เหตุผลอื่นไม่สำคัญ ที่ไม่ได้คบกัน เพราะลืมแฟนเก่าไม่ได้

กระทู้สนทนา
แนะนำตัวนิดนึงโน๊ะ เราอายุ 23 ปี ยังไม่เคยมีแฟน ซักกะคนเลย แค่ก็เกือบมีน่ะ ติดตรงเกือบนี่แหละ ที่เราจะเล่าวันนี้ ก็เพราะความเกือบมีแฟนของเรานี่แหละ เริ่มเลยละกัน คือเราอ่ะ เป็นคนไม่สวย อ้วนด้วย ดำด้วย ตอนเราเรียนมัธยมนะ ไม่มีคนมาจีบเราเลย จนเราเข้ามหาลัยนะ ตอนปี 1 ก็ยังไม่มีใครมาจีบ  เราก็ไม่ได้อะไร ก็ใช้ชีวิตปี 1 ใสๆ ของเราไปเรื่อยๆ พอเราขึ้นปี 2 ค่ะ ตอนนี้แหละ จุดเริ่มต้นที่แท้จริง เราไปกินข้าวที่โรงอาหารของมอที่เราเรียนอยู่ เราก็ได้เจอกับรุ่นพี่คนนึง เราเห็นพี่เค้าครั้งเดียว ครั้งแรก เราก็รู้สึกเลยว่า นี่แหละ !!! คือรักแรกของเรา คนนี้แหละใช่เลย สามีในอนาคต 5555 เราขอใช้ตัวย่อชื่อพี่เค้าว่า พี่ B แล้วกันนะ วันนั้น เราเจอพี่ B เดินขึ้นมากินข้าว ที่โรงอาหาร พี่ B เดินผ่านหน้าเราไป เรามองพี่ B ตั้งแต่หัวจรดเท้เลยค่ะ พี่ B หน้าตาน่ารักจิ้มลิ้ม ไม่ได้หล่ออะไรมาก เหมือนผู้ชายธรรมดาทั่วไป แต่โดนใจเราแค่นั้นเอง คิคิ เราก็ มองพี่ Bแบบตาไม่กระพริบเลยค่ะ มองตั้งแต่พี่ B เดินขึ้นมา จนกินข้าวเสร็จแล้วลงไปที่รถ เราทำอะไรไม่ถูกเลยค่ะ ในใจคิดแค่ว่าจะทำยังไง ให้ได้คุยกับพี่ B แต่ไม่ใช่ตอนนี้แน่นอนค่ะ  เราก็หันกลับมามองดูตัวเอง ก็แค่นี้ เราเป็นคนไม่มั่นใจในตัวเองด้วย คงไม่กล้าเดินเข้าไปแม้แต่เดินผ่านพี่เค้าหรอก เรากลัวพี่เค้าจะเดินหนีเรา เพราะเราทั้งอ้วน แล้วก็ไม่สวย ในใจเราคิดแค่ว่าเราอยากรู้พี่ชื่อพี่เค้า อยากรู้ว่าพี่เค้าเรียนสาขาอะไร ตอนนั้นอึ้งจนคิดอะไรไม่ออกค่ะ เอาวะ จำสีรถไว้ก่อนก็แล้วกัน 555 ค่อยไปสืบต่อ ตอนนั้นเราจำได้ว่าพี่ B ขับรถคันสีฟ้าค่ะ  เรารีบเลยค่ะ รีบไปบอกเพื่อนอย่างไว "เห้ยยย  กูชอบพี่คนนึง กูเจอพี่เค้าที่โรงอาหาร ไปหาเฟชบุ๊คพี่เค้ามาให้กุหน่อยดิ " เพื่อนเราไม่รอช้าก็ถามกลับมาอย่างไว เพราะมันไม่เคยเห็นเราจะชอบใครเลย เพื่อนเราถามเราว่า มีรายละเอียดเกี่ยวกับพี่คนนั้นของบ้างมั๊ยวะ เราก็เลยตอบไปอย่างมั่นใจเลยค่ะ พี่เค้า ขับรถ คันสีฟ้า 5555 นางก็โต้ตอบกลับมาทันทีเลยว่า ชาตินี้คงจะหาเจอเนาะ จากนั้นเราก็ไม่ได้อะไรมากค่ะ ก็ขำๆกันกับเพื่อน คิดว่าก็คงหาไม่เจอจริงๆนั่นแหละ พอเวลาผ่านไปค่ะ เรากลับบ้านไปเที่ยวกับพี่สาวเรา พี่สาวเราเรียนอยู่ในมอเดียวกันกับเรา ตอนนั้นเราอยู่ปี 2 พี่เราอยู่ปี 3 เราไปเที่ยว ที่ภูทับเบิกกันค่ะ ก็ถ่ายรูปอัพรูปลงเฟชบุ๊ค เช็คอิน เราติดแทร็คพี่สาวเราค่ะ แล้วรู้มั๊ยคะเกิดอะไรขึ้น มีผู้ชายคนนึงมากดไลค์ค่ะ คนแรกเลยค่ะ คนแรกเลย หน้าคุ้นมาก หน้าตาเหมือนรักแรกของเราเลย ใช่แน่ๆ ต้องใช่แน่ๆ เราไม่รีรอ รีบกดเข้าไปดูเลยค่ะ ใช่จริงๆด้วย ผู้ชายคนนั้น คือพี่ B ค่ะ เรากรี๊ด เลยค่ะ หัวใจเต้นแรงมาก เราเจอเฟชบุ๊คพี่เค้าแล้ว ต้องประกาศให้โลกรู้แหกปากสิคะ แหกปาก แล้วก็เริ่มสิคะ รอไร เริ่มส่องสิคะ ส่องดูดิว่าพี่เค้ามีแฟนรึยัง ส่องไปแบบนานมากค่ะ จนรู้ว่าพี่ B โสดสนิท ค่ะ โอ๊ยยย ดีใจ ส่องต่อค่ะอีกนิดหน่าาาา อุ๊ย มีรูปพี่ B ไปเที่ยวภูทับเบิกด้วย พรหมลิขิตชัดๆ เคยมาที่เดียวกันด้วย มิหนำซ้ำพี่เค้ายังเป็นคนจังหวัดเดียวกับเราด้วย งานมโน ก็มา เราคิดว่าเราเริ่มมีหวังแล้ว เราก็ส่องไปเรื่อยๆค่ะ ยังส่องไม่เลิก นั่งดูรูปพี่ B แล้วก็ยิ้มคนเดียว  แต่ยังไม่ได้แอดนะคะ เราอายเราไม่กล้า เราไม่สวย เราอ้วน เราดำ กลัวพี่เค้าไม่รับแอด คิดไปต่างๆนาๆ เราเลยให้เพื่อนแอดไปค่ะ พอพี่ B รับแอดเพื่อนเราค่ะ เราก็สั่งให้เพื่อน ถล่มไลค์ ทั้งรูปทั้งสเตตัส ของพี่ B เอาล่ะค่ะ เหมือนพี่ B จะรู้ตัวแล้วค่ะว่ามีคนมากวนตีง 5555 เสียงแชทดังขึ้นแล้วค่ะ ประโยคแรกก็มาเลยค่ะ " พอแล้วๆ เด็กน้อย ขอบคุณคับ ค้างเลย " เราสั่งให้เพื่อนส่ง สติ๊กกลับไปค่ะ วันนี้พอแค่นี้ก่อนแล้วกัน ไปคิดแผนก่อน จากวันนั้นเราก็คิดว่าพี่ B คงไม่ใช่คนหยิ่งอะไร ความหวังเราเริ่มมีแล้วนิดนึง เราก็เริ่มเลยค่ะ เริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองก่อน ด้วยการลดน้ำหนักเป็นอันดับแรก ตอนนั้น เราน้ำหนัก 68 กก. ค่ะ เราคิดว่าถ้าเราลดได้ 59 กก. เราจะแอดพี่ B ไปค่ะ เราก็พยายามมากค่ะ ทำทุกอย่างเลย ไปวิ่ง กินยาลดน้ำหนักด้วย ปรึกษาหมอ อดอาหาร ได้ซักพัก น้ำหนักเราก็ลดลงเหลือ 59 กก. จริงๆค่ะ เราเลยทำตามสิ่งที่ตั้งใจไว้ เราแอดพี่ B ไปค่ะ พอพี่เค้ารับแอดเรา เราก็เริ่มแผนต่อไปค่ะ คือถล่มไลค์ 55555 หวังจะให้พี่ B ทักมาค่ะ แล้วก็เป็นไปตามที่คาดไว้ค่ะ พี่ B ทักมาเหมือนกับที่ทักเพื่อนเรา " พอแล้วเด็กน้อยค้างแล้ว" แต่เราไม่จบที่สติ๊กเกอร์ค่ะ เราก็ถามชื่อพี่เค้า ถามว่าพี่เค้าเรียนสาขาอะไร อยู่ปีอะไร เราชวนพี่เค้าคุยเยอะเลยค่ะ จากนั้นเราก็คุยกันมาเรื่อยๆค่ะ พี่ B ไม่หยิ่งเลยค่ะ คุยสนุกมากคุยด้วยแล้วสบายใจสุดๆ พอคุยกันมาได้อาทิตย์นึงค่ะเราก็เริ่มสนิทกัน แต่เราก็ยังไม่กล้าเจอพี่เค้าหรอกค่ะเรายังอ้วนอยู่เลย เราคิดว่าเราต้องลดน้ำหนักอีก เรากลัวพี่ B มาเจอเราแล้วจะไม่คุยกับเราอีก เพราะในรูปกับตัวจริงไม่เหมือนกัน เพราะเราคือ เจ้าแม่แอฟพิเคชั่น ในการแต่งรูป เราจึงต้องลดให้ได้มากกว่านี้แล้วค่อยไปเจอกับพี่เค้าค่ะ  เราก็ทำเหมือนเดิมค่ะ แต่พยายามมากกว่าเดิม เพื่อที่จะให้น้ำหนักลดเร็วๆ จะได้ดูผอมๆเหมือนในรูป เราก็ลดลงอีกนิดหน่อยค่ะ จาก 59 กก. ก็เหลือ 55 ค่ะ เราก็ยังไม่พอใจ เราก็บอกตัวเองเลยว่าน้ำหนักต้องเหลือ 53 กก. ก่อน ถึงจะไปเจอกับพี่ B ได้  แต่ก็ไม่ทันค่ะ ผ่านไปสองสามอาทิตย์ค่ะ เราก็คุยกันทุกวันมาเรื่อยนะคะ อยู่ดีๆ พี่ B ก็ทักแชทมาท้าเราว่า ให้เรากับพี่ B ไปอาบน้ำพร้อมกัน หมายถึงอาบคนละที่นะ 555  แข่งกัน ถ้าใครเสร็จที่หลัง คนนั้นต้องเลี้ยงนม พี่ B บอกว่าอยากเจอเรา  ถ้าใครเสร็จก่อนให้รีบทักแชทมา เราก็เอ่ออออออ เอาไงดีวะยังไม่อยากเจอตอนนี้เลยยังอ้วนอยู่เลย แต่ก็ชั่งมันเถอะ !! เป็นไงเป็นกันวะ อ้วนแล้วไง ไม่หลายใจแล้วกัน 55 ไม่น่าเกี่ยวกันนะ  เราก็ตกลงโอเคๆ แล้วเรารีบวิ่งเข้าห้องน้ำเลยค่ะ อาบน้ำประมาณสามขัน สบู่ก็ไม่ถู ก็รีบวิ่งออกมาพิมพ์แชทอย่างไว ว่าเสร็จแล้วเสร็จก่อน เย้ 55555 ซักพี่เค้าก็มาตอบว่าพี่เค้าพึ่งอาบเสร็จ เราก็คือผู้ชนะค่ะ เราก็ไม่รอช้าตกลงหาร้าน นัดเวลากันเลยค่ะสำหรับวันพรุ่งนี้ เราจะไปเจอผู้ชาย อร๊ายย แอบแรด เราชวนเพื่อนเราไปด้วยคนนึงค่ะ แก้เขิล พี่ B ก็ชวนเพื่อนมาด้วยเหมือนกันค่ะ เราก็นั่งกินนมกันไป สบตากันไปค่ะ 555 พี่ B ไม่มีทีท่าว่ารังเกียจเราเลยนะคะ แต่ตรงกันข้ามพี่ B กับบอกว่า เค้าชอบผู้หญิงอ้วน เรานี่ยิ้มแก้มจะแตกเลยค่ะ พอเรากินเสร็จ แล้วเราก็แยกย้ายกันกลับ ไม่มีอะไรมากค่ะ มาเจอผู้ชายเฉยๆ 55 จากนั้นเราก็คุยกันมาเรื่อยๆค่ะ ระหว่างนั้นเราก็คิดถึงประโยคที่พี่ B เคยบอกว่าชอบผู้หญิงอ้วน เราก็ไม่ได้เชื่อนะคะ เราคิดว่าพี่ B คงพูดให้เราดีใจไปงั้นแหละ เราก็เลยคิดว่าเราต้องผอมต้องสวยเพื่อที่เวลาไปไหนกับพี่ B จะได้ไม่อายใคร จะบอกว่า เราพยายามจนเราน้ำหนักเหลือ 49 กก. ช่วงนั้นเรามีความสุขมากเลยค่ะ มองอะไรเป็นสีชมพูไปหมด หัวใจพองโต  มีพาเราไปแนะนำกับเพื่อนสนิทด้วยนะ อร้ายยย เหมือนถูกเปิดตัว เราคิดว่าผู้ชายคนนี้นี่แหละคือรักแรกและรักสุดท้ายของเรา เราไม่รังเลใจเลยค่ะ เราตัดสินใจ ขอพี่ B เป็นแฟน แอบแรดเบาๆ ขอผู้ชายเป็นแฟน แต่รู้มั๊ยคะ คำตอบจากผู้ชายของเราคืออะไร คือ "พี่ว่าเราคุยกันไปเรื่อยก่อนดีกว่ามั๊ย เรายังไม่รู้จักกันดีเลยนะ " เราก็อืมๆ โอเค ก็ได้ไม่เป็นไร เรารอได้ แต่ในใจก็แอบนอยนิดนึงค่ะ จนเวลาก็ผ่านไป เกือบปีค่ะ เราขึ้นปี 3 พี่ B ก็ ขึ้นปี 4 ความสัมพันธ์เราก็ยังเท่าเดิมค่ะ คือคุยกันไปเรื่อยๆค่ะ แต่มันเหมือนมีอะไรที่แปลกไป เราสัมผัสได้ พี่ B ดูห่างเหินกับเรามากขึ้นคุยกันก็น้อยลง เราเลยคิดว่าพี่ B มีคนใหม่แน่เลย เราเลยลองไปเช็คดูที่เฟลบุ๊คของพี่ B ค่ะ เวลาเราชอบใครเราจะตั้ง เฟชคนนั้นเป็นเพื่อนสนิทค่ะ ( นี่ขนาดยังไม่ได้เป็นแฟนนะเนี๊ยะ 5555) เป็นไปตามที่คาดไว้ค่ะ พี่ B ไปกดไลค์ ทั้งรูปทั้งสเตตัส ของผู้หญิงคนนึง แล้วก็ยังมีเม้นกันตอบกัน เพื่อนๆก็มาแซวนะคะ เราก็เริ่มคิดมากแล้วค่ะ เราเป็นคนคิดมาก เราก็คิดของเราไปเรื่อย แต่ก็ไม่กล้าถามนะคะ เพราะยังไม่ได้เป็นแฟนกัน เราก็เฝ้าดูอยู่ช่วงนึงค่ะ เพราะว่ารู้สึกว่าพี่ B เปลี่ยนไปมาก จนเราทนไม่ไหวเราอยากรู้ว่าเพราะอะไรเราเลยไปถามกับเพื่อนสนิทของพี่ B ว่าทำไมพี่ B เปลี่ยนไร เหตุผลมันน่าขำมากค่ะ เพื่อนของพี่B บอกว่าเราผอมไปไม่อ้วนเหมือนตอนคุยกันแรกแรกๆ เราก็แบบอึ้งไปเลยค่ะ นี่ไม่ได้ล้อเล่นใช่มั๊ย? เราก็แอบเชื่อนิดนึงค่ะ เพราะผู้หญิงคนที่พี่ B ไปกดไลค์ คุยหยอกล้อกัน เค้าก็อ้วนค่ะ แต่น่าตาน่ารักมากเลย เราเชื่อคนง่ายด้วย เราก็พยายามกินเยอะๆค่ะ น้ำหนักก็ขึ้นมานิดหน่อยหวังจะให้พี่ B มาสนใจ 5555 ทำเพื่อผู้ชายมากค่ะ แต่ก็นะ พอ เทอม 3 พี่ B ก็ต้องไปฝึกงานค่ะ ตั้ง 4 เดือนเลยค่ะ ไม่ได้เจอกันเลย ความสัมพันธ์ก็ไปไม่ถึงไหน แต่ก่อนตอนแรกพี่เค้าจะทักเรามาก่อนตลอดนะคะ แต่ตอนนี้เรากลับเป็นคนที่ต้องทักไปก่อนเลย แต่เราก็ไม่ได้ทำตัวงี่เง้านะค่ะ เราก็ทักไปถามพี่เค้าว่า เลิกงานยัง วันนี้เหนื่อยมั๊ย กินข้าวรึยังพี่ B ก็ตอบบ้างไม่ตอบบ้างค่ะ เราก็ทำแบบนี้ ทุกวันจนถึง 4 เดือน หวังว่าพี่เค้า จะกลับมาเหมือนเดิม ถ้าพี่ B ฝึกงานเสร็จ จะได้กลับมาสานสัมพันธ์กันต่อ ค่ะ แต่มันไม่เป็นอย่างนั้นสิคะ พี่ B กลับมาเรียนต่ออีก 1 เทอมค่ะ แต่เราก็ไม่ได้เจอกันอีกเลยค่ะ แทบจะไม่ได้คุยกันด้วยซ้ำ เราก็เพ้อหนักมากค่ะ เพราะเวลาเราชอบใครเราทุ่มเทใจเต็มที่ เหยียบเต็มร้อย คิดว่าจะต้องได้เป็นแฟนกันแน่ๆ เราทรมานมากค่ะ เราไม่รู้ว่าเราทำผิดอะไรทำไมพี่ B ถึงหายไป หรือเป็นเพราะผู้หญิงคนนั้นเราอยากรู้ความจริง เราตัดสินใจให้เพื่อนเราถามให้ค่ะว่าทำไมถึงหายไป เราไม่กล้าถามเองเรากลัวคำตอบ พี่เค้าก็ตอบเพื่อนเรามาว่า พี่ก็ชอบเพื่อนน้องนะ ไม่ใช่ไม่ชอบ ชอบมากด้วย แต่พี่เปลี่ยนจากชอบเป็นรักไม่ได้ แต่พี่เค้าบอกว่าไม่ได้เกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้นเลย ไม่มีอะไรเลย เรานี้แบบร้องไห้โหเลยค่ะ พี่เค้าพูดมาขนาดนี้แล้ว คิดว่าความสัมพันธ์ก็คงต้องจบลง เราเพ้อหนักมากค่ะ แต่เราก็ไม่ละความพยายามค่ะ เราไม่ได้แค่ชอบพี่เค้าแล้วค่ะ เราคิดว่ารักพี่เค้าเลย แหละ เราเลยบอกพี่ B ว่า ให้เราเป็นพี่น้องกันได้มั๊ย มีอะไรให้เล่าให้ฟังทุกอย่าง ให้คุยกับเราทุกวันเหมือนเดิม เราก็ยังอยากรู้ชีวิตอยากรู้ความเป็นไปของพี่Bอยู่ ได้เป็นพี่น้องเราก็ยอม แต่พี่ B ก็ไม่ค่อยตอบเราหรอกค่ะ เราก็เลยแอบไปถามเพื่อนสนิทของพี่ B ด้วยเหมือนกันนะว่าพี่ B เป็นยังไงบ้าง พูดถึงเราบ้างมั๊ย คำตอยคือ ไม่เลยค่ะ แต่เพื่อนพี่ B ก็ให้กำลังใจเราด้วยนะคะว่าให้เราลืมพี่ B ได้เร็วๆ พอเวลาผ่านไปเราก็พยายามทำใจ ไปเรื่อยๆค่ะ เราไม่ได้คุยกับพี่ B เลยค่ะ พี่ B คงอยากให้เราตัดใจได้เร็วๆ เลยไม่ทักมา  ก็จะมีแค่วันที่พี่ B เรียนจบ เราก็แค่ทักไปแสดงความยินดี แค่นั้น เราก็พยายามไปคุยกับคนอื่นเพื่อที่จะได้ลืมพี่ B แต่ก็เหมือนเดิมค่ะ เราไม่รู้สึกอะไรกับใครเลยค่ะ ไม่มีใครทำให้หัวใจเราเต้นเป็นจังหวะเดิมเหมือนตอนที่เราคุยกับพี่ B เลยค่ะ เราก็ใช้ชีวิตแบบไม่มีใครของเราไปเรื่อยๆ ค่ะ อยู่กับเพื่อนบ้างก็ทำให้ลืมไปบางเวลา จนเราเรียนจบ เราก็ไปหางานทำค่ะ ไปอยู่คนเดียว ความเหงามันก็เข้ามาทำร้ายเรา เราคิดถึงพี่ B มากค่ะ เราก็เริ่มเพ้ออีกแล้ว เราไม่เคยเปิดใจรักใครได้อีกเลย เราลองนับเวลาดูจากตอนนั้นถึงตอนนี้ มันก็เข้าปีที่ 4 แล้ว ความรู้สึกที่มีต่อพี่ B ยังคงเหมือนเดิมค่ะ เหมือนมันเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ เราไม่รู้ว่าเพราะอะไร จนมาปีใหม่ที่เราได้กลับบ้าน เราไปเที่ยวกับเพื่อนค่ะ แถวๆบ้าน เราบังเอิญไปเจอพี่ B พี่เค้าเค้าก็มาเที่ยวเหมือนกัน เราดีใจมาก หัวใจเราเต้นเป็นจังหวะเดิมเหมือนตอนแรกที่เราเจอพี่ B เลย แต่เราก็ต้องทำเป็นเฉยๆ เราก็ทักทายกันตามปกติทั่วไปตามประสาคนเคยรู้จักกัน  เราอยากให้พี่B เห็นว่าเราเปลี่ยนไปแล้ว เราเข้มแข็งกว่าเดิมแล้ว ทั้งที่ในใจเราอยากกลับไปคุยกับพี่ B เหมือนเดิมนะ และตอนนี้เราก็ได้ข่าวพี่ B ก็ยังไม่มีใครค่ะ แต่พี่เค้าคงไม่กลับมาเพราะความจริง คือ พี่ B ยังลืมแฟนเก่าไม่ได้แต่ต่อให้พี่ B จะลืมได้แล้วหรือพร้อมจะเปิดใจรักผู้หญิงซักคน เราคิดว่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่