยามวลชนประเภทหนึ่ง ที่หวังให้เกิดความประทับใจ โดยมีการใช้คำประโลมโลกในเรื่องของความโลภ เช่น การใช้วัตถุเป็นเครื่องวัด บุญบารมี เรื่องดังกล่าวทำให้เกิด กิเลส มีการบิดเบือนคำสอนจากในพระไตรปิฎก มีการสร้างคำศัพท์ใหม่ๆขึ้นมาเช่นคำว่า ที่สุดแห่งธรรม ซึ่งแต่เดิมในพระไตรปิฎกนั้นจะใช้คำว่า ที่สุดแห่งทุกข์ เมื่อประชาชนได้ฟังคำบัญญัติใหม่เหล่านั้นมากเข้า ก็จะเชื่อว่า เป็นเรื่องจริง” พระมหาพงศ์นรินทร์ ฐิตวํโส กล่าว
อ้างอิงจากที่นี่ครับ http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/633690